ขอระบายด้วยคนครับ ทำไมเด๋วนี้ขายประกันทางโทรศัพท์เยอะมากวันนึงต่ำๆๆก็ 3 ราย ถ้าวันไหน peak 5 รายอัพ เราก็พยายามพูดดีไปก็หลาย แต่พอเจอเจ้าเดิมๆๆ (เปลี่ยนคนโทร) เริ่มทนไม่ไหวแล้ว เด๋วนี้ไม่คุยเรย พอบอกว่าเป็นบริษัทประกัน ผ้มวางสายทันทีทันใด
Printable View
ขอระบายด้วยคนครับ ทำไมเด๋วนี้ขายประกันทางโทรศัพท์เยอะมากวันนึงต่ำๆๆก็ 3 ราย ถ้าวันไหน peak 5 รายอัพ เราก็พยายามพูดดีไปก็หลาย แต่พอเจอเจ้าเดิมๆๆ (เปลี่ยนคนโทร) เริ่มทนไม่ไหวแล้ว เด๋วนี้ไม่คุยเรย พอบอกว่าเป็นบริษัทประกัน ผ้มวางสายทันทีทันใด
ตอบไปเหมือนคุณ Meesook ค่ะ คนขายฟังแล้วส่วนมากเกิดอาการอึ้ง เงียบไปเลย แล้วก้ไม่เซ้าซี๊อีก ได้ผลค่ะ
เห็นด้วยค่ะ โทรมาทุกวัน หลังๆเห็นเบอร์ขึ้นด้วย 02 ลงท้ายด้วยเลขเบิ้ล
แรกก็รับสายแล้วปฏิเสธไปดีๆ แต่หลังๆเราไม่รับสายเลย เพราะบางคนก็เซ้าซี้มากเกิน พอเราไม่ซื้อก็หาเรื่องว่าเรามั่งล่ะ เสียเวลาแล้วยังมาเสียอารมณ์อีก
ล่าสุด เด็ดมาก เบอร์ประกันเจ้าเดิมโทรมาเข้ามือถือ เรารู้แกวก็ไม่รับสาย
ซักพัก เล่นโทรเข้าเบอร์ออฟฟิศ โอ้.... เรารึก็นึกว่าสายเรื่องงานปกติก็รีบรับ ที่ไหนได้..... โทรมาขายประกัน
ขอโทษนะคะ เบอร์ที่ทำงานเอาไว้ติดต่อเรื่องงาน มาโทรจิกขายประกันนี่มันละเมิดสิทธิกันมากเกินไปรึเปล่า
สงสัยต้องขอยืมมุขคุณ Meesook มาใช้บ้างแล้วละค่ะ
ชัดเจนขนาดนั้น ถ้ายังฟังไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ถ้าคิดว่าทำแล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก็ปฏิเสธไป
ถ้าเค๊าเป็นเพื่อนดีต้องเข้าใจเราค่ะ ถ้าเค๊าบอกให้ช่วย
ก็บอกเค๊าว่าให้ช่วยอย่างอื่นดีกว่า แบบนี้20ปี ช่วยไม่ไหวอ่ะ:D
เคยเจอเช่นกันค่ะ เป็นเพื่อนตอนเรียนมหาลัย ก็จบมา8ปีแล้ว
ซึ่งไม่สนิทกัน และไม่เคยคุยกันด้วย เค้าทักเรา เราก็ยังงงๆ
แล้วก็ขอเบอร์เราไป หลังจากนั้นโทรมาหาเรา
บอกว่ามีบัตรสอนแต่งหน้าฟรี ให้เราไป เราไม่ว่างเลยบอกว่าขอโทษนะ
เค้าเลยบอกว่างั้นมาเป็นแบบให้หน่อย จะแต่งหน้าเราเพื่อเป็นการส่งงาน
เราเกรงใจเลยไม่ปฏิเสธ แถมอยากช่วยเพื่อนด้วย
หลังเลิกร้านก็ไปส่งพ่อกับแม่ที่บ้าน แล้วให้แฟนมารับ
ปรากฎรถติดมาก จะสองทุ่มก็ยังไม่ได้ทานข้าว
พอไปถึง เค้าก็พาเราเดินทะลุห้างเซ็นทรัลชิดลม ไปยังตึกหนึ่ง
