-
Warm welcome to everyone naka........ยินดีที่จะได้พูดคุยกับทุกๆ ท่านที่รักหนังสือเล่มนี้ค่ะ ^^
http://www.edwardsmeadow.com/TheTwilightSaga.jpg
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ครับ ขอนำรูปมาลง เพื่อให้กระทู้นี้ สามารถโชว์รูปที่หน้าเวบได้ ครับ
ขอบคุณภาพจากลิงก์ http://www.edwardsmeadow.com/TheTwilightSaga.jpg ครับ
ขออภัยครับ หากรูปที่เรานำมาไม่เหมาะสม และขอชวนเจ้าของกระทู้เข้ามาแก้ไขได้ครับ
-
-
ชอบมากกกกก เหมือนกันค่ะ
รู้สึกว่ายิ่งเล่ม 2 3 4 วลีการแต่งยิ่งดีขึ้นมากๆ อ่านแล้วติดมากๆ
เลยค่ะคุณพาย
อยากรู้ 4.2 อะคุณพาย เป็นไงต่อคะ
-
-
ตอนหนังสือภาค 4.2 ยังไม่ออก แอบไปอ่านที่เค้าแปลเล่นๆเองที่เวบนี้ค่ะ
http://solma.exteen.com/
แต่ตอนนี้เค้าลบที่เคยแปลไปแล้วค่ะ
http://images.temppic.com/21-08-2009...0.04947800.jpg
-
พี่แหม่มขา แสดงว่าตอนนี้ 4.2 มาแล้วใช่ไหมคะ
ทำไมตูนตกข่าวอ่า ตามมาตั้งนาน โหย ว่าแต่เล่มภาษาไทยนะคะ
ต้องไปหา ต้องไปหา
ขอบคุณพี่แหม่มค่า
-
ดีค่ะคุณตูนนนน
ดีค่ะพี่แหม่ม
ดีใจจังเลย...มีเพื่อนแล้ว 55555
ตอบคุณตูน...
เล่ม 4.2 ภาษาไทย ออกมาสักพักหย่ายๆ แล้วล่ะค่ะ อ่านเล่มสองแล้วก็อิจฉาเบลล่ามากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ ขนาดกลายมาเป็นแวมไพร์ก็ยังมีความพิเศษ มีพรสวรรค์ติดตัวมาได้อีก.....เล่นเอา edword ปลื้มและทึ่งไปเลยทีเดียว เป็นการชดเชยความอ่อนแอและโชคร้ายที่เจอแต่แวมไพร์คอยตามล่าในภาคก่อนๆ ได้ดีเลยค่ะ เล่มสองนี้ เบลล่าจะได้ปกป้องครอบครัว และคนที่เธอรักด้วยตนเองอย่างแท้จริงเลยล่ะค่ะ อ่านแล้วลุ้นแทบทุกหน้าเลยค่ะ กลัวว่าจะมีใครต้องตาย..... ^^
-
โว้วววววว คุณพาย
ตูนไปขุดรูที่ไหนอยู่มาเนี๊ยะ ร้านหนังสือก็เข้าเกือบทุกวันน้า
โหย พรุ่งนี้ต้องไปตามล่าซะแล้ว
ขอบคุณมากๆๆๆๆค่ะคุณพาย ว่าแต่เจคกับลูกเบลเค้าผูกวิญญาณกันปะคะ
-
ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่า คัลเลน ทุกคน จะมีเครื่องประดับที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลใส่ติดตัวกันตลอดนะคะ เห็นว่าต่างประเทศเค้าทำออกมาเป็นเครื่องประดับจริงๆ ด้วยล่ะค่ะ แพงเอาการเลยทีเดียว ^^
.
.
