เฮ้อ ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากหรอกค่ะ
แค่อยากถามว่ามีใคร ที่มีแฟนแล้วไม่อยากแต่งงานบ้างรึเปล่าคะ(สาวๆนะคะ)
ช่วยตอบหน่อยนะคะ ไหนๆก็แวะมาอ่านแล้ว
เฮ้อออออออ.......
Printable View
เฮ้อ ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากหรอกค่ะ
แค่อยากถามว่ามีใคร ที่มีแฟนแล้วไม่อยากแต่งงานบ้างรึเปล่าคะ(สาวๆนะคะ)
ช่วยตอบหน่อยนะคะ ไหนๆก็แวะมาอ่านแล้ว
เฮ้อออออออ.......
สำหรับเราเรื่องแต่งงานไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด
คิดแบบนี้จริงๆนะคะ เคยคิดเล่นๆตั้งหลายครั้งว่าจะไม่แต่งงาน
แต่ อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน จริงๆตอนนี้เราก็ยังเด็กเกินไปสำหรับคำนี้ด้วยซ้ำ
ป.ล. คุณ จขกท. สู้ๆนะคะ ทุกอย่างจะดีขึ้น เราเชื่ออย่างนั้น
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
(^-^) มีพี่สาวผม !!! (อย่างน้อยคนนึงล่ะคับ) ที่ไม่อยากแต่งอ่ะ (ไม่เข้าใจเหมื่อนว่าทำไม ?) ทั้งที่แฟนเค้าก็ดีแสนดี ทั้งคุณแฟน ทั้งคุณแม่แฟนมาอ้อนวอนให้แต่ง... พี่สาวผมก็ไม่แต่งอ่ะ (^-^)' ง๊งงง !!!
มีค่ะ...
เป็นเพื่อนสุดที่เลิฟของมิ้นท์เอง เป็นหญิง 2 ชาย 1 ที่ไม่อยากแต่งงานและไม่อยากมีลูกสุดๆ
สมัยก่อน หรือตอนนี้ก็ตาม เรากับคุณสามี ก็ยังคิดว่าเรื่องแต่งงานไม่สำคัญค่ะ จะคิดกันว่าทำไมจะอยู่กับใคร แล้วทำไมจะต้องมีอะไรมาเป็นกฏเกณฑ์ เรื่องมาก
เราไม่ซีเรียสเรื่องนี้.......แต่ที่แต่ง เพราะ เกรงใจพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย มีหน้าตาในสังคมของเค้า เค้าไม่อยากให้ลูกโดนนินทา เราเลยแต่งก็แต่ง จัดงานเล็กๆ ให้เค้าพอดีใจ เพราะยังไงๆๆๆพ่อแม่ก็ยังหัวโบราณวันยันค่ำ พอบอกไม่แต่ง อยู่ไปเรื่อยๆ ก็กลายเป็นทะเลาะกันอีก เลยตัดปัญหา !
เพราะจริงๆก่อนแต่งงานคุณแฟนกะเราก็อยู่ด้วยกันมาก่อนแล้ว 5 ปีอ่าจ้ะ ... ยิ่งเฉยๆไปกันใหญ่
Is there any social group I could join now kha?;)
ไม่ใช่อะไรค่ะ ไปงานแต่งงานเพื่อนทีไร ถามทุกทีเมื่อไหรจะแต่ง เราก็ไม่เคยจินตนาการเรื่องการแต่งงานเลยค่ะ คบกับแฟนมาหลายปีแล้ว (จะครบหกปีแล้ว)
คิดว่าตัวเองประหลาด ไม่อยากแต่งงานไม่อยากมีภาระ ไม่อยากมีลูกค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
สงสัยพี่จะเหมือนพี่สาวน้องออร์โต .....
อาการเดียวกันเลยค่ะ มันเลยวัยอยากแต่งแล้วมั้งคะ
อาการประมาณนั้นหละค่ะ เค้าก็ถามบ่อยๆ เครียด .....ช่วงนี้เลิกถามกันไปแล้วอ่ะ เฮ้อ
สงสัยจะได้อยู่แบบนี้หละค่า คุณหมูน้อย ......
