เป็นกระทู้ที่ดีจริงๆ ชอบค่ะ
มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้ได้แต่พองาม อยู่บนพื้นฐานไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เท่านั้นเป็นพอค่ะ
เป็นกระทู้ที่ดีจริงๆ ชอบค่ะ
มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้ได้แต่พองาม อยู่บนพื้นฐานไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เท่านั้นเป็นพอค่ะ
~ต่อไปนี้ ชั้นจะเป็นคนดูแลหัวใจตัวเอง
จะไม่ให้ใครมาทำร้ายได้อีกแล้ว~
ชอบกระทู้นี้ค่ะ
อยากได้น๊า...
Classic jumbo caviar GREY โซ่ทอง(สงสัยต้องมือสอง) // Classic jumbo caviar GREY โซ่เงิน(นี่ก็คงต้องมือสอง) // GST caviar GREY โซ่เงิน(รอมือสองอีกแหง) // GST caviar RED lipstick
เข้าใจคุณมุกเลย ไม่ผิดค่ะที่คุณมุกคิดแบบนั้น
คนเราตราบใดยังเป็นแค่มนุษย์ปุถุชน
ความอยากได้อยากมีเป็นเรื่องธรรมดา ตัดกิเลสได้มากได้น้อย
แล้วแต่ว่าจะบริหารจิตใจตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน
quote=bombasiclove;479203]ในหลวงเคยตรัสเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงไว้ว่า
คำว่าพอเพียงของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน พอเพียงไม่ใช่การกัดก้อนเกลือกิน
แต่เป็นการอยุ่ได้ด้วยตัวเอง พึ่งพาตัวเอง โดยไม่เดือดร้อนถึงผู้อื่น
ตราบใดที่เราซื้อกระเป๋า ต่อให้ไปละเป็นล้าน แต่ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
ไม่ต้องให้ลูกเดือดร้อน เพราะไม่มีตังค์จ่ายค่าเทอม
ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน เพราะเงินหมด
คือเรามีเงินอย่างพอเพียงที่จะใช้จ่ายในแบบของเรา
[/quote]
ชอบความคิดเห็นน้องคนนี้จัง เห็นว่ายังเรียนอยู่ คิดได้แบบนี้
น่ารักจังค่ะ ภูมิใจแทนคนเป็นพ่อเป็นแม่น้องจังค่ะ
ถูกต้องที่สุด ถ้าเราซื้อกระเป๋า
ภายใต้ที่เราและครอบครัวไม่เดือดร้อน
และจะแจ่มที่ซู๊ดดดด ถ้าใช้ห้องอาหารตา ตามวัตถุประสงค์แรกนะคะ
เราเอง เข้าดูเวลาจะหาซื้อใบใหม่ค่ะ มันเป็นข้อมูลที่หาไม่ได้ใน shop นะคะ
มีบ้างที่เข้าไปชมเพลิน ๆ
โชคดีนะคะ อยู่กับจิตใจ และความเป็นจริงของเรา
มีความสุข ด้วยตัวของเราเอง
"หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข"
__________________________
"ทำเสียงอย่างนี้ ซื้อมาอีกใบแล้วสิ"
#### รู้ทันอีกแล้ว เซ็ง ####
ต่ออีกหน่อย
สำหรับเรา นอกจากประโยชน์ในการเลือกซื้อกระเป๋าแล้ว ก็เอาไว้แบบนี้ค่ะ
เปิดกระทู้ที่แฟนซื้อให้ ให้คุณแฟนดู แล้วกรี๊ดดดด...
บอกว่า "ตัวเองดูดิ แฟนน้องคนนี้น่ารักเนอะ ซื้อรุ่นนี้ให้ อยากได้มั่งจัง"
แล้วเอาหัวไปซุก ๆ ไหล่สักสองจึ๊ก....
