อีกหนึ่งความเห็น จากเวป รักษาธรรมะ ครับ
คำถาม
ดิฉันมีเรื่องกลุ่มใจมากๆๆๆค่ะคือว่าพ่อของดิฉันเป็นคนที่ขี้หึงมากๆๆ
แม่ไปไหนไปได้เลยกับลูกเขยพ่อก็หึงดิฉันไม่รู้จะแก่ปัญหาอย่างไรดี
ไม่ทราบว่าแม่ทำกรรมกับพ่อไว้อย่างไรทั้งที่พ่อก็เคยบวชเรียนมาก่อน
อยากทราบวิธีแก้ไข
และอีกเรื่องดิฉันโดยแดดแล้วที่แขนของดิฉันเป็นดวงสีขาวหาหมอแล้วก็ไม่หายอยากทราบว่าจะแก่กรรมอยากไร คำตอบ
คนที่ขี้หึงมากๆ ก็เพราะรักมาก ในอดีตก็คงเคยปรารถนาให้มีคนมารักมากๆไว้ก็เป็นได้
เพราะไม่รู้ว่ารักมากก็ทุกข์มาก ทุกข์ทั้งคนที่รัก และคนถูกรักเลยจริงๆ อย่างกรณีที่คุณพ่อของท่านผู้ถามประสบไว้เป็นต้น
ธรรมชาติใจคนเรามักพอใจที่มีคนมารัก อยากได้ความรักมากจากคนอื่น
โดยก็ไม่รู้ว่า จะต้องเป็นทุกข์ เสมือนเหรียญสองด้านเสมอ
คนที่เป็นทุกข์ที่สุดในกรณีนี้ หาใช่คนอื่นไม่ คือตัวคุณพ่อของท่านผู้ถามนั่นแหละ
เพราะใจนั้นคอยแต่จะระแวดระวัง หวงแหน บางทีถึงขั้นระแวง อย่างนี้ใจเป็นไปกับโทสะหมด
คนที่ทุกข์ตามมาอันดับสองได้แก่คุณแม่ ที่ดูเหมือนจะหมดความเป็นตัวของตัวเอง หมดอิสระภาพ
นี้ก็เป็นทุกข์อย่างหนึ่ง
ต้องค่อยๆคุยให้เหตุผลกันไปเรื่อยๆ
หาอุบายเล่าเรื่องราวสมมุติให้พ่อฟังว่า คนที่ขี้หึงมากๆนั้น
คนเป็นภรรยาทุกข์มากที่สุด จริงๆแล้วก็เพราะรักนั่นแหละแต่ขาด
เหตุผล ขาดปัญญา ดังนั้น กลายเป็นว่าไปทำร้ายจิตใจของคนที่เป็นคู่ไปเสียได้
อย่างนี้ เรียกว่า รักไม่เป็น เพราะทำให้เกิดทุกข์มากมายทั้งตัวเอง และคนที่ตนรักนั่นแหละ
ดังนั้น คุณพ่ออาจจะค่อยๆเห็นเหรียญอีกด้านหนึ่งซึ่งตัวท่านเองไม่เคยมองเห็นเลย ใจคุณพ่ออาจจะเกิดเมตตาขึ้นมาและใคร่จะทำให้คุณแม่มีความสุขอย่างถูกต้อง เรื่องนี้ บอกกล่าวตรงๆไม่ได้ เพราะกำลังขาดเหตุผล และท่านผู้ถามเองก็เป็นลูก อาจจะหาโอกาสเล่าเหมือนเล่าเรื่องคนอื่นให้ท่านฟัง ยกตัวอย่างว่า มีคนถามในเว็บไซต์นี่แหละ อ่านแล้วชอบจังเพราะเห็นว่า ความรักนั้นแม้รักอยู่นั่นแหละ หากขาดเหตุผลเสียแล้ว ตนเองและผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นย่อมเป็นทุกข์มากๆเลย เล่าโน่นเล่านี่ไปเรื่อยๆ ท่านฟังท่านอาจจะแอบไปพิจารณาของท่านได้
ในอดีต คุณพ่ออาจจะเคยถูกพรากของรักของหวงและยังจำติดตาติดใจ ดังนั้นจึงไม่อยากเจออย่างนั้นอีกก็ได้
