ใจเย็น ๆ นะจ้ะ น้อง pk ลองค่อย ๆ พูดคุยกันดี ๆ เป็นกำลังใจให้คะ
:lol:
Printable View
ใจเย็น ๆ นะจ้ะ น้อง pk ลองค่อย ๆ พูดคุยกันดี ๆ เป็นกำลังใจให้คะ
:lol:
ฟังดูแล้วหนักใจแทนค่ะ คุณพีเคลองปรึกษาพ่อแม่ก่อนดีมั้ยคะ ตัดสินใจตอนนี้ก็ยังไม่สายค่ะ และลองคิดทบทวนดีๆตัดสินใจอีกสักครั้งค่ะ แต่ของส้มเนี่ยดีหน่อยค่ะ เท่าเทียมค่ะ แยกออกมาอยู่บ้านเราเองสบายใจค่ะ ไม่อยากมีปัญหากับใครอ่ะค่ะ ( แม่แฟนใจดีค่ะ แต่บ่นเก่งเท่านั้นเอง...555 ล้อเล่นค่ะ)
เห็นใจค่ะ แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปเนอะ ลองคุยกับคุณพ่อคุณแม่ดูสิคะ ว่าเรามีความกังวลอย่างงี้ อย่าเก็บความเครียดไว้คนเดียวเลยน้า :)
มะค่อยรู้เรื่องพวกนี้เรยแต่
มาเป็นกำลังใจให้คุณ PK อีกคนค้าบ
อย่าเครียด คิด++++ วันแต่งเจ้าสาวจะได้สวยๆน้า
คุงPKสู้ๆๆๆๆ
อ่านแล้วก็เข้ามาตอบอีกที อย่าแต่งเลยค่ะ
ถ้าแฟน ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่ควรจะเข้าใจเรา เข้าข้างเรา ยังกลับพึ่งไม่ได้แล้วนี่ แต่งแล้วไปอย่ครอบครัวเขาแล้วเราจะหันไปพึ่งใครค่ะ
เพื่อนของเพื่อนก็มีกรณีคล้ายกันแต่ไม่งกเท่านี้นะ ทะเลาะกันเรื่องที่แม่ฝายชายไม่อนุญาติให้ไปถ่ายภาพแต่งงาน และให้ใส่ชื่อเจ้าบ่าว นำหน้าเจ้าสาวเสมอ ในการ์ดและอื่นๆ ( ทั้งที่โดยสากลจะใส่ชื่อเจ้าสาวนำหน้า เรื่องเล็กน้อย ติงต๊องไหม) และเรื่องรายละเอียดการจัดงานเล็กน้อย แบบว่าจะเลือกอะไร แม่ผู้ชายไปด้วยตลอด เป็นคนตัดสินใจทั้งหมด แล้วแฟนก็เชื่อแม่หมด ไม่ฟังเจ้าสาวเลย งานก็เลยล่มทั้งที่แจกการ์ดไปแล้ว
แต่ต่างกันที่เจ้าสาวบอกพ่อแม่ตลอด แต่พ่อแม่ก็เห็นว่าลูกเป็นคนเลือกคู่ครองเอง จึงไม่อยากขัดใจลูก แต่พอลูกบอกว่าไม่อยากแต่งแล้ว พ่อแม่แฮปปี้มากๆค่ะ ไม่ว่าไรเลย
นี่ก็ใกล้ถึงวันแล้ว ลองบอกพ่อแม่คุณดูนะ ถ้าท่านเห็นด้วยก็ไม่ต้องแต่ง ดีกว่าแต่งแล้วหย่า พ่อแม่ย่อมรักลูกเสมอ
อย่าไปคิดว่ายังไม่ทันแต่งก็มีแววจะเลิกแล้ว ถ้าเราคิดว่าจะเลิก ยังไงเราก็ต้องเลิก สู้คิดว่าเราไม่เลิก ใช้ความอดทนเข้าสู้ดีกว่าค่ะ
สมัยใหม่นี้นะคะ เรื่องสินสอดเนี่ย เวลาแต่งงาน เค้าก็จะให้กับคู่บ่าวสาวไปเลย แต่ก็มีบางครอบครัวเก็บคืนไป ด้วยเพราะเหตุผลว่า ฉันให้เธอยืมเอาไปวางโชว์ :roll:
เรื่องแค่นี้เล็กมากๆ เลยค่ะ ถ้ามีความรักต่อกันจริงๆ แต่งไปช่วยกันหาใหม่ได้ ในเมื่อตกลงกันว่าจะแต่ง เราก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะปัญหายังรอเราอีกมากกับการใช้ชีวิตคู่ร่วมกับคนอื่น!!!!!
