ช่วยแนะนำครีมสำหรับรูขุมขนกว้างหน่อยค่ะ (อายุ 31) ผิวแห้ง และรูสึกว่ารูขุมขนบริเวณจมูก เริ่มกว้างขึ้น ควรใช้อะไรดีคะ (กลุ้มใจ)
ขอคุณล่วงหน้าค่ะ
Printable View
ช่วยแนะนำครีมสำหรับรูขุมขนกว้างหน่อยค่ะ (อายุ 31) ผิวแห้ง และรูสึกว่ารูขุมขนบริเวณจมูก เริ่มกว้างขึ้น ควรใช้อะไรดีคะ (กลุ้มใจ)
ขอคุณล่วงหน้าค่ะ
เราก็รูขุมขนกว้างนะคะ เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเกาหลีที่ โฆษณาบ่อยๆ ก็ไม่หายนะคะ ขอเข้ามารอคำตอบเหมือนกันนะคะ อิอิอิ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย :D
ลองโรจูคิสขวดสีเหลืองดูหรือยังค่ะ
คิมใช้คุ่กะโทนเนอร์ของคลีนิกซ์หน่ะค่ะรู้สึกว่ารูขุมขนมันเล็กลงจริงๆนะค่ะ
ขอบคุณคุณคิมค่ะ
เคยลองตัวนี้ดูหรือยังค่ะ เห็นเค้าว่าดีกัน เคยใช้ รีจูคิส แล้วไม่เวิร์คค่ะสงสัยพี่แก่เกินไปแล้ว :D
Idealist
Pore Minimizing Skin Refinisher
เข้ามาฟังด้วยคนค่ะ ตอนนี้กำลังหมกมุ่นกะรูขุมขนบริเวณข้างแก้มจริงๆเลย
แต่ที่ลองๆมาแล้วช่วยได้ก็แค่อำพรางเท่านั้นค่ะยังไม่เจอแบบกระชับจากต้นเหตูจริงๆซักที
ที่สามารถพรางได้ก็จำพวก เบส ก่อนแต่งหน้าหรือทาแป้งค่ะ ที่ชอบก็ ขอ' cdp
แล้วก็อเบสใสของ suqqu กำลังอยากลอง เบส ลาแพรี่ รอเจ๊นีน่า กระจายแบ่งมาให้น้องลอง
อิอิอิ
ให้ค่ะซื้อเองแพงอ่ะ
ตอนนี้กำลังลังเลระหว่าง Idealist & Rojukiss ค่ะ เลยขอเก็บข้อมูลก่อนว่าเพื่อนๆใช้ตัวไหนแล้ว work บ้าง
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ
โอ๊ดเคยใช้ idealist ใช้มา 3-4 ขวดแล้ว ตอนนี้ก็ยังเหลืออีกครึ่งขวด แถมยังใช้มันครบชุดเลยนะทั้งโทนเนอร์ ครีมอีก ไม่ได้ผลค่ะพี่ แต่ก็ชอบซื้อผลิตภัณฑ์ estee จัง เฮ้อ
มีปัญหารูขุมขนกว้างเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยังไม่ค้นพบผลิตภัณฑ์ใดที่ทำให้รูขุมขนเล็กลงถาวรได้เลย
มีแต่พวก makeup base ที่พอช่วยได้ในยามแต่งหน้าค่ะ หรือการทำ IPL ก็ช่วยกระชับรูขุมขนได้นะคะ
ตอนนี้สนใจของ SUQQU อยู่ค่ะ ตัว PORE PURIFYING EFFECTOR ค่ะ เห็นว่าสรรพคุณช่วยลดการอุดตัน และกระชับรูขุมขน ก็น่าสนใจอยู่
ใครเคยใช้ตัวนี้บ้างมั้ยค่ะ ได้ผลอย่างไรมาแชร์กันหน่อยค๊า
เอสเต้ตัวไอเดียลริสขวดสีเขียวๆใช้มั้ยค่ะคิมใช้มาสามปีไม่มีผลเลยค่ะ มันเหมือนฉาบๆผิวไว้เฉยๆเลยค่ะแต่พอมาใช้โรจูคิสมันดีขึ้นมากๆเลย ถ้าใช้กับโทนเนอร์ที่เย็นๆหน่อยมันจะดีมากเลยค่ะ
ถ้ารูขุมขนกว้างในการเลือกใช้ครีมทั่วๆไปให้หลีกเลี่ยงที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์นะคะ
เพราะนอกจากจะทำให้รูขุมขนกว่้างในระยะยาวแล้วยังทำให้ผิวหน้าหยาบกร้านด้วยค่ะ
หรือจะลองมาใช้ Differin มั๊ยคะ??