แฟนเราก็จะหันมาดูแล้วถามว่า " เท่าไรอ่ะ...." บอกราคา เค้าก็จะ "อืม ๆ เดี๋ยวรอบหน้าวันเกิด เค้าซื้อให้นะคะ "
(อันนี้กรณีที่อยู่ภายใต้ราคาที่เราสองคนจ่ายได้ ไม่เดือดร้อนนะคะ)
มีบ้าง ที่รุ่นที่เราอยากได้ ใบแสนกว่า แต่เราก็ยังไม่ตัดสินใจซื้อ
เพราะเงินจำนวนเท่านี้ เรามีอย่างอื่นจำเป็นจะต้องใช้มากกว่า
ก็มองไว้ก่อนค่ะ แล้วทำแบบเดิม แต่คำพูดเราจะเปลี่ยนไปเป็น
เรา >> "ไว้เราหาเงินได้มากกว่านี้ เค้าขอซื้อสักใบนะที่รัก"
แฟน >> " เหอ เหอ ขอทำงานมากขึ้นเป็นวันละ 48 ชม.ได้ไหม จะได้ซื้อได้เร็ว ๆ แล้วไว้จะต่อตู้เก็บกระเป๋าให้นะ "
มองต่างมุมดูบ้าง เราไม่ได้ได้ทุกอย่าง ตามที่เราอยากได้
แต่เราก็เป็นสุข ในมุมที่เราเป็นค่ะ
__________________________
"ทำเสียงอย่างนี้ ซื้อมาอีกใบแล้วสิ"
#### รู้ทันอีกแล้ว เซ็ง ####
ชอบกระทู้นี้มากค่ะ และขอบคุณคุณมุก เพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่เข้ามาให้ความเห็นจังค่ะ
เพราะเราเชื่อว่าทุกคนที่เข้าไปดูก็คงมีความรู้สึกอยากได้ อยากมีบ้างไม่มากก็น้อย อยู่ที่ว่าเราจะควบคุมกิเลสของตัวเอง และรู้จักคำว่าพอเพียงได้มากแค่ไหน เห็นด้วยกับความเห็นที่ว่า "บางคน"ที่ซื้อของราคาแพงๆก็เพราะว่าเค้าต้องการเติมเต็มอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปในชีวิตของเค้า หรือ"บางคน"ซื้อก็เพราะว่าต้องการได้รับการยกย่อง เชิดหน้าชูตาในสังคม ไม่ได้รักชอบอะไรในตัวกระเป๋าอย่างแท้จริงหรอกค่ะ
เมื่อก่อนก้อเป็นอ่ะค่ะ เห็นรูปกระเป๋าคนอื่นแล้วอยากได้ อยากมี กะเค้ามั่ง รุ่นโน้นก้อสวย สีนั้นก้อน่ารัก
แต่พอมามองดูตัวเอง ทำงานที่บ้าน ออกจากห้องก้อเดินไม่กี่ก้าวถึงออฟฟิศแล้ว โอกาสที่จะใช้กระเป๋าทุกวัน แต่งตัวสวยๆ ออกจากบ้าน เหมือนคนอยู่เมืองไทย แทบไม่มีเลยอ่ะค่ะ ยกเว้นตอนออกไปธุระ หรือว่าโรงงาน
หลังๆมาเริ่มคิดได้ กลับไทยเดือนละครั้ง ก้อเอากระเป๋ากลับมาใช้ทีละใบ สลับไปสลับมาแค่นี้ ความคิดอยากได้โน่นนี่เลยค่อยๆลดลง
ตอนนี้กลายเป็นว่า จะซื้อกระเป๋าที่ใช้ได้นานๆ ไม่แฟชั่นมากเท่าไหร่ เก็บตังไว้ซื้อ หรือลงทุนอย่างอื่นดีกว่า เผื่อวันหน้าเกิดอะไรที่ไม่ได้คาดคิด จะได้มีเงินส่วนนี้ไว้สำรองค่ะ
