อยากทราบว่าเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้ว เคยมีกรณีนี้บ้างอ่ะค่ะ เพราะเราเนี๊ยะอดทนเหมือนโคโบต้ามากๆ เลย
เลยอยากทราบว่าเพื่อนๆ คนไหนเคยมีกรณีแบบนี้บ้าง จะเอามาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง เวลาโมโห หรือโดนทำร้ายจิตใจ
ฮือฮือ ฮือ
Printable View
อยากทราบว่าเพื่อนๆ ที่แต่งงานแล้ว เคยมีกรณีนี้บ้างอ่ะค่ะ เพราะเราเนี๊ยะอดทนเหมือนโคโบต้ามากๆ เลย
เลยอยากทราบว่าเพื่อนๆ คนไหนเคยมีกรณีแบบนี้บ้าง จะเอามาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง เวลาโมโห หรือโดนทำร้ายจิตใจ
ฮือฮือ ฮือ
แอบเข้ามาดูด้วยคน ของเกดแม่สามีเหมือนแม่พระคะ ใจดีมากๆๆๆ
คุณb ต้องใจเย็นๆ เพราะบ้างที่คุณแม่สามีหวงลูกชายเค้ามาก เลยอยากให้เราดูแลลูกเค้าดีๆ ต้องแสดงออกด้วยความดี เค้าแรงมาเราต้องใจเย็นๆ หรือหลบไปที่เงียบๆ
เรื่องโดนทำร้ายจิตใจ แก้ได้ด้วย การเข้า SBN ( ล้อเล่นอ่ะคุณb )เอาใจช่วยให้ผ่านเหตุการณ์ร้ายๆไปด้วยดีนะคะ
ต้องใจเย็นๆ ให้รักแม่สามีเหมือนรักแม่ตัวเอง เราดีกับแม่เรายังงัยก้อต้องดีกับแม่สามีด้วย.
ท่องไว้เอาต้องอดทน เพราะเรารักลูกชายเค้า ยิ่งมีลูกด้วยกันแล้ว ยิ่งต้องอดทน รักกันต้องใจเย็นๆๆ
เช่นกันค่ะ สำหรับเราเคยเจอมาแล้วแทบบ้า แต่ใช้ความอดทนสูงเพราะรักลูกชายเค้าต้องใจเย็น ๆ ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์จนมีหลานให้เค้าเชยชมก็ดีขึ้นมาหน่อย ตอนนี้ก็ไม่มีแม่ย่าแล้วพึ่งเสียเมื่อเดือนมีนานี้เอง แต่เราก็เป็นแม่ย่าที่ดีนะเพราะได้บทเรียนจากที่ประสบมาเดี๋ยวหลานไม่รัก
เราไม่เคยมีแม่ผัว ตายก่อนค่ะ มีแต่พ่อผัว กับพี่น้องตัวแสบ
ตอนนี้สยบแทบเท้าเราแล้ว เพราะความดีค่ะ
ดีแบบที่ว่า มีเหตุผล ไม่พูด เงียบ ว่าเราไม่ดี ก็ไม่สน
ถ้าเอาจริงคือมีเหตุผล แต่ต้องยอมเสียสละให้พวกเขามากพอสมควร
เสียทุกอย่าง ความดีของเราเอาชนะทุกคนค่ะ ต้องรู้จักคำว่า ให้ ให้ ให้
และรวมทั้ง ให้อภัยค่ะ กรรมมีจริงค่ะ ตอนนี้เชื่อไม๊ บางคนกำลังรับกรรมที่ก่อไว้กับเราค่ะ
คุณบี.. เราอยากตั้งกระทู้แบบนี้มาก แต่เกรงใจ
เรากับแฟนรักกันมาตั้งแต่ ม.3 พื้นฐานครอบครัวเราปานกลาง ระดับล่าง เราลูกคนเดียว พ่อแม่แบบ บ้านๆๆ
ไม่มีปากเสียง อะไรก็ได้
พื้นฐานสามี ก่อนที่พ่อ แม่ เค๊าจะได้กัน ต่างมีครอบครัวมาแล้ว และมีลูกติดทั้งคู่ พอ พ่อแม่แฟนแต่งงานกัน
และมีแฟนเรา ก็เลิกกัน และไปมีครอบครัวใหม่ และมีลูกอีก งงเน๊อ.. แล้วแฟนเราอยูกับพ่อ ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ
เค๊าคิดตลอดว่าเป็นส่วนเกินครอบครัว เพราะไปทางไหนไม่ได้ พ่อก็มีครอบครัวใหม แม่ก็มีครอบครัวใหม่