ก็ไม่เชิงว่าปฏิเสธการแต่งงานนะคะ แต่ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็นค่ะ อาจจะเพราะว่าไม่ได้คิดจะมีลูกด้วยมั้งคะ ก็เลยยังคิดไม่ออกว่าการแต่งงานนั้นเพื่ออะไร คิดออกเพียงข้อเดียว ก็คือเป็นการประกาศให้สังคมรับรู้ว่ามีภรรยา-มีสามีแล้ว... ซึ่งเหตุผลนี้ ไม่มีน้ำหนักเลยสำหรับ Meesook ค่ะ
มาตรฐานสังคมก็เป็นแค่สถิติ เรื่องอะไรที่คนในสังคมเค้าทำกันเยอะๆ ก็จะกลายเป็นมาตรฐานไปค่ะ แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเราแย่ ไม่ได้แปลว่าเป็นเรื่องไม่ดีอะไรค่ะ สำหรับ Meesook การแต่งงาน ไม่ได้เป็นเป้าหมายของชีวิตค่ะ
ตอนนี้พ่อแม่ก็เลิกเครียดเรื่องนี้แล้ว เมื่อสองปีก่อนเคยจะแต่งงานกันแฟนเก่า ด้วยเหตุผลเพราะพ่อแม่อยากให้แต่ง แต่พอเริ่มเตรียม คุยนั่นคุยนี่ ปรากฏว่า Meesook กับแฟน เครียดกันมาก เพราะชีวิตจะต้องเปลี่ยนไปหลายอย่าง ซึ่งเราไม่อยากเปลี่ยนชีวิตขนาดนั้น และอีกอย่าง พอจะแต่งงาน เรื่องของคนสองคน มันกลายเป็นเรื่องของคนหลายคน ซึ่งมันวุ่นวาย ในที่สุดความกดดันทั้งหลายแหล่จากเรื่องแต่งงาน ก็ทำให้เราเครียด และทะเลาะกัน ก็เลยเลิกกันไปในที่สุด
พอเลิกกันไปแล้ว มาคุยกัน ว่าทำไมเมื่อก่อนตอนเป็นแฟนกัน เรามีความสุขกันดีจังเลย แต่พอจะแต่งงาน กลับไม่มีความสุขเลยจนต้องเลิกกัน คุยกันแล้วก็สรุปว่า ตอนเป็นแฟนกัน เราไม่มีความคาดหวัง (expectation) อะไรมาก เราก็มีความสุขในสิ่งที่เราเป็นอยู่ แต่พอจะแต่งงาน ก็เริ่มสร้างความคาดหวังกันขึ้นมา และไม่ใช่แค่ความคาดหวังของเราสองคนเท่านั้น ที่สำคัญยังมีความคาดหวังของพ่อแม่ ครอบครัวอีก ซึ่งความคาดหวังนั้น ก็ไม่ได้ตรงกันทุกคน และเมื่อไม่ตรงกัน ก็เกิดความผิดหวัง ก็ทำให้ผิดใจกัน - แต่ยังไง พอเกิดความคาดหวังเหล่านั้นขึ้นมาก็ทำให้ได้เห็นว่าใครแต่ละคนเป็นยังไง ซึ่งก็พบว่ามีบางอย่างที่เรารับไม่ได้ และมีบางอย่างที่เค้ารับไม่ได้เหมือนกัน
แต่ยังไงก็ไม่ได้มองการแต่งงานว่าเลวร้ายอะไร แค่ไม่ได้มองว่าจำเป็นเท่านั้นค่ะ เพราะการเป็นแฟนกัน ก็ตอบโจทย์ในชีวิตอยู่แล้วค่ะ
ตอนสาวๆ ใฝ่ฝันค่ะ แต่พอแต่งแล้วคิดว่า ถ้าเริ่มใหม่ได้ ขอไม่แต่งดีกว่า แต่อยากมีลูกนะ การมีลูกคือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเลยค่ะ
ว้ายยย เขิลลลจัง ....
เรามีความคิดเห็นไม่ตรงกะใครเลยอ่ะ
แต่ก่อนเฉยๆคะกับเรื่องนี้ แต่งก็ได้ ไม่แต่งก็ได้ เพราะยังไงก็ยังรักกันอยู่ดี
แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นไรคะ นับวันก็อยากจะแต่งงานเหมือนกับคนอื่นๆบ้าง
ทั้งๆ ที่ในใจตัวเองก็บอกตลอด ว่ายังไม่พร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่ และยังไม่พร้อมที่จะมานั่งดูแลใครมากมายย
แต่อีกใจลึกๆ ก็กลับอยากแต่งมากก.กกกกก ประมาณว่าไปขอคุณแฟนแต่งเองเลยคะ 55+ ( แบบนี้ผิดปกติป่าวววอ่า )
ปล. คบกันมา 10 ปีละ เลยแอบกลัวว่าจะไม่ได้แต่งคะ ตอนนี้ก็กำลังลุ้นอยู่อ่ะคะ :D:D
สำหรับพิ พิว่าการแต่งงานไม่ได้สำคัญเท่าไหร่นะคะ เพราะการแต่งงานหรือจดทะเบียนไม่ได้หมายความว่าเค้าคนนั้นจะซื่อสัตย์แลอยู่กับเราตลอดชีวิต....นี่ค่ะ??????
