-
Ionto จะปล่อยการปล่อยประจุไฟฟ้าเพื่อให้รูขุมขนกว้างขึ้นเพื่อให้ตัวยาที่่เราใส่บนหน้าลงไปได้ลึกกว่าการทาปกติ เวลาทำก็จะรู้สึกจี๊ดๆหน่อยขณะทำซึ่งขึ้นอยู่กับการตั้งdoseในการทำและผิวหน้าของแต่ละคนด้วยค่ะ แต่ถ้าใครหน้าเป็นผื่นหรือระคายเคืองง่ายก็จะทำให้ผื่นขึ้นหรือหน้าแห้งเพิ่มมากขึ้นค่ะ
Phono จะเป็นคลื่นอัลตราซาวน์ค่ะ ใช้หลักการเดียวกันกับไอออนโต เวลาทำจะรู้สึกอุ่นๆนวดๆบนหน้า จะรู้สึกสบายกว่าionto
ตัวยาที่ใส่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาหรือความต้องการของแต่ละคนเช่น อยากหน้าขาวใสก็ใส่พวกวิตามินA หรือC ถ้าอยากให้ชุ่มชื้นก็ใส่พวกJoJoba หรือ Alovera หรือ Hya และก่อนทำจะต้องมีการใช้พวกกรดผลไม้AHAทาที่ผิวหน้าก่อนเพื่อเตรียมผิวเพื่อให้ตัวยาซึมได้ดีและช่วยให้หน้าใสขึ้นอีกหน่อยนึงด้วย
โดยมากแล้วเครื่องมือเหล่านี้ถ้าจะให้ได้ผลจะต้องอยู่ในข่ายเครื่องมือแพทย์และมีFDAรับรองเครื่องมือค่ะถึงจะได้ผลในการรักษา ตามพวกร้านเสริมสวยทั่วไปจะไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ค่ะ
(แอบบอกนิดนึงว่า Iontoได้ผลดีกว่าPhonoค่ะ)
ระยะเวลาในการรักษาหรือดูแลผิวก็ใช้เวลาค่ะเพราะว่ามันไม่ได้ลงลึกเหมือนพวกเลเซอร์หรือลำแสงค่ะ เหมาะกับการดูแลแบบเรื่อยๆ ต้องทำอาทิตย์ละครั้งอย่างต่อเนื่อง ถ้าทำๆแล้วหายส่วนมากจะไม่ค่อยรู้สึกว่าได้ผลค่ะ
แต่ถ้าทำพวกเครื่องมือใหญ่เช่นเลเซอร์ควบคู่กับiontoหรือphono หน้าจะเด้งเร็วขึ้นค่ะ
คลีนิกลางๆทั่วๆไปราคา 250-500บาท/ครั้ง
-
Khorb khun kha nong Antz,( Jao mae beauty ) phee tarm arn nu post talord loei, ps. pen Mor plao ja?
-
ว๊ายยยยย หนูมิใช่หมอค๊าาอย่าเข้าใจผิด มิบังอาจค่ะ
แค่วนเวียนอยู่ในวงการสวยๆงามๆและพอจะมีความรู้ติดตัวบ้างเท่านั้นค่ะ
ที่มาโพสต์ก็แค่มาแชร์ให้ข้อมูลเพื่อนๆเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจเจ้าค่ะ
อยู่บ้านเดียวกันช่วยๆกันค่ะ
หากผิดพลาดประการใด..ข้าน้อยขออภัยมา ณ.ที่นี้ด้วยค๊าา
แต่เจ้าแม่บิวตี้ตัวจริงต้องเจ๊นีน่าเลยค่ะ
-
เคยทำ ionto ที่คลีนิคชื่อดังตรงปากซอยสุขุมวิท 24
ด้วยความที่คิดว่า น่าจะไว้ใจได้ และราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ
แต่... ผลที่ออกมาไม่ได้มีอะไรแตกต่าง การทาผิวหน้าด้วยวิตามินแล้วใช้กระแสไฟฟ้าผลักนั้น คิดว่าเป็นเหมือนกับการให้ผลทางด้านจิตใจมากกว่า
เท่าที่อ่านบทความในเวปต่างประเทศก็รู้อยู่เหมือนกันว่า วิตามินต่างๆ นั้นสามารถผ่านผิวหนังชั้นนอกสุดลงไปได้ แต่.. ไม่ได้แปลว่า จะถึงชั้นในสุดได้นะครับ
ผลที่ได้ บางครั้งเราก็อาจจะคิดไปเอง คนส่วนใหญ่เวลาทำทรีทเม้นท์ก็มักจะดูแลผิวมากกว่าในช่วงที่ไม่ได้ทำ เมื่อทำหลายๆ อย่างประกอบกันผิวก็จะดูดีขึ้น
ปล. บางคนเสพติดความงามจนลืมไปว่า สังขารมันไม่เที่ยง จะดึงจะรั้งเวลาให้เนิ่นนานกันสักแค่ไหน ถึงจะพอใจ?
