ขอคำแนะนำค่ะ (เนื่องมาจากคุณแม่เป็นมะเร็ง)

ปกติได้แต่ เข้ามาเป็นผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้อ่าน (ที่ดี) ไม่คิดเหมือนกันวันนี้จะมา ขอระบาย และขอคำแนะนำประสบการณ์จากเพื่อน ๆ ค่ะ

เนื่องจากก่อนที่จะหยุดปีใหม่ เราเข้ามา SBN เพื่อประกาศขาย speedy และเป๋าตังค์เพื่อที่จะนำเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลคุณแม่ซึ่งเป็นมะเร็ง (โดยมีผู้ใจดีรับไปดูแลต่อแล้วทั้ง 2 ใบ)

และเราได้เพื่อน ๆ ที่มีน้ำใจ ทุกๆ ท่านอวยพร ให้กำลังใจ จขกท และคุณแม่ ทั้งทางหน้าทู้ ทาง PM รวมถึงทางโทรศัพท์ จากหลาย ๆ ท่าน

เราเองซึ้งในน้ำใจ และมิตรภาพที่ดี ที่เพื่อน ๆ ใน SBN มีให้ ขอขอบคุณด้วยใจจริง ๆ


**** เข้าเรื่องบ้างนะค่ะ ตามที่ได้เคยแจ้งไว้ในทู้ แล้วว่าคุณหมอ นัดคุณแม่ไปโรงพยาบาลวันนี้เพื่อเข้ารับการผ่าตัด คุณแม่ได้ไปตามนัด และเข้ารับการตรวจสุขภาพ ต่าง ๆ ......... แต่กลับพบว่า คุณแม่ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ เนื่องจากท่านเครียจมาก และความดัน - น้ำตาลในเลือดสูง บลา บลา บลา .... .......(คุณพ่อโทรมาแจ้งเมื่อไม่กี่นาทีนี้เองค่ะ เพราะคิดว่าเย็นนี้จะตามไปหลังเลิกงาน ท่านจึงโทรมาบอกว่ายังไม่ต้องมา)

คุณหมอนัด และให้กลับมาอีกครั้ง ในวันที่ 16 อีก 1 สัปดาห์ แต่ตอนนี้อาการคุณแม่ไม่ดีเลยท่านปวดมากตรงบริเวณก้อนเนื้อหน้าอก เจ็บจี๊ดจนถึงหัวใจ ตลอดเวลา ท่านนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้วเนื่องจากอาการปวด

เราควรจะทำอย่างไรดี นอกจากให้กำลังใจท่านแล้ว และให้ท่านทานยาตามที่คุณหมอให้มา เราไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงอีกแล้ว เพราะอีกตั้ง 1 อาทิตย์ ถึงจะกลับมาตามที่หมอนัดอีกครั้ง

เราสงสารคุณแม่มากๆ ที่ท่านต้องทนปวดกับก้อนเนื้อร้ายนี้

หากใครมีข้อแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับโรคนี้ช่วยแนะนำด้วยนะค่ะ

ขอขอบคุณ เพื่อน ๆ ทุกท่าน จากใจจริง

ให้กำลังคุณแม่มากๆๆคุยกับท่านเยอะๆๆค่ะ หรือลองให้คุณแม่อ่านหนังสือธรรมะ+นั่งสมาธิดูมั้ยค่ีะ จะได้ไม่เครียดมากร่างกายจะได้พร้อมเข้ารับการผ่าตัดค่ะ

เป็นกำลังใจให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีนะคะ

เข้ามาให้กำลังใจค่ะ

คุณแม่เราก็เคยเป็นมะเร็งเต้านมค่ะ เมื่อนานมาแล้วตั้งแต่เราอยู่ ม.4 (> 10 ปีมาแล้ว)แต่ตอนนี้หายแล้ว คือเข้ารับการผ่าตัด และฉายแสง

ความเครียดเป็นสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้ อาการต่างๆแสดงออกมา แม้กระทั่งความดัน เบาหวานก็จะขึ้น ลองพาคุณแม่ไปเที่ยวพักผ่อน แบบเปลี่ยนสถานที่ หรือที่ที่ท่านอยากไป เช่นเยี่ยมญาติสนิท

บางครั้งอาจจะต้องบอกความจริงไม่หมด (ไม่ได้โกหกน๊า) เช่น เป็นระยะแรก รักษาได้สบายอยู่แล้ว คนรอบข้างก็ต้องไม่เครียดด้วย ทำใจสบายๆ ถ้าเราเครียด คุณแม่ก็เครียดด้วยเพราะรับรู้ได้ อาการต่างๆก็จะเพิ่มขึ้นค่ะ ตอนคุณแม่เราทราบว่าเป็นมะเร็ง คนที่ให้กำลังใจดีที่สุด มากที่สุดคือ คุณพ่อค่ะ (จากปกติไม่เคย)