มาว่าต่อกันด้วยความนัยที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการเลือกภาพมาทำ cover book นะคะ (สปอยล์อย่างรุนแรงโดยไม่มีข้อสงสัยค่ะ...อิอิ)
Twilight and "The Forbidden Fruit"
"แอปเปิ้ล" นั้นสื่อถึง "แอปเปิ้ลแห่งสวนอีเดน" (The Forbidden Fruit) เป็นผลไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่ว ซึ่งในความหมายในด้าน idiom หมายถึง สิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาต (เนื่องจากน่าสนใจมาก)
ซึ่งใน Twilight เป็นการสื่อถึงความลึกลับน่าค้นหา ความรักต้องห้ามของมนุษย์และแวมไพร์ การที่แอปเปิ้ลเป็นผลไม้แห่งการรู้ดีรู้ชั่วแล้วก็ดูจะเข้ากันได้ดีสำหรับเบลล่าที่ในตอนจบของเล่มได้รู้ซึ้งถึงสิ่งดีงามและความชั่วร้าย
และเมเยอร์เองก็เห็นว่ามีเรื่องเล่าหรือวรรณกรรมที่มีการใช้แอปเปิ้ลเป็นอุปมาอุปมัยอีกหลายเรื่อง เช่น สโนว์ไวท์ หรือ The Judgement of Paris (ที่ตัดสินให้แอโฟรไดท์ได้แอปเปิ้ลทองคำแลกกะเฮเลน) ด้วย ทำให้แอปเปิ้ลค่อนข้างที่จะเป็นผลไม้ที่มีความหมายอยู่ในตัวมันอย่างหลากหลาย
สำหรับ เมเยอร์ "แอปเปิ้ลแห่งสวนอีเดน" คือ "ทางเลือก" (Choice)
New Moon and "Estella Rijnveld"
New Moon ตามความหมายของชื่อเรื่องคือ "คืนเดือนมืดที่มืดมิดที่สุด" สื่อถึงช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของเบลล่า มีการตีความหมายไปหลายทางมากถึงหน้าปกของเรื่อง เป็น Bloody Flower ตีความถึงตอนเบลล่าล้มลงไปบนอ่างแจกันดอกไม้ (ตอนโดนแจสเปอร์จะกินเลือด) หรือสื่อถึงชีวิตที่ร่วงโรยของเบลล่า หรือ Wilting Flower ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาเมื่อขาดเอ็ดเวิร์ด (ดอกไม้ที่ใกล้ตาย)
แต่จริงๆแล้วมันไม่มีความหมายหรอก...ทางสนพ.เขาเลือกมาเพราะมันสวย..แค่ดอก Ruffled Tulip แค่นั้น
แต่จากการค้นข้อมูลบอกว่า Tulip นี้คือ "Estella Rijnveld" มีตำนานของเปอร์เซียเล่าว่า ดอกทิวลิบดอกแรกผลิดอกออกมาจากเลือดของคู่รักคู่หนึ่ง นานวันเข้าทิวลิปนี้จึงการเป็นสัญลักษณ์ของ "การปฎิญาณสาบานรัก" (รักแท้) เหมือนที่เบลล่าได้รู้ว่าเอ็ดเวิร์ดรักเธอมากกกกกจริงๆ เพราะเขาถึงกับจะจบชีวิตอมตะของตนเองเมื่อตอนที่ได้ทราบ (นึกว่า) เบลล่ากระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย
Eclipse and "Torn Ribbon"
"ริบบิ้นที่กำลังจะขาด" (Torn Ribbon) หมายถึง สายสัมพันธ์ของความเป็นมนุษย์ที่กำลังจะขาดลง เป็นทางเลือกของเบลล่าว่าจะเลือกทางไหน กล่าวคือ เลือกแวมไพร์ ริบบิ้นจะขาดลงชีวิตความเป็นมนุษย์สูญสิ้นครอบครัวเพื่อนๆ สายสัมพันธ์เหล่านี้จะจะขาดออกจากกัน หรือ เลือกหมาป่า เธอจะได้ชีวิตมนุษย์คืนมาทั้งยังครอบครัวเพื่อนพ้องด้วย