เขียนไปซะยาว สรุปแล้วคือ มองดูความจำเป็นของตัวเอง ดีกว่ากิเลสอยากได้อยากมีค่ะ ไม่งั้น หมดตัวแน่ๆ
Lookin 4: Chanel
Grand Shopping Tote in Light Beige/White
Kelly (any color)
10" Classic Flap (any color, except black)
สุขไม่สุขอยู่ที่ใจจ้า
RhaJib @ SiamBrandName
กระทู้นี้ดีมากๆค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆมากมาย
ส่วนตัวชอบเข้าไปห้องอาหารตา เพื่อจะดูของสวยๆงามๆอยู่เป็นประจำ เห็นแล้วก็มีอาการ หูยย อยากได้บ้างจัง โดยเฉพาะกับรุ่น หรือยี่ห้อที่กำลังเล็งอยู่ในช่วงนั้นๆ บางช่วงไม่ได้เล็งอะไรอยุ่เป็นพิเศษ ก็ชอบที่จะเข้าไปดูของสวยๆงามๆ อารมณ์เหมือน window shopping ยังไงยังงั้น
เห็นด้วยกับหลายๆความเห็นค่ะ ว่าความพอเพียง ความสุขกับสิ่งที่เรามีอยู่เป็นอยู่ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ส่วนตัวเองก็ไม่ได้มีกระเป๋าอะไรมากมาย สมัยยังเรียนหนังสือหาเงินเิองไม่ได้ ยังซื้อมากกว่านี้ เพราะไม่ได้ใช้เิงินตัวเองซื้อ อิอิ แต่พอมีงานทำ หาตังค์ใช้เอง ความงก เริ่มปรากฎ ซื้อยากขึ้นกว่าเดิมเพราะรู้ค่าของเงินมากขึ้น
ถูกต้องแล้วค่ะ แต่ก่อนตอนเราหากระเป็ เราชอบดูมากๆ ของสวยๆงามๆเนี่ย แต่พอรู้สึกว่ามีพอแล้ว ถึงเงินจาไม่เป้นอุปสรรค ก็ไม่ได้รู้สึกอยากได้ หรืออยากดูอีกอ่ะค่ะ โชคดีที่รู้สึกว่าพอได้อ่ะค่ะ สามใบพอค่ะ หมุนแทบมิทันเลย
ฮะๆๆๆ ว่าไป เด๋วใบที่สี่ มะเกินปลายปี จ๋อยยยยย
เคยเป็นบ้างเหมือนกันคับ แต่ผมไม่คิดไรมากอ่ะคับ ขำ ๆ
รู้สึกแบบว่า แฟนเค้าใจดีจัง ประมาณเนี้ยอ่ะคับ (กลัวเข้าตัว พอถึงตาตัวเองมั่ง หุหุ)
แต่ผมเคยนับ ๆ ของที่ซื้อไป ซึ่งก็ไม่มากเพราะรายได้จำกัดคับ รวมแล้ว
ใจหายว่า เฮ้ยยยยยย นี่มันได้ทองกี่บาทเนี่ย เอาเก็งกำไรซื้อขายได้อีก
ก็รู้สึกผิดไประยะนึง แต่พอถามตัวเองว่า ถ้าเราเปลี่ยนเป็นซื้อย่างอื่นแทน
เราจะมีความสุขไม๊ เราจะหยุดอยากได้ของพวกนี้รึป่าว คำตอบก็คือไม่คับ
ก็เลยเปลี่ยนเป็นซื้อให้น้อยลงไปอีก (แบ่งเงินมาหาทุนเพิ่ม เพื่อเอาไปสอยต่อ....ล้อเล่นค้าบ)
คิดมาก ๆ ก่อนซื้อว่าอยากได้ + จำเป็น + เหมาะกะชีวิตหรือไม่ แล้วก็ออมเงินให้มากขึ้น ยิ่งตอนนี้ต้องเรียนต่อด้วยคับ
ตอนนี้เลยรู้สึกพอดีกะชีวิตมากเลยคับ