เมื่อสามปีก่อนคุณแม่เราก็เป็นมะเร็งค่ะ ขั้น 3 ด้วยที่เต้านมด้านซ้าย บอกตรงๆ เป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจเป็นที่สุดอันนี้เราเข้าใจคุณ จขกท มากๆค่ะ ให้คีโมทุกครั้งคุณแม่อาเจียรมาก เจ็บคอ ผมร่วงมีอาการข้างเคียงน่าสงสารมากๆค่ะ ผ่าตัดต้องตัดออกทั้งเต้าและต้องฉายแสงสิบกว่าครั้งค่ะ แต่แล้วเราก็ผ่านเหตุการณ์ตอนนั้นมาได้ เพราะกำลังใจของเพื่อนและคนในครอบครัวค่ะ เราเองก็เป็นกำลังใจที่สำคัญให้กับคุณแม่ คุณจขกท ต้องอดทนนะคะ ให้กำลังใจคุณแม่มากๆ อ้อ ...อยากแนะนำ ช่วงที่ให้คีโมน่ะค่ะ มันต้องมีค่าเม็ดเลือดแดงเยอะต้องให้ทานวิตามินทุกวันเลยค่ะ วิตามิน ซี เอซีอี แล้วก็ บี เราให้คุณแม่ทานของ Blackmore ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและสามารถให้คีโมได้ตามกำหนดทุกครั้งเลยค่ะ มีผลให้การรักษาไม่ล่าช้านะคะ ตอนนี้ก็ต้องพบคุณหมอทุกเดือนรับยาเม็ดสีแดงมาทานทุกวันให้ครบ 5 ปีค่ะ ทุกวันนี้คุณแม่แข็งแรงดีค่ะ มีแต่คนทักว่าไม่เหมือนคนเคยเป็นมะเร็งเลย สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้จริงๆค่ะ เพราะเราก็เป็นลูกที่สนิทกับคุณแม่มากๆ แล้วก็รักท่านมากๆ ด้วยค่ะ

ต้องไม่เครียดอ่ะค่ะ พยายามทำใจให้สงบเอาธรรมะเข้าช่วย ญาติเราเคยเป็นค่ะ จากที่หมอไม่รักษาให้แล้ว เพราะมันขั้นสุดท้าย แต่เค้าบอกตัวเองว่า เค้าไม่ใช่คนป่วย เค้าก็กลับมาบ้านทำใจสงบ ตอนหลังเค้าไปบวชค่ะ ก็อยู่กับธรรมะ ความสงบแล้วโรคร้ายก็ทำรัยเค้าไม่ได้ อาการดีขึ้น จนเหมือนคนปกติมากๆๆ เพราะฉนั้นจิตใจเราสำคัญที่สุดค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ให้คุณแม่คลายเครียดนะคะ... อาจจะให้ลองสวดมนต์ ฟังเทศน์ก็ได้ค่ะ อ่านหนังสือธรรมะก็ดี จะเป็นธรรมะของศาสนาไหนก็ได้ค่ะ ให้คุณแม่ได้รู้สึกว่า สิ่งที่คุณแม่กำลังเจออยู่นั้น เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ใครๆ ก็เป็นกันได้ค่ะ ให้คุณแม่พาจิตใจออกมาจากความสงสารตัวเองนะคะ

ตัวคุณเองก็ต้องระวังอย่าเครียดมากนะคะ ถ้าคนรอบข้างจิตใจสบายๆ คุณแม่ก็จะพลอยสบายใจไปด้วยค่ะ


เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดีค่ะ... :)

เข้ามาให้กำลังใจเช่นกันค่ะ

อยากให้คุณแม่ทำใจให้สบาย อย่าเครียดมากนะคะ

ลองชวนท่านสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิถ้าทำได้นะคะ

มีน้องและเพื่อนเราสองคนเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย คุณหมอไม่ยอมรักษาเพราะเค้าบอกว่าอยู่ได้แค่หกเดือนเท่านั้น หลังจากนั้นน้องทั้งสองคนนั้นก็ทำใจ และพยายามทำจิตใจให้สบาย จากคนที่เคยเคร่งเครียดกลับปล่อยวาง นิ่งเฉยลงมาก และหันมาทานมังสวิรัต สวดมนต์ นั่งสมาธิ ... หลังจากนั้นไม่นาน
โรคมะเร็งก็หายไปอย่างปาฏิหารค่ะ คุณหมอที่รักษาเองยังแทบไม่เชื่อ ถามว่าคุณทำได้ยังงัย น้องบอกแค่ว่าเปลี่ยนแปลงตัวเอง ปล่อยวาง ไม่เครียด ทานอาหารที่มีประโยชน์ แค่นั้นเองค่ะ