แต่ว่าประเพณีของคนไทย..ยังไงๆๆก็เห็นแก่หน้าตาในวงสังคมอยู่ดี เลยทำให้การแต่งงานก็ยังเป็นสิ่งที่ควรจะมีจะเล็กหรือใหญ่ไม่ได้สำคัญค่ะ
ที่สำคัญนั่นคือ เรารักกัน ซื่อสัตย์และให้เกียรติซึ่งกันและกันตลอดไป << อันนี้สำคัญที่สุดค่ะ !!!!!
อืมม.. ใหม่เองเมื่อก่อนก็อยากแต่งมากเลย ยิ่งดูหนังประเภทกุ๊กกิ๊ก แต่งงง แต่งงานอะไรแบบนี้ ยิ่งพาลคิดมาก แต่เดี๋ยวนี้กลับรู้สึกว่าอยู่แบบนี้ก้อสบายดีแล้ว ใหม่เองก้อมีแฟน แต่อยู่คนละที่ เดือนนึงเจอกันครั้งนึง ใหม่อยู่กับที่บ้าน มีหลาน มีพี่น้อง ก้อแฮปปี้ดีค่ะ ไม่มีคนคอยบ่นเวลาซื้อกระเป๋าด้วย อิอิ:D
มีโอกาสก็แต่งเถอะค่ะ
เดี๋ยวไปอยากแต่งเอาตอนแก่ ช่วยไม่ได้นะ:D
อยากแต่งค่ะ 555+ (ตอนนี้แต่งแล้วนะค่ะ) แต่คิดถึงตอนเป็นแฟนกัน คือ เราคงถูกเลี้ยงดูมาในกรอบที่คิดว่าการแต่งงานเป็นมาตรฐานส่วนหนึ่งของสังคมน่ะค่ะ
นอกเหนือจากนี้แล้ว เราอยากแต่งชุดเจ้าสาว อยากเตรียมงาน อยากขึ้นไปกล่าวขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัวรวมถึงคนที่รักเราค่ะ
การแต่งงานสำหรับเราถือว่าเป็น milestone อย่างหนึ่งในชีวิตค่ะ นอกเหนือไปจากวันเกิดในแต่ละปี วันจบปริญญา
ตอนเตรียมงาน ยอมรับเลยค่ะว่าเครียดและกดดันมาก เพราะคุณพ่อเป็นที่รู้จักของคนเยอะค่ะ คือทำให้ตัวเองแล้วก็อยากให้คุณพ่อแฮปปี้ด้วยเหมือนกัน
.. พอมาถึงวันนี้แต่งมาปีกว่า มองย้อนกลับไปแล้วก็เห็นและคิดถึงแต่สิ่งดีดีและประทับใจในวันงานค่ะ
ยังจำตอนที่คุณแฟนร้องเพลงได้เลย "ไม่ต้องรักเท่าฟ้า.. แต่ขอให้รักเท่าเดิม ไม่ต้องมีเพิ่มเติม แต่รักไม่น้อยลงไป"
ซึ้งๆๆๆๆ เราร้องไห้โฮๆ :):)
ที่สำคัญคือ ตอนจัด เตรียมและแต่งงานแล้ว ทำให้เรารู้และเข้าใจมากขึ้นว่า พ่อ แม่ และน้องๆ คือคนที่รักเราที่สุดค่ะ
.. และเราก็รักพวกเค้าที่สุดเช่นกันค่ะ [[LOVE]]
เรากลับอยากแต่งแฮะ รู้สึกว่าพิธีแต่งงานมันศักดิ์สิทธิ์
และเห็นด้วยกับคุณnatraps วันแต่งงานเป็นวันที่พิเศษมากๆสำหรับชีวิตคู่ เป็นความทรงจำที่ดี
เราเองก็กำลังจะแต่งงานกลางปีหน้า แต่เราก็เตรียมงานแล้ว เพราะอยากให้ออกมาเป็นวันที่ดีที่สุดวันนึง
แต่ก็เข้าใจหลายคนที่มองว่า การแต่งงานเป็นแค่สัญลักษณ์
เรื่องนี้ก็คงต่างจิตต่างใจกันไปอ่ะเนอะ:rolleyes:
เป็นอีกหนึ่งคนที่คิดว่าการมีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์ไม่จำเป็นต้องแต่งงาน และมีลูก ตอนนี้โมอายุ 37 แล้ว (อายจัง กิกิ) รู้จักกับแฟนตั้งแต่อยู่มัธยมปลาย หมั้นค้างไว้กับแฟนคนนี่มาพย. นี้ก็ครบ 14 ปีแล้วค้า ไม่คิดจะแต่ง ไม่คิดจะจดทะเบียน หรือมีลูกใดๆ เพราะพอใจแค่นี้ มีความสุขเพียงพอกับการมีกันสองคน ไปไหนก็ไปกันสองคนคล่องตัวดี แก่ๆไปก็อยู่กันสองคน
ปล. ที่ต้องหมั้นเพื่อป้องกันแม่บ่นนะค่ะ ก็อ้างไปเรื่อยเรื่องหมั้นก่อน แล้วค่อยแต่ง แต่พอหมั้นแล้วก็ยาวไปเลยค้า :)
