จากใจคนที่แต่งงาน และมีครอบครัวแล้ว
ก็คงเหมือนเพื่อน ๆ หลายคนบอกน่ะค่ะ ว่าไม่มีใครที่จะรู้ใจเราดีไปกว่าตัวเรา ไม่ว่าจะมีใครแนะนำอย่างไร มันก็อยู่ที่ตัวเราอยู่ดีว่าจะตัดสินใจยังไง มีเยอะแยะไปค่ะที่แฟนหาความดีไม่ได้เลย แต่ก็ยังรักและยังอยู่ด้วยกัน แต่ไม่รู้เพราะอะไร นั่นก็เพราะเขารับได้ เขาถึงอยู่ได้
"ต้องถามตัวคุณเองน่ะค่ะ ว่าคุณจะทนเรื่องแบบนี้ หรือตัวเขา ไปได้ตลอดชีวิตหรือไม่ ถ้าคุณจะแต่งงานกับเขา"
ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่คุณและเขาเท่านั้น
สู้ๆๆ นะค ทุกอย่างอยู่ทีใจ เรากำหนดตัวเราด้วยใจของเรา
ถามใจตัวเองดูนะคะ ว่าถ้าเค้าไม่โกหกเราแล้วเค้าขอเราตรงๆๆ ว่าไปเที่ยวเรารับได้มั้ยด้วยน๊า
การที่เค้าไม่บอกเพราะถ้าบอกเค้าไม่ได้ไปเที่ยว แต่พอเค้าไม่บอกเรารู้ตอนหลัง อันไหนเจ๊บกว่ากัน อันนี้ต้องลองคิดดูดีๆๆๆๆๆๆๆๆ น๊า
ถ้าเราคิดว่ารับได้ เพราะเป็นเรื่องปกติของผู้ชาย ที่ต้องการหาความแปลกใหม่ แล้วเค้าบอกเราว่าวันนี้ขอไปเที่ยว เราโอมั้ย ลองคิดว่าถ้าเราโอ....เค้าก็จะไม่โกหก เราไม่ต้องมาระแวงระวัง แต่ต้องไม่มีการผูกพัน ผูกมัดใดๆๆ เกิดขึ้น
อ่านข้อความนี้ และส่งให้แฟนคุณอ่าน แล้วลองมองหน้าคิดว่าต้องใช้ชีวิตร่วมกัน คนทั้งคู่ทำให้แค่ไหน อย่ารีบตอบ เพราะทุกอย่างต้องผ่านสมองก่อนน๊า ค่อยๆๆ คิด
“ข้อคิดเพื่อครอบครัว” อ.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
1. ข้อสำคัญของการเลือกคู่ คือ เราไม่ได้เลือกใครเพราะเขาสมบูรณ์แบบ แต่เพราะเขามีจุดดีหลัก ๆที่เราประทับใจ ส่วนจุดอ่อนด้อยนั้นเป็นส่วนปลีกย่อยที่เราสามารถยอมรับได้อย่างไม่ยากเย็น
2. ในความเป็นจริง ไม่มีใครดีเลิศสมบูรณ์แบบ ถ้าเรามองไม่เห็นจุดอ่อนด้อยของเขาเลย นั่นแสดงว่า เรายังไม่รู้จักเขาอย่างแท้จริง หรือไม่ เราก็กำลังตกอยู่ในความหลงใหล .จนไม่ลืมหูลืมตา
3. การแต่งงาน คือ การผูกพันกันด้วยหัวใจ ไม่ใช่เพียงร่างกายและยิ่งไม่ใช่การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เชิงธุรกิจ
4. คนที่แต่งงานเพราะความเหงา จะยิ่งเหงาหนักเป็น2 เท่า แต่งงานแบบคลุมถุงชน ก็มีแนวโน้มว่า ชีวิตจะมืดมนไปอีกนาน
5. ความสุข ความทุกข์ ครึ่งหนึ่งอยู่ที่ชีวิตหลังแต่งงาน คิดให้ดีก่อนที่จะเลือกใคร มาเป็นคู่ชีวิต ...
6. บ้านจะเล็กหรือใหญ่ ไม่สำคัญ แต่ "ความรัก" ต้องใหญ่ที่สุดในบ้าน
7. คำว่า "รัก" พูดมากไป ย่อมดีกว่า พูดน้อยไป...
8. เมื่อเรา ทำผิด....จง "ขอโทษ" เมื่อเขา ทำผิด ....จง "ให้อภัย"
9. ชีวิตแต่งงาน คือ ชีวิตแห่งการปรับตัว ถ้าไม่คิดจะปรับตัวเข้าหาใคร อยู่เป็นโสดไป ก็ดีกว่า...
10. ยอมเป็นผู้แพ้ ดีกว่า เป็นผู้ชนะที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากชีวิตสมรสที่หักพัง...
