<<< ความไร้ประสิทธิภาพของบัตรเครดิต Central Card >>>
ก่อนอื่นเมขออนุญาตคุณแอ้นท์รบกวนพื้นที่สักนิดนะคะ
เมอยากให้เพื่อนๆชาว SBN ได้อ่านกันค่ะ อันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองในวันนี้เลยค่ะ วัตถุประสงค์ก็เพื่อชี้ให้เห็นความบกพร่องอย่างแรงของบัตรเครดิต Central Card ค่ะ
วันนี้...ก็ปรกติดีค่ะตื่นมาก็ทำงานตอบเมล์ตามประสาเมไปเรื่อยค่ะ เผอิญว่าช่วงเช้าน้องที่ร้านโทรมาบอกว่าแก้วหมด..ให้เมช่วยแวะไปเติมแก้วที่ร้านหน่อยนึงค่ะ กอปรกับมีลูกค้าโอนสตางค์มาช่วงสายๆค่ะ เมเลยออกมาช่วงเที่ยงๆแวะทานข้าว...แล้วก็ส่งไปรษณีย์ แล้วก็ตั้งใจเดี๋ยวส่งเสร็จจะแวะไปเติมแก้วที่ร้านค่ะ....จู่ๆมีสายเข้าค่ะ...ปรากฏว่าลูกค้าที่บริษัทโทรมาว่าตอนนี้อยู่ที่สุวรรณภูมิแล้ว...ให้ช่วยจองโรงแรมในกรุงเทพสัก 1 คืน ก่อนที่พรุ่งนี้เค้าจะบินกลับกัมพูชาค่ะคือจะเป็นในลักษณะที่สลับกันดูแลค่ะ เพราะตอนช่วงที่เราไปที่นู่นเค้าก็ดูแลเราทุกอย่างค่ะ
ไอ้เราด้วยความที่รีบมากๆๆ เนื่องจากทีแรกเป็นวันสบายๆ ก็กลายเป็นว่าต้องรีบแล้วอ่ะค่ะ ก็เลยคิดว่างั้นต้องบึ่งรถจากสมุทสาคร(บ้านและที่ทำงาน) ไปเติมแก้วที่ร้าน (นครชัยศรี) แล้วรีบซิ่งไปหาลูกค้า ระหว่างทางไปนครชัยศรี เมก็เลยคุยกับแฟนว่างั้นจองที่ Centara Grand @ Central World ดีไหม...เพราะคราวที่แล้วลูกค้าญี่ปุ่นมาให้พักที่นี่ก็ประทับใจ...แล้ว room rate ก็ไม่ได้สูงมากค่ะ แถมลูกค้าจะไปเดินเล่นช้อปปิ้งแถวนั้นก็สะดวกมากมายค่ะ ...สรุปแล้วก็โทรจองค่ะ...อยากบอกว่าโรงแรมนี้บริการค่อนข้างดีค่ะ เพราะเราบอกเค้าเลยว่า ลูกค้าอาจจะเข้าพักก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเราจะตามเข้าไปชำระเงิน...ซึ่งทางโรงแรมก็โอเค ไม่มีปัญหาเลยค่ะ เราเลยโทรแจ้งให้ลูกค้าเข้าไป check in ได้เลย....แล้วก็ราบรื่นค่ะ ลูกค้าก็โทรมาบอกว่าระหว่างรอเรา...จะไปนวดที่ชั้น 26 นะ...คือทางเค้าก็ไม่ได้กดดันให้เราต้องรีบไปค่ะ เนื่องจากเค้าก็เกรงใจที่ไม่ได้นัดเราล่วงหน้าก่อนค่ะ
ทันทีที่เกือบจะถึง...ก็มาทราบว่าลูกค้าเรานัดอาจารย์อีกท่านหนึ่งไว้ด้วยในช่วงเย็น.....แล้วปรากฏว่าเราก็เลยมองหน้ากันว่าวันนี้เราแต่งตัว informal มากเกินไป เพราะเราไม่ได้เตรียมตัว....แต่ก็คิดแล้วว่าไม่เป็นไรเนอะ....ไหนๆก็ไป Central World แล้ว เดี๋ยวก็รีบซื้อมาเปลี่ยนก็ได้ ....จนทุกอย่างเรียบร้อยด้วยดีค่ะ ไปถึงโดยที่ลูกค้ายังนวดไม่ต้องรอเราค่ะ