สู้ๆ ค้า เราอยู่ได้ด้วยตัวเรา อย่าไปแคร์เสียงคนอื่นมากนัก สู้เอาเวลามาช้อปกันดีกว่า ฮ่า
สงสัยจะมีมุมมองไม่เหมือนเพื่อนๆในนี้เท่าไรอะค่ะ;)
เพราะถ้าวันใดเรามองว่าการแต่งงานไม่สำคัญ ไม่อยากแต่งงาน คงต้องมานั่งหาคำตอบเพราะอะไร ถ้าเกิดจากเพราะเราไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกับชายที่เรารัก ก็ไม่แต่งดีกว่า แต่ถ้าปัจจัยอื่นๆ เช่น เศรษฐกิจการเงิน ก็คงอีกประเด็นหนึ่ง ที่ไม่จำเป็นต้องแต่งงาน
โดยส่วนตัว ก็ยังคงมองว่าการแต่งงานคือพิธีกรรมที่ศักดิ์และเป็นเรื่องราวของความทรงจำที่ประทับใจได้เล่าให้ลูกหลานของเราต่อไปในภายภาคหน้าค่ะ
และที่สำคัญเป็นการให้เกียรติบิดามารดาของทั้งสองฝ่ายด้วยนะค่ะ....เราว่าวันนั้นคงไม่มีแค่เราสองคนที่ยินดี แต่คงมีอีกหลายๆคนที่ร่วมยินดีปรีดากับเราอย่างแน่นอนค่ะ:)
เคยคิดว่าไม่อยากแต่ง และชีวิตนี้จะไม่แต่ง
เพราะกระดาษกับการป่าวประกาศ ไม่ได้การันตีว่า เค้าจะรักและดีกับเราตลอดชีวิต
การให้เกียรติกัน ไม่ได้อยู่ที่จัดงาน แต่อยู่ที่การกระทำ วาจา ใจ ที่มีต่อกันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ผลคือ เลิกกับทุกคนเมื่อเค้าขอแต่งงานค่ะ (ผู้ชายที่เจอ ชอบขอแต่งงานไม่รู้เป็นอะไรกัน -"- )
... แต่
ตอนนี้ ดูรูปแต่งงานเพื่อนบ่อยๆ แล้วกลัวว่า ถ้าจะต้องแต่งขึ้นมา จะแต่งชุดเจ้าสาวไม่สวย กลัวแก่เกินไปน่ะค่ะ 555
เอาเป็นว่า สำหรับโก้ เหตุผลที่ต้องแต่งเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่ายสบายใจ และมีความสุขสำคัญที่สุด
เพราะการแต่งงานไม่ได้มีความหมายอะไรมากสำหรับตัวเองมาก
และน่าจะเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด เพื่อให้คนที่รักเรามากที่สุด (ทั้งสองฝ่าย) มีความสุขค่ะ
เพราะฉะนั้น ถ้าต้องแต่งก็ต้องแต่งค่ะ ตัวเองไม่ได้ฝืนอะไรมาก และทำให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุข เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วสำหรับโก้ค่ะ
อีกอย่าง งานแต่งงานถือเป็นงานที่ให้ Positive energy สำหรับโก้ ไปมากี่งานรู้สึกดีความรักอบอวลเกือบทุกงาน
ถ้างานโก้สามารถทำให้คนรู้สึกดีอย่างที่โก้ประสบมาได้ โก้จะดีใจมาก จัดงานดีๆ ให้คนรู้สึกดีๆ ดีกว่าจัดงานให้คนรู้สึกแย่ๆ นะ โก้ว่า ^___^
มายกมือด้วยคนจ้า ว่าไม่อยากแต่งงาน :rolleyes::rolleyes::rolleyes:
เพราะตัวเองเป็นคนชอบอิสระ ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ หรือ ไม่ชอบที่จะต้องรับผิดชอบดูแลใคร ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่อยากทำก็นอนเฉยๆ :D:D:D อีกอย่าง แค่ตัวเองก็ยังไม่ค่อยดูแล (ถึงได้อ้วนเป็นหมู อิอิ) และ ไม่อยากมีลูกด้วย สาเหตุก็มาจาก เคยเลี้ยงหลาน ตั้งแต่ ตัวแดงๆ จนโต รู้เลยว่า การเป็นพ่อ แม่ เป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ต้องเสียสละอย่างมาก ต้องอดทนมากกกกก ด้วย ...
