Printable View
คือ ตอนนี้มีความต้องการจะไปอเมริกา เป็นระยะเวลา 3 เดือน ประมาณช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม อ่ะค่ะ แต่ไม่อยากจะไปกับโครงการ work and travel อ่ะค่ะ
อยากทราบว่าจะขอวีซ่า ให้ผ่านได้ยังไงอ่ะค่ะ หรือไม่ก็ปกติแล้วคนที่จะไปต้องทำอย่างไรอ่ะค่ะ
รบกวนด้วยค่ะ ด่วนจริงๆๆๆค่ะ !!!!!!
เอ่อ..........ก็ไปซื้อ pin ที่ ไปรษณีย์
นำมาจองคิว ออนไลน์
เตรียมเอกสารไปยื่นตามวันเวลาที่จอง
และรอสัมพาษ
แล้วก็ได้วีซ่าส่งมาให้ที่บ้านค่ะ
อ่านรายละเอียดของคนนี้ได้เลย ละเอียด
http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...roup=3&gblog=1
ขออย่าให้เจอช่องป้าโหดนะค่ะ
ขอบคุณมากๆๆๆเลยค่ะ แล้วจะลอง ศีกษาข้อมูลตามที่ให้มาค่ะ
เอ่อ แล้วจะไปได้นานถึง 3 เดือนเลยหรอค่ะ
เห็นมีคนบอกว่า ไม่ได้ เลยเป็นกังวลอ่ะค่ะ
ขึ้นอยู่กับ จนท ค่ะ บางคนก็ให้ 10 ปี บางคนก็ 1 ปี ลูกชายบันฯ เจอ 3 เดือน T-T
ลูกชายคุณบัน ไปเที่ยวหรอค่ะ
แต่ร฿สึกว่า ขอวีซ่า มันยากมากใช่ปะค่ะ
เพราะจากที่อ่าน ข้อมูลที่ได้จากลิ้งด้านบน รู้สึกว่ายากกกมากเลยอ่ะค่ะ
ไม่ยากค่ะ แต่อาจจะยุ่งนิดหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลมากไปค่ะ
ไปเอาใบสมัครจากสถานทูตอเมริกันมากรอก แล้วเตรียมหลักฐานให้พร้อม แล้วก็ไปสัมภาษณ์ แล้วรอรับผลประมาณไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ค่ะ หรือจะลองสมัครออนไลน์อย่างที่คุณ ketsy แนะนำก็ได้ค่ะ (ไม่เคยลองเหมือนกัน)
ส่วนความยากง่าย ก็แล้วแต่ว่าจะขอไปแบบประเภทไหน ขอไปเรียน ขอไปทำงาน หรือขอไปเที่ยว และขึ้นอยู่กับหลักฐานที่เตรียมไป และการสัมภาษณ์นะคะ
ถ้าไม่ได้ไปเรียน คิดว่าขอเป็นวีซ่าไปเที่ยว น่าจะง่ายที่สุดนะคะ แต่ต้องมีหลักฐานที่เค้าขอตรวจให้ครบถ้วนค่ะ เช่นใบรับรองจากที่ทำงาน bank statement หลักฐานที่พักในอเมริกา และอื่นๆ
แต่ไม่แน่ใจว่าขอไปเที่ยว จะให้อยู่ได้นานเท่าไหร่ ของ Meesook ทำวีซ่าได้ทีละ 10 ปี คือภายใน 10 ปี ที่วีซ่ายังมีอายุอยู่ ถ้าจะไปอเมริกา ก็ไม่ต้องทำใหม่ แต่การไปแต่ละครั้ง จะอยู่ในอเมริกาได้นานเท่าไหร่ น่าจะขึ้นอยู่กับตอนที่กรอกข้อมูลให้ immigration ค่ะ แล้ว immigration จะสแต๊มป์ให้ว่าอนุญาตให้อยู่ได้นานเท่าไหร่ สามเดือนนี่ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าเค้าจะให้นานขนาดนั้นมั้ยถ้าขอเป็นวีซ่าไปเที่ยว
ถ้าเป็นวีซ่าไปเรียน ต้องมีเอกสารรับรองจากทางโรงเรียนที่อเมริกา ถ้าเป็นวีซ่าไปทำงาน รู้สึกว่าจะแพงกว่าไปเที่ยว แล้วอาจจะต้องจ่าย tax ด้วยนะคะ อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ต้องลองถามดู
ลองโทรไปถามทางสถานทูตดูก่อนก็ได้ค่ะ ว่าต้องมีหลักฐานอะไรบ้าง
ขอให้ขอวีซ่าผ่านง่ายๆ นะคะ...
ขอบคุณ คุณ ketsy คุณ bandalee และ คุณ meesook มากๆๆๆเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ
คำถามที่ต้องตอบคือ จะมาทำอะไรที่อเมริกา
ถ้ามาเที่ยว---- มีญาติอยู่ที่เมกาหรือเปล่า ตัวคุณทำงานอยู่ที่ไหน มีเงินมากเท่าไหร่
(จะSupport ตัวเองได้ไหม)
แต่ถ้าจะมาทำงานที่นี่----- ก็ต้องมีเอกสารรับรองจากเมกายื่นให้เค้าดูคะ
(อันนี้ง่ายเลย ไม่ต้องมี statement จากธนาคารคะ)
ดังนั้นเอกสารที่ต้องเตรียมก็คือหลักฐานทางการเงิน และใบรับรองการทำงาน
ถ้าให้เเนะนำ เราว่าให้บริษัท agency ทำเรื่องให้น่าจะได้ง่ายกว่าคะ:)
ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการขอวีซ่าของคุณน่ะค่ะ วีซ่าเมกามีหลายประเภทเลย ความเห็นจะคล้าย ๆ ข้างบนว่า
ถ้าไปเที่ยว มีเพื่อนหรือญาติอยู่รึเปล่า เคยทำวีซ่าเมกามาก่อนมั้ย ถ้าไม่เคยเพราะอะไร ถ้าอยากแค่ไปเที่ยว ไม่ได้ไปทำงาน ทำไมถึงจะไปตั้ง 3 เดือนน่ะค่ะ เหตุผลมันต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง มันไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วย แต่ก็ไม่ได้ยากเหมือนเข็นครกขึ้นเขา ยังไงก็เตรียมตัวให้ดี ๆ น่ะค่ะ
ยังไงแนะนำเข้าไปดูบล็อกคุณซูซี่ ตามที่คุณเคทซี่แปะลิ้งค์ให้ดีกว่าค่ะ ค่อนข้างละเอียด และก็ขอให้โชคดีนะคะ
เรื่องของเรื่องคือ อย่างงี้ค่ะ คือว่าต้องการไปทำงาน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ช่วง summer อ่ะค่ะ ซึ่งถ้าคนปกติ ก็จะไปกับโครงการ work and travel ค่ะ แต่รู้มาว่าถ้าไปกับโครงการจะไม่ได้อยุ่กับเพื่อนๆๆอ่ะค่ะ แต่ละคนก็ก็ทำงานคนละที่ ไม่ค่อยได้เจอกัน เลยอยากหาทางไปเองมากกว่า (เพราะใจจริง อยากไปเที่ยวมากกว่าค่ะ ไม่ซีเรียสเรื่องภาษา และงานค่ะ) เลยมาขอข้อมูลว่า จะมีทางอื่นรึป่าว
เพราะอยากไปมากกกจริงๆๆค่ะ ^-^
ตอนนี้กำลังตืดต่อ หางานที่นู้นอยู่ค่ะ แต่ก็ยังไม่แน่นอน และประกอบกับ กลัว วีซ่า ไม่ผ่านด้วย
เพราะตอนนี้ ยังเรียนอยุ ค่ะ
ส่วนเรื่องที่พัก มีแล้วค่ะ แต่เครียดเรื่องงาน กับวีซ่ามากกว่า เพราะเห็นพี่ๆๆเพื่อนๆๆหลายคนในนี้บอกว่า ต้องยื่นเอกสาร การทำงานด้วยอ่ะค่ะ T-T
ออ แล้วเรื่องที่ต้องยื่นเอกสาร รับรองการทำงานจากอเมริกานี่ จำเป็นจะต้องเป็นบริษัท หรือองค์กรใหญ่ๆรึป่าวอ่คะ ถ้าเป็นแค่ร้านอาหาร จะได้มั้ยเอ่ย
เท่าที่อ่าน จะไปเที่ยวและทำงานเองใช่มั้ยคะ
ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ แต่ถ้าขอวีซ่าท่องเที่ยวจะไม่สามารถทำงานที่ถูกกฎหมายได้
และถ้าจะทำงานที่ถูกกฎหมายต้องขอวีซ่าทำงาน นั่นแปลว่าต้องได้บริษัทที่เป็น sponser รับรองการทำงานอย่างเป็นทางการค่ะ
สรุปจะไปแบบไหนคะ อ่านแล้วงงอ่ะค่ะ และงานที่ว่าจะไปทำ เป็นงานอะไรคะ
ทำงานในอเมริกาต้องมี working document นะคะ นั่นหมายถึงเราจะต้องมี sponsor (นายจ้าง) ค่ะ
ถ้าเป็น visa นักท่องเที่ยว ไปแอบทำงานนี่ผิดกฎหมายนะคะ เห็นพวกน้องๆที่ไปเรียน ไปแอบทำเหมือนกัน แต่ต้องระวังถ้าถูกจับได้จะถูกส่งกลับ แล้วจะมีปัญหากับการขอ visa ต่อไปในอนาคต
พวกที่ไป work and travel ที่เคยคุยกับน้องๆที่ไป รู้สึกว่าจะได้ visa แบบ J1 คือทำได้เฉพาะที่เขาจัดให้ แบบนั้นจะถูกต้องตามกฎหมายค่ะ
อีกอย่าง ถึงเราจะได้ visa กี่ปี เราไม่สามารถระบุเวลาที่อยู่ใน USA แต่ละครั้งได้นะคะ ขึ้นกับว่า imigration จะ stamp ให้แบบไหน B1 หรือ B2 ซึ่งระยะเวลาที่อยู่ได้ก็ 1 -3 เดือน (แบบ J1 จะอยู่ได้ยาว ตามระยะเวลาในแบบ form ) อย่าลืมดูตอนได้ stamp นะคะ เดี๋ยวอยู่เกินจะมีปัญหาทีหลัง
ถ้าท่องเที่ยวไม่น่ายาก
เพราะเราเพิ่งไปขอมาต้นปี ได้มาตั้ง 10 ปี แหนะ
ได้ 10 ปี กันทุกคนเลยคะ
คนไปขอ มีทั้งคนมีเงินมากเงินน้อย เงินปกติ
แต่ทุกคนมีงานทำที่เมืองไทยหมดนะคะ
แล้วก้อบางคนก้อไม่ได้ไปขอพร้อมกันด้วย ยังได้เหมือนกันหมดเลย
ก่อนหน้านี้ไม่เห็นเคยได้ยาวๆ แบบนี้
อ่านแล้วงงนิดหน่อย เริ่มแรกบอกว่าจะไปทำงาน ต่อมาบอกว่าแค่อยากจะไปเที่ยวไม่ซีเรียสเรื่องทำงาน เรื่องเรียน แล้วต่อมาก็บอกว่า ก็กำลังหางานอยู่???Quote:
Originally Posted by fahh
ถ้าจะไปเที่ยว ก็ขอวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ ขอวีซ่าไปเที่ยวไม่ยากเลยค่ะ
ตอนสัมภาษณ์ก็บอกว่าจะไปเที่ยว และต้องมีหลักฐานว่าจะกลับมา เช่น หลักฐานจากสถาบันที่เรียนอยู่ตอนนี้, bank statement และมีหลักฐานที่อยู่ในอเมริกา เช่นหลักฐานการจองโรงแรม หรือถ้าไปพักอยู่กับญาติ/เพื่อน ก็ต้องระบุชื่อและที่อยู่ของญาติ/เพื่อน แต่ก็อาจจะไม่ได้นานถึงสามเดือน อันนี้ขึ้นอยู่กับตอนที่เจ้าหน้าที่ immigration อย่างที่บอกไปแล้ว เค้าคงจะถาม ว่าจะมาทำอะไรสามเดือน และอาจจไม่อนุญาตถึงสามเดือนก็ได้ค่ะ
แต่ถ้าขอวีซ่าท่องเที่ยว แต่แอบไปทำงานด้วย ก็เป็นการทำงานที่ผิดกฏหมายค่ะ ก็อาจจะถูกจับส่งกลับประเทศ ขึ้น black list ก็อาจจะไม่ได้เข้าประเทศอเมริกาอีก
และถึงจะได้วีซ่าแล้ว ก็ต้องไปผ่าน immigration อยู่ดีค่ะ ก็ต้องตอบคำถามดีๆ ค่ะ เคยเห็นคนที่บินไปไฟลท์เดียวกัน ตอบเจ้าหน้าที่ immigration พลาด เจ้าหน้าที่จับได้ว่าจะมาทำงานด้วย ถึงแม้จะมีวีซ่า ก็ถูกส่งกลับ ไม่ได้เข้าประเทศเลยค่ะ เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า "ขอวีซ่ามาผิดประเภท"
แต่ถ้าจะขอเป็นวีซ่าทำงาน ต้องมีจดหมายรับรองจากบริษัท หรือที่ที่จะไปทำงานที่อเมริกา ใบรับรองจากร้านอาหารก็ได้ค่ะ แต่ที่สำคัญต้องมีใบอนุญาตทำงานที่อเมริกาด้วยค่ะ ซึ่งก็หมายความว่า จะต้องจ่ายภาษีด้วย ส่วนมากแล้ว ใบอนุญาตทำงานทางบริษัทจะช่วยจัดการให้ เพราะทางบริษัทจะเป็นคนรับรองว่า คนๆ นี้ จะมาทำงานที่อเมริกา อย่างถูกกฏหมาย และจะจ่ายภาษีด้วย
ถ้าจะให้แนะนำคิดว่า ให้เลือกเอา ว่าจะไปเที่ยวอย่างเดียว โดยขอว่ซ่าท่องเที่ยว หรือไปกับ โครงการ work&travel ที่มีการรับรองอย่างถูกต้อง ทำเรื่องให้ถูกต้องน่าจะดีที่สุดค่ะ ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วย อย่าเสี่ยงเลยค่ะ
ถ้าโดนจับได้มันคงไม่ใช่แค่เรื่องของคุณคนเดียว แต่มันจะส่งผลถึงครอบครัว และคนที่นามสกุลเดียวกันด้วยค่ะ และถ้ามองลึกลงไปอีกหน่อย ก็ส่งผลถึงภาพลักษณ์ของคนไทยด้วย เพราะการไปทำงานโดยผิดกฏหมาย ทั้งที่ขอวีซ่ามาเที่ยว ก็คือโกหกเค้านั่นแหละ ถ้าถูกจับได้ก็จะยิ่งทำให้ประเทศเสียชื่อเสียงเรื่องโกงมากไปกว่านี้อีก ตอนนี้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเรื่องนี้ก็ไม่ดีอยู่แล้วค่ะ
.
Be realistic!
ถ้าจะไปแค่ช่วง summer ไม่อยากไปกับโครงการ work&travel มีอยู่อย่างเดียวคือขอวีซ่าท่องเที่ยวหรือขอวีซ่านักเรียน และวีซ่าท่องเที่ยวไม่สามารถทำงานได้ ต่อให้ได้วีซ่านักเรียนก็เถอะถ้าไม่ใช่ on-campus work ถึงได้งานทำก็ผิดกฎหมายอยู่ดี ไอ้ที่เห็นนักเรียนทำๆกันนั้นผิดกฎหมายทั้งนั้น จะบอกให้ว่าช่วงนี้ immigration ขยันลงบ่อยมากและวิธีจับของเขาไม่ได้นุ่มนวลแบบตำรวจไทยนะ แต่ละนายโหดๆทั้งนั้นเพราะมันเป็นปัญหาสังคมของเขาที่ต้องกำจัด คุณน่าจะสังเกตเรื่องเศรษฐกิจโลกมาบ้าง งานไม่ใช่หาง่ายๆหรือถ้ามีแน่ใจหรือว่าคุณอยากทำ ทำลง ทำแล้วคุ้ม อย่าได้คิดไปหวังน้ำบ่อหน้า เขามีช่องทางที่ถูกต้องคือ work&travel ทำไมไม่สมัครไป โดน immigration จับส่งเข้าตะแลงแกงก่อนแล้วถูกส่งกลับจะแก้ไขไม่ได้ ครอบครัวที่นามสกุลเดียวกับคุณจะแทบไม่มีโอกาสไปเหยียบที่โน่นได้อีก ถ้าอยากจะไปหาประสบการณ์ชีวิต ทำงานเมืองนอกแต่ยังติดที่ต้องอยู่กับเพื่อนอย่าไปเลย ที่สำคัญอย่าคิดทำอะไรที่มันเสี่ยงกับกฎหมายบ้านเมืองเขา
อยากไปเที่ยวก็ขอวีซ่านักท่องเที่ยวดีกว่าค่ะ ถ้ามีที่พักของคนรู้จักที่โน่นเป็น reference ก็ยิ่งไม่น่ายาก แต่อย่างที่เพื่อนๆ สมาชิกบอกค่ะ วีซ่านักท่องเที่ยว ไม่อนุญาตให้ทำงานได้ ถือว่าผิดกฎหมายค่ะ ร้านอาหารที่โน่นไม่น่าเสี่ยงให้ทำหรอกค่ะ โอกาสหางานอื่นก็ยากค่ะ เพราะเจ้าของเองก็ไม่อยากเสี่ยงด้วย ตัดสินใจดีๆ ก่อนนะคะ
ไป work and travel ก็เหมือนได้เที่ยวไปในตัว ได้เพื่อนใหม่ด้วย ถือว่าไปเปิดหูเปิดตาตัวเองค่ะ เผลอๆ เก็บตังค์กลับมาได้เยอะ จะได้เอามาช้อปใน SBN ต่อไงคะ ;)
โชคดีนะคะ...