^
^
เคยเจอคล้ายๆคุณหมวยค่ะ ขนาดบอกว่าลงทะเบียนนะ เค้ายังทำแบบพัสดุให้เลย
เพิ่งมารู้ตอนที่จะส่งเลขทะเบียนให้ลูกค้า ปรากฏว่ามันไม่ใช่เลขแบบที่ track ได้ กังวลแทบแย่ว่าของจะหาย
วันหลังต้องย้ำซะหน่อยค่ะ ว่าเอาแบบที่ track online ได้เนอะ
Printable View
^
^
เคยเจอคล้ายๆคุณหมวยค่ะ ขนาดบอกว่าลงทะเบียนนะ เค้ายังทำแบบพัสดุให้เลย
เพิ่งมารู้ตอนที่จะส่งเลขทะเบียนให้ลูกค้า ปรากฏว่ามันไม่ใช่เลขแบบที่ track ได้ กังวลแทบแย่ว่าของจะหาย
วันหลังต้องย้ำซะหน่อยค่ะ ว่าเอาแบบที่ track online ได้เนอะ
ปรกติเวลาส่งของ แบบไหนก็ตามมันจะมีใบเสร็จออกมาจากไปรษณีย์ ไม่ใช่หรือคะ น้องลองสอบถาม จขกป.ดูถึงใบเสร็จค่ะ ถ้าเรามีตัวนั้นจะสามารถตรวจสอบได้ค่ะ :oops:
ถ้าเป็นพัสดุธรรมดา ที่ขึ้นต้นด้วย PA เช็คได้ค่ะ
เช็คได้ด้วยว่า ใครเป็นคนเซ็นรับของไปค่ะ
โทรไปที่ ปณ ปลายทางนะคะ แจ้งเลขพัสดุ หรือถ้ามีรายละเอียดปลีกย่อย
เช่น ส่งจาก ปณ ไหน วันที่เท่าไหร่ ก็จะดีมากๆค่ะ จะได้เช็คง่ายๆ
ลองขอเลขพัสดุจากคนขายมานะคะ แล้วลองทำดูค่ะ
เอาใจช่วยนะจ๊า :D
กิ๊ฟว่าก็ต้องพิจารณาcase by case
ผู้ซื้อ--ก็ต้องมีหลักฐานการจ่ายเงิน
ผู้ขาย--ก็ต้องมีหลักฐานการส่งของ
ถ้าผู้ขายส่งของในแบบที่ได้รับการตกลงจากผู้ซื้อ ถือว่าได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย เป็นการสัญญากันอย่างสมบูรณ์ถึงจะไม่ได้ทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก็ตาม อาจเอาไปดำเนินคดีความตามกฎหมายไม่ได้ แต่ก็แบบว่าถ้าคำพูดเราออกปากเรา มันก็ควรจะเป็นไปตามนั้น ถ้าเราได้ตกลงกันแล้วว่าจะส่งหรือรับของด้วยวิธีนั้นๆ ก็ต้องยอมรับผลของมัน
ถ้าเป็นกิ๊ฟ ต่อให้เป็นคนซื้อ ก็คงต้องยอมรับข้อตกลงที่เราได้ทำไปแล้ว จะไปให้เค้ารับผิดชอบก็ไม่ยุติธรรมสำหรับเค้าน่ะค่ะ ผู้ขายคงไม่ได้อยากให้ของหาย ก็คงต้องไปตามกับไปรษณีย์เอา แต่ถ้าผู้ขายไม่มีหลักฐานว่าส่งของจริง(ใบเสร็จจากไปรษณีย์มันก็มีรายละเอียดอยู่ทุกอย่าง ที่ชัดๆก็ชื่อคนรับของ รหัสไปรษณีย์ของคนรับ) ถ้าผู้ขายไม่มีหลักฐาน ก็ขอเงินคืนเต็มจำนวนเลยค่ะ
เอาแบบปลอดภัยก็ส่งแบบลงทะเบียน/EMS หรือนัดเจอกันเพื่อรับของค่ะ
ไม่รู้ว่าคุณ1226 ตกลงกับผู้ขายรึป่าวว่าจะให้ส่งมาแบบไหน ถ้ารู้ล่วงหน้าก่อนแล้วว่าของจะถูกมาเป็นแบบธรรมดา ก็อาจลำบากเหมือนกันที่จะตามหาของและขอเงินคืนจากแม่ค้า ยังไงก็เอาใจช่วยขอให้ได้รับของนะคะ
อาจไม่ใช่ความคิดเห็นตามกระแส คงไม่ว่ากันนะคะ ^o^