สำหรับเราคบกับแฟนมาก็ประมาณ 15 ปีแล้วคะ บอกแฟนตั้งแต่แรกแล้ว ว่าไม่อยากแต่งงานและไม่อยากมีลูก ที่บ้านก็ถามจนเลิกถามไปแล้ว :confused::confused: ได้แต่บอกว่า ตามใจเพราะแก่แล้ว คิดเองได้
ปัจจุบันก็มีความสุขดี มีลูกน้อย 3 ตัว สบายหน่อยตรงไม่ต้องรับส่งไปโรงเรียน นอกนั้นก็เหมือนกับเลี้ยงลูกเลยอะ
อยากแต่งงงานม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ไม่มีคนแต่งด้วย (เซร็ง) ตอนนี้เลยแต่งกับงานไปก่อน
ขอนอกเรื่องนิดนึงครับ
พิธีการแต่งงานสำคัญเหมือนกันนะ ถ้าคนหัวสมัยใหม่อาจจะเห็นว่าไม่สำคัญเท่าไหร่ อยู่ด้วยกันเฉยๆๆ ก็ได้ รักกันซะอย่าง เรื่องของคน 2 คนใครจะทำไม
แต่ถ้าเป็น ตจว หรือคนรุ่นเก่าหน่อยถือว่าสำคัญมากมายครับ ถ้าอยู่ด้วยกันไม่แต่งเนี่ยยย....ประมาณเหมือนเป็นฆาตรกรดีๆนี่เอง ไหนจาพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เฮ้อ เยอะ
เมื่อก่อนอยากแต่งมากกกกกกก
แต่ตอนนี้ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
จะไม่แต่ง จะเป็นแฟนกันไปเรื่อยๆเพราะ
ตอนเป็นแฟนกันมันเป็นเรื่องของเราพอ
แต่งแล้วมันเป็นเรื่องของคนอื่นด้วย
เรากับแม่สามีทัศนคติไม่ตรงกัน ต้องมาอยู่ใกล้ชิดกัน
ก็เลยมีปัญหา
แต่พอมีลูกแล้วเรารู้สึกดีขึ้นนะ
เหมือนเรารู้สึกว่า เรากับลูกกับสามี มีความสำคัญต่อกันมากพอที่จะ
มองข้ามเรื่องอื่นๆไป
อิอิ แต่คนที่แต่งแล้วมีความสุขมากๆๆๆๆๆ ก็มีเยอะแยะนะคะ
ผู้หญิงทุกคนอยากแต่งงานทั้งนั้นแหละ แม้กระทั่งทอม!;)
แต่ผู้หญิงหลายคนยังไม่เจอคนที่ใช่
และผู้หญิงบางคนก็เจอคนที่ใช่แล้ว แต่กลัวอะไรบางอย่าง
เลยบอกกับตัวเองว่า การไม่แต่งงานคือทางออกที่ดีที่สุด
เรารึอยากแต่งเพราะอย่างน้อยผู้ชายคนนึงก็ยอมลงหลักปักฐานกับเรา รับเราเป็นภรรยาทั้งทางนิตินัยและทางสังคม ก็ทางพฤตินัยไม่มีใครรับรองนี่นา:p เราว่าเราอาจจะหัวโบราณสักหน่อย เราอยากให้ฝ่ายชายประกาศให้รู้ว่าเขาเลือกผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยา ไม่ใช่เออออห่อหมกใบยอ(ชอบมากค่ะ!)รักกัน อยู่ด้วยกัน เลิกกัน จบ ฝ่ายชายไม่เท่าไหร่ ฝ่ายหญิงมีพ่อมีแม่อย่างเราแม้ในสังคมสมัยนี้ก็ยังทำใจลำบากอยู่ เราอยากแต่งเพื่อจะไม่ต้องมาคลางแคลงใจ ถึงสุดท้ายต้องเลิกรากันไปแต่อย่างน้อยเราทำถูกต้อง ณ เวลานั้นๆ ที่สำคัญมันก็เป็นหลักฐานให้ตรวจสอบได้เกิดกรณีมีปัญหาทีหลัง อันนี้เราว่าสำคัญทีเดียวถ้ามองให้ดีๆเหมือนซื้อของต้องขอใบเสร็จรับเงินน่ะ:D
