น้องเด่น..........เจ๊อ่านทีแรก ตกใจหมดเลย เล่นเอาเจ๊แน่น จุก เสียดเลย นึกว่าเป็นจริง กะว่าจะโทรไปด่าถึงตูรูสเลยนะ แต่พอเลื่อนลงมาอ่านตรง ปล. ที่ไหนได้ น้องเล่นมุกในกระทู้ถามเพชร :rolleyes:
Printable View
มาเล่าบ้างค่ะ ป๊อปซื้อต่างหูเพชร ข้างละ 80 ตังค์ เป็นเม็ดเดี่ยว
ซื้อมาคู่ละ 1 แสนบาท เป็นของมือ 2 ร้านอยู่แถวท่าน้ำนนท์ เป็นร้านทอง รับ ซื้อ ขาย จำนำ
ที่บอกว่าคู่ละ1 แสนบาท ป๊อปเคยไปจำนำ ได้ข้างละ 37000 ( จะอุ้ย.. ):rolleyes:
อยากจะบอกว่าคุ้ม ไม่เสียราคา รองซื้อร้านแบบมือสอง ก็เป็นทางเลือกอีกทางค่ะ
สนใจเพชรแท้ๆ PM มาได้เลยค่ะ
เป็นเพชรมือ2 สภาพ99% (ที่ร้านรับจำนำเพชรเยอะมาก)
รับรองราคาประหยัด มีใบรับประกัน
มีประมาณ 500 ชิ้นค่ะ
***กระซิบเบาๆ ปกติส่งให้กับร้านเพชรในห้างค่ะ***
พี่บัน พี่นีน่า ทันกันจริงๆๆ
เจ๊เพชรนะมันแพงอ่ะ บ่อมีปัญญา สวยๆๆงามๆๆน้ำดีๆๆก็เป็นหลายๆๆแสนนะ
หนูขอรอรับมรดกแม่ดีกว่า
อ๋อหนูคิดออกแล้ว เดี๋ยวหนูยกลูกสาวให้ลูกชายพี่หล่ะกัน คนไหนดีน๋า
หนูเรียกสินสอดไม่แพงหรอกพี่ ขอแค่เพชรที่พี่มีก็พอ
ล้อเล่นนะพี่ วันจันทร์เราก็กลับสภาพเดิมแล้วเนอะ
แล้ว เจอกันจ้า จุ๊บๆๆ
ชอบแหวนเพชรค่ะ..แต่ชอบซื้อเพชรมือสองเหมือนกันไม่ตกดีค่ะ แล้วเพื่อนๆๆในนี้ใครเบื่อแล้วมั้งมาขายได้นะคะชอบไม่ค่อยเห็นมีขายในนี้เลยค่ะ ชอบเม็ดเดี่ยวไม่ชอบเพชรแถวขายต่อยากอะคะ
ขายเพชรและกระเป๋ามือสองอยู่แถวทองหล่อครับ
แต่ส่วนตัวแล้วจะชำนาญเรื่องเพชรมากกว่า ออกตัวนิดนึงว่าเรียนจบเรื่องเพชรมาจากGIAครับ
ไม่ถึงกับเป็นexpert พี่ๆน้องๆเพื่อนๆในเวปนี้ยังมีคนเก่งกว่าผมอีกเยอะครับ แต่อยากจะมาเล่าอะไรให้ฟังสักหน่อย
เคยลองไปสอบถามราคาเพชรจากตู้ตามห้าง ที่เป็นงานสำเร็จรูป เพชรเม็ดเล็กๆ พวกนี้จะมีหลักการขายเหมือนๆกัน
ถ้าคุณถามว่าเพชรน้ำเท่าไหร่ พวกนี้จะตอบมาว่า97เหมือนๆกันหมดเลย ถามว่าน้ำ97จริงไหม ตอบเลยว่า จริงแค่ส่วนเดียว
เวลาซื้อเพชรห่อมามันก็มาคละๆกันนั่นแหละ แต่ก้ไม่ได้ห่างกันน่าเกลียด ถ้าคนขายบอกว่าน้ำ97 มองในแง่ดีหน่อยก็อยู่ในช่วง 97-95 **เพชรน้ำ95ขึ้นไปถ้าเม็ดเล็กๆอยู่ในsettingแล้ว มองยังไงก็ขาวครับ ถ้าคุณเห็นเหลืองๆแสดงว่า ไม่ถึง95ละ** ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วยครับ อาทิเช่น แสง และ หน้าtable
แต่ถามว่าเค้าโกหกคุณไหม อันนี้ลุกค้าต้องเข้าใจนิดนึงว่า เวลาผลิตงานjewelry คนคัดเพชรนี่คัดเป็นพันๆเม็ด แน่นอน จะให้น้ำ97หมดเลยมันเป็นไปไม่ได้ครับ แต่ผู้ขายก็ต้องมีจรรยาบรรณ ไม่ใช่เอาน้ำ 93-94มาแล้วบอกว่าเป็น97 อันนี้มันจงใจ