ต้องตามหลักฐานที่คนขายค่ะ ว่าส่งจริงหรือเปล่า จะลงทะเบียนหรือไม่ถ้าเป็นพัสดุก็ ต้องมีคนเซ็นรับค่ะ แล้วจะลงทะเบียนหรือไม่ก็ต้องมีหลักฐานค่ะ ถ้าเขาไม่แสดงหลักฐานหรือบอกแต่ว่าไม่ลงทะเบียน ก็น่าจะเจตนาไม่ดีแล้วค่ะ เขาต้องชดใช้ค่ะ แต่ถ้าเขามีหลักฐานว่าเขาส่งแล้ว เราว่าเขาก็ทำหน้าทีครบถ้วนแล้ว ต้องไปตามที่ไปรษณีย์ อย่างเดียว ซึ่งคงต้องทำใจเพราะว่าไม่มีโอกาสได้คืน แล้วถ้าไปรษณีย์ ทำหายเขาก็รับผิดชอบไม่เกิน 500บาทมั้ง เพราะ EMS ยังรับผิดชอบไม่เกิน 1000 บาทเท่านั้นค่ะ
เคยเหมือนกันค่ะส่งของให้ลูกค้าแต่ราคาแค่หลักร้อย ก็ส่งแบบธรรมดา ปรากฎว่าลูกค้าไม่ได้รับของ เค้าก็อรอจนเกือบสามอาทิตย์ ของไม่มาแน่แล้ว เราก็โอนเงินคืนให้เค้าทั้งหมดค่ะ แล้วคราวหน้าก้อ ส่งแบบลงทะเบียนดีกว่า เข็ดเลยอ่ะ :roll:
หวัดดี่ค่ะเพื่อนๆ ขอบคุณที่วยแนะนำค่ะ
วันนี้เราโทรไปที่ปณ.เค้าบอกว่าจะลองถามบุรุษปณ.ให้ดูค่ะ ว่าเห็่นพัสดุส่งมาที่ที่อยู่
เราหรือไม่ แต่คือทาง ปณ.ก็ไม่รับผิดชอบอะไรเพราะว่า ส่งแบบธรรมดามาค่ะ
ส่วนทางแม่ค้า เค้าก็นำใบเสร็จที่ส่งของถึงเรามาให้เราดู เค้าก้ส่งของมาจิงๆค่ะ
เพียงแต่code มันเช็คไม่ได้ค่ะ :(
ตอนนี้เลยลุ้นต่อไปว่าจะเอายังไง ทางคนขายเค้าก็เลยเสนอมาว่า ให้ออกคนละครึ่ง
แต่เราก้ยังรู้สึกเสียใจอยู่ดีค่ะ ที่ไม่ได้ของเพราะเรายินดีจ่ายเงินเพราะอยากได้จิงๆนี่นา.. :cry:
เพื่อนๆว่าออกคนละครึ่งมันแฟร์ดีมั้ยอะคะ :?
:x :x :x :x :x
:cry: :cry: :cry: :cry:
ตามความเห็นเรานะ คิดว่าแม่ค้าจะหมดความรับผืดชอบต่อเมื่อ
สินค้าถึงมือลูกค้ามีการเซ็นรับของเรียบร้อย
ระหว่างนั้น ยังอยู่ในความรับผิดชอบแม่ค้าค่ะ
ความผิดอะไรของคุณที่จะต้องได้รับเงินคืนแค่ครึ่งเดียวทั้งๆที่ของก็ไม่ได้
ออกคนละครึ่งแฟร์มากค่ะ เพราะแม่ค้ามีหลักฐานการนำส่งของแล้ว จริงๆ แม่ค้าไม่ต้องรับผิดชอบแล้วในความคิดหมวยนะคะ เพระเค้าทำหน้าที่เค้าเสร็จแล้วเช่นกัน...
คนที่รับผิดชอบต่อคุณน่าจะเป็นไปรษณีย์ค่ะ ทีนี้ไปรษณีย์ก็คงจ่ายได้ไม่เกิน 1000 บาทเท่านั้นเองอะค่ะ ถ้าแม่ค้าเสนอครึ่งนึง คงราคามากกว่า 1 พัน น่าจะดีนะคะสำหรับคนซื้อ เพระจริงๆถ้าเค้าจะปัดความรับผิดชอบเค้าย่อมทำได้อะค่ะ เรียกร้องอะไรก็ไม่ได้ด้วยอะค่ะ...
ในทางตรงข้าม ถ้าหลักฐานการนำส่งของไม่ปรากฏ แล้วพิสูจน์ไม่ได้ว่าได้จัดส่งของแล้ว แม่ค้าต้องรับผิดชอบทั้งจำนวนอะค่ะ (หมวยคิดเช่นกัน ไม่รู้ทางกฏหมายจริงๆคิดกันงี้มั๊ยนะคะ)