ถ้าแค่นี้ท้อ ก็แย่แล้วเนอะ
ที่บอกอย่างนี้ก็อยากให้สู้นะคะ อย่าถอยออกมา และบอกว่านี่คือทางแก้ปัญหาของฉัน ให้นึกถึงสิ่งดีๆ ที่ทำร่วมกันมา
เข้ามาให้กำลังใจนะค๊า พี่ว่าลองปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ดีไหมคะ เพราะถ้าน้องพี่เคเลือกเดินหน้าต่อก็อาจต้องเจอปัญหาแบบนี้ไปตลอด
แทนที่แต่งงานแล้วจะมีความสุข กลับต้องมาเครียดอยู่คนเดียว ซื้อของใช้ ซื้อกระเป๋าก็ยังต้องแอบซื้อ พี่ว่าไม่ไหวค่ะ สุขภาพจิตเสียป่าวๆค่ะ
เรียนปรึกษาคุณพ่อคุณแม่เถอะนะคะ พี่ว่ายังไงคุณพ่อคุณแม่เราท่านก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดน่ะค่ะ พี่ขอเอาใจช่วยนะคะ ขอให้ทุกปัญหาคลี่คลายด้วยดี
และขอให้น้องพีเคมีความสุขกับชีวิตคู่นะคะ...
เราว่าพ่อกับแม่ก็คงบอกว่าตามใจเราหรือว่างานเตรียมพร้อมแล้วแต่งไปก่อนแล้วค่อยพบยายามปรับตัว นะคะ ถ้าปรึกษาท่าน เพราะเราเคยเป็นแบบนี้มาก่อน วันนี้ได้เจอคนหัวอกเดียวกันเลยขอระบายหน่อยนะคะ เป็นผู้หญิงลำบากคะ แต่พอผ่านช่วงตัดสินใจมาแล้วรู้แล้วคะ ว่าความรักอย่างเดียวมันทำให้ชีวิตอยู่ไม่ได้ ต้องมีอย่างอื่นประกอบด้วยคะ ก่อนแต่งเราคิดว่าเราแต่งกับลูกเขานะ แล้วเราก็คิดว่าจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับทางบ้านเขา แต่มันก็มีเรื่องมากรทบเราเรื่อยๆคะ /เราเป็นกรณีกนึ่งที่โชคไม่ดี ปัญหาเราเห็นมันมาแต่ต้นแล้วคะ
เราก็แต่งกับคนจีนเหมือนกัน ก็มีปัญหาตามประสา แต่ตอนนี้ก็โอเคแล้ว เพราะแม่สามีช่วยเล้ยงลูกอ่ะ แต่เราไม่มีปัญหาเรื่องสินสอดทองหมั้นนะ
อยากให้ลองเอาความรู้สึกและความทรงจำที่ดี กับแฟนเรามาเทียบดูว่าที่ผ่านมาเราสองคนเคยผ่านอุปสรรคอะไรมาด้วยกันหรือเปล่า แล้วก็เอาเหตุการณ์ตรงนี้มาเปรียบเทียบดูนะคะ แล้วลองคุยกับแฟนเราว่าเรารู้สึกยังงัย ถ้าเขารักเราจริงเขาต้องหาทางออกที่ดีให้ได้นะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
แอม
เอาใจช่วยคุณพีเค นะคะ ถ้าตัวเราไม่มีความสุข ก็อย่าอดทนเลยคะ ตอนนี้ยังไงก็ยังมีเวลาตัดสินใจครั้งสุดท้ายนะคะ คิดให้ดีๆ นะคะ ทำทุกอย่างเพื่อตัวเราเองดีที่สุดคะ ถ้าเราสุข พ่อแม่เราก็สุข ถ้าเราทุกข์พ่อแม่เราก็ทุกข์ ครอบครัวเราก็คนจีนนะ พี่ชายก็แต่งพี่สะใภ้คนไทย แรกๆ ก็มีปัญหานะ แต่ตอนนี้ผ่านมาหลายสิบปีแล้วมีลูกมีเต้าโตๆ กันหมดแล้ว พี่สะใภ้เราก็อดทนดีอะ แต่เราว่าคนแต่ละคน ความอดทนไม่เท่ากันหรอก สมัยก่อนกับสมัยนี้มันต่างกันมากนะ ผู้หญิงเรามีทางเลือกเสมอ แต่ถ้ามองอนาคตออก เห็นทางที่ไม่ใช่ปฏิเสธตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไปนะคะ ดีกว่าแต่งไปแล้วมีแต่ปัญหาไม่จบไม่สิ้น มันเหนื่อยใจนะ แต่ยังไงเอาใจช่วยนะจ๊ะ สู้ สู้ เพื่อตัวของตัวเอง :D