เข้าเรื่องเลย.. แต่ก่อนประมาณ 10 ปี แม่แฟนเกลียด ไปบ้านแม่แฟนก็แกล้งสารพัน เช้าตื่นตี 4
หาข้าวให้หมาข้างทาง ต่อด้วยซักผ้า รีดเสื้อลูกใหม่เค๊า ล้างจาน ทำทุกอย่างที่แจ๋วทำ เป็นอย่างนี้ประมาณ2 เดือน
เราไม่ไหวบอกแฟน แต่ดีที่แฟนยังฟังเราบ้าง เพราะรู้นิสัยแม่เค๊าว่าเป็นอย่างไร แม่แฟนโกรธ และไม่ติดต่อ
กับแฟนประมาณ 7 ปี เพราะสามีใหม่เป็นคนญี่ปุ่น ตามสามีไปต่างประเทศ พึ่งจะมาตามหาและคุยกันแฟนเรา
เมื่อประมาณ 2 ปี ช่วงที่เรามีลูก
เราเคยมีปัญหากับแฟน ถึงขั้นจะเลิก เพราะแม่แฟนตัวแสบ ติดพนันที่ปอยเปต บ่อนสตารเวกัส ภายใน
อาทิตย์เดียวแฟนเราเคยให้เงินแม่ประมาณ 80000 กว่าบาท เพราะเสียเงินเอาพาสปอร์ เครื่องประดับไปจำนำ
เราปี๊ดแตก มันเกินไป และบ่อยๆๆ เพราะเราทำงานช่วยกันเก็บเงิน การที่ลูกให้พ่อ แม่ มันเป็นสิ่งที่พึงกระทำ
แต่แม่แฟน เราว่าเค๊าทำเกินไป ทุกวันนี้สามีใหม่ให้เงินเดือนละแสน มีคอนโดใจกลางเมืองพระราม 9 และมีห้องอาหาร
ให้เช่าอีก ยังไม่พอ
เมื่อสงกรานต์นี้ลูกใหม่เค๊ากลับมาจากแคนาดา มาเทียวสงกรานต์ และรถคว่ำตายช่วงสงกรานต์ แม่แฟนเรา
ที่ร้ายๆ ก็เบาลง ไม่ไปเล่นที่ปอตเปต เช้าหันมาใส่บาตรให้ลูกเค๊า เบาลงเยอะ แต่ก็ยังร้ายอยู่ดี อะไรที่กัดเราได้
ก็จะกัด เราก็อยู่ห่างๆๆ เป็นดีที่สุด แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับสามีของแต่ละคนด้วยว่า ใจเป็นกลางหรือเปล่า
นี่ยังอยากจะระบายอีกเยอะมากๆๆๆ เพราะเราพูดกับใครไม่ได้ ไม่อยากให้ใครรู้ ไม่อยากให้แฟนลำบากใจ
ก็คงอยู่ห่างๆ เป็นดีที่สุดค่ะ..
(ป.ล ทุกวันนี้เราอยู่บ้านมี พ่อ แม่ ของเรา สามี ลูกสาว และบรรดาน้องหมา น้องแมว )
มาเอาใจช่วยนะคะ บอกได้คำเดียวว่า*อดทน* แล้วก็ปล่อยวาง เราทำส่วนของเราให้ดีที่สุดก็พอ เราได้เลือกที่จะมีครอบครัวกับคนๆนี้แล้ว ส่วนญาติรึพ่อแม่แฟน ถ้าไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันปัญหาก็คงจะน้อยกว่าอยู่ที่เดียวกัน ถ้าแยกได้แยกมาอยู่เองจะดีที่สุดคะ
ปล. ยังไม่มีครอบครัวนะ แต่เพื่อนๆ มีหมดแล้ว จำๆ เค้ามา ^_^ เลยมาเล่าสู่กันฟัง
เค้ามาเก็บความรู้ค่ะ เผื่อเจอกับตัวในวันหน้า จะได้เตรียมตัว เตรียมใจไว้ให้พร้อม
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่มีปัญหานี้นะคะ สู้ สู้ ค่ะ:p
เป็นเหมียนกันตั้งแต่กอ่นแต่งจนแต่งงานอยู่กันมา 8 ปี แค่หายใจก้อผิดค่ะ
เพียงแค่อ้าปากก้อผิดแล้วค่ะ เดี๋ยวนี้ดีแล้ว ตั้งแต่มีลูกชายสุด LOVE..
ทุกวันนี้แค่...ปลูกต้นไม้ก้อผิดเฉยๆ ดีขึ้นมาแล้วอ่ะ ก่อนหน้าอย่าให้เซดดดด
เดี๋ยวน้ำเน่ามันท่มห้องตาย 555++++:D
1.ต้องอดทน
2.เป็นคนดีอย่างที่เราเป็น ไม่ต้องพยายามมากจนเหนื่อย
คุณกาน แม้หัวอกเดี่ยวกันเลยเน๊อ..
