ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
คือเรื่องมีอยู่ว่าปิดเทอมนี้ อยากจาไปเรียน ไปฝึกภาษาซักเล้กน้อยย (ประมาณ 3 เดือน)
อยากไป L.A. น่ะค่ะ
แต่ไม่รู่ว่าไปคนเดียว อยู่คนเดียวจะไหวมั๊ยย อันตรายรึป่าวววว
ใจจิงอยากทำงานด้วยน่ะค่ะ (ช่วงเย็นๆไรงี้) คิดว่ามันจะช่วยพัฒนาภาษาให้เร็วขึ้นมั๊ยคะ?
(เห็นเพื่อนที่ไปพวก work&travel บอกว่าถ้าจะทำงานแบบถูก กม. มันจะต้องรอขอ นัมเบอร์อะไรซักอย่างก่อนน่ะค่ะ
ใครพอมีข้อมูลเรื่องนี้ หรือ พอรู้ที่ตั้งสำนักงาน รบกวนด้วยนะค้า)
คือตอนนี้ภาษาอังกิดก็พอได้ แต่อยากจะให้มันคล่องๆๆๆ เพราะที่บ้านจะให้ต่อโทที่'เมกาน่ะค่ะ
กลัวว่าถ้าไม่ไปลองใช้ชีวิด ลองศึกษาชีวิดเค้าตอนนี้ (ปี 3 เทอม 2)
ถึงเวลาต้องไปอยู่จิงๆแล้วจะไม่ทันสำเหนียกกกกกตัวเองน่ะค่ะ :cry: :cry:
ใครพอรู้ที่เรียน ที่อยู่ รบกวนด้วยนะคะ
(แต่คุณพ่อมีคนรู้จักอยู่ที่นั่นน่ะค่ะ คือถ้ามีปัญหาอาจจะพอติดต่อเค้าได้นิดหน่อย
คือไม่ได้รู้จักอะไรเค้าด้วยน่ะค่ะ แต่คิดว่าอาจจะพอรบกวนได้นิดๆๆๆน่ะค่ะ)
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
เด๋วพรุ่งนี้คุยกันละเอียดตัวๆ เลยค่ะ คริคริ
คือเรื่องมีอยู่ว่าปิดเทอมนี้ อยากจาไปเรียน ไปฝึกภาษาซักเล้กน้อยย (ประมาณ 3 เดือน)
อยากไป L.A. น่ะค่ะ
ไป L.A. ก็อยู่เมืองใหญ่ แต่จะไม่ค่อยเหมือนเมกาเท่าไหร่นา คนเอเชียเยอะกว่าเยอะมากกกก ไปไหนก็หัวดำไปหมด
แต่ไม่รู่ว่าไปคนเดียว อยู่คนเดียวจะไหวมั๊ยย อันตรายรึป่าวววว
อันตรายมั้ยนี่ขึ้นอยู่กับว่าอยู่แถวไหนด้วยค่ะ ถ้าได้ที่พักใกล้ยูก็จะช่วยมาก ถ้าไม่ใกล้ก็ลำบากหน่อย
เมืองใน CA ส่วนมากควรมีรถใช้อ่ะค่ะ เพราะแต่ละที่ที่อยากไปจะไกลๆ กันมาก
ใจจิงอยากทำงานด้วยน่ะค่ะ (ช่วงเย็นๆไรงี้) คิดว่ามันจะช่วยพัฒนาภาษาให้เร็วขึ้นมั๊ยคะ?