แต่คนที่มีเยื่อใยเหนียวแน่นอย่างนี้ อารมณ์ที่เป็นอาจิณกรรมมักไม่พ้นจากเรื่องความผูกพันอย่างนี้ เป็นไปกับความหวงแหนมากๆ หากตายไป กรรมอย่างนี้ส่งผล ก็อาจจะได้กำเนิดเป็นสุนัขเฝ้าบ้านเพราะเหตุแห่งความหวงแหน เป็นงูเฝ้าถ้ำอะไรทำนองนี้ หรือไปเกิดเป็นเปรต เพราะใจนั้นไม่ใคร่เกิดกุศล มีแต่เสน่หาถ่ายเดียว ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะคะ
ถ่ายสำเนาคำถามคำตอบหลายๆเรื่องจากเว็บนี้ ที่เห็นว่าคุณพ่อน่าจะสนใจลองให้ท่านอ่านดู หากท่านเกิดชอบใจเพราะมีอดีตกุศลมา ไม่นานท่านก็จะเปลี่ยน เพราะปัญญาเกิดแก่ท่านมากขึ้นแล้ว ท่านก็จะเข้าใจเรื่องวิบาก เรื่องการสร้างทุกข์ให้ตนเองและผู้อื่นอันเป็นกรรมที่พึงเลี่ยง ละเว้นเสีย หนักๆเข้าท่านก็อาจจะค่อยผ่อนคลายจิตใจของตัวเองได้บ้าง ลองดูก็ไม่เสียหายนะคะ
หากท่านไม่รับ ก็ถือว่าเป็นกรรมของท่าน และเป็นวิบากของคุณแม่ท่านนั่นแหละ ยอมรับเอาเถิดว่าท่านเป็นของท่านอย่างนี้ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ ก็พยายามหาวิธีหลีกเลี่ยงไม่ให้ใจท่านยึดมากขึ้น อันนี้เป็นโทษแก่คุณพ่อท่านโดยตรง น่าสงสารนะคะ
ส่วนรอยขาวที่แขนนั้น หากไม่หายแล้ว เพราะหมออาจจะไม่ทราบว่าเกิดจากปัจจัยอะไร ก็รักษาไม่ได้
โรคบางอย่างเกิดแต่กรรม แก้ไม่ได้ค่ะ
โรคบางอย่างเกิดจากจิต อันนี้แก้ได้ค่ะ
โรคบางอย่างเกิดจากอุตุ ความร้อนความเย็น อันนี้แก้ยาก เพราะเรากำหนดเอาเองไม่ได้ค่ะ
โรคบางอย่างเกิดจากอาหาร อันนี้ เราดูแลให้ดี ก็แก้ได้ค่ะ
รอยอย่างนี้ น่าจะเกิดจากอุตุนะคะ เพราะอาจจะแพ้แดด แล้วทำให้เม็ดสีผิวนั้นเปลี่ยนแปลงไป
และอาจจะเกิดจากกรรมที่ส่งผลระหว่างกาลที่มีชีวิตอยู่ อาจจะเกี่ยวกับว่า เคยไปทำร่องรอยที่ไม่สวยงามให้แก่ใคร หรือสถานที่ใดไว้ก็ย่อมเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่จะให้เจาะจงลงไปชัดเจนนั้นย่อมไม่ใช่วิสัยค่ะ ไม่สามารถทำได้
ให้ยอมรับและอย่ากระทำความหงุดหงิด หรืออยากให้รอยหายไป บางทีก็ทำไม่ได้แก้ไม่ได้เสียแล้ว
หากบุญดี และอยู่ในวิสัยที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ท่านก็จะพบสาเหตุ พบปัจจัยแห่งโรคได้ในโอกาสต่อไป เรื่องอย่างนี้ก็อาจจะเกิดได้
อยากผิวงามก็อย่าเป็นคนช่างหงุดหงิด ต้องเป็นคนใจเย็นมีเมตตา ไม่เจ้าโทสะ โทสะทำให้ผิวในปัจจุบันเสีย และหากส่งผลในชาติต่อไป ก็ยังเบียดเบียนให้ได้รูปทรามปิวทรามมาครอบครองเสียอีก เกิดมาเป็นคนผิวหยาบ ผิวทราม เพราะใจนั้นเป็นโทสะมากค่ะ
พึงทำเหตุใหม่ให้ดีๆก็แล้วกัน หากแก้ได้ก็ดีไป หากแก้ไม่ได้ก็ยอมรับเถอะค่ะ ดีกว่าเสียแขนเสียขาอย่างคนอื่นเขา ใช่ไหมคะ?