แต่ที่รับไม่ได้เลยก็คือ เราก็รีบไปชำระค่าห้องพักชิมิคะ....แฟนเมก็เอาบัตร Central Card แล้วกัน เพราะเครือเดียวกันจะได้ส่วนลด............ปรากฏว่ารูดไป 7 ครั้ง 3 เครื่อง มันขึ้น DECLINE ทั้งหมด 7 ครั้ง
เมก็ปรี้ดดดดดดแตกเลยค่ะ....“จะบ้าหรอ” แค่คืนเดียวประมาณ 7,560 ไม่ผ่านเนี่ยนะ.....สายตาเมก็จิกไปที่ reception ของโรงแรมทันทีค่ะ .....“รบกวนขอบัตรใหม่ด้วยค่ะ” พนักงานอีกคนกล่าวเสริม....และเนื่องจากเป็นโรงแรมใหม่ที่ลูกค้าไม่พลุกพล่าน...พนักงานทุกคนก็ได้ยิน และเริ่มปรายตาชำเลืองมอง... ต้ายตาย น่าอายเป็นที่สุด คิดดูสิคะ รูดบัตรให้ลูกค้า 7 พันไม่ผ่านแล้วลูกค้าก็รออยู่ด้วยอ่ะค่ะ แล้วนึกดูนะคะ ถ้าคุณจะร่วมลงทุนสร้าง shopping mall ในกัมพูชา แต่คุณรูดบัตร 7 พันแล้วง่อยอ่ะค่ะ
เอ้า....งานเข้าซะแล้ว เมก็ยืนยันนะคะ ว่าจะจ่ายบัตรเดิม ก็ให้คุณแฟนโทรไปที่ศูนย์บัตรเลยค่ะ พนักงานรับสาย แฟนก็ยืนยันข้อมูลค่ะ ผลที่ได้ก็คือ
อ๋อ....ทางเรายกเลิกบัตรใบนี้แล้วค่ะ เนื่องจากเป็นบัตรเครดิตรุ่นเก่า ทางเรากำลังจะส่งบัตรที่มีชิพไปให้คุณในอีก 2 สัปดาห์ค่ะกรี้ดดดดดดบัตรชิพเนี่ย ชิพลอสหรือเปล่าอ่ะ
แม่เจ้า นี่หรือคือคำตอบที่เราควรจะได้รับอ่ะคะ อยากจะยกเลิกก็ยกเลิกอย่างนั้นหรอ ไม่คิดจะโทรบอกกันเลยหรอ แล้วปรกติแล้วหลักสากลที่เค้าใช้กันทั้งโลกและจักรวาลเลยก็คือว่า “ส่งบัตรใหม่มา แล้วให้หมายเลขให้ลูกค้าโทรมา activate บัตรใหม่ ส่วนบัตรเก่าก็ยกเลิกไปโดยอัตโนมัติ” ไม่ใช่หรอคะ
แล้วแฟนเมก็ถามว่า แล้วแบบนี้ตอนนี้คือเราก็ไม่สามารถใช้ได้เลยหรอ....คำตอบคือ “ใช่ค่ะ...จนกว่าคุณจะได้รับบัตรใหม่ค่ะ” จากนั้นชีก็ บลา บลา บลา ให้เราแจ้งพนักงานโรงแรมว่าให้โทรหาบริษัทเครื่องรูดบัตร พร้อมบอกเบอร์ บลา บลา บลา.......เอ่อ...ขอโทษนะคะ ทาง Central ฝึกมาให้พนักงานสอนลูกค้าในการแก้ปัญหาเองหรือคะ เมเลยเอาโทรศัพท์ในมือแฟนยื่นให้ชีคุยกับพนักงานโรงแรมค่ะ....ผลสุดท้ายก็คือ เราไม่รออ่ะค่ะ เพราะลูกค้ารอเราอีกทีค่ะ
สรุปแล้วก็จะจ่ายค่ะ แต่ด้วย Citibank ค่ะ ซึ่งครั้งเดียวผ่านฉลุย
แต่เราก็ยังไม่ละความพยายามนะคะเพราะมานเป็นสิทธิ์ของเราอ่ะค่ะ แฟนเลยโทรไปอีกครั้งคราวนี้ต่อฝ่ายร้องเรียนค่ะ....แล้วชีก็ บลา บลา บลาแล้ว จับใจความได้ว่าเป็นความสะเพร่าของพนักงานที่ไม่ได้โทรแจ้ง....ชีคนนี้มีคำว่า “ขอโทษ” ค่ะ...แต่ชีคนก่อนไม่มีเลยค่ะ
ถ้าเครดิตเราไม่ดี เราจะไม่โกรธหรือถือสาเลยค่ะ เราใช้จ่ายผ่านบัตรเดือนหนึ่งๆก็ไม่น้อยอ่ะค่ะ ไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ ....และนี่จะเป็นบริการที่จะประทับใจเราไปตลอดค่ะ
หรือว่านี่คือ Central (Dis)Credit Card ?????.....
