***ช่วยด้วยค๊า.....อยากผอม****

Quote:

---

Originally Posted by Naparuedee

เค้าบอกว่าให้ sit up 200 ที เช้าและก่อนนอนทุกวัน
เดินเร็ว 30 นาที อาทิตย์ละ 3 ครั้ง
ปั่นจักรยาน 30 นาที อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

แล้วจะผอมเพรียว หุ่นดี ไม่ต้องควบคุมอาหารด้วย แต่ ทำไม่ไหวอ่ะ ใครเอาไปทำแล้วได้ผลช่วยบอกด้วยนะคะ

---

โฮกกกกก .. ปกติปัจจุบันนี้ฟิตครั้งละ 30 เช้ากะก่อนนอน ก็ว่าโอเคแล้ว
เจอสูตรนี้ ท้าทายมากค่ะ
เดี๋ยวเริ่มคืนนี้เลย

แต่มีอยู่วันนึงลองทานมะละกอ กับน้ำเต้าหู้ แบบที่มีเพื่อนๆเคยมาลงบอกไว้
ลดไปเลยวันนั้น 4 ขีด .. อัศจรรย์มากค่ะ
แต่ทำได้วันเดียว - -"

ปล, งานนี้คงจะแบนราบกันไปเลยทีเดียวว

Quote:

---

Originally Posted by srichardson

เพื่อนทำวิธีนี้ค่ะ ทานอาหารครบทุกสามมื้อแต่ "งดของทอดของมัน ทานคาร์โบโฮเดรดน้อยมากๆ ถ้าเป็นขนมปังจะต้องเป็นโฮลวีทเท่านั้นหรือขนมปังดำ และได้แค่วันละหนึ่งแผ่น ดื่มแต่กาแฟดำ และออกกำลังกายโดยวิธีเดินหรือวิ่งลู่" ทุกวันเช้าและก่อนนอนหรือยกตัวอย่างเช่นบ้านเธออยู่สุขุมวิท 49 จะไปซื้อของที่มาบุญครองหรือเซ็นทรัลชิดลมหรือประตูน้ำเธอใช้วิธีแต่งตัวชุดออกกำลังกายสวมแว่นกันแดด เสื้อแจ๊กเกต สะพายเป้หลังที่บรรจุน้ำดื่มกระเป๋าตังค์โทรศัพท์มือถือหรือของที่ต้องใช้ไว้แล้วเริ่มเดินค่ะ เดินจริงๆค่ะพี่น้อง เดินไปทุกที่ที่เธอต้องการจะไปแล้วขากลับก้อให้คนขับรถไปรับค่ะ ปรากฎว่าเธอน้ำหนักลดลงเป็นสิบกี่โล พอมเพรียวใหญ่เลยค่ะ แต่เราทำอย่างเธอไม่ได้อ่ะ และตอนนี้มีพวกเพื่อนทำตามอย่างเธอน้ำหนักก้อลงกันใหญ่เลยเหลือแต่เรานี่แหล่ะ พี่น้องงงงงงงงงงงงงงงง ฮือออออออออออออออออ ป.ล พวกเธอทั้งหมดเป็นฝรั่งค่ะ :D เราเคยเจอเธอเดินท่อมๆอยู่แถวๆพระรามสี่หวังดีจอดรถแวะรับ ชีบอก "โนแต้งกิ้ว ไอแค่เดินไปชอปปิ้งที่คาร์ฟูร์แค่นั้นเอง" :confused:

---

เราเคยเดินจาก BTS อ่อนนุช (สุขุมวิทเท่าไหร่หว่า) ไปพระพรหม
ใช้เวลาประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง เดินไป คุยกะเพื่อนไป
เหงื่อโทรมกายเลยทีเดียวค่ะ
ไม่รู้ว่าลดไปเท่าไหร่ แต่กิน Mc ต่ออ่ะค่ะ เลยไม่ได้ช่วย - -"

ตอนนี้เราลดอยู่ค่ะ ตอนเช้าดื่มไวตามิลค์ 1 ขวด

เริ่มเที่ยง ๆ หรือบ่ายโมง กินผัดวุ้นเส้น

กินทุกวัน ผัดกับหมู+ไข่+กะหล่ำปลี+ผักกาดดอง

เอาแบบที่เราชอบ ทานเที่ยงมือเดียว แต่กินเยอะ ๆ

ตอนเย็น กินน้ำปั่น squeeze (เค้าบอกไม่ค่อยอ้วน)