ถ้าจะให้ช่วยก็ต้องทำงานกับคนเมกันน่ะค่ะ แต่ว่าไประยะสั้น งานถูกกม.ไม่มีแน่ๆ แต่ถ้าไม่ mind เรื่องเงิน ขอทางมหาลัยที่ไปเรียนทำก็ได้ค่ะ
ถ้าไปทำงานร้านอาหารไทย ช่วยน้อยมากถึงไม่ช่วยเลยค่ะ ระยะเวลาสั้นด้วย ตั้งใจเรียนคุยกับเพื่อนต่างชาติ จะช่วยมากกว่าค่ะ
(เห็นเพื่อนที่ไปพวก work&travel บอกว่าถ้าจะทำงานแบบถูก กม. มันจะต้องรอขอ นัมเบอร์อะไรซักอย่างก่อนน่ะค่ะ
ใครพอมีข้อมูลเรื่องนี้ หรือ พอรู้ที่ตั้งสำนักงาน รบกวนด้วยนะค้า)
ต้องมีเบอร์ SSN คือ Social Security Number ค่ะ ถ้าเป็นนักเรียน มหาวิทยาลัยจะเป็นผู้พิจารณาออกให้
ถ้าไม่ใช่นักเรียน นายจ้างที่ถูกกม. จะเป็นคน apply ให้ ขอเองปัจจุบันไม่ได้แล้วค่ะ
เมื่อมีแล้วก็จะทำงานถูกกม. ได้ และต้องเสียภาษี ซึ่งแพงมากกกกกกก แพงกว่าคนเมกันเยอะมากค่ะ เซ็ง
ใบเป็นกระดาษฟ้าๆ เก่าๆ ใบดูเช้ยเชย แต่สำคัญมากค่ะ ใช้แทนบัตรประจำตัวประชาชนทำธุรกรรมต่างๆ ค่ะ
คือตอนนี้ภาษาอังกิดก็พอได้ แต่อยากจะให้มันคล่องๆๆๆ เพราะที่บ้านจะให้ต่อโทที่'เมกาน่ะค่ะ
กลัวว่าถ้าไม่ไปลองใช้ชีวิด ลองศึกษาชีวิดเค้าตอนนี้ (ปี 3 เทอม 2)
ถึงเวลาต้องไปอยู่จิงๆแล้วจะไม่ทันสำเหนียกกกกกตัวเองน่ะค่ะ
ปรึกษามาได้เลยค่า
ใครพอรู้ที่เรียน ที่อยู่ รบกวนด้วยนะคะ
ถ้าอยากอยู่ LA แนะนำ UCLA ไม่ก็ UCS ค่ะ ได้ข่าวว่าดี
แบบว่าไม่เคยไปเรียนภาษาอ่ะนะ เลยไม่ทราบอ่ะค่ะ แต่เพื่อนๆ เรียนบอกว่าดี
ถ้าแนะนำจริงๆ คงอยากบอกว่า อย่าอยู่ LA เลยค่ะ เมืองไม่เมืองเมกา ไม่เหมือนอยู่เมืองนอก เหมือนไปเรียนพิเศษสยาม
เพื่อนไปเรียนอยู่เกือบปี ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษนอก class เลย เพราะเจอเด็กไทยไปเรียนด้วยกัน ซื้อของก็ไปร้านไทย สุดท้ายต้องเปลี่ยนที่เรียน
หาที่เรียนแถว midwest หรือ east coast น่าจะได้อะไรมากกว่า ที่นอกเหนือจากห้องเรียน ทั้งบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมที่ต่างจากไทยชัดๆ
ลองดู Michigan Ann Arbor หรือ UIC ดีกว่ามั้ยคะ Case Western Reserve University ก็ดีค่ะ ดังด้านกม. ด้วย ภาษาดี
เหล่านี้ ปลอดภัยกว่า เดินทางสะดวกกว่าเพราะส่วนมากจะมีที่พักที่ค่อนข้างดีอยู่ใกล้โรงเรียน โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถ เพราะอยู่ระยะสั้นน่ะค่ะ
ถ้ายังอยากอยู่เมืองใหญ่ไป NYU หรือ Columbia ก็ดีนะคะ มีหอพักให้ด้วย อยู่ใจกลางเมืองด้วย
หรือถ้าอยากอยู่ CA แนะนำ SF ไม่ก็ San Diego ค่ะ เมืองไม่ใหญ่เท่า แต่อยู่แล้วจะรู้สึกดีค่ะ