11. "แก้ตัว" .... ช่วยอะไรไม่ได้ "แก้ไข" .......ช่วยได้ทุกอย่าง...
12. เมื่อมีปัญหาในครอบครัว อย่าลืมใช้ความรักและหลักเหตุผลเป็นกรรมการตัดสิน ไม่ใช้ อารมณ์ หรืออาวุธ..
13. งอนแต่พองาม...ก็งามดี แต่งอนเกินพอดี ก็เกินงาม...
14. ต่างคนต่างแข็ง ไม่มีใครยอมอ่อนข้อต่อกัน...บ้าน...ก็คงไม่ต่างอะไรกับสนามรบ
15. เมื่อสามีอ่อนแอ ไม่รับบทบาทผู้นำ ความสับสนวุ่นวาย ก็ตามมา หรือเมื่อภรรยา พยายามแย่งบทบาทการนำจากสามี ชีวิตครอบครัวก็รอดยาก
16. ความไม่ซื่อสัตย์ ต่อกันเพียงครั้งเดียว ก็อาจสั่นคลอนความไว้วางใจที่มีให้กันได้ท้ายที่สุด ชีวิตคู่ก็จบลงด้วยความแตกร้าว ยากเยียวยา
17. ความเห็นแก่ตัว สนใจแต่ปัญหา อารมณ์ ความรู้สึก และความสนใจของตัวเองชีวิตคู่ ก็อยู่ด้วยกันยาก
18. ก่อหนี้สินจนล้นพ้นตัว ครอบครัวก็มีแต่ความตึงเครียดทุกเช้าเย็น
19. เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือทั้งสองฝ่ายเรียกร้องและคาดหวังจากกันและกันมากเกินพอดี ปัญหาก็จะมีเรื่อยไป…ไม่สิ้นสุด
20. ควรตระหนักว่า...ภรรยา ไม่ใช่ผู้ปรนนิบัติรับใช้สามี แท้จริงแล้ว สามีภรรยา ควรเอาใจใส่ดูแลกันและกันอย่างดีที่สุด ...ย่อมดีกว่า
21. ไม่มีอะไร ทำให้ภรรยาปวดร้าวใจ มากเท่าการค้นพบว่า สามีมีหญิงอื่นในหัวใจ
22. รักเดียว...ใจเดียว ไม่ใช่เรื่องเชย แต่เป็นเรื่องดีที่สามีทุกคนในโลกควรกระทำ
23. การขอโทษภรรยาเมื่อทำผิด ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี แต่เป็นศักดิ์ศรีของสามี...ที่แท้จริง
24. ไม่ควรมองว่า งานดูแลบ้าน เป็นความรับผิดชอบของภรรยา สามีควรมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระอย่างสุดความสามารถเสมอ
25. สรีระรูปร่างหน้าตา ที่เปลี่ยนไปของภรรยา ไม่ควรเป็นเหตุให้ความรักในหัวใจของสามีจืดจางลงแม้แต่น้อย
26. ควรระลึกอยู่เสมอว่า...การนำครอบครัวนั้น คือ การนำโดยเห็นผลประโยชน์ของครอบครัวเป็นหลักไม่ใช่ เพื่อความสุข ความพึงพอใจของตนเอง
27. ภรรยาที่ดี ควรสนับสนุนสามีให้ก้าวไกลในชีวิต ไม่ใช่ดึงรั้งให้หยุดอยู่กับที่ หรือถอยหลัง
28. ภรรยาที่ดี ไม่ควรใช้วิธีการบีบบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อให้สามีตัดสินใจตามความคิดของตน
29. ในสถานการณ์หน้าสิ่ว หน้าขวาน สามีต้องการภรรยาที่สงบนิ่ง ช่วยกันคิดหาทางออก ไม่ใช่ภรรยาที่เอาแต่โวยวาย ตีโพย ตีพายหรือร้องไห้ฟูมฟาย โดยปล่อยให้เขาต้องแบกภาระหนักอึ้งเพียงลำพัง
30. การไม่ตีลูก เพราะกลัวลูกเจ็บ เมื่อยังเป็นเด็ก กลับจะทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สร้างปัญหา และถูกลงโทษ ... จากสังคม
31. ช่องว่างระหว่างวัย..ระหว่างรุ่น...ย่อมไม่มี ถ้าพ่อแม่ตระหนักถึงความสำคัญ และใช้ความพยายามที่มากพอ วิธีที่ดีที่สุด คือ พ่อแม่ควรวางแผนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับลูก ไม่ใช่ตามแก้ปัญหาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว
32. พึงตระหนักว่า ลูกไม่ใช่ดินน้ำมัน ที่พ่อแม่ อยากจะปั้นให้เขาเป็นอะไรก็ได้ตามใจชอบ เขาย่อมมีจิตใจที่มีเอกลักษณ์แห่งความชอบ ความสนใจที่แตกต่างไปจากพ่อแม่ได้เสมอ