ก็มีบ้างค่ะ แต่กระทบกระทั่งมาก ก็สงสารคนกลางคือสามี นิดหน่อยปล่อยไปก็บ่นๆกันเองแค่นั้นพอ
ถ้าเยอะๆ หรือเหตุการที่เราไม่พอใจมากๆ ก็คุยกันค่ะแต่ต้องบอกก่อนนะคะ ผู้ใหญ่จะไม่เคยผิดเลยโดยเฉพาะแม่สามี
ก็ให้เค้าถูกๆ ไปค่ะก็คุยกันราวๆ ว่าเราน้อยใจ แต่บางทีก็ดีใจหายนะคะ อารมณ์ปรี๊ดปราดมาก
แต่โกรธเค้าบางทีเราไม่พูดหลายๆ วันแต่ก็ดูแลร้านเหมือนเดิม จะโกรธเค้านานก็สงสารเพราะว่ามีเราพูดเล่นด้วยอยู่คนเดียว น้องสาวสามีไม่อยู่บ้านอ่ะ ว่าอะไรเราวันนี้พรุ่งนี้ก็ลืม เราก็เออลืมด้วยก็ได้
เป็นกับลูกชายเค้าด้วย สรุปเป็นกับทุกๆ คน พ่อสามีก็โดน น้องสาวสามีก็โดน โดนหมดทั่วหน้า
ใครซื้อไรให้ก็ไม่ชอบ ตินู่นนี่ เดี๋ยวนี้เค้าเข็ดกันหมดละ สรุปเค้าเป็นไรไม่รู้ค่ะเฮ่อ
เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้นะคะ ขอบคุณที่ตั้งทู้ให้ปลดปล่อยกันนะ
สวัสดีค่ะ พีเค เองนะค่ะ มีพี่ๆหลายๆท่านยังคงจำพีเคได้นะค่ะ พีเคเป็นคนไทย แต่ ต้องแต่งงานกับแฟนซึ่งเป็นคนจีน (จีนแท้ๆ นะค่ะ ) ปัญหามีมาเรื่อยๆ ค่ะ ทั้งเก่าและใหม่ พีเคใช้วิธีคิดในใจเอาค่ะ แบบว่าเถียงในใจ แม่สามี กับ พ่อ สามี เป็นคนค่อนข้างดูถูกคนค่ะ โดยเฉพาะคนไทย เค้าชอบพูดว่า คนไทยขี้เกียจ และ โง่ เวลาเค้าพูดที่ไรพีเคสะอึกเลยค่ะ เพราะพีเคก็เป็นคนไทย เวลาเค้าว่าหรือด่ากระแหนะกระแหน พีเคจะนิ่งๆ เลี่ยงได้เลี่ยงค่ะ ใช้วิธีโกหกตอแหล ค่ะ อย่างเช้าวันพระ พีเคจะออกไปใส่บาตร แม่สามีก็จะว่าค่ะ ว่าฟุ่มเฟือย เอาไว้ใส่เฉพาะวันพระที่ตรงกับพระจีนเท่านั้น แต่พีเค ก็จะใส่โดยออกจากบ้านตามปกติจะไม่บอกว่าไปไหน ต้องค่อยลบค่อยหลีก ค่ะ บางครั้งก็อึดอัดมาก ( พีเคอยู่บ้านเดียวกะครอบครัวสามีค่ะ) ปัญหาร้อยแปด ต้องปรนิบัติ แฟน พ่อ แม่ เค้า ยัน น้องเค้าเลยค่ะ อดทนค่ะ ส่วนแฟน ต่อหน้าพ่อแม่เค้า ก็ไม่ค่อยจะเข้าข้างเราหลอกค่ะ รู้ๆๆอยู่ เราต้องเลี่ยงเอาเอง บางครั้งก็เหนื่อยมาก ต้องแอบร้องไห้ ในห้องน้ำค่ะ ร้องไห้ทีก็คิดถึงพ่อแม่เรามากๆๆ พอได้ร้องแล้วรู้สึกดีขึ้นค่ะ พร้อมสู้ อีกครั้ง เวลาที่จะซื้อของแต่ละทีต้องแอบซื้อ แอบใช้ค่ะ ไม่งั้นโดนว่า โดนกัดตลอด ซื้อแพง ก็ต้องบอกว่าถูก ซื้อของจริง ก็ต้องบอกซื้อของปลอม เวลาทีจะซื้อของไปฝากพ่อแม่พีเค หรือ อยากไปเยี่ยม ก็ ต้องแอบไปค่ะ ทำใจค่ะ พีเคเป็นสะใภ้คนเดียวที่เป็นคนไทยค่ะ เวลาเค้าด่าเราเป็นภาษีจีน เราก็ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ ก็ดีไปอย่าง ไม่ต้องใส่ใจ อดทนเอาไว้นะค่ะ ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุดค่ะ นี่พีเคกำลังตัดสินใจที่จะมีลูกอยู่นะค่ะ กลัวปัญหาที่จะตามมา ไม่รู้ว่าควรจะมีหรือไม่มีดี
สามีคุยกับเราก่อนแต่งว่าต้องแยกมาอยู่บ้านเอง จะไม่ให้อยู่บ้านเดียวกันกับแม่สามี เพราะภรรยาของน้องย้ายเข้ามาอยู่ก็มีเรื่องทะเลาะกับแม่สามีบ่อยๆ แต่เรานานๆ เจอกันทีก็ไม่เคยมีปัญหานะ
คุณบีต้องเงียบอย่างเดียวเลยค่ะ ความเงียบสยบทุกอย่าง เพราะเค้าจะไม่รู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ แล้วเราค่อยไประบายหรือไปลงที่สามีแทน ก็ช่วยไม่ได้ แม่เธออยากใจร้ายกับชั้นเอง