ขอให้คุณแม่ไม่เจ็บปวดนะคะ ดูแลคุณแม่ให้มากๆ ตอนนี้คุณอาจจะเหนื่อยไปบ้าง อย่าเพิ่งท้อนะคะ

สู้ๆ ทุกคนเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

เห็นด้วยกะทุกคนคะ

พยายามอย่าให้คุณแม่เครียด อ่านหนังสือธรรมะ หากมีเวลาก็ลองนั่งสมาธิ

จิตใจของท่านจะได้ดีขึ้นคะ ดูแลท่านมากๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และบำรุงร่างกายอ่ะคะ

พยายามให้กำลังใจคุณแม่ ทำให้ท่านไม่ท้อ

ถ้ากำลังใจดี จิตใจดี เชื่อว่า น่าจะทำให้ท่านดีขึ้นนะคะ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ หายป่วยนะคะ คุณลูกก็สู้สู้ด้วยเช่นกันค่ะ อย่าท้อนะคะ :D

ขอขอบคุณทุก ท่าน ที่เข้ามาให้กำลังใจ และข้อแนะนำ ประสบการณ์ต่างๆ ที่ท่านผ่านมา

เราเองจะสู้ สู้ และเป็นกำลังใจให้คุณแม่ผ่านพ้นโรคร้าย ๆ นี้ผ่านไปให้ได้

ขอขอบคุณ คุณ mimi, orn, SweetCandyBee, ninanina_neena, meesook, little monster, ohh

และเพื่อน ๆ ทุก ๆๆๆ ท่านค่ะ

ขอบคุณค่ะ

เอาใจช่วยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
บอกคุณแม่ว่าอย่าเครียดนะคะ เราต้องสู้กับมันให้ได้ค่ะ :)

คุณแม่สามีก็เป็นมะเร็งเต้านมค่ะ คุณหมอตัดไป 2ข้างเลยค่ะ ทุกวันนี้ก็กลับมาเหมือนเดิมทุกอย่างเลยนะคะ โรคเนี๊ยสำคุญที่ความเครียดเลยค่ะ พยายามบอกคุณแม่อย่าเครียดนะคะ ถ้าเป็นไปได้เคยอ่านมาเค้าว่านั่งสมาธิค่ะจะช่วยได้ในเรื่องของความเจ็บปวดนะคะ เอาใจช่วยค่ะ ขอให้คุณแม่หายป่วยเร็วๆนะคะ

เมื่อกี๊พิมพ์ไปทีแระ แต่เครื่องมันแฮงก์ เอาใหม่ละกัน

จะบอกว่า กำลังใจสำคัญที่สุดเลยนะคะ
พยายามให้กำลังใจคุณแม่ อยู่กะท่านเยอะ ๆค่ะ

ยังไงยังไง "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว "

ลองเลือกปฏิบัติแนวชีวจิตไหมคะ
พอดีเราเป็นสมาชิกนิตยสารชีวจิต ก็เห็นมีหลายคน
ที่มะเร็งหาย สงบ เพราะปฏิบัติตัวตามแนวชีวจิตน่ะค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ เห็นด้วยกับคุณ meesook ค่ะ....อ่านไปได้ไม่กี่บรรทัด น้ำตาจะไหล
(แอบคิดว่าถ้าเป็นแม่เราล่ะ...ฮืออ) คุณ จขกท.รักษาสุขภาพด้วยนะคะ จะได้เป็นพยาบาลส่วน
ตัวให้คุณแม่ได้ เอาใจช่วยค่ะ

เอาใจช่วยด้วยคนค่ะ

คนป่วยย่อมเครียดเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ซึ่งพ่อจูนก็เป็น

เป็นมากซะด้วย พยายามทำให้ท่านสบายใจ

ทำทุกอย่างที่เราอยากทำให้ท่าน ก่อนท่านจะจากไปอย่างกะทันหัน

บอกรักท่านทุกวัน ก็ถือว่าเป็นยาใจชั้นเยี่ยมนะคะ

สู้ๆ ค่ะ

ก่อนอื่นขอเป็นกำลังให้ก่อนนะคะ คนรอบๆข้างก็ต้องทำตัวให้มีกำลังเพื่อที่จะปลอบโยนคนป่วยได้ ถ้าคนรอบข้างห่อเหี่ยวแล้วก็จะทำให้ผู้ป่วยกำลังใจไม่ดีได้นะคะ