ไว้คุยกันค่ะ (ถ้าพรุ่งนี้ไม่โดนงานด่วนอีกน้า เศร้า)
เจอกัน เจอกันค่ะ 8)
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
ไม่ได้อยู่เมกานะค่ะ แต่อยู่ต่างประเทศอยู่คนเดียวค่ะแบบไม่มีคนในครอบครัวนะค่ะแต่ว่า ก็มีเพื่อนๆ แรกๆก็เหงาๆแต่นานๆไปแล้วคงจะอยู่อีกนานค่ะ มีเพื่อนแล้วสนุกดี รู้สึกเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นมากๆๆค่ะ เพราะถ้าอยู่ไทยอะไรก็แม่ อะไรก็ครอบครัว พอมาที่นี้ต้องทำอะไรเองรู้สึกดีค่ะชอบ :P
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
เห็นด้วยกะคุณ cocoa นะคะ เพราะตัว kiki เองก้อเคยไปเรียนโทที่ 'เมกา มีทำงานด้วย ตอนที่ไป มีพี่สาวและพี่ชายอยู่ด้วยที่นั่นเลยไม่เหงา ถึงแม้ว่าจะไปเมืองเล็กคือ Providence, RI ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ้าได้ไปอยู่แล้ว จะรักเมืองนี้มากๆเลยค่ะ จากเมืองนี้เข้า Boston แค่ 45นาทีเองค่ะ ขับรถเข้าไปได้ทุกวันที่ต้องการ
นึกถึงทีไร ก้ออยากกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นตลอด ถ้าอยากไปเที่ยวตามเมืองใหญ่ค่อยหาเวลาเบรคไป ไม่ยากเลยค่ะ เพราะไปมาหลายเมืองอยู่เหมือนกัน
ส่วน LA แค่นึกก้อไม่น่าอยู่แล้วน่ะค่ะ คือความคิดเห็นส่วนตัวจากที่ได้เคยไปเที่ยวมานะคะ น่าเที่ยว แต่ไม่น่าใช้ชีวิตน่ะค่ะ
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
เห็นด้วยกะคุณ cocoa นะคะ เพราะตัว kiki เองก้อเคยไปเรียนโทที่ 'เมกา มีทำงานด้วย ตอนที่ไป มีพี่สาวและพี่ชายอยู่ด้วยที่นั่นเลยไม่เหงา ถึงแม้ว่าจะไปเมืองเล็กคือ Providence, RI ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ้าได้ไปอยู่แล้ว จะรักเมืองนี้มากๆเลยค่ะ จากเมืองนี้เข้า Boston แค่ 45นาทีเองค่ะ ขับรถเข้าไปได้ทุกวันที่ต้องการ
นึกถึงทีไร ก้ออยากกลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นตลอด ถ้าอยากไปเที่ยวตามเมืองใหญ่ค่อยหาเวลาเบรคไป ไม่ยากเลยค่ะ เพราะไปมาหลายเมืองอยู่เหมือนกัน
ส่วน LA แค่นึกก้อไม่น่าอยู่แล้วน่ะค่ะ คือความคิดเห็นส่วนตัวจากที่ได้เคยไปเที่ยวมานะคะ น่าเที่ยว แต่ไม่น่าใช้ชีวิตน่ะค่ะ
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
การปรับตัวเนี่ย อยู่ที่ตัวเราเองมากกว่าครับ
ไปอเมกายังไม่เท่าไหร่ครับ ยิ่งพูดภาษาอังกฤษได้แล้ว
ผมมาเรียนต่อที่ฝรั่งเศสแบบอยู่คนเดียวเรยครับ อยู่หอเอง ไม่มีญาติ ภาษาก็ไม่ได้เรยตอนมา 555555+