แต่ในอีกนัยยะหนึ่งริบบิ้นที่ใกล้จะขาดยังบ่งบอกได้ว่าเธอยังลังเล ไม่แน่ใจและอาวรณ์ถึงชีวิตแบบมนุษย์ธรรมดาอยู่แม้ว่าได้ตัดสินใจไปแล้วเมื่อตอนท้ายเล่ม New Moon แต่ใน Eclipse เธอเริ่มมีอาการลังเล (ตลอดเล่มเลยก็ว่าได้) แต่แนวคิดนี้ไม่เฟิร์มเพราะชาวบ้านเขาตีความกันไม่ใช่ นักเขียนนะค่ะ^^
Breaking Dawn and "From the Pawn to the Queen"
"จากเบี้ยสู่ราชินี" ในหน้าปกของเล่ม 4 เป็นการสื่อถึงเบลล่าที่ตั้งแต่เริ่มเรื่องเธอเป็นเพียงมนุษย์ที่อ่อนแอที่สุดในกระบวนทัพ เป็น เบี้ย เป็นเบ้ คอยแต่ให้เขามาปกป้อง แต่ในเล่ม 4 เบลล่าจะปฏิวัติเปลี่ยนตนเองมาสู่ การเป็นราชินีของกองทัพแวมไพร์ (ครอบครัวคัลเลน)
เบลล่าในรูปลักษณ์แวมไพร์ กลายเป็นแวมไพร์ที่มีแข็งแกร่งที่สุดของครอบครัว ทั้งจากที่เธอเป็น New Born ที่จะแข็งแรงที่สุด เบลล่ายังมีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ความเป็นแวมไพร์พัฒนาความสามารถของเธอให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเบลล่าเปี่ยมไปด้วยเมตตา มีจิตใจดีเสมอ ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง จะเห็นว่าเวลาคับขันน้องจะฉลาดเอาตัวรอดสุดๆ ยิ่งเป็นแวมไพร์แล้วยิ่งเข้มแข็งขึ้นอีกขั้น
จิตใจที่ปิดกั้นความสามารถที่ส่งผลต่อจิต อย่างความสามารถของ เอ็ดเวิร์ด เจน และอาโร พัฒนากลายเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเบลล่าที่เรียกว่า "เกราะพลังจิต" (Mind Shield) ที่สามารถขยายวงไปล้อมรอบคนที่เธอต้องการปกป้องได้ด้วย (เพราะเหตุที่เธอชอบห่วงชาวบ้านเขาก่อนเลยกลายเป็นความสามารถแบบนี้) ทำให้คนที่อยู่ในวงล้อมไม่โดนทำร้ายจากการทำร้ายทางจิต (น้องเจนจ๋อยไปเลยค่า 555)
ทำให้เธอกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของกองทัพ เป็นราชินีของกระดานหมากรุก และกลายเป็นผู้ปกป้องบุคคลอันเป็นที่รักและครอบครัวที่สำคัญ อย่างที่เธอต้องการมานานแสนนาน
Credit: http://solma.exteen.com
-
ตอบคุณตูนค่ะ
พายเองซื้อหนังสือที่สำนักพิมพ์ปราชญ์เปรียวโดยตรงอ่ะค่ะ พอดีอยู่ใกล้บ้านแค่เอื้อมด้วยค่ะ คุณตูนอยากได้ป่าว ฝากซื้อได้นะคะ ไม่คิดค่าฝากหรอก ^^ เพราะพายเองก็ไม่เคยตามหาที่อื่นซะด้วย ไม่แน่ใจว่าเค้าวางขายที่ร้านหนังสือไหนบ้าง..
**Spoil Alert**
.
.
เจค ผูกวิญญาณ กับ เรเนสเม่(เนสซี่) ใช่แล้วค่ะ...เป็นรักที่บริสุทธิ์มากเลยค่ะ^^