ส่วนตัวเคยรู้จักคนที่ป่วยเป็นมะเร็งมาก่อน ได้คลุกคลีอยู่ 2 ปี ที่สำคัญรองจากกำลังใจที่ดีแล้ว อาหารการกินก็สำคัญคะ งดอาหารที่เป็นน้ำตาลทุกประเภท งดเนื้อสัตว์โปรตีนพวกหมู ไก่ เนื้อ อะไรแบบนี้งดหมดเลยนะคะ(เพราะโปรตีนนี้เป็นอาหารของมะเร็ง) ให้ทานปลาแทนคะ ทานผัก ถ้าเป็นไปได้ให้ทานอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงรสจากซอส ซีอิ๊วต่างๆเลยคะ ผัดผักก็ให้ใส่เกลือแทน ข้าวก็ทานข้าวกล้องแทนข้าวขาวที่ผ่านการขัดสี ต้องเปลี่ยนการกินใหม่หมดคะ ถ้าต้องการความรู้เพิ่มเรื่องนี้ก็ลองหาอ่านจากพวกหนังสือชีวจิตก็ได้คะ

เดี๋ยวนี้การแพทย์พัฒนาไปมาก การรักษาก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยังไงก็ขอให้คุณแม่หายป่วยโดยเร็วนะคะ ขอให้พระคุ้มครองค่ะ

มาเป้นกำลังใจให้ค่ะ

บุ่มว่าที่สำคัญคุรแม่ของจขกทต้องไม่เครียดนะค่ะ

ลองนั่งสมาธิดู ไม่ก็ไปเที่ยวที่ที่คุณแม่จขกทอยากไปค่ะ

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะค่ะ

ลองพาคุณแม่ไปทำบุญ ฟังเทศน์ นั่งสมาธิดูค่ะ

จะได้ทำให้จิตใจสงบ แล้วก็รู้สึกดีทางจิตใจด้วยยย

พยายามทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพด้วยนะค่ะ

ขอขอบคุณทุก ๆๆ ท่านนะค่ะ

Pehn / noo_pizza / teerasak / JuNeJuNe / Aumie / barumbum / GangatoppU

และทุก ๆๆ วิธี ที่ให้คลายเครียด ทุกวันนี้คุณแม่จะใส่บาตร สวดมนต์ และ พยายามให้ตนเองหายเครียดด้วยการไปวัด ทุกเช้าเพื่อใส่บาตร

******ตั้งแต่ทราบว่าคุณแม่ป่วยเมื่อต้นเดือน ธันวานี้เอง

(เราจึงไม่ได้มีเงินเก็บเตรียมไว้มากมาย นอกจากเงินเดือน และกระเป๋าน้อย ๆ บางชิ้นเท่านั้น แต่ไม่เป็นไร ของนอกกายเมื่อไหร่ก็หาได้ แต่เราต้องรักษาคุณแม่ให้หาย ไม่ว่าจะต้องเสียเงินมากเพียงไรก็ตาม)

จริง ๆๆ แล้ว ท่านมีอาการปวด มาตั้งหลายปีแล้วแต่ไม่มาก และท่านคิดว่าตนเองเป็นก้อนเนื้อธรรมดา (ประกอบกับต้องช่วยเลี้ยงหลาน คือเจ้าลูกชายของ จขกท เอง) ท่านจึงไม่เคยบอกใครให้ทราบเลยว่าท่านเป็นอะไร


จนกระทั้ง ต้นเดือน เริ่มปวดมากจนผิดสังเกต ท่านจึงต้องเข้ารับการตรวจอย่างจริงจัง จนกระทั้งทราบว่าท่านเป็นมะเร็งเต้านม จริง ๆๆ แล้ว จขกท เองเสียใจมาก ๆๆ เนื่องจากต้องทำให้ท่านรับภาระเลี้ยงเจ้าตัวเล็ก ท่านถึงได้เข้ารับการตรวจช้า และกว่าจะได้ผ่าตัดรักษาอีก ก็ทำให้ท่านต้องทนกับอาการปวดแบบนี้ ******


เราเองไม่ทราบเลยว่าโรคนี้ห้ามทานอาหารปรุงด้วยซอส ซีอิ้วฯลฯ ต้องกลับไปบอกท่านแล้วว่าให้ใช้เกลือปรุงอย่างเดียว

ทุกวันนี้เรา จะให้ท่านทานแต่ผัก + ปลา +ข้าวกล้อง (ข้อมูลเหล่านี้ได้มากจากเพื่อน ๆ ๆ SBN แห่งนี้ และ ก็จากเพื่อน ๆๆๆ ของน้องสาวที่ช่วย ๆๆ กันแบ่งปันประสบการณ์)

หวังว่าคำอวยพรของทุกท่าน และน้ำใจที่มีให้นี้ ส่งผลให้คุณแม่หายป่วย และอยู่เป็นร่มโพธิ์ ร่มไทร ให้กับครบครัวต่อไปอีกนานเท่านาน

ขอบขอบคุณทุก ๆๆ ท่านอย่างสูงค่ะ