ดีที่ว่า ที่โรงเรียนมีพี่ๆ คนไทย เค้าก็คอยช่วยเรื่องแปลเอกสารได้บ้าง แต่เราก็ต้องดิ้นรนเองครับ เพราะว่าพี่เค้าก็เรียน ไม่ว่างทำอะไรให้เรา ไปขออินเตอร์เนต ขอโทรศัพท์ ลงทะเบียนเรียน ติดต่อหอ แจ้งซ่อม ทำเองหมดครับ
ภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ก็ใช้ภาษาอังกฤษบ้าง ภาษามือบ้าง เราพูดอังกฤษ เค้าพูดฝรั่งเศส 5555+ ก็เดาๆ เอาครับ บางคำในภาษาฝรั่งเศสมันเหมือนๆ กับภาษาอังกฤษ แต่ออกเสียงต่างกัน เราก็พยาม map เอา ว่าเค้าพูดอะไร
อาจารย์ก็กดดัน พูดด้วยแต่ภาษาฝรั่งเศส (แต่ถ้าเดาไม่ออกจริงๆ ก็ขอให้เค้าพูดอังกฤษได้ครับ แต่ได้แปปเดียวนะ 5555+)
เดือนแรกที่มาเป็นช่วงปิดเทอมครับ ก็ไปเล่นกีฬาที่หาดจำลองข้างหอพัก ก็ได้เพื่อนๆ ฝรั่งเศสรุ่นๆ เดียวกัน แต่เค้าทำงานกันแล้ว เยอะแยะเลยครับ พวกนี้เค้าก็จะภาษาอังกฤษดีหน่อย เค้าก็อยากฝึกภาษาอังกฤษกับเราด้วย ก็เลยโชคดีไป สื่อสารกันรู้เรื่อง
แต่ในกลุ่มกันเองเค้าก็คุยภาษาฝรั่งเศส เราก็ได้ฝึกฟัง ฝึกเดาความครับ ตอนนี้ภาษาก็ยังไม่ดีนัก แต่ถือว่าพัฒนาไปได้ดีมากสำหรับคนที่เพิ่งมาไม่นาน
ตอนนี้ก็มีเพื่อนสนิทเยอะครับ เราก็รู้จักเพื่อนของเพื่อน ต่อๆ ไปอีก ไปสมัครชมรมกีฬาด้วยกัน ก็รู้จักเพื่อนๆ ที่ชมรมอีก เค้ามีแข่งกันระหว่างชมรม เราก็แข่งด้วย ก็ไปรู้จักเพื่อนๆ ต่างชมรม ตอนนี้มีเพื่อนฝรั่งเยอะมากๆๆๆ ไปมาหมดแระครับ งานเลี้ยง งานแต่ง งานกาล่า ขึ้นบ้านใหม่ งานปีใหม่ วันไหนเค้าเชิญไปตัดริบบิ้นเปิดร้าน หรืองานไหนจะบอกครับ 55555+ (ล้อเล่น)
บอกได้เลยครับว่าที่อยู่เนี่ย แทบจะไม่ได้อยู่แบบนักเรียนต่างชาติเท่าไหร่ เพราะว่ามีแต่เพื่อนๆ คนในพื้นที่ทั้งนั้น กิจกรรมต่างๆ การใช้ชีวิต เหมือนคนท้องถิ่นซะมากกว่าการอยู่แบบนักเรียนต่างชาติ
อันนี้เล่าเพื่อให้เห็นครับว่า รูปแบบการใช้ชีวิต และวิธีการฝึกภาษา เราเลือกได้ครับ อยู่ที่เราจะวางตัวเราเองแบบไหน เข้าหาเพื่อนหรือเปล่า กล้าที่จะทำความรู้จักคนอื่นหรือไม่ กิจกรรมที่เราเข้าร่วม
ไปแค่ 3 เดือนไม่ต้องคิดมากครับ แป๊ปเดียวเอง (แต่ผมเข้าใจนะ ว่าผู้หญิงกับผู้ชาย คิดทำ คงไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ ก็ลองดูเป็นแนวๆ นะครับ) :wink:
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
เข้ามาพยักหน้าหงึกๆ กับน้อง DenMark ค่ะ
ว่าไปประเทศที่ภาษาหลักเป็นอังกฤษยังพออุ่นใจ
เรื่องเลือกที่เรียน ลองถามตัวเองลึกๆ ดูค่ะ
ว่าอยากไปได้อะไรจากเมกา เพราะว่ากันจริงๆ