สวยได้ แต่ต้องสวยอย่างมีสติ คลีนิครวยได้ก็เพราะคนเราไม่เคยพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี
-
น่าจะเป็นอย่างที่คุณพิมว่า เหมือนกัน และพี่พนอ ดีใจด้วยค่ะที่หน้าของพี่เริ่มกลับสู่สภาพเดิมแล้ว ก็ต้องใช้เวลาค่อยๆรักษาไปนะค่ะใจเย็นๆ
ต้องขบคุณน้องแอนและทุกคนที่เข้ามาช่วยแชร์ประสบการ์ณและความรู้ต่างๆค่ะ ;)
-
ช่วงก่อนหน้านี้ก็ไปทำ ionto มาเหมือนกันค่ะ ผิวมีรอยแผลเป็นเพราะชอบแกะตามประสาคนมือบอน ทำมาก็ไม่ค่อยได้ผลนะคะ รู้สึกว่ามันจางลงไปเองตามกาลเวลา เลยพยายามไม่แกะเพิ่มเท่านั้นเองค่ะ
-
ว่าจะไปทำพอดีเลยอ่ะ ช่วงนี้เห็นมันเซลกระหนำ่
-
เคยทำมาแล้วทั้งคู่จ้า(แอบแถมipl ด้วย)จากที่สัมผัสมาคือโฟโนจะเน้นริ้วรอยมากกว่าไอออนโต ความรู้สึกส่วนตัว เราว่าโฟโนทำแล้วไม่ค่อยเห็นผลรู้สึกเหมือนนวดหน้าคือนุ่ม+เนียนขึ้น แต่ไอออนโตดีขึ้นหลังจากทำเลยในครั้งเดียวเห็นผลเลยดีมากสำหรับคนที่เป็นสิว(vitA+Cทำให้สิว+แผลเป็นแห้งเร็ว) อิอ..จะไม่ดีทันตาเห็นได้ไงก็เราโดนช๊อตผิวหน้าอยู่(เคยลืมถอดต่างหูทีด้วย สดุงเป็นระยะๆเลยอะ)นี่เป็นผลให้รูขุมขนที่กว้างแถวทีโซนกระชับเลย(แต่ซักพักก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม เราชอบไปช็อตก่อน จะแต่งหน้าไปงานเนียนดี+เราผิวผสมหน้าไม่เยิ้มดีจ้า ส่วนIPLทำไปทีออกแนวกลัวๆคือหลับใส่แว่นแล้วก็จริงแต่มันก็แว็ปๆแดงๆ กลัวทำบ่อยๆแล้วจะมีผลกะลูกตา แถมหน้าแดงเห่อๆด้วย
******เป็นความเห็นส่วนตัว เขียนจากประสบการณ์ตรงของตัวเองนะคะ
-
ขออนุญาตเจ้าของกระทู้และเจ้าของกรุ๊ปครับ ทดสอบระบบการเชื่อมต่อกระทู้ระหว่าง Social Group และ Main Forum ครับ
ขอบคุณครับ