หรือไม่ก็ไวตามิลค์ 1 ขวด หรือไม่ก็ผลไม้

น้ำหนักมันจะค่อย ๆ ลงค่ะ ตอนนี้ลงมา 2 โลแล้ว

อาทิตย์ละโล แต่คาดว่าต้องกินแบบนี้อีก 2 เดือน

จะบ้าตาย อยากลงอีกเกือบ 6 โล แต่ยอมเพื่อความงาม

เห็นตัวเองแล้วทุเรศจริง ๆ ใส่เสื้อผ้ายากมาก ๆ

ทำให้เราไม่อยากแต่งตัว ก็ยิ่งทุเรศน่าเกลียดเข้าไปใหญ่

ต้องอดทนลูกเดียวค่ะงานนี้เอาใจช่วยนะคะ

วันนี้ฟังวิทยุเค้าบอกว่าน้ำหนักเพิ่ม 1 กิโล

ทำให้ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักเพิ่มถึง 4-5 กิโลเชียว

ฟังแล้วสงสารร่างกายตัวเอง เพื่อความสวย

แต่อีกอย่างเพื่อสุขภาพด้วยค่ะ

พออ้วนขึ้นใส่ส้นสูงนิดเดียวก็เมื่อย เดินมากก็เมื่อ เ

ส้นก็ตึง ไม่มีอะไรดีค่ะ

สู้ ๆ นะคะ:D

กินยาลดความอ้วนมาหลายที่มากๆ แต่ตอนที่กินกับรพ.ย ฮ แล้วไปเจาะเลือดตรวจสุขภาพประจำปี หมอทักว่าจะเป็นธัยรอยด์ เลยเลิกกินไป

ตอนนี้ทานลิโซ่อยู่ อยากรู้เหมือนกันว่าจะลดจริงมั้ย เพราะคนอื่นเค้าลดกันฮวบๆ
วันแรกใจสั่น งงๆหัวนิดหน่อย วันที่สองหายแต่คอแห้งแทน วันนี้วันที่สี่แล้วก็โอเค คอแห้งนิดหน่อย พยายามกินน้ำเปล่าเรื่อยๆ แต่ก็ยังหิวเหมือนเดิม
แต่เอ่อ มันไม่ถ่ายน่ะคะ มีใครกินยาตัวนี้แล้วเป็นแบบนี้มั่งมั้ยคะ

ซิทอัพก็ได้ผลนะ ลูกพี่ลูกน้องก็ตัวสูงใหญ่ แต่เธอเพิ่งจะม.4 ม.5 เธอเลยมีแรงฮึดเพราะกะลังจะเป็นสาว เค้าซิทอัพวันละ 100 ครั้ง หน้าท้องเธอแข็งมาก

เป็นคนที่พอหิวแล้วตาลาย สั่งอาหารเต็มโต๊ะเลย ทานเร็ว ปาร์ตี้บ่อยพอกลับก็ทานข้าวต่อ
เป็นอย่างนี้แค่ไม่ถึงปีขึ้นมาเป็นสาว size L ทันทีค่ะ เด๊ยวนี้มื้อนึงต้องสั่งสองจานเป็นอย่างต่ำ
แต่ทานไม่หมดทั้งสองจานนะคะ มันติดนิสัยต้องทานอ่ะค่ะ
คุนพ่อเลยทนไม่ได้ ซื้อเกมส์wii ที่เป็นโยคะมาให้เล่น ช่วยได้นะคะ เหมือนเรานั่งออกกำลังแข่งกับทีวี ทั้งtennis มวย สนุกดีค่ะ ตอนนี้เลยติดเล่นเกม ลดไปสีโลแล้ว ชั่งน้ำหนักทุกวันพอลดจะมีกำลังใจนะคะ คุนจขกท สู้ๆคะ กลับมาเป็นสาวร่างเล็กกันนะคะ

หลิปว่ามันขึ้นอยู่กับ ความอดทน และ อดกลั้น มากกว่านะคะ

ตอนนี้กำลังลดอยู่เลย จากไซส์ทะลุ XXXL มาจนถึงตอนนี้

แบบว่าเป็นช่วงที่พีคที่สุดในชีวิตแล้วค่ะ ย้อนกลับไปดูทีไรต้องคิดในใจ

ว่าทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองบวมได้ขนาดนี้


วิธีการลดของหลิปนะคะ

ตอนแรกเลยเปิดหาสูตรทางอินเตอร์เนต ทั้งสูตรพระเทพ สูตร 3 วัน 7 วัน ต่างๆนานา
ในที่สุดหลิปก็เลยเอามา mix กันและค้นพบสูตรของตัวเอง พูดเหมือนการค้นพบอันยิ่งใหญ่เลยใช่ป่าว