จัดเป็นยาในกลุ่มกรดวิตามินA แต่ว่าพัฒนาให้ระคายเคืองน้อยกว่าเรตินเอสมัยก่อนและไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์
ตัวยาจะไปทำให้เซลล์ผิวทำงานเป็นปรกติ รวมผลักไขมันอุดตันที่อุดตันหลุดออกทำให้ไม่มีสิวอุดตันในระยะยาวด้วยผลที่ได้คือรูขุมขนเล็ก(เพราะไม่มีอะไรอุดตัน)และไม่มีสิวอุดตันค่ะ
แต่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงคือการระคายเคืองได้ เช่น ผิวแห้ง คัน ลอก หรือแดง
แต่ก็บรรเทาได้ด้วยการใช้ครีมบำรุงให้เยอะขึ้น และทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน
วิธีการใช้คือหลังจากทาครีมบำรุงทั้งหมด ก็ให้ใช้ตัวนี้่เป็นตัวสุดท้ายปริมาณไม่เกินเม็ดถั่วเขียว(ปริมาณน้อยมากๆ) แต้มห้าจุดทั่วใบหน้า แล้วทาให้ทั่วใบหน้า
ตัวนี้สามารถใช่ร่วมกับครีมที่มีอยู่ สามารถใช้ร่วมกับBHA ได้ในกรณีผิวหน้าแข็งแรง แต่ถ้าทาร่วมกันแล้วแสบหรือลอก ก็ให้หยุดก่อน พอผิวแข็งแรงแล้วค่อยกลับมาทาใหม่ (หรือถ้าเป็นสิวอักเสบ..ก็ให้แต้มยาที่หัวสิว ก็จะทำให้สิวอักเสบยุบค่ะ)
ไม่จำเป็นต้องใช้ระยะยาวนะคะ หากสังเกตุว่ารูขุมขนเล็กลง/หรือสิวอุดตันหมด ก็หยุดใช้ค่ะ
ที่สำคัญคือห้ามใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของAHA เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคือง แห้ง แดง ลอก แสบ :)
[quote=srichardson;1063764758]เคยลองตัวนี้ดูหรือยังค่ะ เห็นเค้าว่าดีกัน เคยใช้ รีจูคิส แล้วไม่เวิร์คค่ะสงสัยพี่แก่เกินไปแล้ว :D
ไม่เวิร์คเช่นกันค่ะ
เฮ้อ....ตัวไหนๆก็ไม่เวิร์ค จนตอนนี้เจ้ GIVE UP หมดแล้วกับครีมทั้งหลายแหลที่บอกว่าช่วยกระชับรูขุมขนเนี้ย เจ้แก่แล้วขอสวยทางลัดไปยิง IPL ดีกว่า หุๆๆ :D
Differin ซื้อตามร้านขายยาทั่วไปใช่มั้ยคะ ราคาประมาณเท่าไหร่คะ แลดูน่าสนใจ
เรื่องรูขุมขนไม่ทราบเท่าไหร่ แต่มาคอนเฟิร์ม Differin เวิร์คจริงๆ ค่ะ เรื่องสิวอุดตัน ใช้แล้วสิวอุดตันหายเลย แต่ใช้เวลาหน่อย ของ Meesook ทาแค่ตรงที่มีสิวอุดตันค่ะ เคยทาทั่วหน้าแล้วหน้าแห้ง ลอกเลยค่ะ Differin มีขายตามร้านขายยาทั่วไปเลยค่ะ ราคาจำไม่ได้แล้ว ร้อยกว่าบาทมั้งคะ
Differin หาซื้อได้ตามร้านขายยาใหญ่ๆและร้านขายยาตามห้าง ร้าน Boots, Watson ปกติไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาเล็กแถวบ้านเพราะราคาต่อหน่วยค่อนข้างสูงค่ะ ราคาข้างกล่องสำหรับขนาด 15 g. ณ เวลาปัจจุบันคือ 545 บาทค่ะ ที่เคยซื้อราคา 328 บาท แต่ตอนนี้ไกลบ้านซะแล้ว คิดค่าเดินทางที่ต้องจ่ายซื้อตามห้างแพงหน่อยแต่คุ้มกว่า(มั้งคะ) ^^" จะมีแบบ 30 g., 5 g. และ 3 g.ด้วยนะคะแต่ไม่เคยเห็น
:::มารู้จัก Differin กัน:::
Differin เป็นชื่อการค้าของ Adapalene 0.1% ใช้ทารักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ในระยะที่เป็นน้อยถึงปานกลาง
โดย Adapalene เป็นอนุพันธ์ของ Napthoic acid ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายยากลุ่ม Retioniods โดยมีฤทธิ์ในการควบคุมเซลล์ Keratinocyte ในการปรับขบวนการแบ่งเซลล์ของผิวหนัง และมีฤทธิ์ต้านการแบ่งเซลล์ทำให้ลดการอักเสบของสิวได้ด้วย โดยจะมีความเฉพาะเจาะจงกับ Receptor ในผิวหนังชั้นบน
Adapalene เป็นยาที่ละลายน้ำได้น้อยมาก การเตรียมยาจึงเป็นการนำให้แขวนเป็นผลึกเล็กๆ ในเจล (aqueous gel) ซึ่งมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลัก ในความเข้มข้น 0.1 % ทำให้เนื้อครีมเป็นเจล ซึ่งทำให้มีข้อดีคือ ปราศจากส่วนประกอบของแอลกอฮอล์และไขมันที่ทำให้เกิดสิวอุดตันและด้วยการมีผลึกเล็กๆ( microcrystal) ทำให้ยาแทรกซึมลึกเข้าผิวหนังและละลายในต่อมไขมันที่ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ดี ซึ่งต่างจาก Retin-A (Tretinoin gel) ที่มีแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบจึงทำให้การใช้ Retin-A เกิดอาการระคายเคืองผิวได้มากกว่า Differinซึ่งมีวิธีการใช้ ข้อควรระวังและอาการไม่พึงประสงค์คล้ายกับ Retin-A คือ
วิธีการใช้ - ควรทายาบางๆ วันละ 1 ครั้งก่อนนอน หลังการล้างหน้า
ข้อบ่งใช้ - ใช้รักษาสิวที่มีหัวสิว(Comedones) เม็ดนูน(Papules) และเป็นหนอง(Pustules) บริเวณใบหน้า หน้าอกและหลังหรือตามแพทย์สั่ง
ข้อควรระวัง - หลีกเลี่ยงการทาบริเวณดวงตา ริมฝีปาก จมูก และ บริเวณเยื่อบุผิว (mucous membrane) เมื่อทายาแล้วควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดด รวมทั้งแสงจากหลอดไฟ แต่จากการศึกษาพบว่า Adapalene มีความคงตัวต่อแสงแดด ไม่สลายง่ายเหมือน Tretinoin แต่ก็ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงแดดเช่นกัน
อาการไม่พึงประสงค์ - แผลผุพอง (Blistering eruption), ผิวแห้ง (Dry skin), ผื่นแดง (Erythema), คัน (Pruritus), ผิวหนังตกสะเก็ด (Scaly skin) มีการศึกษาพบว่าการใช้ Adapalene ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์น้อยกว่าการใช้ Tretinoin
โดยสรุปข้อดีของ Differin คือ ได้ผลในการรักษาเร็ว มีโอกาสระคายเคืองต่อผิวหนังน้อยกว่า เนื่องจากปราศจากแอลกอฮอล์และเกิดอาการไม่พึงประสงค์น้อยกว่า Retin-A อย่างไรก็ตามยาก็ยังมีโอกาสเกิดความไวต่อแสงแดดและแสงจากหลอดไฟได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงเมื่อทายาแล้ว
ข้อควรรู้เกี่ยวกับยา Differin