ขออนุญาติ ฝากเป็นเป็นครั้งที่ 3 ครับ จากเวป รักษาธรรมะ ครับ
เป็นกำลังใจให้ สู้ สู้ นะครับ
คำถาม
ดิฉันขอปรึกษาเรื่องครอบครัวค่ะ ดิฉันแต่งงานกับสามีได้ 9 ปี เกือบ 10 ปีแล้วค่ะ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สามีดิฉันจะเป็นคนเจ้าชู้ จะมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาประมาณสองปีจะมีหนึ่งครั้งโดยประมาณนะคะ ดิฉันมีลูกกับสามีสองคนค่ะ คนโตอายุประมาณเจ็ดขวบ คนที่สองอายุประมาณสองขวบค่ะ ทุกครั้งที่ดิฉันจับได้เค้าจะเลิกทุกคน แต่จะมีล่าสุดเมื่อประมาณสองปีที่แล้วค่ะ เค้ามีเรื่องชู้สาวกับน้องที่ทำงานเดียวกันคือ เค้าเป็นหัวหน้าแผนก ดิฉันทราบได้เพราะมีน้องที่ทำงานเล่าให้ฟังค่ะ แต่ดิฉันก็ไม่ได้เชื่อทุกอย่างแต่ดิฉันมีหลักฐานค่ะ ก็คุยกับแฟนเค้าก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไร แล้วก็บอกว่าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันก็ดูพฤติกรรมเค้าทุกอย่างเค้าเป็นปกติค่ะ จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดิฉันบังเอิญไปเจอหลักฐานบางอย่าง ที่เค้าใช้เรียกผู้หญิงคนนี้ว่า My Wife ดิฉันรู้สึกเสียใจค่ะ แล้วก็เศร้าใจ ก็พยายามคิดว่าควรจะทำอย่างไรดี ข้อดีของเค้าคือ เค้าไม่เคยไปค้างที่อื่น เงินทองให้ดิฉันเก็บ ดิฉันก็จ่ายให้เป็นรายวันค่ะ เค้าเป็นคนรับผิดชอบครอบครัว ข้อเสีย คือ เป็นคนเจ้าชู้ ได้บ่อยๆ คือเผลอเป็นนอกใจมีเรื่องผู้หญิงเข้ามา ตอนนี้ดิฉันคิดอยากเลิกค่ะ แต่กลัว 1. ลูกมีปัญหา พ่อแม่แยกทางกัน 2. ภาระค่าใช้จ่ายจะมากขึ้น หากดิฉันเลิกต้องการลูกไปเลี้ยงเอง แต่เท่ากับว่าดิฉันพาลูกไปลำบาก เพราะลำพังเงินเดือนดิฉันหมื่นกว่าบาท ส่วนของเค้าประมาณสามหมื่นกว่าบาทค่ะ ดิฉันกลุ้มใจมากค่ะ ตอนนี้อยู่ในช่วงที่สับสนกับชีวิตตัวเองมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี รบกวนช่วยชี้แนะ หรือแนะนำด้วยค่ะ ว่าดิฉันควรจะทำอย่างไรกับชีวิตตอนนี้ดี จากคนเศร้าค่ะ คำตอบ
ชีวิตนั้น ชื่อว่า หาความสุขได้ยาก เพราะสุขเป็นเรื่องไม่ยั่งยืน แปรเปลี่ยนไปได้ตามเหตุปัจจัย
ให้ท่านผู้ถามพิจารณาดูอย่างนี้นะคะว่า หากท่านผู้ถามเดินเข้าไปในร้านขายต้นไม้ ท่านผู้ถามเห็นต้นไม้ต้นหนึ่งก็พอใจ พอไต่ถามความรู้จากร้านค้าแล้ว เขาก็บอกว่า ต้นไม้นี้ ใบดก ร่วงบ่อย มีเพลี้ยหนอนมาก ต้องทำความสะอาดมาก ติดลูกได้ยาก..อาจจะไม่มีดอกหรือผลเลย หากรู้อย่างนี้ ท่านผู้ถามก็ต้องถอยออกมาใช่ไหมคะ?
ทีนี้อยู่กินกันมาตั้ง 9 ปี 10ปี นี่ เวลาไม่น้อยเลย..ดังนั้น เรื่องเจ้าชู้ ก็คงไม่มีใครไปแก้ไขได้ เพราะธรรมชาติของเขาเป็นอย่างนั้น
หากเปรียบเป็นต้นไม้ เป็นต้นไม้สวย ยังมีใบพุ่มสวย มีผลออกตลอดทั้งปี แต่แหม..กิ่งนี่ชอบย้อยออกไปบ้านข้างๆ เสียจริงๆ...ทำให้คนอื่นพลอยมาเด็ดเอาลูกเอาผลไปกินโดยไม่ได้ขออนุญาตจากเรา ...เพราะกิ่งต้นไม้ระรานออกไปบ้านคนอื่นนั่นเอง
ธรรมชาติต้นไม้นี้ ก็เหมือนสามีของท่านผู้ถาม..