ช่วงแรกที่ลดจะต้อง strict มากๆนะคะ ความอดทนมาเป็นอันดับ 1 อดกลั้น 2

ต้องเล่าก่อนว่าหลิปลักษณะงานของหลิปเป็นงานที่นั่งทำงานหน้าคอมทั้งวันค่ะ

จะมีที่ออกไปหาลูกค้าบ้าง ซึ่งมันทำให้หลิปตัดสินใจที่จะลดความอ้วนเลยแหละ

เนื่องจากคำถามอันเสียดแทงของลูกค้าว่า " เอ่อ...มีน้องรึป่าวคะ "

ตอนนั้นก็ตอบไปอย่างสุภาพหรอกนะ ว่าอะไรจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ว่าในใจอยากจะกรี๊ดๆๆๆๆๆ

เริ่มแรกที่ลด เอามาจากสูตรก่อน คือทานหนมปังโฮลวีทปิ้ง 2 แผ่น กับ ชา 1 แก้ว ในตอนเช้าค่ะ

ตอนกลางวัน จะเตรียมไปทานที่ทำงานเลย ไม่ว่าจะเป็น ไข่ต้ม 2 ฟอง / ยำทูน่า / ส้มตำ / ผัดผัก อะไรก็ตามที่หาได้

ส่วนตอนเย็นจะทานโยเกิร์ต 1 ถ้วย หรือ น้ำเต้าหู้ นม อะไรก็ได้ค่ะ ที่ช่วยเคลือบกะเพาะหน่อย หิวก็หาผลไม้มาทานฝรั่งนี่ดีมาก แอปเปิ้ล

แต่ก็ไม่ได้อดนะ กินทุกมื้อจริงๆ ตอนเย็นบางวันก็กินพวกปลาย่าง- -"

ความทรมานจะอยู่ที่ช่วงแรกซึ่งเพื่อนที่ทำงานรู้ว่าเราลดอยู่ และจะแกล้งหาของมาล่อต่างๆนานา ซึ่งหลิปก็จะนั่งทานคนเดียวแยกมาเลย

หลังก็กินของตัวเองไป แต่เดินไปยืนร่วมดูเค้าทานกันด้วยอ่ะค่ะ แบบว่าชินแล้วประมาณนั้น ต้องใจเด็ดนะคะ

ตอนนั้นหลิปจด บันทึกทุกวันเลยค่ะ ว่าทานอะไรไปบ้างในแต่ละวัน (ไม่ได้ออกกำลังกายเลยนะ แต่บางทีวันหยุดก็ไปเดินชอปปิ้งไรเงี้ย)

เดือนแรก ลดไปได้ 4 กิโล ซึ่งยังมองไม่ออกว่าลดไปเท่าไหร่ แต่ก็ทานแบบนั้นไปเรื่อยๆ ค่ะ ต่อกันมาประมาณ 4 เดือน นน.หายไป 10 โล

ซึ่งทำให้มีกำลังใจมากขึ้นเรื่อยๆอ่ะ จนถึงตอนนี้ 6-7 เดือนแล้วค่ะ นน. ลดลงมาอีกไม่มาก แต่ก็รู้สึกว่าสัดส่วนลดลง รวมจากแรกลดไป 13 กิโลเศษ

โอยยยย ไม่เคยพิมพ์อะไรยาวขนาดนี้มาก่อน อยากมาเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนที่กำลังจะลดความอ้วนด้วยอ่ะค่ะ

สรุปเลยตอนนี้คือพอใจ แต่ว่าก็อยากลดให้เท่ากับตอนเรียนมหาลัย ซัก 55-56-57-58 ให้มันขึ้นเลข 5 ก็จะดีมาก

อ้อ หลิปสูง 170 ค่ะ

ใครมีประสบการณ์การลดความอ้วนอื่นๆ อย่าลืมมาเล่ากันบ้างนะคะ เผื่อได้นำไปลองบ้างอ่ะ

