ถ้าเป็นมุกนะคะ
มุกก็จะโทรจนได้คุยกันและจะบอกว่า
"เฮ้ย จะแต่งงานแล้วนะเฟ้ย" บอกวันไปแล้วถามว่า
ว่างรึเปล่า ถ้าว่างก็มานะ อยากให้มาจ้า
ส่วนเค้าจะมาหรือไม่มาก็จะได้รู้กันไปค่ะ
Printable View
ถ้าเป็นมุกนะคะ
มุกก็จะโทรจนได้คุยกันและจะบอกว่า
"เฮ้ย จะแต่งงานแล้วนะเฟ้ย" บอกวันไปแล้วถามว่า
ว่างรึเปล่า ถ้าว่างก็มานะ อยากให้มาจ้า
ส่วนเค้าจะมาหรือไม่มาก็จะได้รู้กันไปค่ะ
สำหรับเราคิดว่า ถ้างานแต่งงาน อยากเชิญคนที่เต็มใจจะมาร่วมงานมากกว่า
สำหรับสองคนแรก --- จะไม่ส่งการ์ดไปใ้ห้ที่บ้าน ไม่ฝากใครไปบอก
แต่จะลองโทรติดต่อเอง อีกสักครั้ง ถ้าติดต่อไม่ได้ หรือเค้าไม่รับโทรศัพท์ ก็ไม่เชิญคะ (เพราะเค้าคงไม่พร้อมที่จะมาร่วมงานเรา)
ไม่คิดว่าเค้าจะมาว่าทีหลัง เพราะเค้าไม่ได้รับโทรศัพท์เราเอง
ส่วนคนที่สาม เราคิดว่าจะพยายามติดต่อเค้ามากกว่า สองคนแรกนะคะ เพราะไม่ได้ติดต่อกันมานาน ไม่ได้หมายถึงว่าเค้าไม่อยากติดต่อกับเรา
อย่ามองเพื่อนในแง่ร้ายเลยค่ะ
กับเพื่อนเราที่สนิทมากๆ จริงๆ
ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันค่ะ ด้วย lifestyle ที่เปลี่ยนไป
ไม่เหมือนตอนเรียน พอทำงาน มีครอบครัว ต่างคน
ต่างก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้อาจจะไม่มี
เวลาโทรคุยกันบ่อย เหมือนเมื่อก่อน
แต่เมื่อไหร่ที่คุยกัน ก็ต่อกันติดเสมอ
ถ้าเพื่อนคิดถึงเรายามที่มีทุกข์ แสดงว่าเค้ามองว่า
เราเป็นเพื่อนที่พึ่งพาได้นะคะ มองบวกไว้ค่ะ
โทรไปเถอะค่ะ หรือถ้าไม่รับ ก็ส่ง SMS + card ไปให้
เค้าอาจมีเหตุผลที่ไม่ได้บอกเราก็ได้
ถ้าวันหลัง เหตุการณ์มันไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด
จะได้ไม่รู้สึกผิดค่ะ อย่างน้อยเราก็ทำดีกับเค้าแล้ว
ส่วนเค้าจะมาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเค้าแล้วละค่ะ
เราว่านิยาม คำว่าเพื่อน ไม่ว่านานแค่ไหน เพื่อนจะเป็นยังไง เค้าก็คือเพื่อน
ต่อให้ไม่ได้ติดต่อกันนานแค่ไหน มีเรื่องหมางใจกันบ้าง เค้าก็ยังคือเพื่อน
สำหรับเราไม่คิดมากค่ะ ถ้าเพื่อนเปนแบบนี้ เพราะเค้าก็คือเพื่อน
เราเองก็เคยเจอปสก.คล้ายๆกะ จขกท. แต่เราไม่ใส่ใจ ไม่คิดมาก
พอนานไปก็ลืมไปเอง
ปล. แอบบ่น แต่เพื่อนที่แต่งงาน แล้วเงียบหายไปจากชีวิตมีเยอะมาก
นับไม่ถ้วน ไปทุกงาน ใส่ซองทุกครั้ง
แม้แต่รูปแต่งงาน ยังไม่เคยได้ดูเลย ติดต่อมาก็ไม่มี หายหัวหมด (น้อยใจ)
บางครั้ง ของชำร่วยก็ไม่ได้ ต้องสละให้แขกคนอื่น ก็มี
มานบอกว่าจะเอามาให้ทีหลัง สุดท้าย หายหัวจ้อยยย(มันน่าน้อยใจมั้ยเนี่ย):(
เชิญเถอะค่ะ ไม่มาก็ไม่ต้องแปลกใจ ยังดีกว่าเพื่อนเรา ชอบโทมายืมเงิน
บางทีมายืมถึงบ้าน ไม่ให้ก็แปลกๆ อุตส่าห์มาถึงที่ แต่ก็คิดว่าไม่ได้คืนแน่ๆ
ปล่อยมันไป เฮ้อๆ
เชิญไปเถอะค่ะ
อย่างน้อยเราก้อทำดีที่สุดแล้ว
แล้วอีกอย่างไม่แน่นะค่ะ
ความสัมพันธ์อาจจะกลับมาเหมือนเดิมก้อได้
เป็นเราก็เชิญค่ะ.....และอาจจะหาทางติดต่อทางโทรให้ได้
อย่างน้อยถ้าเคยเป็นเพื่อนสนิท...ก็ยังไงก็เชิญอ่ะ เคยรู้สึกดีดีต่อกัน
Amway ขายตรงอื่น ๆ ขโมยเพื่อนไปจากเราหลายคนเลย....
พอเข้าไปแล้ว พวกเค้าเปลี่ยนไป...ปิดกั้นโลกภายนอก เศร้า..
เราก็เจอสภาวะเพื่อนเปลี่ยนไปเหมือนกัน ...ด้วยเหตุผลบางประการ
ที่ไม่ได้เกิดจากตัวเรา แต่เค้าก็เปลี่ยนไปแระ....
ทำใจ...ทำไรไม่ได้ บางอย่างแม้จะเห็นอะไรที่ไม่ดี...ก็ไม่รู้จะเตือนยังไง
ได้แต่เอาใจช่วยว่าจะไม่เลวร้ายไปนัก....เออ...บ่นอีก...คงจบแล้วล่ะ ตอนนี้...
เชิญเถอะค่า
ถ้าไม่อยากส่งการ์ด หรือโทรไปก้ไม่รับ
ลองส่งsmsดูสิคะ
ประมาณว่าโทรไปแล้วไม่รับสาย มีเรื่องสำคัญจะบอก
วันที่...เราจะแต่งงาน ถ้าว่างก็มานะ
อยากให้มา ประมาณนี้อ่ะค่ะ
จริงแล้ว ไม่ต้องคิดมากหรอกนะคะ
คนเราเปลี่ยนสังคม แล้วก็เปลี่ยนไปเป็นธรรมดาค่ะ ^^ ไม่แปลกหรอกน้า
ไม่ต้องนึกน้อยใจว่าเพื่อนเราเปลี่ยนไปค่ะ
สุว่าทุกๆๆๆๆคนคงมีความรู้สึกนี้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครรับได้ ใครรับไม่ได้กับสิ่งที่เพื่อนเราเปลี่ยนไปมากกว่าค่ะ
สำหรับเรื่องงานแต่งงาน..
เชิญเพื่อนๆ A B C ได้เลยค่ะ อย่างน้อยเราก็เชิญแล้วน้า มาไม่มาก็อีกเรื่องค่ะ
สู้ๆนะคะ ยังไงเรายังต้องเจอเพื่อนอีกหลายๆแบบในอนาคตค่ะ