แต่งแล้วเป็นความรู้สึกที่อืมม ...มันเติมเต็มชีวิตได้นะคะ ช่วงแรกก็ในลักษณะมีเพื่อนที่ไปไหนไปกันตลอดเวลา มีคนคอยดูแล ห่วงใย ตลอด(คุณสามีคะ) ช่วงต่อจากนั้น ก็มีคนมาให้เราคอยห่วง คอยหวง เห็นแล้วทำให้ชื่นใจมีความสุข เจ้าลิง 2 ตัว (ลูกสาว กับ ลูกชายคะ) เอาเป็นว่าเรื่องที่ดีๆ และมีค่าสำหรับชีวิตมากที่สุด (เหมือนกับ พ่อแม่ พี่ น้อง) ก็เกิดขึ้นหลังจากแต่งงานนี่แหละคะ ไม่ต้องกลัวนะคะ สำหรับทุกคนที่ยังไม่แต่ง เพราะเรื่องดีๆๆ มีอยู่จริง และมีอยู่ทั่วไปในสังคมคะ ^___^
อยากแต่งงานคะ แต่แฟนไม่ค่อยมีตังค์ เลยคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องมีพิธีใหญ่โตอะไร
ฝันแค่เป็นงานเล็กๆแต่อบอุ่นได้ก็พอ เพราะอยากเก็บเป็นความทรงจำครั้งนึงในชีวิตคะ
เคยคิดว่าไม่อยากแต่งอยู่เหมือนกันเมื่อหลายปีก่อน ตอน........เจอคนไม่ดีเข้ามาในชีวิต มาหลอก คิดว่าอยู่คนเดียวก็ไม่ลำบากอะไร สบายดี ไม่ต้องมานั่งปวดหัวแต่พออยู่ๆไปก็เหงาคะ
========= โลกสร้างให้มนุษย์เกิดมามีคู่คะ ============
ตอนเด็กๆก็อยากแต่งน่ะค่ะ ใฝ่ฝันมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่เดี๋ยวนี้ ไม่อยากแล้วอ่ะค่ะ
เพราะเพิ่งรู้สึกตัวเองเป็นคนรักอิสระ ยังอยากใช้ชีวิตให้เต็มที่
เคยบอกแฟนไปแล้ว แต่ว่า เหมือนจะไม่ยอม 555+
เราไม่อยากแต่งงานง่ะ ไม่เคยอยู่ในความคิดเลย กับแฟนนี่คบกันมา 13 ย่าง 14ปีแล้ว จนตอนนี้เพื่อนๆมีลูกกันไปเกือบหมดแล้ว อาจเป็นเพราะคิดว่าจะไม่มีลูกก็ได้มั๊งมันเลยไม่ได้รีบเร่งอะไรอ่ะ ที่บ้านเราเค้าก็ไม่ว่าอะไร เรากะแฟนทำงานด้วยกันเจอกันทุกวัน เลยกลายเป็นเฉยๆเฉื่อยๆกะเรื่องนี้ไป แรกๆเวลาไปงานแต่งงานคนอื่นชอบมีคนมาถามว่าเมื่อไหร่แต่ง เราก็ตอบเลี่ยงๆไป แต่ตอนนี้แทบจะไม่มีใครรอบๆตัวแต่งงานแล้วอ่ะ เค้าแต่งกันไปหมดแล้ว ^_^
คงคล้ายกันหละค่ะ เคยผ่านการขอแต่งงานกับแฟนเก่ามาสองคน ก็พอคุยกันก็เลิกกันไปเลยค่ะ
อยู่แบบแฟนก็ดี ระดับนึงไม่ยุ่งมากไม่ก้าวก่ายค่ะ
กลัวว่า เป็นครอบครัวแล้ว จะยุ่ง เพราะว่าเป็นคนสันโดดในระดับนึงทีเดียวค่ะเฮ้อ
