Printable View
น้องเอก เมลานินเยอะนี่ต้องไป"บริจาคเลือด" เกี่ยวกันป่าวอ่ะ เจ๊ไม่รุไม่ชี้ อันนี้เดาเอา หุๆๆๆ :p
น้องแจนเจ๊อยากแนะนำนู๋กินตัวที่พี่กินอยู่อ่ะ จะดีกว่านะแล้วก็ออกกำลังกายช่วยด้วยรับรอง "เจ๋ง" แต่ว่าถ้านู๋มีแพลนที่จะมี "เบเบี้" อันนั้นก้อต้องปรึกษา หมอไบ้อีกทีดีกว่า เจ๊เห็นด้วยว่านู๋อวบระยะสุดท้ายจริงๆนะแต่ว่าเวลาเจ๊ไปไหนมาไหนกับนู๋แล้วเจ๊รู้สึกปลอดภัยอ่ะ อิๆๆเหมือนกับว่ามี "บอดี้การ์ด" ไปด้วยต้องไม่มีใครกล้ามาทำอะไรเราแน่ๆ :D
เรื่องของกลิ่นปาก มีเรื่องจะถามหน่อยว่ามีใครแปรงฟันแบบพี่มั้ง
เช้าตื่นนอน แปรงฟันด้วยยาสีฟันใกล้ชิด ตามด้วยแปรงฟันด้วยยาสีฟัน sensodyne และก้อบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปาก
กลางวันถ้าไม่สะดวกก้อ ใช้ไหมขัดฟันเอาแต่ถ้าอยู่บ้านก้อจะแปรงฟัน
ก่อนนอน แปรงด้วยยาสีฟันใกล้ชิด ตามด้วยยาสีฟัน sensodyne ตามด้วยไหมขัดฟันของ sensodyne และบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากอีกที แต่ถ้าคืนนั้นจะต้องออกไปดินเนอร์ข้างนอกหลังอาบน้ำก็แปรงฟันแบบธรรมดาอีกรอบหนึ่ง พอกลับมาบ้านก้อแปรงแบบ FULL OPTION อีกที
มันมากไปป่าวอ่ะ :rolleyes: แต่ว่าวันนี้ไปซื้อของไปเจอเด้กขายของมีกลิ่นปากอ่ะ โอ้ย...รับไม่ได้เอามากๆเลยต้องรีบเดินหนีแถบไม่ทันเลย :(
น้องกบ..พี่รออ่านภาคต่อไปอยู่นะจ้ะ
เพิ่งรู้ว่าวิตซี ช่วยกระตุ้นเรื่องคอลลาเจนด้วย
โห... เจ๊นีน่าจะแปรงฟันเยอะไปไหนคะเนี่ย... วันละหกครั้งเลยเหรอเนี่ย เจ๊ลองไปถามหมอฟันประจำของเจ๊ดูนะคะ ว่ามากไปป่าว แล้วเจ๊มีปัญหาอะไรกับฟันมั้ยคะ?
ของหนูตอนนั้นมีปัญหาเรื่องเสียวฟัน แต่ไม่ได้ฟันผุ ปรากฏว่าเป็นปัญหาที่เหงือกแทนค่ะ หมอบอกว่าเป็นเพราะแปรงฟันวันละสามครั้งมันเยอะไป (เช้า กลางวัน เย็น) มันทำให้เคลือบฟันกร่อน และเหงือกถลอก (หรืออะไรประมาณนั้น จำไม่ได้เป๊ะๆ)
แล้วทำไมต้องพี่นีน่าแปรงด้วยใกล้ชิด แล้วแปรงอีกทีด้วยเซ็นโซดายน์ด้วยล่ะคะ?
พี่ ทิ ก้เจ้ ปากเหม็นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไง ค้าบบบ
คุณกุ้ง เดือนหน้าช่วยมา update ผลการทำให้หน่อยนะคะ หมวยอยากรู้มากๆค่ะ ราคาค่อนข้างสูงแต่ถ้าผลมันชัดเจนก็อยากทำอ่าค่ะ... ขอบคุณคร๊า....