อิอิ หวังว่าคงช่วยได้บ้างนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :D
ไม่ได้แต่งงานอ่ะค่ะ แต่ย้ายมาอยู่ที่บ้านแฟนเนื่องจากคุณแฟนต้องการมาดูแลแม่ค่ะ
เดือนแรกปรับตัวไม่ค่อยถูก ไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นอ่ะ แต่ตอนนี้ ผ่านมา3เดือนแล้ว ปัญหาก้อมีบ้างค่ะ
แต่เป็นคนไม่ค่อยสนใจไรค่ะ ใครอยากทำไรก้อเชิญค่ะ อย่าได้ใส่ใจเลยค่ะ
เอาเป็นว่ารักลูกชายเขาเนี่ย ก้อ ต้องรักแม่เค้าด้วยหล่ะกัน อิอิ
เพื่อนสาวก็เป็นแบบนี้เลยตัดใจไม่เข้าบ้านสามี เพราะว่าไม่อยากเจอแม่สามี
ไม่ถูกกันเป็นพักๆอ่ะค่ะ
บางที อยู่ดีก้บ่นว่านิวทำกับข้าวไม่เป็น มาสอนทำกับข้าว
พอทำ ก้บอกไม่อร่อย ไม่มีใครกินเลยอ่ะT__T
บางทีนิวทำขนม ยังไม่ทันจากินเลย ก็บอกน่ากิน หยั่งงั้ยหยี่งงี้
พอเอาเข้าปากยังไม่ทันเคี้ยวก็ว่าอร่อย ให้กำลังใจสุดฤทธิ์ 555
พอตอนมีลูก เลี้ยงยังไงก้ไม่ถูกใจคุณแม่ฝาชีซักอย่าง
ตกลง ก้ไม่รู้เหมือนกันว่ามีปัญหากันมั๊ย
แต่ก็อยากจะบอกว่า แม่เค้าก็เหมือนแม่เราอ่ะค่ะ
ทำกับแม่เรายังไง รักแม่เรายังไง ก้ทำกับแม่ฝาชีหยั่งงั้นอ่ะค่ะ
เค้าบ่นก็ทำหุทวนลมไป เคยอดไม่ไหว เถียงไปหนนึง
คุณแม่ฝาชีงอนเข้าห้อง ไม่พูดด้วยเป็นอาทิตย์เลย555
ยังไม่แต่งงานนะค่ะ
แต่ แม่แฟนก้อ treat เราแย่มาก
เคยจะเลิกเพราะเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว
ตอนแรก เราก้อ พยายามให้แฟนเราทำทุกอย่างที่ขัดใจแม่เค้า
เหมือนต้องการเอาชนะ
พออยู่กับแฟนเราก้อชอบมาตัดพ้อเรื่องที่แม่แฟนทำกับเรา
อาจมีด่า ทอ บ้างง ถึงขั้นยื่นคำขาดว่าจะไม่เจอแม่แฟนอีก ( เป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยค่ะ เราปากร้าย )
ทุกครั้งที่เราว่าแม่เค้า เค้าจะปกป้อง เพราะเค้าก้อรักแม่มาก
เหมือนพอเค้ายิ่งปกป้อง เราก้อยิ่ง หาเรื่องไม่ดีของแม่ มาพูดให้แฟนเราฟัง
สุดท้าย แฟนเราบอกเลิก เพราะ เราไม่เลิกว่าแม่เค้า ( แต่ระหว่างนั้นแม่เค้าก้อยังกัดเราอยู่ )
ที่เล่า เพราะอยากจะบอกว่า อย่าทำแบบเราเลย เพราะคนที่ลำบากใจที่สุดก้อคือ แฟนเรา
ตอนหลัง ทั้งเราและเค้า ก้อเศร้าทั้งคู่ ที่ทำไมต้องเลิกกัน เค้ามาง้อเรา
แล้วก้อคุยกันแบบดีๆ ไม่พาดพิงให้แม่เค้าเสียหาย แต่ก้อบอกเค้าว่าเราอึดอัด
เค้าก้อดีนะ เข้าใจ แบบไม่เข้าข้างจนเกินไป
ตอนนี้ก้อยังคบกันอยู่ค่ะ แต่ เราจะไม่พยายามเจอแม่เค้า
เค้าจะได้ไม่หาเรื่องเรา เราก้อไม่หงุดหงิด
ไปไหนก้อมักจะหาของที่แม่แฟนชอบฝากแฟนไปให้เสมอ
ที่ไม่เจอนี่ เพราะ ไม่อยากมีเรื่องค่ะ มันมีเรื่องทุกครั้งที่เจอ
เราร้องไห้บ่อยมาก ลำพังเรื่องเรา 2 คน ไม่มีอะไรเลย รักกันดี
ทะเลาะกันทุกทีก้อเรื่องแม่เค้า
มันแย่ค่ะ เลยต้องทำแบบนี้ไปก่อน
ป.ล. จริงๆอย่างที่พี่ๆ ด้านบนแนะนำเรื่อง อดทน อาจจะช่วยได้นะคะ + ทำดีเข้าไว้
ซักวันเค้าจะเข้าใจ แต่สำหรับเรา มันยากเกินไป เฮ้อออ
อดทนโลดค่ะ
เอาใจช่วยทุกๆคนที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่นะคะ