และถ้ามีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Central Card หรือ General Card นะคะ...เมขอเรียนเชิญคุณไปฟังบันทึกการสนทนาที่คุณได้ record ไว้เวลาประมาณ 18.00-18.30 ดูนะคะ นอกจากนี้เราจะทั้งเดินทางไปที่เซ็นทรัลพร้อมทั้งจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยค่ะ.....ถ้าเราได้ยินคำว่า “ขอโทษ” จากความสะเพร่าของพนักงานที่ไม่ได้โทรแจ้ง งั้นถ้าทาง Central จะสะเพร่าลืมจ่ายเงินเดือนของพนักงานที่ไม่รับชอบ....ก็ไม่น่าจะมีปัญหานะคะ
ขอยกตัวอย่างบริการที่เรียกว่ามีความจริงใจนะคะ เมื่อสัก 2 วันที่แล้ว พนักงานธ.กรุงเทพ โทรมาแจ้งเลยค่ะ ว่าจะมีการปรับปรุงระบบทั้งธนาคาร รู้สึกจะเป็นวันนี้ดึกๆถึงพรุ่งนี้เช้า.....การทำธุรกรรมต่างๆของธนาคารกรุงเทพทุกอย่างจะไม่เวิร์คในช่วงนี้ค่ะ.......“นี่ค่ะ เรียกว่าบริการจริงใจ”
เดชะบุญนะคะ ที่เราไม่ได้เอาไปรูดซื้อกระเป๋ากับ SA เรารู้จัก ไม่งั้นเราคงไม่กล้าแบกหน้าไปอีกค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆทุกๆคนที่สละเวลาอ่านนะคะ...และถ้าเพื่อนเจอข้อความนี้ทางอีเมล์ก็อย่าตกใจนะคะ เพราะเป็นเรื่องจริงที่เมคงจะต้องบอกเล่าความประทับใจนี้ไปอีกนานเลยค่ะ
หักบัตรทิ้งไปเลยค่ะน้องเม
แหม เพิ่งโดนมาเหมือนกันค่ะ แต่คนละห้าง ของพี่ลักษณ์เป็นโรบินสัน (คือจังหวัดพี่ไม่มีCentralอ่ะ) เมื่อวานนี้ไปซื้อผ้าอ้อมให้ลูก เค้าบอกว่า ใช้บัตรเครดิตของเค้าจะได้ voucher 2 เท่า เราก้องก รีบจ่าย ยอดเงินแค่พันก่าๆ
รูดเท่าไหร่ก้อไม่ผ่าน พนักงานก้อถามว่าไม่มีบัตรอื่นหรอคะ นึกในใจว่าทำไมจะไม่มี แต่พอมีโปรโมชั่นพิเศษเกี่ยวกับบัตรของเค้าปุ๊บ เครื่อง decline ปั๊บ (ไม่ต้องถามถึงวงเงิน เพราะไม่เคยใช้อยู่แล้ว และกะอีแค่พันกว่าบาท ยังไม่ผ่าน)
เราก้อยืนยันว่าเราจะใช้บัตรนี้ ไม่ผ่านได้งัย ไม่เคยใช้เลย Cashier ทำหน้าเซ็งๆสุดอีกแล้วก้อบอกว่าก้อมันไม่ผ่านค่ะพี่ ลูกค้ารอเยอะพี่มีบัตรอื่นมั๊ย
ในใจโกรธมาก ห้างบ้านนอกเนี่ยบริการห่วยได้ใจ เลยหยิบ Platinum ทั้งหมดที่มีในกระเป๋าส่งให้ พูดกระแทกไปว่า จะเอาใบไหนล่ะ ดูซิว่าจะผ่านมั๊ย ปรากฏว่า บัตรอื่นจ่ายได้ cashier รีบบอกว่าพี่ต้องไปติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าดูนะคะ
หมดความอดทนค่ะ เลยหักบัตรแล้วส่งให้ cashier บอกsheว่า งั้นทิ้งให้พี่ละกันจ๊ะ
FEELING คล้ายกับเวลาใช้ HOTEL VOUCHER เวลาจอง เต็มตลอด