ก็ต้องโชคดีมากจริงๆอะเนอะ ถึงจะเจอผู้ชายคนนั้นอ่ะค่ะ
คนที่คบอยู่ ก็ ดีมาก แต่ก็อะนะ
พี่สาวก็เป็นอารมณ์แบบนี้ค่ะ เห็นลูกพี่สาวก็ชื่นใจค่ะ
อันนี้พี่ขอให้ได้แต่งนะคะ น่าจะมีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ของพี่
มันก็ไม่เชิงแบบนี้อ่ะค่ะ ก็ไม่ได้อยากดูแลอะไรกันมากมายเท่านี้อ่ะ
เห็นด้วยค่ะ กลัวว่า พอแต่งงานแล้วการยอมรับนับถือกันมันจะน้อยลงค่ะ
แอบเครียดดดดดดด
เห็นด้วยค่ะ ตอนนี้ก็อยู่คนเดียว ซื้อของทำอะไรได้ทุกอย่างเลยค่ะ
กลัวว่า จะดูแลใครไม่ได้อ่ะ
เกิดมามีแต่คนดูแล ไม่เคยดูแลใครเลยค่ะ
ว่าแต่ ทำไมคุ้นจังเลย(หรือว่าใช้เพลงเดียวกับเพื่อนเรา) หุหุ อาการคงคล้ายกันค่ะ
คุณแม่แฟนเค้าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนมีชื่อแห่งนึง
เครียดดดดด
อวยพรล่วงหน้าเลยค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ
ไม่ใช่ไม่เชื่อในความรัก แต่คิดว่า ตอนนี้ อยากอยู่คนเีดียวมากกว่าอ่ะค่ะ (แปลกเนอะ)
ทุกวันนี้ก็ช็อปสนุกเพราะเงินเราเองเนี่ยหละค่ะ เมื่อไหร่ที่เป็นเงินเราสองคน ก็คงคิดหนัก
อิอิ ทุกวันนี้ยังรักการช็อปอยู่ค่ะ
จริงๆค่ะ
เราก็อยากเห็นพิธีการและชอบไปงานแต่งงานค่ะ แต่ความรักเรามันคงจะแปลกๆมั้งคะ
เลยคิดหนักหน่อย เฮ้อ
ถ้ารักกันมากเข้าใจกันอย่างแต่ก่อนก็คงไม่คิดมากค่ะ ตอนนี้ก็มีหลายอย่างเข้ามา
แปลกดีจังทั้งที่แต่ก่อนตอนคบกันแรกๆ ก็อยากแต่ง
แหนะๆ คุณแฟนบอกคุณโก้ก็น่ารัก(คุณแฟนเคยเจอคุณโก้ตอนไปรับน้องกะปิไงคะ)
ไม่มีใครแก่เกินแต่งหรอกค่ะ
เราเองก็อายุประมาณนึง เพื่อนแต่งกันส่วนใหญ่ มีลูกสองไปหลายคนแล้วค่ะ
แต่ตอนนี้บอกตรงๆ ว่า ชินกับการอยู่คนเดียวค่ะ
ปล Pre CK เมื่อไหร่บอกด้วยนะคะ
อาการนี้เลยค่ะ อาการเดียวกันมากๆ
ตอนนี้ไม่เลี้ยงอย่างอื่น เลี้ยงน้องไบลธ์อย่างเดียว
ไม่เปลืองอาหารด้วยอิอิ
ก็ประมาณนั้นค่ะ (แหมนานๆจะเห็นผู้ชายอยากแต่ง) อิอิ
ที่บ้านก็ถามจนชินแล้วค่ะ เหอเหอ อีกหน่อยเลิกถามเอง
จริงๆค่ะ พี่สาวก็แต่งแล้วมีความสุข แต่ก็เหนื่อย
เฮ้อ ไม่ได้กลัวจะอะไรหรอกค่ะ กลัวว่า จะอยู่กันไปไม่ได้มากกว่า
ถ้ารักกันมากเ่ท่าเดิมก็คิดว่าน่าจะแต่งหละ
เห็นด้วยมากกกกกกกกกกกกกค่ะ