ของโอ๊คโชคดีที่แม่สามีดีกับโอ๊คมาก แม้ตอนนี้จะเป็นอดีตแม่สามีไปแล้ว แต่เค้าก็ยังดีกับโอ๊คอยู่ อาจเป็นเพราะเรามีหลานให้เค้า ซึ่งเป็นหลานคนแรกด้วย
แต่ก็เคยมีปัญหาครั้งใหญ่มากๆ คือ มีคนมาพูดยุให้เค้าเข้าใจเราผิด โดยเอาคำพูดของเราไปตีความผิดๆ แล้วมาบอกกะแม่อดีตสามี เลยทำให้ผิดใจกัน ถึงขั้นที่เค้ามามาว่าๆๆๆๆ อยู่ข้างเตียงผู้ป่วย (ในขณะนั้นเราเพิ่งออกมาจากห้องผ่าคลอด หลานของเค้า) โอ๊คอธิบายเท่าไร เค้าก็ไม่เชื่อ เพราะว่าคนที่มาบอกเค้าเป็นถึงอดีตเจ้าหน้าที่ ที่มหาลัยที่เรากะอดีตสามีเคยเรียน โอ๊คก็พูดต่อหน้าเค้าทั้งคู่เลยว่าโอ๊คไม่เคยพูด แต่คนที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่มหาลัยนี้ขอบอกว่า เธอโกหกหน้าตายได้อย่างเนียนมากค่ะ เธอกล้าพูดว่า "โอ๊คไม่ต้องปิดปังอะไรอีกแล้ว ทุกคนรู้ความจิงว่าหมดโอ๊คพูดอะไรแต่ก็ให้อภัยได้เสมอ" อดีตแม่สามีเลยเชื่อว่าเราพูดยังงั้นจิงๆ ส่วนโอ๊คก็เหวอเลยค่ะ ว่ายัยคนนี้เธอกล้าโกหกหน้าตายได้อย่างเนียนโคดดดดดด โอ๊คอ่ะงงสุดๆเลยว่า กรูเคยไปพูดอะไรอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไรวะ
ที่กลับมาดีกันได้ก็เพราะว่า โอ๊คอ่ะ บอกแม่อดีตสามีไปเลยว่า "ใครโกหก ใครพูดจิง ซักวันก็จะรู้เอง ส่วนเรื่องของโอ๊คเนี่ย ถ้าจะเอาพยานมายืนยัน โอ๊คก็สามารถหามาได้ "
หลังจากนั้นมาเราก็ทำเหมือนลืมเรื่องนี้ไป แต่โอ๊คคิดว่าเค้าคงยังไม่เชื่อโอ๊คอยู่ดี เพราะว่า พ่ออดีตสามีที่เคยดีกับโอ๊คมากกกกกกกกกกกกกกกก ตอนนี้เฉยชากะโอ๊คและไอรินมากเลยค่ะ
คิดแล้วเศร้า
และก็เกลียดพวกที่ชอบยุให้คนอื่นแตกคอจัง
พวกมือที่สามนี้ น่ากัวคะ เป็นภัยมืดที่อันตรายมากสำหรับครอบครัว
เห็นใจจัง เวลาได้ฟังเรื่องสะใภ้กะแม่สามี คนไม่เจอกับตัวเองคงเข้าใจลำบาก
ถ้าเป็นไปได้ ลองแยกบ้านออกมาดีมั๊ย นานๆเจอกันที น่าจะดีกว่าเห็นกันทุกวัน ยิ่งไม่ชอบกันทำอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมด
ของเราค่อยยังชั่ว ตอนที่ตกลงจะแต่งงาน ไปบอกพ่อแม่สามี ท่านบอกว่า แต่งแล้วให้แยกบ้านออกไปนะ (ท่านมีซื้อบ้านให้ลูกๆทุกคนไว้แล้ว) อย่ามาอยู่รวม ความหมายคงไม่อยากให้มีปัญหาภายหลัง สะใภ้หลายคนจะยุ่งป่าวๆ
ส่วนแม่เรา บอกคำแรกเลย แต่งแล้วอย่าไปอยู่บ้านรวมกะแม่สามีนะ เลยไม่ต้องมีปัญหาปวดหมอง
เป็นกำลังใจให้คุณบีนะค่ะ
เอาใจช่วยทุกๆคนค่ะ
เพื่อให้ผ่านปัญหาโลกแตกนี้ไปให้ได้จ้า
ทนอย่างเดียวค่ะ พยายามอย่าเก็บอะไรที่เห้นที่ได้ยินมาคิด หรืออย่าทะเลาะกันเอง
หัวอกเดียวกันของเราไม่มีพ่อและแม่สามี คิดว่าโชคดีแล้วแต่ดันเจอพี่ป้าน้าอาของสามีที่บ้านอยู่ติดๆกันขนาดอยู่กันเองในบ้านมีเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน ว่าและดูถูกพ่อแม่เราต่างๆนานา หาว่าเราไม่เหมาะสมกับหลานเค้า เพราะจนกว่า ถามหน่อยเรากับสามีเรียนด้วยกันตั้งแต่ เตรียมป.1 จนถึงม.3 ในโรงเรียนคาทอลิค แถวๆชิดลม ม.ปลายสามีเราเรียนกรุงเทพคริสเตียน เราเรียนโรงเรียนคาทอลิก(หญิงล้วนที่อยู่ใกล้ๆกัน มหาลัยเราเข้า ABAC ด้วยกัน ถามว่าเราต้อยต่ำว่าหลานเค้าตรงไหน ... ตอนนั้นเซงสุดๆ
