5. ต้องสู้ ต้องสู้ ถึงจะชนะ
http://seedang.com/files/comments/41.../1_display.JPG
http://seedang.com/files/comments/35.../1_display.JPG
Printable View
5. ต้องสู้ ต้องสู้ ถึงจะชนะ
http://seedang.com/files/comments/41.../1_display.JPG
http://seedang.com/files/comments/35.../1_display.JPG
6. ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย..ในความคุ้นเคยกันอยู่
ดีจร้า....สุ...ส่งสัยงานยุ่งมากๆ..ไงก้อแวะมาอีกนะ...เราก้อมีงานเหมือนกันแต่ไม่ทำนายไม่อยู่อ่ะ 555++
ลุง...ไอ้หมาตัวนั่นน่าอิจฉาจัง...ตอนนี้ง่วงแล้วเพิ่งกินอิ่มหนังตาก้อหย่อน
หัวฯ คะน้าปลาเค็มเสร็จหรือยัง ทำข้าวต้มรอแล้วน้า...:D
7. ลมหนาวมาเมื่อใด ใจฉันคงยิ่งเหงา
คืนวันที่มันเหน็บหนาว ไม่รู้จะทนได้นานเท่าไร
คุณกานต์ ง่วงอยู่แน่ ๆ เลย 55+
http://seedang.com/files/comments/34.../1_display.jpg
เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นได้ถ้าปล่อยให้ลูกหิว
http://seedang.com/files/comments/34.../1_display.jpg
ขอแมวเข้าบ้านหน่อย
http://seedang.com/files/comments/34.../1_display.jpg
หมากระเป๋า
หมากระเป๋าน่ารัก
บัดดี้ก็เอาใส่กระเป๋าเหมือนกัน เวลาขี่มอไซค์ ไว้แอบถ่ายมาให้ดู อิอิ
8. มีดวงใจหนึ่งดวงจะมอบให้เธอไว้ครอง
แม่เจดีสาวต่ายว่างหรือจ๊ะจัดรายการไม่ใช่เหรอ...
ใช่ลุง....ตอนนี้ง่วงมากๆ อ่ะ กาแฟ ยังไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเลยอ่ะ;)
เป็นที่ลือกันทั่วไป ในหมู่ของคนขับรถแท็กซี่ว่า
บริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้าง
สรรพสินค้าเดอะมอลล์ (งามวงศ์วาน) ตอนกลางดึก (หลังห้างปิด) แล้วเนี่ย ผีดุเป็นบ้า
ลือกันเป็นตุเป็นตะว่า
เคยมีแท็กซี่หลายคันถูกผู้หญิงผมยาวเรียกจากหน้า
ห้างฯ ให้ไปส่งที่วัดสมรโกฏิ (ถ.รัตนาธิเบศร์)
พอคนขับแท็กซี่ขับไปถึงหน้า
วัด ปรากฏว่าผู้โดยสารผู้หญิงผมยาวคนนั้นก็หายตัวไป
เป็นที่เลื่องลือกันว่า ผีที่หน้าห้างเดอะมอลล์งามวงศ์วานนี้
คือหญิงสาวที่
เคยใช้ที่จอดรถของห้างฯ เป็นที่ฆ่าตัวตาย จนปัจจุบันนี้ห้างฯ ได้ทำลวด
ตาข่ายมาอ๊อกปิดไว้หมดทุกด้าน
เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาใช้เป็นสุสานอีก
แต่ก็ยังไม่วายมีข่าวมาเรื่อย ๆ ว่ามีคนกระโดดตึกตายที่นี่เป็นประจำ
เรื่องข่าว ลือนี้นายกล้าโชเฟอร์แท็กซี่ (มือใหม่) ที่เพิ่งมาหางานทำใน
กรุงเทพฯ ก็ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ความที่แกเป็นคนกล้าสมชื่อ แกจึงไม่เชื่อ