โดยเข้าด้านหลังตึก ขึ้นลิฟต์ไป ก็มีห้องที่เค้ากำลังอบรมอยู่ด้วย
เราก็งง ดึกๆแล้วอบรมไรกัน
เค้าก็นั่งแต่งหน้าให้เรา เราก็ถามว่าไม่ถ่ายรูปส่งอาจารย์หรอ
เค้าบอกว่าไม่เป็นไร แล้วไปตามพี่มาคนนึง มาอธิบายวงจรธุรกิจ
ถูกแล้วค่ะ Amwayเลย นั่งฟังนานมากทั้งๆที่บอกเค้าไปแล้วว่ายังไม่ได้ทานข้าวเย็น
รู้สึกว่าเหมือนโดนหลอกอย่างแรง เฮ้ย ตูโง่ใช่มั้ย เค้าโกหกเรา เอาน้ำใจเราไปใช้กับธุรรกิจเค้าซะงั้น
แถมขากลับเดินมาเอารถที่เซ็นทรัลก็กำลังเดินฝนก็ตกหนัก ไม่มีหลังคา ต้องเดินลุยฝนอีก
หลังจากนั้นเค้าโทรมานัดว่าจะมานำเสนออีก เราก็ยังเกรงใจปัดว่าไม่ว่างนะ
เค้าบอกว่าวันเสาร์จะโทรมาใหม่ พอโทรมาอีกบอกว่าจะไปหาที่ร้านเลย
เราเลยตัดปัญหา บอกไปตรงๆว่าไม่ต้องมาหรอกนะ ตัวเราเองคงไม่ซื้อของหรอก
เดี๋ยวเธอเสียเวลาเปล่าๆ แต่แอบเสียงแข็งด้วย เค้าเลยไม่กล้าโทรมาอีก
เจอจังๆกับตัว จากการกระทำของอดีตเพื่อนรักของเราเองค่ะ เค้าเที่ยวโทรไปหาเพื่อนของเราจากอีกกลุ่ม ซึ่งเคยเจอกันครั้งเดียวเมื่อนานมาก อยู่ดีๆบอกว่าคิดถึง อยากเจอ กินข้าวกันมั๊ย เพื่อนเรางงอย่างแรงโทรมาถามเราแบบรู้ทันว่า เฮ้ยถามจริง!! เค้าจะมาขายประกันใช่มั๊ย เราก็งง พูดไม่ออก เพราะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน
แค่นั้นยังไม่พอ โทรไปขายประกันกับเพื่อนของแฟนเรา และบรรดาเพื่อนของแฟนเพื่อนอีกหลายๆคน ซึ่งไม่ได้สนิทสนมอะไรกันเลย พูดจาทำนองเดียวกัน ทุกคนงง สับสน แถมยังด่าสาดเสียเทเสียซะจนไม่มีดี เพราะรู้อยู่แก่ใจ ว่าเค้าทำไปเพื่ออะไรค่ะ
ตอนนั้นมีแต่เราที่กล้าที่จะเตือนเค้า ด้วยความรัก ปราถนาดี และจริงใจ ไม่อยากให้ใครมาด่าเพื่อนเราลับหลัง ซึ่งคนที่เป็นคนด่าลับหลังตัวดี แต่ไม่ยอมพูดต่อหน้าตรงๆ ก็คือเพื่อนในกลุ่มกันเองนี่แหละ
ของอย่างนี้ บางทีก็ไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไร ยังไงเหมือนกันกับสิ่งที่ทำ หรือมีแรงจูงใจอะไรค่ะ คงต้องให้มารับรู้ ได้ยินเอาเองกับหู เค้าถึงจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร คนอื่นเค้าคิดกันยังไง และการแสดงออกต่อหน้ากับลับหลัง มันต่างกันยังไง
สังคม กับการสร้างมิตรภาพจอมปลอม บางทีมันก็พรางได้ไม่มิดนะคะ