3 เดือนอาจจะไม่มากพอที่จะเปลี่ยนการใช้ภาษาไปเลย
แต่จะมีผลต่อกระบวนความคิด และทรรศนคติในการดำเนินชีวิต
ตรงนี้สำคัญกว่าค่ะ จะมีประโยชน์ต่อไปในอนาคตค่ะ
เพราะฉะนั้น ค่อยๆ เลือกน้า เหมือนเลือกกระเป๋าแสนแพงอ่ะ
ว่าแล้ว นึกถึงตอนไปเรียนที่อิตาลี แทบจะได้ปริญญาทางภาษา...ใบ้ อีกใบ ฮ่าๆ
ดีว่าใน class เรียนเป็นภาษาอังกฤษ เดินออกนอก class เอ่อ อึม เอิ่ม มากกกก
ปัจจุบัน จำได้แต่คำที่ออกอากาศไม่ได้ ซะงั้น 555 8)
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
ตุ้มเองไม่มีโอกาสไปทางอเมริกาเลย แต่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ของทางยุโรปแทนค่ะ :wink:
เริ่มจากตอนเด็กๆ ตุ้มเองก็คล้ายกับน้อง Denmark คือตุ้มโดนส่งไปเข้าโรงเรียนประจำที่สวิสตอนอายุ 15 ค่ะ เป็นโรงเรียนประจำที่สอนเป็นระบบฝรั่งเศส และมีแม่ชีเป็นคนคอยดูแล เด็กประจำจะมีอยู่ประมาณปีละ 30 คนเป็นเด็กผู้หญิงล้วน และจะมีเด็กผู้ชายมาเรียนแบบไปกลับ เพราะฉนั้นโรงเรียนจะเข้มงวดมากๆๆ ช่วงแรกที่เข้าไปเรียนที่รู้สึกงงกับทุกอย่างมากๆ คุยกับใครก็ไม่รค่อยรู้เรื่องเพราะตอนนั้นภาษาอังกฤษก็แย่ ฝรั่งเศสก็ไม่ได้เรื่องเรียนก็ไม่ค่อยเข้าใจ คุยกับเพื่อนก็เอา 2 ภาษามารวมกัน :oops:
แต่ผ่านไปเทอมเดียวเท่านั้นก็มีเพื่อนสนิทเป็นกลุ่มเลย เพราะโรงเรียนมีเด็กไทยแค่ 2 คนคือตุ้มและน้องอีกคนที่เด็กมากเลยไม่สนิทกัน ทำให้สถานการณ์บังคับต้องดิ้นรนพูดภาษาให้ได้ ไม่งั้นก็ต้องเหงาอยู่คนเดียว. จากตอนแรกที่ไม่อยากไปเรียนที่นี่เลยกลายเป็นว่าติดใจ ปิดเทอมก็แอบไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเมืองอื่นๆแบบยกกลุ่มไปไม่ยอมกลับบ้านจนปีบางเทอมแม่ต้องบินไปลากกลับบ้าน :lol:
จนตอนนี้จบจากที่นี่มาหลายปีแล้วแต่ก็ยังคงติดต่อนัดกันกลับไปเจอกันบ่อยๆ เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีที่สุดเลยค่ะ :D
เดี๋ยวมาเล่าชีวิตอีกแบบ ที่อังกฤษให้ฟังค่ะ :wink:
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
โอวว น้องเด่นขา พี่ขอคาราวะนู๋คะ เก่งมั่กๆ ไปแบบภาษาเค้าไม่ได้เลยเนี่ย ท่าทางจะกดดันน่าดู แต่ดูท่าทางนู๋จะไม่กลัว แต่ลุยลูกเดียว ชนะเลิศค่า 8)
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
มาต่อแบบที่ 2 ค่ะ รอบนี้โตขึ้นหน่อยแล้วไปเข้ามหาลัยที่อังกฤษ เริ่มปีแรกโชคดีที่มีพี่สาวไปด้วย she ไปต่อโทก้เลยยังพอมีเพื่อนอยู่