แรกๆทำให้เราทะเลาะกันเองทุกวันจะเลิกกันด้วยซ้ำแต่แม่ของเราเตือนสติไว้ว่า ไม่ต้องรับรู้อะไรทั้งสิ้นและอย่าเอาเรื่องพวกนี้มาทำให้ทะเลาะกันเพราะคนพวกนั้นเค้าต้องการให้ป็นแบบนี้ จากนั้นคู่เราเลยเป็นคู่ผัวเมืยที่ไม่เอาใครเลย(พวกเค้าว่าเราเป็นแบบนั้น) เราก็ไม่สนใจเพราะเราhappy แล้ว
เอาใจช่วยนะค่ะ มีไร pm มาระบายก็ได้อย่าเก็บไว้คนเดียว ปรึกษาเราได้
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
อดทนเท่านั้นค่ะ
พยายามอย่าเปรียบเทียบค่ะ โดยเฉพาะสิ่งที่เค้า
ทำกับเรา กับ ลูกเค้าเอง
เพราะมันแตกต่างกันแน่นอนค่ะ
เราเป็นทั้งสะใภ้ (บ้านอื่น) และมีพี่สะใภ้ (บ้านตัวเอง)
เลยค่อนข้างเข้าใจค่ะ ว่าแม่ย่อมลำเอียงเข้าข้างลูกตัวเองมากกว่าอยู่แล้ว
ทำใจยอมรับ และปล่อยวางค่ะ จะดีที่สุด
ไม่เข้าใจเลยอ่ะค่ะ ทำไมแม่สามีไม่นึกถึงใจเค้าใจเราบ้างน้อ
ตัวเองก็เป็นผู้หญิงหมือนกัน น่าจะเห็นใจและควรจะรักคนที่ลูกชายตัวเองรักซิ
ที่สำคัญนี่แม่ของหลานนะ ใจร้ายมากๆๆเลย
เรื่องในตำนานจริงๆค่ะ แม่ผัวกับลูกสะใภ้
อืม...............................ไม่เคยเจอกับตัวเองเลยไม่รู้จะแนะนำยังไง ก็คงบอกตามอย่างเพื่อนๆให้อดทนค่ะ
แต่.....................แต่ถ้าเกิดกับตัวเองคงไม่ทนค่ะ
1. ถ้าแต่งต้องแยกไปอยู่กันเองค่ะ เพราะลำพังตัวเองกับแฟนเวลาทะเลาะกันก็จะแย่อยู่แล้ว ไม่อยากให้คนอื่นๆมาเอี่ยวด้วย ถ้าไม่แยกมาอยู่ไม่แต่ง ยอมเลิกไปเลยดีกว่าค่ะ
2. รักตัวเองมากเกินไป ดังนั้นคงไม่มีทางยอมแม่สามีแน่นอนค่ะ..................หุหุหุหุ
3. โชคดีค่ะ ที่แฟนออกมาจากกระบอกไม้ไผ่.......555 คือแบบทั้งพ่อและแม่เค้าเสียไปหมดแล้ว เราเลยรอดตัวไปค่ะ
ถ้าคุณบีรักสามีมากๆๆๆๆ ก็คำเดียวเลยค่ะ อดทนไว้ แต่ถ้ามันไม่ไหว ปรี๊ดแตกไปบ้างก็ได้
เคยดูในละครน้ำเน่าปะ
แบบว่า แม่ผัว ร้ายมาก กด ขี่ ข่มเหง ขี้บ่น ทำอะไรไม่ดีสักอย่าง
สุดท้าย พอเกิดเหตุการ์ใดที่เป็นจุดเปลี่ยน เช่น แม่สามี ไม่สบาย
แล้ว สะใภ้ (นางเอก ) ก็ ปรนนิบัติพัดวี ตลอด ทั้งที่ ลูกๆ คนอื่นๆ ไม่เคย ดูแล
สุดท้าย สะใภ้ คนนี้ ก็ได้ใจแม่สามี ไปเต็มๆอะครับ
ไม่รู้นะครับ
แต่ผมเชื่ออย่างนั้น
ทั้งนี้ ทุกอย่าง เราทำด้วยใจ คิดด้วยใจ ยิ้มด้วยใจ บริสุทธ์
ปัญหาที่เจอก็ผ่านไปด้วยดีครับ
ขอให้เป็นอย่างนั้นนะค้าบ
ปล. เจ๊แอน คราวหน้า ไม่พลาดนะค้าบ ปลายเดือน แน่นอน
ต้องอดทนค่ะ เอาความดีเข้าชนะนะ ของพีทแม่สามีรักมากเกินไป แบบว่าติดเป็นแตงเมเลยอ่ะ ก็ต้องอดทนเหมือนกัน เพราะเค้าก็รักเรา แต่บางทีเค้าไม่เข้าใจถึงความเป็นส่วนตัวเท่านั้นเอง ถ้าเราพยายามเข้าใจสิ่งที่เค้าทำ ก็จะให้อะไรๆๆดีขึ้นะคะ
ไม่ว่าจะเจอแบบไหน เป็นตัวของตัวเอง เคารพเค้า ทำดีกับเค้า สักวันแม่ต้องใจอ่อนค่ะ
เอาใจช่วยยยทุกๆๆคน รวมทั้งตัวเองด้วย อิอิ
เรามีข้อแนะนำค่ะ 3 ทำ
1.เลยคือทำใจค่ะ ... อันนี้เรื่องจริงค่ะ ถ้าทำไม่ได้จบแน่นอนค่ะ
2.ทำตามที่เค้าสอนและสั่งค่ะ อันนี้ต้องทำหลังจากทำข้อ 1 แล้วค่ะ ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆทั้งสิ้น
3.ทำหูทวนลมค่ะ ถ้าเราทำ ข้อ1-2แล้วไม่บรรลุผลก้อทำข้อนี้เลยค่ะ