อ่ะ จริงๆค่ะ แต่ตอนนี้เรายังไม่พร้อมซื้อของเลยค่ะ
ปล สายให้อาหารได้มาแล้วคุ่ะ(ลืมถ่ายรูป) ไว้จะถ่ายแล้วส่งให้ดูนะคะ
ขอบคุณก่อนเลยจ้า
อันนี้น่าอิจฉามากค่ะ อยากเป็นอย่างนั้นแต่ก็กลัวเป็นไปไม่ได้ค่ะ
จ้า ..... แต่งกับคนที่รักเราอ่ะ ดีที่สุดค่ะ
นั่นหละค่ะ ชอบอยู่คนเดียว อิสระ มากกกกและนานเกินไปค่ะ
เพลงโหลค่ะ 555+
ไม่ต้องเครียดนะค่ะ (พูดไปงั้นแหละ แต่ตอนตัวเองเครียดมากเหมือนกัน)
ก่อนแต่งคิดมาก + เครียดค่ะว่าเราจะไปดูแลใครได้ เพราะตลอดนี้เราอยู่กับที่บ้าน เกือบทุกเรื่องนี่พ่อ + แม่จัดการให้หมด
เป็นพี่คนโตนะค่ะ แต่ว่าทำตัวเหมือนลูกคนเล็ก จะนึกออกไหมเนี่ยว่าเป็นยังไง 555+
ตอนนี้แต่งงานออกมาแล้ว เรื่องหลักๆ ส่วนใหญ่คุณแฟนจัดการค่ะ ส่วนเรื่องอื่นๆ เล็กๆ น้อยก็เราค่ะ ค่อยๆ ปรับตัวกันไปนะค่ะ
ส่วนเรื่องเงินนี่เราว่าแล้วแต่คุยกันนะค่ะ ของเราต่างคนต่างทำงานคนละกระเป๋าค่ะ แต่คุณแฟนจะให้เงินเราเป็นค่าใช้จ่าย (ตามธรรมเนียม ฮี่ฮี่)
ช๊อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋าก็เงินเราค่ะ ช่วงแรกๆ ก็เกร็งๆ เหมือนกัน กลัวว่าเค้าจะรับไม่ได้ เพราะบ้าช๊อปเหมือนกัน
แต่เราก็บอกไปตามตรงทุกครั้งนะค่ะ เค้าก็มีเตือนๆ ห้ามๆ บ้างแต่ไม่ได้ซีเรียสหรือมีปัญหากันค่ะ
ยิ้มๆ ค่ะ
:):)
เข้ามายกมือด้วยคนค่ะ
ไม่อยากแต่งงานค่ะ
เลิกกับแฟนไปหลายคนแล้วค่ะ
เพราะเค้ารอไม่ไหวค่ะ T T
^
^
^
แหะๆ พารากอนมืดๆ มัวๆ มั้งคะ เป็นคนหน้าตาดีเมื่อมีแสงน้อย 555
ฝากขอบคุณด้วยนะคะ เพื่อนๆ ก็มีลูกไปเยอะแล้วค่ะ
ถึงกับมาบอกว่าเมื่อไหร่แกจะมี ชั้นจะได้โล๊ะของให้
เอ๊าาาา ถ้าอยากมีลูกเพราะงกของฟรี จะมีหน้าไปเล่าให้ใครฟังละเนี่ย ฮ่าๆ
ปล. ck ถ้ามีแรงมีเวลาจะไปบอกจ้า วันนี้ก็เดินผ่านแต่เหนื่อยอ่ะ แวะไม่หวายยยย ^^"
^
^
^
แต่ค่าชุด อุปกรณ์ ของเล่น furniture นี่ สูสีเลยนะคะ สูบเงินไปเยอะมากๆ อ่า
กรี๊ดไปหลายรอบแล้วหลังจากระลึกได้ว่าทำอะไรลงไป แหะๆ
แหม้! ถ้ายังไม่พร้อมซื้อของก็คงต้องคิดดีๆคิดนานๆและก็คิดหนักๆด้วยค่ะ เพราะบ้านเรายังมีระบบคืนสินค้าน้อย ไม่เหมือนฝรั่งถ้ายังไม่ดึงป้ายออกขอคืนได้แม้จะใช้งานไปแล้ว อิอิอิ:D
ปล.ดีใจด้วยค่ะที่ได้ของบริจาคครบตามที่ตั้งใจไว้:) ขอให้กุศลส่งให้พร้อมซื้อของโดยไวนะค้า:D