ตำหนิ ข้อนี้เป็นปัญหาตลอดเลย ส่วนใหญ่คนขายชอบบอกว่าไม่มีตำหนิ อันนี้ผมคิดเอาเองนะว่า บางทีคนขายก็ไม่รู้ว่าคนซื้อมีความรู้เรื่องเพชรแค่ไหน เลยเลี่ยงที่จะบอกเป็นเกรด อาจเพราะขี้เกียจอธิบาย และอีกข้อคือ คนขายตามเค้าเตอร์ ก็ไม่ได้มีความรู้มากพอที่จะอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ เลยเลี่ยงไม่พูดดีกว่า
และส่วนใหญ่ที่คนขายพูดว่าไม่มีตำหนิ จากประสพการณ์ เพชรพวกนี้จะอยู่ในช่วงVS **เพชรเม็ดเล็กไม่มีVS1-2ครับ** ความหมายของคำว่าไม่มีตำหนิ จะประมาณว่าไม่มีตำหนิให้เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งจะอยู่ในช่วง VSครับ
ทำไมเพชรเม็ดเล็กถึงนิยมใช้VS-SI
ลองนึกดูครับ ถ้าแหวนเพชรที่ขายในร้านA ราคาตั้งขาย 30,000 บาท แต่ร้านBขายแหวนเหมือนกันเลย ราคาแค่ 25,000บาท คุณจะซื้อร้านไหน ซึ่งตำหนิในระดับของVSมันก็ไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นอยู่แล้ว พอทำออกมาเสร็จแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่า แหวนสองวงที่ใช้เพชรคนละเกรด แต่ออกมาเหมือนกับเป๊ะ และจะใช้VVSไปทำไม ขายก็ยาก ราคาก็แพง
เบื่อกันหรือยังครับ ถ้ายังไม่เบื่อก็ต่อกันด้วยcuttingต่อเลย
เรื่องของcuttingนี่สำคัญมากๆเลยนะครับ จะได้เพชรดีหรือไม่ดีนี่cuttingนี่แหละเป็นหัวใจเลย แต่ถ้าลองสังเกตุกันจริงๆแล้ว ตามพฤติกรรมการซื้อเพชรของลูกค้า ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญของcuttingเป็นส่วนสุดท้ายเลย บางทีคนขายแค่บอกว่าเป็นเบลเยี่ยมคัท ก็โอเคเพชรสวยแน่นอน แต่ถามหน่อยครับ ทั้งคนขายและคนซื้อเลยว่า อะไรคือเบลเยี่ยมคัท
คนซื้อบางส่วนเข้าใจว่าเป็นเพชรที่เจียรนัยที่เบลเยี่ยม โอเค ถูก20% บางส่วนบอกว่าเป็นเพชรที่เจียรนัยได้ยอดเยี่ยม ก็ถูกอีก แต่ความเป็นจริงแล้ว คำว่าเบลเยี่ยมคัท เป็นแค่trading termให้ลูกค้าเข้าใจว่าเป็นเพชรสวย เพชรดี แต่ไม่ได้หมายความว่า เพชรเม็ดนั้นๆ เจียรนัยที่เบลเยี่ยมจริงๆ ขอบอกอีกด้วยความสัตย์จริง ลองคิดดูว่า เพชรส่วนใหญ่ในตลาดเมืองไทย ใครเป็นคนนำเข้ามา แขก แล้วเป็นแขกอินเดียด้วย แล้วแขกอินเดียจะไปเอาเพชรที่เบลเยี่ยมมาทำไม ค่าตั๋วไปก็แพง กลับไปเอาที่อินเดียดีกว่า ถูกกว่า แถมเป็นประเทศบ้านเกิด ย่อมต่อรองราคาได้ดีกว่าอยู่แล้ว
แล้วเบลเยี่ยมคัทมาจากไหน ทำไมถึงต้องเป็นเบลเยี่ยม เป็นประเทศอื่นไม่ได้หรอ แถมให้เป็นเกร็ดความรู้นิดนึงว่า ถ้าใครเคยดูBlood diamond มันจะมีบริษัทนึงที่คุมตลาดเพชรอยู่ หลายคนคงคุ้นๆกับชื่อนี้ De Beers ซึ่งเพชรในโลกนี้กว่า 80%เป็นเพชรที่มาจากบริษัทนี้ทั้งสิ้น