พี่นีน่าอย่าลืมแปรงลิ้นด้วยน๊า แล้วแปรงหนักมือป่าวคับระวังเหงือกร่นนะคับ
แล้วยาสีฟันยี่ห้อที่คุณเคนโฆษณานั่นมันดีไหมอะคับ มีใครเคยใช้ไหมเอ่ย
ปกติไม่ค่อยได้เข้า blood bank อะคับพี่นีน่า ไปแต่ sp..m bank อิอิ
คุณหมวยตั๋นเคยทำมาแล้วค่ะทำได้ปีกว่าๆแระทำสมารทไลโปเหมือนกับของคุณกุ้งอ่ะค่ะ รับรองได้ผลค่ะมันกายไปจริงๆแล้วพอทำได้4เดือนผิวบริเวณนั้นกระชับขึ้นด้วยค่ะแล้วก็ไม่กลับมาอีกด้วยชอบค่ะตอนนี้ใส่กางเกงยีนส์สวยแระ หนับหนุน ไปทำเลยค่ะ
น้องทิ เจ๊จะมีปัญหาเกี่ยวกับเหงือกจ้ะ มักจะเป็นเหงือกอักเสบประจำและก้ออีกอย่างคือโรคจิคด้วยมั่งกลัวว่าปากกับฟันจะไม่สะอาด และก้อแปรงลิ้นด้วย
น้องกบ เจ๊ไม่ได้ปากเหม็นโว้ย แต่ป้องกันไว้ก่อน เจ๊ว่าจะเปลี่ยนเป็นใช้ยาสีฟันทั้งสองชนิดเลยพร้อมกันแต่ว่าแปรงแค่หนเดียวก้อพอมั้งเนอะ และก้อไม่อยากจะบอกว่าใช้แปรงสองแบบด้วยนะ คือแบบแปรงไฟฟ้ากับแปรงธรรมดาด้วย ฮิๆๆ สงสัยว่าจะมากไปหน่อย
นี่ๆน้องเอก ยังจะมีอีกเหรอย่ะ s.....m เนี้ยเข้าห้องสตีม บ่อยๆมันตายไปหมดแล้วไม่รู้เหรอย่ะ
จริงๆด้วยคุณกุ้งน่าจะถ่ายรูป before and after มาให้ดูหน่อยนะจ้า
whitening 102
5.Kojic acid
-เป็นสารสกัดที่ได้จาก Fungi
-จะเข้าไปยับยั้ง Tyrosinase enzyme ซึ่ง จะยับยั้งกระบวนการผลิต Melanin เช่นกัน
-ผลในการรักษา เทียบเท่ากับ Hydroquinone แต่ ตัว Kojic acid มีปัญหาเรื่องความไม่คงตัว ในตำรับ เครื่องสำอาง ซึ่งจะ เสียสภาพเมื่อสัมผัสกับ อากาศ และแสงแดด
-โดย จะใช้ อนุพันธ์ kojic acid dipalmitate ซึ่งมีความคงตัวมากกว่าในตำรับ
-ประโยชน์ หากเราทาน เชื้อรา ที่ใช้สกัด kojic acid ซุ่งหาได้ใน สาเก จะช่วย กระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ในกระบวนการ Phagocytosis และช่วยในเรื่อง lymphocyte proliferation ด้วย ค้าบ
6.Vitamin A
-retinol (Vitamin A alcohol),
-retinal (Vitamin A aldehyde)
- tretinoin (Vitamin A acid)
-ออกฤทธิ์ กระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ซึ่งจะทำให้ melanin ที่ผิว จางลง
-กระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน
-ระยะเวลาที่ใช้ มากกว่า 1 เดือนขึ้นไป ถึงจะเริ่มเห็นผลการใช้
-ข้อเสีย ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้มากกว่า ตัวอื่นๆๆ แต่ น้อยกว่า Hydroquinone
7.AHA / BHA ความเข้มข้นที่มีขายกันไม่เกิน 10 %
-AHA = Glycolic acid / fruit acid
-BHA = Salicylic acid ห้ามใช้มนคนที่แพ้ aspirin
-จะกระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ให้กลับมา เป็น ดังวัยหนุ่มสาว
-หากเริ่มใช้ ควรใช้วันเว้น วัน จนผิวปรับสภาพได้ จึงใช้ทุกวัน
-อาจจะทำให้เกิดผิวลอก ได้ และทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย
8.Azeleic acid
-จะเข้าไปยับยั้ง การทำงานของ Melanocyte ซึ่งจะผลิต Melanin ที่ผิดปกติ โดยจะไปลดการสร้าง ตั้งแต่ DNA เรย
-มักใช้ในการรักษาสิว และ ฝ้า นะจ้ะ จะเห็นผลดีที่สุด
-เปอเซนต์ ที่แนะนำ คือ 20 %
-ข้อเสีย ไม่สามารถ ลด กระ และรอยด่างดำที่เกิดจากอายุอันมากขึ้นได้
9.Octadecenedioic acid
-กระตุ้นการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว
-จะเข้าไปยับยั้ง การทำงานของ Melanocyte ซึ่งจะผลิต Melanin ที่ผิดปกติ โดยจะไปลดการสร้าง ตั้งแต่ DNA เรย
-มีการวิจัยทางคลินิก พบว่า การใช้ที่ 2 % เทียบกับ ยาหลอก ฝนกลุ่มที่ใช้ dioic acid 2 % มีการลดเลือนลง ของจุดด่างดำ ลง อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อใช้ติดต่อกัน มากกว่า 8 สัปดาห์
เลือกได้แล้วใช้ไหมคับ ว่า จะใช้ ตัวไหนดี