หากท่านผู้ถามเกิดไม่พอใจแล้ว ก็ล้มต้นไม้ทิ้งไปเลย แน่นอน..คนข้างบ้านจะได้ไม่มาเด็ดผลไม้จากต้นนี้ แต่ปัญหาคือ ท่านผู้ถามและลูกๆ ก็อดเช่นเดียวกัน
สามี ไม่ใช่ต้นไม้...ใจจึงแบ่งได้ยาก ทำใจได้ยาก คนเดินทางก็รู้
แต่ข้อเท็จจริงคือ คนเจ้าชู้นั้น... ใครๆในโลกนี้จะเปลี่ยนนิสัยเขาได้หรือ?
ต้องยอมรับความจริงให้มากขึ้น.. พร้อมๆ กับรักเขาให้น้อยลง ใจจะได้เดือดร้อนน้อยลงไปด้วย...รักมาก ก็ทุกข์มากค่ะ...
อย่าถึงกับคิดจะแยกทางกัน ก็เหมือนกับคนผู้เป็นเจ้าของต้นไม้ จะล้มหรือฟันต้นไม้ทิ้งไป... ประโยชน์ของต้นไม้นั้นยังมีอยู่นะคะ.. ก็ใส่ใจเฉพาะที่ในประโยชน์ไป
จึงจำเป็นต้องฝึกใจค่ะ...รักน้อยลง ทุกข์ก็น้อยลงนะคะ
ให้ฝึกหย่าด้วยใจ แต่อย่าหย่าที่ตัวหรือกฏหมาย
หมายความว่า..ให้ลด ละความยึดถือว่า เขานี้ไม่ควรจะเจ้าชู้เลย ลงไป..เพราะเขาเจ้าชู้โดยอัธยาศัย เปลี่ยนได้ยาก ..หากเป็นต้นไม้ ก็เก็บเอาเฉพาะส่วนดีๆกิน ก็ยังเหลือกินเหลือใช้..ลดความรู้สึกหวงแหนลงไป ท่านก็จะโปร่งใจมากขึ้นค่ะ
เงินทองเขาให้ท่านผู้ถามเก็บก็นับว่าดีแล้วนะคะ..เพราะที่จะไปเจือจานคนอื่นๆนั้นคงมีไม่มาก..
อดข้าวนั่นแหละ เราจะตาย..ไม่ตายด้วย อดเสน่หา... นะคะ
ดังนั้น สมควรอยู่กันไปอย่างนี้ ยอมรับว่า เขาเป็นคนมีนิสัยเจ้าชู้ ...ก็พึงระมัดระวังตนเรื่องความปลอดภัยเรื่องโรคติดต่อเข้าไว้ ....
หมั่นเก็บหอมรอมริบ เผื่อตาดีตาร้ายขึ้นมา...อย่างน้อยๆก็ยังมีอะไรติดเนื้อติดตัวเพื่อตนเองและลูกบ้างค่ะ
หย่าที่เยื่อใย คือ ใจของท่านที่ผูกพันอยู่... สักวันหนึ่ง ในยามที่จำจะต้องจากกันไป ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตายเพราะหมดด้วยเหตุปัจจัยจริงๆ ....ท่านผู้ถามจะได้ไม่เสียใจมากจนเกินไปนะคะ
ตอนนี้ ต้นไม้นี้ ยังมีประโยชน์มาก เป็นร่มเงา ให้ดอกผล ให้ความมั่นคงแก่ชีวิตครอบครัว ..เสียไปบางอย่าง ....ก็ทำได้เพียง แค่ยอมรับ เท่านั้นเองค่ะ
หาโอกาสสร้างประโยชน์ตนให้มากเข้าไว้..เอาความทุกข์ครั้งนี้มาศึกษาเหตุผลของพระธรรม จะเป็นการดีค่ะ..
ผลที่เดือดร้อนอย่างนี้ เพราะอาศัยความไม่มีศีลของท่านผู้ถามนับแต่อดีตชาติมา..ก็สมควรใส่ใจในเรื่องการรักษาศีลเข้าไว้ หมั่นทำทาน รักษาศีล และเพิ่มพูนปัญญาให้มากเข้าไว้ด้วยการฟังธรรม ปฏิบัติธรรม..ท่านจะมีความสุขในความทุกข์ได้มากขึ้นค่ะ
RE: ไม่อยากเป็นคนขี้หึง แก้ปัญหายังไงดีคะ
ผู้หญิงช่างเป็นเพศที่อดทนจริงๆ :rolleyes: