ไปโพสท์ในพันธ์ทิพย์เลยค่ะ ถ้าแฟนอ่าน คคห.ที่เสนอเข้ามา อาจทำให้เค้ามองตัวเองออกว่าเรียกร้องมากเกินไปค่ะ
Printable View
ไปโพสท์ในพันธ์ทิพย์เลยค่ะ ถ้าแฟนอ่าน คคห.ที่เสนอเข้ามา อาจทำให้เค้ามองตัวเองออกว่าเรียกร้องมากเกินไปค่ะ
อ่านแล้วเห็นใจจขกท จังค่ะ คิดว่าควรจะหัดปฏิเสธบ้างน่ะค่ะ
เพราะคุณก็กู้แทนมา 2 หลังแล้ว ถ้าจะเพิ่มอีกหลังนึงมันดูจะหนักเกินไป
ลองหาทางคุยกับแฟนดูว่าให้ผ่อนหมดซักหลังนึงก่อนจะดีกว่ามั้ย
หรือไม่ก็ลองให้กู้ร่วมดูค่ะ ติดภาระแค่ผ่อนรถไม่น่าจะกู้ไม่ผ่านค่ะ นอกจากจะติดบูโรเรื่องอื่น
เอาใจช่วยนะคะ
ต้องขออภัยคุณ จขกท. อย่างมากค่ะ เภาอ่านไม่ละเอียดเอง -__-"
เคยบอกว่า
เคยเจอกรณีแบบนี้
ทุกวันนี้โดนไปแล้ว
ไม่ได้เข้ามาให้คุณไขว้เขวแต่อย่างใด
แต่อยากบอกให้คุณรักตัวเองหน่อย
เพราะถ้าเวลา(ที่ต้องเสียเงิน)มาถึงจิงๆๆคุณนั่นแหละ...
ว่าจะอ่านอย่างเดียวนะนี่ ขออนุญาตแจมหน่อยแล้วกันนะคะ
ปกติถ้าเราจะให้เพื่อนหรือแฟนยืมเงินนี่ ก็จะเตรียมใจว่าจะไม่ได้คืน เพราะฉะนั้นก็จะให้ยืมเท่าที่เราให้เค้าไปได้แล้วไม่เสียดาย ตั้ง credit limited ให้แต่ละคน ทีนี้ถ้าจะไม่ได้คืนก็ไม่เครียดมาก
กรณีนี้ เราว่าคุณ จขกท ก็ยังไม่เสียอะไร มองว่ายังได้อยู่ เพราะเป็นคนกู้จริง แต่มีชื่อเป็นเจ้าของ คนผ่อนคือแฟน (เข้าใจถูกมั๊ยค่ะ) สมมติต่อไปแฟนส่งค่าผ่อนไม่ไหว แล้วคุณ จขกท ต้องผ่อนต่อจนหมด (ซึ่งก็น่าจะมีกำลังผ่อนอยู่) พอผ่อนจนหมด ก็เป็นสินทรัพย์ของคุณนั่นเอง แต่มีคนช่วยผ่อนระยะแรกให้ หรือถ้าแฟนผ่อนจนหมด คุณ จขกท ก็มีชื่อเป็นเจ้าของอยู่ดี จนกว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ให้แฟน
เรามองว่าคุณแฟนของ คุณ จขกท ก็ต้องรักและไว้ใจคุณมากเหมือนกัน คงไม่แพ้กันหรอกค่ะ เพียงแต่เค้าชอบเสี่ยง ชอบลงทุน
เอาอย่างนี้ดีมั๊ยคะ ลองประเมินสถานะการเงินของตัวเองดู ว่าถ้าจะต้องกู้ซื้อบ้านอีกหลังนึง ซึ่งเป็นหลังที่สาม เกิดว่าแฟนไม่สามารถผ่อนต่อได้ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร คุณ จขกท สามารถผ่อนเองต่อไหวมั๊ย ถ้าไหวและรักเค้ามาก ก็กู้ ถ้าไม่ไหวแต่รักเค้ามาก ก็กู้ (เพราะถ้าไหวแต่ไม่รักเค้า ก็ไม่รู้จะกู้ไปทำไม) ^ ^ เพราะถึงยังไงคุณจขกท ก็สามารถขายทิ้งได้นี่ค่ะ สมมติซื้อมา สี่ล้าน ราคาตั้ง หกล้าน คุณแฟนผ่อนไปได้ประมาณนึง สมมติ ห้าแสน คุณจขกท ขายไป สามล้านห้า ก็น่าจะไม่ยาก
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรารู้รายละเอียดประมาณนึง ตามที่คุณ จขกท บอก ที่เหลือที่ไม่รู้ก็อาจเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจ ยังไงก็ลองพิจารณาดู ถ้าเห็นว่าไม่มีประโยชน์ก็อย่าเอาไปคิดให้เปลืองสมองเลยค่ะ
เอาเป็นว่า ขอเอาใจช่วยแล้วกันนะคะ เพราะคุณจขกท คงต้องมีภาระผูกพันกับคุณแฟนอีกนาน (เพราะผ่อนบ้านตั้งยี่สิบปี) แก่ไปด้วยกันเลยค่า ^ ^
ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็นและกำลังใจนะครับ
ผมเองก็กังวลใจในเรื่องความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเงินๆทองนี่ล่ะครับ อย่างที่ว่ากันว่าเงินทองไม่เข้าใครออกใคร
ปัญหาเรื่องเงินๆทองๆของแฟนและครอบครัวแฟนผมมากมายและซับซ้อนมากๆครับ การกู้ร่วมคงไม่ได้ เพราะเห็นว่าตอนนี้แฟนผมเองก็ติดเรื่องเครดิตบูโรอยู่เช่นเดียวกัน ผมเลยต้องออกหน้ากู้ให้