แล้วแกยังคงวนเวียนรับ -
ส่งผู้โดยสารแถวงามวงศ์วานและใกล้เคียงเป็นประจำ
เพราะรายได้ดีเนื่องจากแถวนี้ตอนดึก ๆ ไม่ค่อยมีแท็กซี่กล้าขับผ่านมา
เรื่องของเรื่องคือ มีอยู่วันหนึ่ง ดึกมากแล้ว
นายกล้าขับรถผ่านหน้าห้างเดอะมอลล์ฯ ก็ปรากฏว่ามีผู้หญิงสาวสวยไว้ผมยาวสยาย
ยืนโบกรถอยู่หน้าห้างฯ
ฉับพลันที่เห็น นายกล้าก็นึกไปถึงเรื่องที่เพื่อน ๆ ชาวแท็กซี่โจษขานถึง
เรื่องผีดุกันขึ้นมาทันที แต่ความที่แกเป็นคนกล้า ประกอบกับผู้หญิงคนนั้นก็
ดูว่าเป็นคนชัด แกจึงจอดรถเข้าไปรับ
พอหญิงสาวเปิดประตูรถ กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกก็ปะทะจมูกของนายกล้าทันที
" โชเฟอร์ ไปแถววัดธาตุทองนะ จะไปมั้ย " หญิงสาวถาม
" ไปครับผม " นายกล้าตอบ ในใจคิดว่า
ไม่ใช่วัดสมรโกฏิแบบที่ลือกันนี่หว่า
หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งที่เบาะหลังพร้อมกับบอกนายกล้าว่า
" ไปทางด่วนนะ "
นายกล้ากดมิเตอร์แล้วออกรถขับตรงไปขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน
กลางดึกเช่นนั้น
ทางด่วนเงียบสนิท นาน ๆ ถึงจะมีรถขับมาสักคัน
กลิ่นน้ำหอมของหญิงสาวยังเตะจมูกอยู่ บรรยากาศเงียบเชียบชวนอึดอัด ถึง
นายกล้าจะกล้าเพียงไรก็ตาม แต่แกก็อดชำเลืองมองกระจกส่องหลังไม่ได้
เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
แกก็เลยชวนคุยเพื่อทำลายบรรยากาศอันอึดอัดนี้
" รอรถนานมั้ยครับ " นายกล้าถามหญิงสาว
" นานสิ แท็กซี่หายไปไหนหมดไม่รู้ " หญิงสาวพูดเรื่อย ๆ
" ก็มีข่าวลือเรื่อง...เอ้อ....เรื่องผีแถวนี้ดุสิครับ เลยไม่ค่อยมีแท็กซี่คันไหนกล้าวิ่งแถวนี้ "
นายกล้าตัดสินใจพูดหยั่งเชิงเพื่อดูท่าทีหญิงสาว หญิงสาวหันขวับมามองนายกล้าทันที
" มิน่าล่ะ เมื่อกี้ฉันเรียกตั้งหลายคันไม่มีใครจอดเลย แล้วนายไม่กลัวเหรอ" หญิงสาวถาม
นายกล้ากลืนน้ำลาย " เอ้อ...ไม่กลัวครับ "
" ก็ดี " หญิงสาวพูดพร้อมกับหันไปมองที่หน้าต่าง
นายกล้าขับรถต่อไปเรื่อย ๆ บรรยากาศกลับเงียบสงัดอีกครั้ง
เงียบจนนายกล้า
ได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองเพียงคนเดียว
นายกล้าแหงนขึ้นไปมองกระจกส่องหลังเมื่อนึกขึ้นได้
ทันใดนั้น หัวใจของแกแทบ จะหยุดเต้น เมื่อเห็นภาพในกระจก เบาะหลังว่างเปล่า
ไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงผมยาวที่นั่งคุยมาด้วยกัน เมื่อกี้นี้เลย
' ชิบหายแล้วกรู เนี่ยเขาว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ โดนดีเข้าแล้วมั้ยล่ะ
'