ทำครบมาข้อสามเเล้วก้อย้อนกลับไปทำข้อ 1-2-3 ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ
แล้วเราจะอยู่อย่างสงบสุข 55555+ (หรือเปล่า)
โชคดีหน่อยที่ได้อยู่กับครอบครัวของตัวเองค่ะ แม่กับพ่อเราก็ใจดี วันว่างก็จะไปเยี่ยมพ่อกับแม่แฟน เลยไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของทุกคนค่ะ เป็นกำลังใจให้เอาชนะใจเค้าได้นะคะ
อนาคตคงต้องได้เป็นแม่สามีบ้างละ ได้รู้ ๆ ว่าสะใภ้คิดยังไง จะได้ไม่ทำแบบนี้ มีประโยชน์มากเลยจ้ะ
บอกได้คำเดียวว่าต้องอดทน และเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ซะ เดี๋ยวแก่ก่อนวัยอันควร
เหมือนกันเลยเพราะในอนาคตต้องเป็นแม่สามี แล้วคิดไว้ว่าจะไม่อยู่บ้านเดียวกับลูกๆเด็ดขาด (ไม่ว่าหญิงหรือชาย) กลัวเดี๋ยวลูกให้เลี้ยงหลาน ฮ่าๆๆๆ เพราะถึงตอนนั้นแล้วเราจะหนีเที่ยวกันสองคนผัวเมียแล้ว อีกอย่างคือ "กลัวได้ลูกสะไภ้อย่างตัวเราเอง" ฮิๆๆๆ :p
ของเราโชคดีค่ะคือแยกบ้านมาอยู่กันเอง เนื่องจากทางบ้านแฟนเค้าอยู่ทางใต้ค่ะ ^^
แล้วก็ไม่ได้ต้องเจอกันบ่อยๆ อ่ะค่ะ พ่อกับแม่แฟนขึ้นไปเดือนละครั้งเอง ก็แค่กินข้าวเย็นกันไม่กี่ชั่วโมงเลยรอดตัวไป
เพราะถ้าอยู่บ้านเดียวกัน เราทำกับข้าวไม่เป็นด้วยอ่า ทุกวันนี้ก็ไปกินที่บ้านพ่อแม่ตัวเอง อิอิ
แต่ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเอง คงต้องคุยกันก่อนแต่งอ่ะค่ะ ว่าแยกบ้าน ไม่งั้นคงอยู่อย่างอึดอัดน่าดูเลย
เราโชคดีที่แม่สามีใจดีมากๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลย
ขอให้คุณ B อดทน แล้วก้อใช้ความดีเข้าสู้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
แม่แฟนเราดีมากๆๆๆๆ แต่เราจะมาเล่า แม่สามีเพื่อนสนิทให้ฟัง
แม่สามีเพื่อนคนนี้ขอเรียกว่า คุณแม่จอมแสบจริงๆ เมื่อก่อนตอนเพื่อนเรายังเป็นแฟนกะลูกเค้าอยู่
เพื่อนเรา กะแฟนเค้า ก็เดินจูงมือกันไปตลาด แม่เค้าก็ มาดึงมือออก แล้วบอกให้ลูกจับมือเค้าไว้
แฟนเพื่อนเลย ขอเดินตรงกลาง จับมือทั้งสองคน เรืองที่สอง เพื่อนเราก็มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี
วันนั้นเพื่อนเราซื้อน้ำหอม บังเอิญลืมถุงไว้ในรถแฟน แม่แฟนเห็น เรียกไปอบรม (ทั้งๆที่ก็เงินเพื่อน)
เรื่องที่สาม แฟนเพื่อน ต้องย้ายไป ประจำที่ ปัตตานี ระเบิดเยอะมากตอนนั้น เพื่อนเราก็ไป ช่วยอาสา ไปอยู่เป็นเพื่อนแม่
เค้าช่วงเสา อาทิต แต่ก็ไม่เห็นความดี ตอยแก้ลงได้ทุกวัน แถมยังแกล้ง ให้ไป คอยเรียกลูกค้า หน้าชายหาด แบบ
ที่บ้านเค้าเปิดสปาไงค่ะ แดดร้อนๆ แดดแรงมาก เพื่อนเราดำไปทั้งตัว ที่จริงเค้าก็ไม่จำเป็นต้องให้เพื่อนเราก็ได้นะ
เพราะว่าเด็กที่ร้านเค้ามีตั้งเยอะ แบบแกล้ง อ่ะ แม่เค้าทำตัวเป็นเด็กมากๆ อีกเรื่อง ตอนที่เพื่อนเราจะแต่งงาน
แม่เค้า เขียนจม. มาบอกว่า ถ้ายังไม่ยกเลิกงานแต่ง ไม่ต้องมาเรียกว่าแม่ โห กลายเป็นเรืองใหญ่โต เพราะเพื่อนเราจะ
แต่งในอีก สองอาทิตแล้ว แสบมาก ก่อนหน้านี้ พยายามแล้ว ไม่สำเร็จ ต่อมา พอจัดงานแต่ง ตอนที่อยู่งาน ตอนเค้า
กำลังเริ่มพิธี แม่เค้า อวยพร แบบว่า ขอให้มีความสุขนะ เธอ ชนะ โห พูดมาได้ไง เพื่อนเราแทบปรี้ดค่ะ แถมเอาเงิน