ผู้หญิงอย่างหยุดสวยยยยยยยยยยยย จำไว้ 555 ไปแระ บ๊ายบาย

จะเรียกว่าโชคดีรึป่าวก็ไม่รู้..กลางเดือนที่แล้วป่วยเป็นไวรัสลงกระเพาะ
กินอะไรไม่ได้ไป 2 อาทิตย์ สุดทรมาน
จากน้ำหนัก 51 ตอนนี้ลดลงเป็น 45 ถือว่าเป็นผลพลอยได้ไปซะ
แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่ป่วยดีกว่า:D

Quote:

---

Originally Posted by thongchai9309

ฮืม การลดน้ำหนัก โดยทั่วไปแล้วต้องเข้าใจก่อนว่า การที่น้ำหนักตัวเพิ่มมีสาเหตุจากอะไร จริงๆแล้วแทบจะเรียกได้ว่ามีสาเหตุเดียวคือการทานอาหาร (ในคนปกติที่ไม่ได้เป็นโรคนะครับ) ส่วนใหญ่ผู้หญิงมักจะโทษว่า 1-มีลูกเลยอ้วน 2-พ่อแม่อ้วนเป็นกรรมพันธ์ 3- ทานยาคุม ฉีดยาคุม 4-ทานยาลดน้ำหนัหยุดยาเลยอ้วน 5-ทำหมันเลยอ้วน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดมาตลอด
วิธีการลดน้ำหนักมีวิธีเดียว(เท่านั้น) คือ...การคุมอาหาร โดยทั่วไปผมแนะนำผู้ที่จะลดน้ำหนักทำดังนี้(ไม่ได้บังคับนะครับ)1-คือของเหลวต่างๆให้ทานน้ำเปล่าเป็นน้ำเย็นน้ำอุ่นน้ำแข็งก็ได้แต่ให้เป็นน้ำเปล่า งดให้หมดเลยชา กาแฟน้ำอัดลมทุกชนิด นมจืด นมเปรี้ยว ชาเขียวไมโล โอวัลติน โยเกิร์ต นมพร่อง มันเนย ชาเย๊นโอเลี้ยง น้ำเต้าหู้(แม้จะไม่ใส่น้ำตาลก็ตาม) แก้วมังกร น้ำสำรอง สรุปถ้าไม่ใช่น้ำเปล่าต้องไม่ทานนะครับ 2-มื้อเย็นให้งดจริงๆ ไม่ใช่งดข้าวแล้วไปทานผักผลไม้ ส้มตำ ขนมปังแทน ผมยืนยันว่าการไม่ทานมื้อเย็นไม่ส่งผลเสียใดๆทั้งสิ้นในการกำรงชีวิต เพียงแต่ในช่วงแรกๆ ผู้หญิงมักหงุดหงิน(แทบขาดใจตาย) ให้สังเกตพระดูก็ได้ เพียงแต่ช่วงแรกๆค่อยๆฝึกงดเท่านั้นเองแล้วจะชิน ข้อ2 ส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะทำได้ยากมากครับเป็นปกติอยู่แล้ว 3-งดทานของจุกจิกทุกอย่าง
ส่วนการลดน้ำหนักโดยใช้ตัวช่วยต่างๆเช่น การเข้า M..F หรือที่โฆษณาอื่นๆ แม้กระทั่งยาลดยืนยันว่าไม่มีความจริง ถ้าจริงคนรวยก็ผอมได้ทุกคน หรือ ถ้าจริงลองใช้บริการดูก็ได้ โดยที่เราไม่คุมอาหารเลยลองดูว่าจะลดไหม หรือลองสังเกต คนรวยๆ ทำไมเขาไม่ผอมหุ่นสวยๆ ทั้งที่จ่ายได้ทุกๆอย่าง แต่สิ่งที่ทำไม่ได้คือการคุมอาหารนะครับ
สิ่งที่ผมอธิบายไปส่วนใหญ่แล้วผู้หญิงจะทำไม่ค่อยได้ เพราะเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่ส่วนใหญ่ชอบการรับประทาน ลองสังเกตุดูก็ได้นะครับ เวลาจะทานอะไรก็ตาม ผู้หญิงมักมีเหตุผลในการทานเช่น วันนี้ทานไปก่อนพรุ่งนี้ค่อยงด อันนี้เป็นผักผลไม้ทานแล้วไม่อ้วน อันนี้ทานนิดเดียวไม่อ้วน คือพยายามต่อรองกับตัวเองเพื่อที่จะทานอาหารนั้นๆ เพราะฉะนั้นสังเกตุว่า คลินิกความงามเปิดที่ไหนก็รวยครับ ส่วนเรื่องยาลดน้ำหนัก ถ้าจะทานแนะนำว่า ยาเป็นแค่ตัวช่วยให้ทานได้น้อยลง ทานยาแล้วเรารู้สึกไม่หิวมีปากแห้งคอแห้งให้ทานน้ำมากๆ อันตรายไม่มีถ้ารับการรักษาจากแพทย์นะครับ การหยุดยาไม่มีผลกับน้ำหนักนะครับ ถ้าไม่ทาน พร่ำเพรือยังไงน้ำหนักก็ไม่ขึ้นนะครับ เพียงแต่เวลาหยุดยาจะหิวมากๆ เรียกว่าโหยก็ได้ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะคุมความหิวได้ให้ไปหาหมอเพื่อลดขนาดยาลงหรือที่เรีบกว่าตัดยานะครับ ส่วนการนวดตัว หรือสถานความงามต่างๆ จะกี่แสนหรือกี่ล้านก็ตามก็ต้องคุมอาหาร เหมือนกันนะครับ ส่วนการออกกำลังกายจริงแล้วดีมากแต่เวลาพูดแล้วเหมือนจะทะเลาะกันเพราะ คนที่จะลดต้องสมัครใจทำมากกว่าที่จะบังคับให้ออกกำลังกาย ยังไงก็เอาใจช่วยนะครับ คุมคุมคุมอาหาร