พอปีที่ 2 ต้องอยู่คนเดียว เป็นปีที่รู้สึกว่าโตเป็นผู้ใหญ่เลย เพราะต้องทำทุกอย่างเองหมด ตั้งแต่เรื่องแบงค์, จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ไฟเสีย ของในบ้านเจ้งก็ต้องหาทางซ่อมเองเพราะอยู่คนเดียว ที่แย่กว่านั้นคือตุ้มเป็นคนกลัวผีมาก เลยมีคนมาเล่าเรื่องผีให้ฟังแล้วกลัวมาก ต้องเปิดไฟหัวเตียงนอนเป็นปีเลยค่ะ :cry:
ส่วนเรื่องเพื่อนนี้ตุ้มเป็นคนที่เพื่อนคนไทยน้อยมาก เพราะคณะที่เรียนไม่มีคนไทย เวลาเลยไม่ตรงกับใคร และด้วยความเป็นคนพูดตรง (บางคนเรียกว่าพวกปากมอม) เลยอาจดูแรงไป แต่อยู่กับเพื่อนต่างชาติได้สบายๆ มีเพื่อนสนิทก็เป็นคนมาเลเซีย กับ กรีซซะงั้น :roll:
ยังไงก้เอาใจช่วยนะค่ะ ไม่แน่ช่วง 3 เดือนอาจได้ประสบการ์ณดีๆที่ประทับใจก็ได้ค่ะ เอาใจช่วยนะค่ะ :wink:
RE: ใครเคยใช้ชีวิดต่างแดนคนเดียว ช่วยมาเล่าให้ฟังหน่อยน๊า
หวัดดีค่ะ ขอมาเเชร์ด้วยคน เราเป็นอีกคนนึงที่ไปเรียนต่อในประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษค่ะ เเถมยังชาตินิยมมากๆ ก็ไม่ใช่ที่ไหนหรอกค่ะ ญี่ปุ่นไงคะ ก่อนไปก็พยายามเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ เเต่เอาเข้าจริงก็เป็นใบ้ไปในช่วงเเรกเพราะมันไม่คุ้นสำเนียงค่ะ ฟังไม่รู้เรื่องเลย เเต่พออยู่ๆไปซักพักก็เริ่มปรับตัวได้ เเละโชคดีที่อาจารย์ญี่ปุ่นของเราเค้าจบจากอังกฤษมาทำให้อย่างน้อยก็พูดกับอาจารย์ได้รู้เรื่อง เรื่องเรียนก็ไม่มน่ามีปัญหา ส่วนกับเพื่อนๆเวลาเรียนก็ใช้วาดรูปบ้าง ภาษามือบ้าง สื่อสารกันจนได้ค่ะ ตอนไปอยู่เนี่ยอยู่คนเดียวเลยจริงๆเพราะมหาลัยที่เราไปไม่มีนักเรียนไทยเลยซักคน เเต่ก็ดีนะคะมันทำให้เราต้องพยายามพูดกับคนอื่นให้รู้เรื่อง ไม่งั้นเฉาตาย เรื่องถามทางหรือขอความช่วยเหลือขอบอกเลยว่ายากมากๆเพราะเค้าไม่พูดภาษาอังกฤษกันค่ะ ถ้าจะถามต้องมองหาคนที่เป็นนักศึกษาอาจจะช่วยได้นิดหน่อย พวกเด็กๆหรือคนมีอายุเนี่ยไม่ต้องไปถามเลยค่ะ เค้าอยากช่วยเเต่พูดไม่ได้จริงๆ เเต่ถ้าเป็นในเมืองท่องเที่ยวเช่น เกียวโต นารา อันนี้ค่อยโอเคค่ะเพราะเค้าจะคุ้นกับการมีนักท่องเที่ยวมาถามทาง ตอนนั้นที่ไปเรียนไม่คิดถึงบ้านเลยค่ะเพราะเรียนหนักเเละมีอะไรต้องทำเยอะ รู้สึกว่าสนุกมากๆ เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน ตอนนี้ก็ยังกลับไปเยี่ยมบ้านหลังที่ 2 เป็นประจำค่ะ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มีเปลี่ยนเเปลงเล็กน้อย เเต่ตอนนี้ถ้าให้ไปอยู่ขอตอบเลยว่าไม่ไปค่ะ อยู่เมืองไทยสบายกว่าเยอะ