ที่ได้จากซองงานแต่งไปหมดเลย แบบว่าหอบกลับบ้าน งง ต้องเป็นของเจ้าบ่าวเจ้าสาวไม่ใช่หรอ แถมสินสอด ก็เป็น
เงินเพื่อนเรา ไม่ใช่เงินที่ได้มาจากแม่สามีเลย แสบจิงๆ
แล้วยังมีอีก ตอนเค้ากำลังท้อง ก็ แบบ แกล้งสารพัด ไม่ทำข้าว ให้ลูกสะใภ้กินนะ แต่ทำกับข้าวให้หมากิน
พอลูกชายมา ก็ทำเป็นมาพูดดี เหมือนในหนังเลย เราสงสารเพือนคนนี้มาก ทุกวันนี้ เพื่อนเราย้ายออกมาอยู่บ้าน
ตัวเองแล้ว แบบนี้คงไม่มีใครทนได้หรอก
เอาเท่านี้แล้วกันนะ เล่าเอง ยังปรี๊ดเองเลย แบบว่าเก็บกด แทนเพื่อน เฮ้อๆๆ
เฮ้อ ปัญหาในตำนานจริงๆ ใครโชคดี เจอแม่สามีดี ก็ดีไป อย่าว่าแต่แม่สามีเลยค่ะ น้องสามี ญาติสามีก็มีส่วนเน้อ 555 พูดกันคนละเรื่องมักพาให้เกิดปัญหาเป็นประจำ
พูดไปแล้วก็อยู่ที่คนกลางเหมือนกัน ต้องหนักแน่นเข้าไว้
ที่บ้าน ตัวเองก็เป็นทั้งสะใภ้ อยู่ร่วมบ้านพ่อแม่น้อง และญาติของสามี ปัญหาก็มีบ้าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องคำพูด ฟังกันคนละที บอกต่อๆกัน แล้วก็เพี้ยนซะงั้น กับอีกเรื่องก็คนของเธอ คนของชั้น อะไรประมาณนั้น มีปัญหาให้ลับสมองประลองปัญญา และจิตใจอันแสนมั่นคงเรื่อยๆ กันสมองเสื่อม
นอกจากนี้ตัวเองก็มีพี่สะใภ้อยู่ร่วมบ้านตัวเองที่กรุงเทพเหมือนกัน ดังนั้น จึงมีสถานะเป็นน้องสามีด้วยเหมือนกัน เอ เราทำตัวเหมือนน้องสามีเราหรือเปล่าเนี่ย คิดก่อน คิดก่อน
อีกหน่อยก็ต้องเป็นแม่สามี ตอนนี้ลูกชายยังเล็ก ติดหนุนแขนแม่ อีกหน่อยก็หนุนแขนเมีย เฮ้อ คิดแล้วก็เนอะ จ๊ากกกกกกกกกก จะเป็นแม่สามีในตำนานหรือเปล่านะ เฮ้อ ต้องพยายามคิดว่าไม่เป็นไว้ก่อนจะดีที่สุด
เอาใจช่วยลูกสะใภ้ทุกคนนะคะ
ปล.อยากได้แบบคุณแอนเหมือนกัน เกิดจากกระบอกไม้ไผ่
ของเราคุณแม่เธอไม่ร้าย แต่เธอห่วงลูกชายมากกกกกกกกกกกกกกกก เพราะเป็นลูกชายคนเดียว
ห่วงเกินไปเรากลัวว่าจะทำอะไรไม่เป็นอ่ะสิ แล้วอีกอย่างต้องอยู่บ้านเดียวกันด้วย อึดอัดเหมือนกัน
แต่งเข้าบ้านสามีที่เป็นคนจีนเหมือนกัน คือจ๋าว่าแม่สามี/สะใภ้เป็นสถานภาพที่เกิดความขัดแย้งได้ง่าย
พื้นฐานครอบครัวต่างกัน ครอบครัวจ๋ารับราชการเกือบทั้งบ้าน ครอบครัวสามีค้าขาย....
ของจ๋าไม่เคยทะเลาะไม่มีปากเสียง มีแต่สงครามเย็น ก๊ากกกกก ต่างคนต่างเงียบ มาใหม่ๆกดดันเหมือนกัน เงียบข้างนอก ข้างในคุกรุ่น
แต่เดี๋ยวนี้ใจนิ่งขึ้นเยอะ ชีวิตจ๋ามีค่ามากเกินกว่าจะให้อะไรแบบนี้มาทำให้เราสุขน้อยลง
คิดในแง่ดี อย่างน้อยเค้าก็ไม่มายุ่มย่ามชีวิตส่วนตัว อย่างน้อยก็ไม่ใช่กงสี และสามีจ๋าก็เป็นกลางมากๆ ไม่เข้าข้างทั้งเราทั้งแม่ 5555
ก่อนย้ายเข้ามาอยู่ แม่จ๋าสั่งนักหนา ให้รักและดูแลเค้าเหมือนแม่ตัวเองนะลูก..
เวลาผ่านไปก็เรียนรู้ว่าทำไม่ได้อย่างแม่สอน แต่เรียนรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ทุกข์น้อยกว่าสุข
ตอนมาใหม่ๆรับไม่ได้เลยสงครามเย็นเนี่ย ใจรุ่มร้อนมาก สุดท้าย....
ใจเรา ทัศนคติเราสำคัญใหญ่หลวงเลย เปลี่ยนจากโฟกัสที่ความขัดแย้ง ไปโพกัสเรื่องดีๆของชีวิต
ทุกวันนี้บวกลบคุณหาร ผลลัพท์คือความสุขค่ะ (ถึงแม้บางครั้งจะวูบไหวไปบ้าง อิอิ)