มันเป็นเหมือนตกกะไดพลอยโจนครับ เนื่องจากตัวผมเองรับทราบปัญหาทางการเงินของครอบครัวเค้ามาก และด้วยความที่รักแฟนและรักคนอื่นๆในครอบครัวเค้า เหมือนเป็นครอบครัวตัวเอง ( ผมขาดทั้งพ่อทั้งแม่ครับ พอมาครอบครัวแฟนดีกับผมมาก เลยรู้สึกผูกพันมาก )
ในตอนแรก อะไรที่ผมตรองดูแล้วว่าไม่เสียหาย ไม่ลำบาก ผมก็ยอมทำให้ครับ เรื่องกู้บ้าน 2 หลังนั่นก็เหมือนกัน ผมตรองดูแล้วว่ามันจำเป็นกับพวกเขา
แต่ไอ้หลังที่สามนี่สิครับ ผมกระอักกระอ่วนใจมากมาย จะไม่ช่วย ก็รู้สึกผิดอยู่ในใจยังไงไ่ม่ทราบ ไม่รู้จะอธิบายให้เพื่อนๆฟังยังไง เพราะไม่ใช่แต่แฟนที่ขอร้อง คุณแม่ของเขาก็มาขอร้องผม เหมือนผมเป็นหนทางเดียวแก่พวกเขา ผมไม่รู้จะปฎิเสธออกมาได้ยังไง ยอมรับว่าผมใจไม่แข็งพอจริงๆครับ
ขอน้อมรับทุกคำแนะนำจากเพื่อนๆ ทุกสิ่งที่ทุกท่านแนะนำมา ผมจะนำมาคิดให้ถี่ถ้วนที่สุดครับ
ตอนนี้มันตื้อๆมึนไปหมด จริงๆครับ
ขอบคุณมากครับคุณโกโก้ เป็นความคิดที่น่าสนใจอย่างยิ่งครับ
แต่ปัญหามันมีอยู่ว่า ผมไม่ทราบเลย ว่าเค้ายื่นแบงค์ไหนไปแล้วบ้าง รู้แต่ว่า เตรียมยื่น 7 แบงค์
ซึ่งทางแบงค์เวลาโทรเช็ค มันโอนสายไปหาแฟนผม ผมจะรู้อีกทีก็ตอนที่เจอกับแฟนหรือโทรคุยกัน
ว่าแบงค์ไหนโทรมาแล้ว
เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ผมควรจะโทรไปแผนกสินเชื่อ เพื่อขอติดต่อผู้จัดการของทั้ง 7 แบงค์ที่ยื่นไปเลยอย่างนั้นหรือไม่ครับ
หรือรอก่อน ให้รู้แน่ว่าแบงค์ไหนติดต่อมาแล้ว ค่อยโทรไป อย่างไรดีครับ
อีกอย่างหนึ่ง
ถ้าหากว่าผมโทรเข้าไปที่บริษัทเครดิตบูโรเองเลย ทำทีว่าสงสัยว่าทำไม มีคนที่ยื่นกู้บ้าน 2 หลังในเวลาใกล้ๆกัน แล้วจะสามารถกู้ได้อีกหลัง แล้วบอกชื่อนามสกุลให้เค้าเช็คให้ อย่างนี้จะได้ไหมครับ
แต่เท่าที่ผมทราบ หากทาง 2 แบงค์แรกที่กู้ผ่านไปแล้ว ยังไม่ส่ง record ของผมเข้าไปที่บริษัทเครดิตบูโ่ร มันก็จะยังไม่โชว์ ใช่ไหมครับ
ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ
ที่คุณกล่าวมา แทบจะตรงกับความคิดของแฟนผมเลยครับ ว่างานนี้ไม่มีเสีย มีแต่จะได้ เพราะส่วนต่างที่ได้มาก็มาอยู่ อย่างน้อย 2 ล้าน ถ้าผ่อนไม่ไหว ขายไปก็ไม่เจ็บตัวมาก เพราะได้กำไรตั้งแต่ต้น
( เป็นเหตุผลที่แฟนผมยกมาอ้างบ่อยมากครับ )
แต่ผมเองไม่ชอบการเสี่ยงแบบนี้ครับ ผมบอกเค้าไปแล้ว แต่อย่างที่เรียนให้ทราบว่า เค้าก็ยังยืนยันจะให้กู้อยู่ดี บอกให้ลองกู้ดูก่อน ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
แต่ผมว่า มันจะกู้ได้น่ะสิครับ จะทำยังไงให้กู้ไม่ผ่านได้บ้างนี่
เห็นใจ จขกท มากๆๆ
แต่สิ่งที่คุณทำอยู่มันเสี่ยงมากๆๆ
เราก็ไม่รู้ว่าคุณคบกันมานานรึยัง
แต่ก็น่าจะนานพอถึงกับไวใจกู้ให้สองหลังแล้ว
แต่ผมมองว่า Nothing last forever n
All good things come to an end.
ตอนนี้คุณมองเห็นว่าผลลัพท์มันอาจจะเกิดเรื่องไม่ดีได้
และทำแล้วไม่สบายใจ แถมยังต้องเสียเงินเสียทองด้วย
แต่ถ้าคุณยังปล่อยหรือตัดสินใจทำ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คุณคือคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบใน
การตัดสินใจของตัวเอง โทดใครไม่ได้แล้ว
แล้วถ้าเลิกกันจะเกิดอะไรขึ้น คิดดีๆนะ