---

ถูกต้องเรยค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบ

สรุปนะครับ...
1. ควบคุมอาหาร
2. ออกกำลังกาย
3. วัดสัดส่วนด้วยสายวัด อก เอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน อย่าชั่งแต่น้ำหนักครับ

อันนี้เด่นอ่านๆ มาแล้วก็วิเคราะห์นะครับ
สิ่งที่ทุกคนทำในการลดน้ำหนักคือ "การอดอาหาร" เด่นว่าผิดนะครับ

ที่ถูกต้องคือ การควบคุมอาหาร และ การออกกำลังกาย

ทำไมบางคนอ้วนง่าย?? ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการอดอาหารครับ เวลาเราอดอาหาร ร่างกายจะปรับกระบวนการเผาผลาญให้น้อยลง เพื่อให้เราอยู่รอดครับ

เพราะฉะนั้น ถ้าเราอดอาหาร ผลคือ
1. ผอม
2. ระบบเผาผลาญต่ำ

ถ้ากลับมาทานปกติ ก็อ้วนครับ เพราะว่าที่ทานไป ร่างกายเผาผลาญไม่หมดครับ

สิ่งที่ต้องทำควบคู่การควบคุมอาหารคือ การทำให้ระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น วิธีการก็คือการออกกำลังกายครับ

กลับมาที่การวัดสัดส่วน ทำไมเด่นถึงบอกว่าเราวัดแต่น้ำหนักไม่ได้? นั่นเป็นเพราะว่าการออกกำลังกายจะทำให้ไขมันหายไป แต่จะมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมาครับ

ปกติมวลกล้ามเนื้อจะหนักกว่าไขมันครับ นั่นหมายความว่า คนที่หุ่นนักกีฬารูปร่างเพรียว สามารถมีน้ำหนักเท่าคนที่อวบกว่าได้ครับ

ถ้าชั่งแต่น้ำหนักอาจจะหมดกำลังใจนะครับ ว่าทำไม ทั้งควบคุมอาหาร และ ออกกำลังกายแล้ว น้ำหนักไม่ลด? จริงๆ ไขมันหายไปแล้วนะคับ แต่มีกล้ามเพิ่มขึ้นมา และระบบเผาผลาญก็ดีขึ้นครับ

ยังไงก็ลองวิเคราะห์และปฎิบัติดูนะคับ จะได้หุ่นดีๆ ระบบเผาผลาญแจ่มๆ กันคับ :D

Quote:

---

Originally Posted by DenMark

ถูกต้องเรยค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบ

สรุปนะครับ...
1. ควบคุมอาหาร
2. ออกกำลังกาย
3. วัดสัดส่วนด้วยสายวัด อก เอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน อย่าชั่งแต่น้ำหนักครับ

อันนี้เด่นอ่านๆ มาแล้วก็วิเคราะห์นะครับ
สิ่งที่ทุกคนทำในการลดน้ำหนักคือ "การอดอาหาร" เด่นว่าผิดนะครับ

