ขอบคุณมากๆๆค่ะ :) จะพยายามเข้าใจเขาให้มากๆๆนะค่ะ
Printable View
ก่อนอื่นต้องขอเอาใจช่วยให้คุณดอริสคลี่คลายปัญหาได้ไวๆนะคะ ส่วนตัวพิและสามีเราจะมีข้อตกลงกันก่อนแต่งงานคือ... เราต้องคุยกันแบบเปิดเผยไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามจะน้อยใจเรื่องไหนโกธรกันเรื่องอะไร จะคุยกันค่ะจะไม่มีการปิดบังกัน เพราะถ้าเริ่มมีความลับหรือปิดบังกันเมื่อไหร่ปัญหาที่ว่าเล็กๆจะกลายเป็นปัญหาใหญ่โตขึ้นมา...ทันที!!!!
โดยส่วนตัวพิกะสามีอยู่คนละที่ซึ่งก็จะใช้เวลาคุยโทรศัพท์กันทุกวันและบินไปกลับกันเอา...ซึ่งเราสองคนอยู่ไกลกันคนละซีกโลก เราสองคนไม่สามารถมองเห็นพฤติกรรมซึ่งกันและกันได้ตลอด แต่จะยึดคติคือความรัก ความเชื่อใจ การให้เกียรติซึ่งและกันและกัน เปิดเผย และซื่อสัตย์... พิว่าทั้งหมดนี้มันสำคัญนะเพราะคนเราเป็นสามีภรรยากันไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลเราก็สามารถหาเรื่องมาทะเลาะเบาะแว้งหรือมีคนอื่นได้ ถ้าคนใดคนนึงอยากทำ...จริงไหม?? เพราะฉะนั้นเราเลยถือคติว่าจะต้องซื่อสัตย์และให้เกรียติคนที่เรารักและจะไม่ทำให้ใครคนใดคนนึงเสียใจ ตั้งแต่แต่งและมีลูกมาก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรใหญ่โตกันค่ะ มีแต่งอนกันบ้างนิดหน่อยแต่จะไม่ปล่อยให้เกินข้ามคืน ไม่เค้าง้อเราก่อนเราก็ง้อเค้าก่อนค่ะ....ทุกๆครั้งในการคุยโทรศัพท์หรือเจอหน้ากัน เราก็จะบอกรักกันตลอดค่ะ...อย่างน้อยๆๆพิว่าคำว่ารัก ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อแถมยังเหมือนน้ำทิพย์ที่มาชะโลมใจเราด้วยค่ะ ;-)
แต่ในเคสของคุณดอริส : ทุกอย่างมันยังไม่สายเกินแก้ค่ะ...
1.ก่อนอื่นลองดูว่าเราเปลี่ยนไปไหมหลังจากแต่งงานกะเค้า ?? อันนี้หมายถึงทุกๆเรื่องนะคะ
2.เหมือนที่เพื่อนๆแนะนำค่ะ ทำใจให้สบายอย่าเครียส...แล้วค่อยๆลองคุยกะเค้า ลองบอกสิ่งที่เรารู้สึกและลองคุยกันว่าเราสองคนควรปรับส่วนไหน ยังไง... ของอย่างงี้ต้องร่วมมือกันทั้ง2ฝ่ายนะคะ
3.หมั่นเอาใจใส่เค้าให้มากขึ้น และลองหาวันหยุดไปเที่ยวกันสองต่อสอง...
4.อันนี้สำคัญนะคะ >> เรื่องบนเตียงค่ะ ลองสังเกตุดูนะคะว่าพฤติกรรมบนเตียงของคุณและเค้าเปลี่ยนไปไหม คนส่วนใหญ่ชอบมองเรื่องอื่นก่อน แต่สำหรับผู้ชาย(เหมือนอย่างคุณเป๊บซี่..ว่าไว้ข้อความด้านบนอ่ะค่ะ)เรื่องพวกนี้สำคัญนะคะ สำคัญพอๆกับการทานข้าวก็ต้องดื่มน้ำอ่ะคะ :D:D เรื่องบนเตียงไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเรื่องนั้นเรื่องเดียวนะคะ อาจหมายถึงการโอบกอดหรือหอมแก้มก่อนนอน แค่นี้ก็รู้สึกอบอุ่นแล้วล่ะค่ะ
เพราะอย่างที่เพื่อนๆว่าแต่งงานแค่2ปี มันก็ยังอยู่ช่วงเริ่มต้นของการปรับตัว เพราะฉะนั้นการเริ่มที่จะคุยหรือปรับตัวกันระหว่างคุณสองคนก็ยังเป็นเรื่องที่ทำได้ ยังไม่สาย อย่าปล่อยให้เรื่องนี้เลยตามเลย เลยค่ะ มันจะทำให้ชีวิตการแต่งงานของคุณดูน่าเบื่อและพิเชื่อว่าไม่มีใครที่จะอดทนอยู่กับความน่าเบื่อได้นาน ถึงวันนั้นแล้วมันอาจทำให้ทุกอย่างสายเกินแก้นะคะ....
พิเอาใจช่วยคุณดอริสอีกแรงนึงค่ะ สู้ๆๆ นะคะ สู้เพื่อเรียกชีวิตรักของเรากลับมาค่ะ.....