1. ยามีราคาค่อนข้างแพงเมื่อเปรียบเทียบกับยารักษาสิวกลุ่มอื่นๆ ดังนั้นแพทย์มักจะนำมาใช้ในการรักษาหลังจากใช้ยารักษาสิวกลุ่มอื่นแล้วไม่ได้ผลหรือมีผลข้างเคียง
2. ควรทายาบางๆวันละ 1 ครั้งก่อนนอนหลังการล้างหน้า โดยไม่ต้องเช็ดหน้าจะลดการระคายเคืองลงได้บ้าง ไม่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย การทายามากเกินไปไม่มีผลให้การรักษาเร็วหรือดีขึ้นแต่จะทำให้ผิวแดงและลอกได้
3. การใช้สบู่ล้างหน้าโดยเฉพาะที่มีแอลกอฮอล์ จะทำให้ผิวหน้าแห้งและเมื่อทายาอาจเพิ่มการระคายเคืองได้
4. ยามีความคงตัวต่อแสงแดด ไม่สลายง่ายเหมือน Tretinoin gel แต่ก็ยังแนะนำให้เลี่ยงแดดเช่นกัน และควรงดการทาบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผลหรืออักเสบหรือบริเวณสิวรุนแรง(Severe acne) ไม่ควรทาใช้ยานี้กับหญิงที่มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์
[ข้อมูลจากใบกำกับยา Differin และจากพันทิปโดยคุณ Kii-Kiie]
Differin เป็นยานะคะไม่ใช่ skin care ระยะเวลาเห็นผลตามแต่บุคคล แต่ระยะเวลาหวังผลได้หลังจากใช้ประมาณ 3 เดือนโดยเป็นการใช้ต่อเนื่องทุกคืน หลังจากทา Differin แล้วทิ้งให้ตัวยาทำงานประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นสามารถทา skin care ที่ไม่มีฤทธิ์เป็นกรดได้โดยตบลงเบาๆไม่ต้องปาดๆค่ะ หลังจากพอใจสภาพผิวหน้าแล้วสามารถลดการใช้ลงเป็นอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ครั้งเพื่อคงผิวชั้นนอกให้เรียงตัวสม่ำเสมอได้
เป็นคนผิวมันรูขุมขนกว้างมากเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ทำใจแล้วแค่ไม่อยากให้กว้างมากไปกว่านี้อีก >"< ใช้ Differin แล้วไม่ทันสังเกตว่ารูขุมขนมันเล็กลงบ้างหรือเปล่ารู้สึกว่ามันก็เหมือนเดิม -"-แต่เคยอ่านเจอว่าไม่มี skin care ในโลกนี้ที่สามารถกระชับหรือทำให้รูขุมขนเล็กลงได้นอกจาก laser ซึ่งก็ชั่วคราวไม่ถาวรแต่ชั่วคราวแบบนานกว่าต้องไปทำต่อเนื่องเรื่อยไป ผลิตภัณฑ์พวก base หรือ BB Cream ที่ทำได้เป็นผลจาก silicone ซึ่งเป็นการปิดรูโหว่ชั่วคราวเหมือนก่ออิฐไม่แน่นไม่เรียบมีฟองอากาศทำให้เวลาปูนก่ออิฐแห้งเป็นรูพรุนๆเยอะ พวกผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าช่วยกระชับรูขุมขนก็เหมือนปูนที่ฉาบหน้าอิฐเท่านั้นรูพรุนๆนั้นก็ยังอยู่รอแต่เวลาปูนกระเทาะออก