ที่ถูกต้องคือ การควบคุมอาหาร และ การออกกำลังกาย

ทำไมบางคนอ้วนง่าย?? ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการอดอาหารครับ เวลาเราอดอาหาร ร่างกายจะปรับกระบวนการเผาผลาญให้น้อยลง เพื่อให้เราอยู่รอดครับ

เพราะฉะนั้น ถ้าเราอดอาหาร ผลคือ
1. ผอม
2. ระบบเผาผลาญต่ำ

ถ้ากลับมาทานปกติ ก็อ้วนครับ เพราะว่าที่ทานไป ร่างกายเผาผลาญไม่หมดครับ

สิ่งที่ต้องทำควบคู่การควบคุมอาหารคือ การทำให้ระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น วิธีการก็คือการออกกำลังกายครับ

กลับมาที่การวัดสัดส่วน ทำไมเด่นถึงบอกว่าเราวัดแต่น้ำหนักไม่ได้? นั่นเป็นเพราะว่าการออกกำลังกายจะทำให้ไขมันหายไป แต่จะมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมาครับ

ปกติมวลกล้ามเนื้อจะหนักกว่าไขมันครับ นั่นหมายความว่า คนที่หุ่นนักกีฬารูปร่างเพรียว สามารถมีน้ำหนักเท่าคนที่อวบกว่าได้ครับ

ถ้าชั่งแต่น้ำหนักอาจจะหมดกำลังใจนะครับ ว่าทำไม ทั้งควบคุมอาหาร และ ออกกำลังกายแล้ว น้ำหนักไม่ลด? จริงๆ ไขมันหายไปแล้วนะคับ แต่มีกล้ามเพิ่มขึ้นมา และระบบเผาผลาญก็ดีขึ้นครับ

ยังไงก็ลองวิเคราะห์และปฎิบัติดูนะคับ จะได้หุ่นดีๆ ระบบเผาผลาญแจ่มๆ กันคับ :D

---

เห็นด้วยกับคุณเด่น ครับ ถ้าต้องการลดได้ระยะยาว ๆ ปฏิบัติเป็นประจำหุ่นดี และสุขภาพดีแน่นอนครับ

หนูนีคนนึงที่มีปัญหาความอ้วนมากๆๆๆ ยิ่งเราเครียดว่าอ้วน มันยิ่งขึ้นทะลุปรุโปร่งมาก โอ๊ย พูดเรื่องความอ้วนแล้วมีปมด้อยมากๆๆๆๆ ที่ไม่กล้าไป metting ก็เพราะเจ้าหุ่นน่าเกลี๊ยด น่าเกลียดนี่แหละค่ะ หลังจากเคยโพสถามเพื่อน ๆ เรื่องอ้วน แทนที่จะผอม แต่กลับขึ้นอีก
แต่อีกเรื่องที่อยากเน้นๆๆๆๆๆๆ นะคะ เรื่องที่จะไปเข้าคอร์ส ยกเลิกได้เลยค่ะ มันขึ้นอยู่ที่เราค่ะ หนูนีหมดไปเป็นแสน ลด 4 กิโล เพราะเค้าบังคับเรา ไม่ให้ทานมากไงคะ สำหรับเครื่องมือของเค้า คือช่วยกระชับแบบทรมานมาก แค่นั้นเองค่ะ ถ้าให้เค้าบังคับเรา เราบังคับการทานของเราโดยไม่เสียเงินดีกว่าค่ะ มีอย่างเดียวที่หนูนียังไม่ลองคือ " การฝังเข็ม " นอกนั้นลองไปหมดทุกอย่างแล้วค่ะ ยังไงจะลองมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังอีกนะคะ

Quote:

---

Originally Posted by pota

เพื่อนเราไป ว. คลีนิค 2 คน
ลดความอ้วน พอเลิก ได้น้ำหนักเพิ่มกลับมา
คนนึง 20โล
อีกคน 23 โล

---

คุณนก..ติดดาวแล้วเหรอคะ
แอบนอกเรี่อง

เห็นด้วยกับวิธีของคุณเด่นค่ะ
สวยแบบสุขภาพดีจ้า...

ปล.เลิกของหวาน กับขนมขบเคี้ยวไม่ได้อ่ะ
ชอบมาก.....วันๆไม่กินข้าว กินแต่ขนม
แต่ยังไม่อ้วนซะที สงสัยไขมันสะสมไว้อ้วนตอนแก่