พิเองไม่ใช่คนเก่งหรือรอบรู้อะไร ถ้าคุณดอริสอยากได้เพื่อนอีกซักคน พิยินดีเป็นเพื่อนคุณดอริสนะคะ..... ยินดีที่จะช่วยและเป็นกำลังใจให้ค่ะ
http://farm4.static.flickr.com/3249/...71e6d21c62.jpg
สู้ๆน่ะค่ะพี่สาวคนสวย
ยังไง เราก็เลือกคนนี้ คนที่ดีที่สุด มาแล้ว อารมณ์คนเราก็งี้แหละ เด๋วดีเด๋วร้ายอ่ะเนอะ
ยิ่งผู้ชายน่ะ พอแต่งงานก็เหมือนเข้าสู่วัยทอง 555+
เป็นกำลังใจให้พี่สาวคนนี้เสมอน่ะจ๊ะ....
ผู้หญิงเราก็ดีนะค่ะ พอได้คุยเรื่องสามีปุ๊บ ก็สามารถเม้าท์ ไม่ใช่ให้คำปรึกษากันได้เลย อกเค้าอกเราน่ะค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
ปล่อยไว้แบบนี้นานเกินไปไม่ดีแน่
ถ้ามีมือที่สามเข้ามาในช่วงแบบนี้ น่ากลัวเลยค่ะ
ลองคุยกันดีๆ ให้เข้าใจกัน ว่าเค๊ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า
หรือเราทำอะไรให้เค๊าไม่พอใจหรือเปล่า
คุยกันแบบกัลญาณมิตรนะ อย่าคุยแบบเจ้าหนี้มาตามทวงนี้หละ:D
ขอให้เข้าใจกัน และรักกันนานๆๆๆๆๆ ตลอดไปนะคะ
เพิ่งรู้ว่าน้องดอริสแต่งงานแล้ว อ่านแล้วต้องถอนหายใจเลย เจอแบบนี้ก็คงเครียดเป็นธรรมดา ยังไงลองคุยกับเค้าดูนะคะ ว่าเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น เป็นสามีภรรยากัน ต้องคุยกันได้ทุกเรื่อง เป็นแบบนี้แล้วเสียสุขภาพจิตน่ะค่ะ ยังไงพี่เอาใจช่วยนะคะ
aja aja fighting (เอ่อ อารมณ์บ้าละครเกาหลีฮ่ะ เพิ่งกลับมาดู full house ทางยูทู้บอีกรอบ หลังจากดูมาแล้วหลายรอบ เลยเอาคำฮิตของพระเอกนางเอกเวลาบอกกันและกันให้สู้ ๆ มาใช้ อิอิ)
จะพยายามนะค่ะ คือตอนก่อนแต่งก้อตกลงไง้แบบนี้เหมือนกันคะ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ไม่เปนตามนั้น
ดอริสพยายามจะเข้าใจเขามากที่สุด ที่บ้านนี้มีแต่ผู้ชาย และเป็นประเภทที่ว่า ไม่เข้าใจเรื่องผู้หญิงเอาซะเลย เขาอยู่กันแบบแมนๆค่ะ พูดน้อย ส่วนเราพูดมาก จนเขาคงจะรำคาญ ดอริสก้อพยายามปรับตัวนะค่ะ พยายามนะ แต่บางทีก้อเหนื่อยยๆ ค่ะ แต่ขอบคุณมากนะค่ะ คุณพิ **
ก่อนอื่นต้องขอเป็นกำลังใจให้คุณDoris ด้วยคนนะคะ ถ้าคิดว่าเรารักสามีคนนี้ ต้องรักในความเป็นเขาด้วย ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น หันหน้าคุยกัน ระยะเวลาผ่านไปเพียงสองปีเอง สำหรับพี่ผ่านไปสามสิบสามปีแล้ว มีทุกรูปแบบ เคยมีปัญหากับคุณแม่สามี เคยไปอำเภอเพื่อขอหย่า แต่ด้วยความอดทนของเรา และที่สำคัญบนพื้นฐานจากความรักของเรา เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ผ่านไปได้ จนถึงทุกวันนี้
คิดเหมือนพี่ดิวเลยค่ะ ว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ เท่าที่ดูๆแล้วคุณก็พยายามปรับตัวและทนทุกอย่างนี่นาแต่ทำไม๊ ทำไมเวลาที่คุยกับเราแล้วถามคำตอบคำละที่เวลาคุยกับเพื่อนแล้ว เฮฮา ตอนก่อนที่จะแต่งงานนีน่ากับคุณสามีเคยเกิดเหตุการ์ณแบบนี้เหมือนกันสมัยที่เป็นแค่แฟน "พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย พยายามทำดีก็แล้ว เอาอกเอาใจสารพัด แต่พ่อตัวดีก็ทำเป็นเมินเฉย เย็นชา" จนนีน่าทนไม่ไหว ปรี้ดแตกจับเข่าคุยกัน ปรากฎว่า "เค้าไปชอบผู้หญิงอีกคนหนึ่งค่ะ" และอยากจะเลิกกับเราแต่ว่าไม่รู้จะทำอีท่าไหน เลยต้องทำ "มึนตึง" ใส่เราซ่ะงั้น :(
คุณดอริส บอกเค้าไปเลยค่ะว่าเราไม่สบายใจเลยนะที่เค้าทำแบบนี้ ลองค่อยๆพูดกันดู อาจจะชวนเค้าไปพักผ่อนต่างจังหวัดกันบ้าง คนเป็น "สามีภรรยากัน" มีอะไรต้องเปิดอกคุยกันนะค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ผ่านพ้นไปด้วยดีนะค่ะ ;)