ซึ่งDe beers จะมีวิธีในการจำหน่ายเพชร โดยจะตั้งกลุ่มผู้ซื้อที่เรียกว่าsight holder ก็คือบริษัทเพชรใหญ่ๆนี่แหละครับ ไปกว้านซื้อแร่เพชรจากde beersมาเจียรนัยแล้วขาย โดยDe beersด้วยความที่คุมตลาดมันอยู่เจ้าเดียว ก็เลยสามารถกำหนดได้ว่า จะขายอะไรให้กับใคร ซึ่งเพชรที่มีขนาดใหญ่จะจำหน่ายให้กับบริษัทจากเบลเยี่ยม เพราะมีฝีมือและความชำนาญในการเจียรเพชรเม็ดใหญ่มากกว่า ส่วนอินเดียที่ค่าแรงในการเจียรถูกกว่าก็เอาพวกเม็ดเล็กๆไป ประมาณนี้แหละครับ
นอกเรื่องไปเยอะแล้ว เอาcuttingต่อให้จบดีกว่า
จากข้างบนที่ผมกล่าวอ้างไปถึงเพชรเบลเยี่ยม ซึ่งคนขายบางคนก็ยังไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร อ่ะ แล้วเราจะมีวิธีเลือกเพชรที่เจียรนัยสวยๆได้อย่างไร
วิธีแรก ไม่ยากเลย ถ้าเป็นเม็ดใหญ่ก็ดูเอามันจากใบcertificateนั่นแหละ **เน้น มีบางร้าน เวลาขายชอบบอกว่าเอาใบรับประกันของทางร้าน หรือเอาใบcertificateจากlabไหนให้เราก็ไม่รู้ ขอย้ำอีกครั้งว่า จะซื้อเพชรเม็ดใหญ่ อย่าไปงกกับใบcertificateแค่ไม่เท่าไหร่ โดยใบcertificateต้องมาจากlab GIA, HRD, IGI เท่านั้น โดยราคาก็จะตามที่ผมเรียงเลยครับ GIAจะน่าเชื่อถือที่สุด รองลงมาก็ HRD และ IGIสุดท้าย
ขอเน้นอีกรอบเลย ใบรับประกันของทางร้าน เป็นแค่เศษกระดาษ ถ้าเกิดวันไหนคุณจะเอาเพชรไปขาย แล้วร้านที่เค้าตีราคาให้คุณ ตีน้ำหรือตำหนิให้คุณต่ำกว่าใบรับประกัน คุณไม่สามารถเอาใบรับประกันไปอ้างอิงได้
วิธีที่สอง ไม่ยากเหมือนกัน เอามาส่องดูด้วยตาเปล่านี่แหละครับ โดยสังเกตจาก
1) Brightness หรือความสว่าง เพชรที่เจียรนัยดี เวลาอยู่ในที่สว่างแล้วต้องขาว โดยทั่วๆกัน ถ้าเพชรที่เจียรนัยแย่ อาจจะมีมืดตรงกลางเป็นจุดใหญ่ๆ
2) Fire หรือ ไฟนั่นแหละครับ เพชรที่เจียรนัยดีต้องมีไฟ โดยสังเกตจากสีของไฟที่สะท้อนออกมา ต้องมีครบเจ็ดสี บางสีอาจจะเห็นไม่ครบ หรือสังเกตยากหน่อย และต้องให้ทั่วๆเวลาที่ขยับเพชรไปมา
3) Scintillation หรือ ค่าcontrastระหว่างสีดำกับสีขาว ลองเอามาดูครับ จะเห็นว่าในเพชรเนี่ย จะมีทั้งส่วนที่ดำและขาว ให้ดูว่ามันเห็นตัดกันชัดเจนหรือไม่ ถ้าชัดก็ดีครับ แต่หลักสำคัญๆก็จะอยู่ที่ fire and brightnessมากกว่า
เอาเป็นว่า ขอตัดจบตรงนี้ก่อนแล้วกันครับ ยาวมากไปแล้ว เดี๋ยวอ่านมากๆแล้วจะงงกัน ถ้ามีข้อสงสัยหรืออะไร ลองสอบถามมาทางหลังไมค์ก็ได้ครับ