นายกล้าคิดขณะที่กลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ ของผู้หญิงสาวยังคงคลุ้งอยู่ในรถ
มือที่กำพวงมาลัยสั่นสะท้าน เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่แอร์ ในรถเย็นเฉียบ ขาของ
นายกล้าที่เหยียบคันเร่งชาจนแทบจะไม่รู้สึกแล้ว บทสวดมนต์กี่บท ๆ ที่นึกได้
นายกล้าท่องจนหมด กลิ่นน้ำหอมก็ไม่หายไปไหน ยังลอยอบอวลคลุ้งอยู่ในรถ
แถมบางครั้งยังแรงขึ้นด้วยซ้ำไป
มนต์บทแล้วบทเล่าที่นายกล้าท่อง ไม่ได้ทำให้กลิ่นน้ำหอมจางลงเลย
นายกล้า
แหงนขึ้นมองกระจกอีกครั้ง เบาะหลังก็ยังว่างเปล่าอยู่
มีแต่กลิ่นน้ำหอมเท่า
นั้นที่บอกให้รู้ว่า " เธอ " ยังไม่ไปไหน
นายกล้าเหยียบคันเร่งอย่างไม่คิดชีวิต ในใจก็อาราธนาพระดัง ๆ
ทั่วเมืองไทย
ให้มาอยู่เป็นเพื่อนเขา ใจอยากบึ่งไปให้ถึงวัดธาตุทองเร็ว ๆ
เผื่อว่ากลิ่น
น้ำหอมจะหายไปเพราะ " เธอ " คงต้องการไปลงที่นั่นจริง ๆ
' โอ๊ย มาไกลเหลือเกินนะแม่คุณ ' นายกล้าคิดในใจ
ขณะที่ยังคงเหยียบคันเร่งมิด
นายกล้ามารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถมาติดไฟแดงตรงเชิงทางด่วน
นายกล้าสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่ 3 ครั้ง ก่อนกลั้นใจแหงนหน้าขึ้นไป
มองกระจกส่องหลัง และแล้วนายกล้าก็แทบจะหัวใจหยุดเต้นอีกครั้ง
มือเท้าเย็นวาบ แทบจะหมดแรง ขนลุกซู่ทั้งตัว เหมือนใครเอาน้ำแข็งมาโปะต้นคอ
ภาพที่ทำให้นายกล้าแทบช็อกก็คือ
หญิงสาวคนเดิมมาปรากฏตัวที่เบาะหลังอีกครั้ง
แต่คราวนี้หน้าตาเธอเปลี่ยนไป
ใบหน้าของเธ อมีเลือดไหลออกทางจมูก และปาก
นายกล้าตัดสินใจรวบรวมความกล้าอีกครั้ง
' เป็นไงเป็นกันวะ ไหน ๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะถามให้รู้เรื่องกันไปว่า
" เธอ " ต้องการอะไรกันแน่ '
พอคิดได้ดังนั้นนายกล้าก็หันกลับไปเผชิญหน้ากับ " เธอ " ผู้นั้น
ก่อนที่จะถามเป็นคำถามแรกว่า
" คุณเป็นอะไรตาย ? "
" ตายพ่อตายแม่มรึงสิ " เสียงหญิงสาวคนนั้นตอบดังลั่นรถ
" ไอ้ห่า ! กรูก้มลงไปแต่งหน้าหน่อยเดียว มรึงทั้งเบรค
ทั้งเหยียบซะหน้า
ตากรูแหกหมด แล้วยังเสือกมาถามอีกว่าเป็นอะไรตาย "
เล่นไปจัดไปได้ค่ะ อยู่หน้าคอมตลอด อิอิ
จัด 12.00-14.00 ตอนนี้ว่างละ จะบ่ายสามแล้วเดี๋ยวไปเปิดร้านละจ้า
เปิดร้านก็นั่งหน้าคอมอีก
9. ง่ายเกินไปที่เราจะอยู่กันมาเพื่อจากกันไป
ไม่รู้ว่าเคยอ่านกันยัง เรื่องเล่า fw แก้ง่วง....
ต่ายหวัดดี หอมไปไหนว่ะ
กานต์ คุณหัวฯ แอนด์ทุกคน ทู้นี้ล้อเป้ามากๆ เป็นห่วงจากใจจริง
http://siambrandname.com/forum/showthread.php?t=128156