เบื้องต้นให้เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอลล์เพราะแอลกฮอลล์ทำให้หน้ากร้านและเบิกตัวรูขุมขนมากขึ้น ต้องกลับไปดูส่วนผสมของ toner ที่เราใช้อยู่ว่ามีส่วนผสมของแอลกอฮอลล์หรือเปล่าค่ะ ถ้ามีไปซื้อตัวที่มีส่วนผสมจำพวก Rose Water หรือ Orange Flower Water มาใช้แทน ดื่มน้ำมากๆโดยการจิบทุกๆ 10-15 นาที (อย่าดื่มโฮกๆให้ได้ 8-10 แก้วต่อวัน) จะทำให้เซลล์ผิวมีความชุ่มชื้นเพียงพอ ผิวจะลดการเบิกกว้างของรูขุมขนเพื่อการสร้างน้ำมันมาให้ความชุ่มชื้นกับผิว นอกจากนี้การลงพวก moisturiser บนผิวชั้นนอกมากเกินไปก็ทำให้ผิวชั้นในขับน้ำมันมาสร้างภาวะสมดุลอีก หลักๆคือต้องพอดีในทุกสิ่งๆ พยายามใช้กันแดดที่มีค่า SPF ไม่สูงเพราะ SPF ค่าสูงไม่ได้หมายความว่ากันแดดได้ทั้งวัน แต่หมั่นลงทุกๆ 2 ชม.แทนเพราะนั่นคือระยะเวลาที่กันแดดออกฤทธิ์หลังจากนั้นมันก็เป็นแค่สารที่มาอุดตันรูขุมขนเท่านั้นค่ะ
อ่านแล้วลองพิจารณาว่าสมเหตุสมผลไหมแล้วค่อยดูว่าควรทำตามหรือไม่ด้วยนะคะ ^^
โห ข้อมูลดีมากๆค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
I am the one who has the same ploblem and I was using perfectionist ,la mer
and philosophy but it didn't work....perfectionist is good it can make your pore minimize but you need to put moisture after because the cream would make your skin smooth but also a little dry, I went to dermatrology last month and do the derma roller only twice in 1 month but that cost a lot and it's painful and bleeding.....but it work like you skin just got a botox and collagen..it also help to remove scar and black mark from acne.
If you need more information about derma roller maybe you can take a look or check this out http://www.derma-rollers.com/24/derm...FYdd5Qod3iPYog
This you can get one for your own and do with yourself to save more money but pls carefully to learn the intruction!
I hope this could help you and good luck to everyone!
(อ่านจบแล้วลบได้)
ประกาศข้อตกลงทั่วไป www.siambrandname.com
www.siambrandname.com ไม่ยินดี ไม่ยินยอม ไม่สนับสนน ให้มีการใช้ ระบบใดๆ ในชุมชนแห่งนี้ เพื่อการกระทำผิดต่อกฎหมายและศิลธรรมที่ดีงามของประเทศนี้ที่เราอาศัยร่วมกัน ทั้งนี้หากสมาชิกเข้ามาใช้งาน ชุมชนแห่งนี้ แสดงว่า รับรู้ เข้าใจ และยอมรับ ในประกาศนี้ และยินดี ปฎิบัติตามประกาศนี้ร่วมกัน
www.siambrandname.com เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการทำผิดกฏหมายของสมาชิกคนใด และจะไม่ร่วมรับผิดชอบใดๆ กับสมาชิกผู้ที่ทำผิดกฏหมาย ในทุกกรณี
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้และเจ้าของกรุ๊ปครับ ทดสอบระบบการเชื่อมต่อกระทู้ระหว่าง Social Group และ Main Forum ครับ
ขอบคุณครับ