เป็นผมก็ทำแบบเดียวกันอะครับพี่ทินี
ถือซะว่า ร่วมบุญ ไปกับเค้าครับ
:D
Printable View
เป็นผมก็ทำแบบเดียวกันอะครับพี่ทินี
ถือซะว่า ร่วมบุญ ไปกับเค้าครับ
:D
อย่าคิดมากค่ะ
เป้นบุ๋มก็จะทำแบบนี้เหมือนกันอ่าค่ะ
เป็นพี่ ก้อจะทำแบบเดียวกันนี่แหล่ะนู๋อย่าคิดมากเดี๋ยวไม่สวยน้า ;)
ทำถูกต้องแล้วค่ะ
จริงๆแล้วการทำบุญไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ก็ได้ผลบุญไม่ต่างกันหรอกค่ะ เพราะใจเราอยากช่วยเค้าจริงๆ
ปล.ความเห็นส่วนตัว จริงๆแล้วถ้าเป็นรพ.รัฐบาลก็นำศพออกมาได้เลยนะค่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะมีมูลนิธิช่วยเหลือด้านนี้โดยตรง อย่างอุ้มเอง ก็เคยบริจาคโลงศพให้ผู้อยากไร้นะค่ะ ที่รพ.ต่างๆ
หรือทางวัดเอง....ส่วนมากถ้าเจ้าภาพไม่มีเงิน ทางวัดก็จะจัดอุปกรณ์ต่างๆให้ฟรีค่ะ
update!!!
เมื่อวานก็โทรไปบอก รปภ. หน้าหมู่บ้านให้ช่วยดูๆ คนนี้ให้ด้วย กลัวว่าเดี๋ยวจะเป็นคนร้ายอะไรเงี้ย ปรากฏว่าเมื่อเช้ารปภ. มาที่บ้าน มาบอกว่าเจอตัวคนนั้นแล้ว ปรากฏว่าเป็น "คนบ้า"!!! และบ้ามานานแล้ว อาศัยอยู่แถวๆ หมู่บ้านนี้แหละ เค้าเจอใครก็พูดไปเรื่อยเจื้อย ส่วนมากพูดไม่รู้เรื่อง มีเรื่องแม่เสียที่เค้าอ้างกับเราเมื่อคืนนี้แหละ ที่พูดรู้เรื่อง
เอ๊า! ถือว่าทำบุญกะคนบ้าละกัน... ได้บุญเหมือนกัน...
เราว่า คุณพ่อพี่ทินี ทำถูกแล้วนะคะ
เวลามีคนมายืมเงิน เราก็จะใช้วิธีนี้แหละ
คือไม่ได้ให้ยืม แต่ก็จะตัดใจให้ไปในจำนวนที่รับได้แบบนี้เลย
ตัดปัญหา....
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้ทุก case นะคะ
55555 55555 ดีจะค่ะจบสวย อย่างน้อยคุณMeesookก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว
นานาจิตตังอ่ะค่ะ
ถ้าคิดว่าเค้าจะมาหลอก แล้วไม่ให้เค้าไปก็ทำถูกแล้วค่ะ
เพราะถึงให้ไปก้ไม่ได้บุญหรอก
เพราะให้ไปใจเราก็จะไปคิด ว่าเค้าเอาเงินเราไปทำอะไร
ไปซื้อเหล้า ซื้อบุหรี่ เล่นการพนัน .........ฯลฯ.......
สรุปก็คือ ให้เค้าไปแล้วเราก็ไม่สบายใจนั่นเอง
แต่ถ้าเป็นตัวนิว เป็นสามีนิว หรือที่บ้านสามี
นิวให้ค่ะ ให้แบบไม่หวังว่าเค้าจะมาคืนหรือไม่คืนก็ตาม
ถ้าเค้าคืน ก็ถือว่าเค้าเป็นคนดี มีสัจจะ แต่ถ้าไม่เอามาคืน ก็คิดซะว่าเค้าไม่มีจะมาคืน
เพราะถ้าเป็นเงิน 1000บาท ถ้านิวมีเงินติดตัวมากกว่านั้น นิวให้แน่นอน
แต่ถ้ามีไม่ถึง ก้จะให้เค้าเท่าที่นิวสามารถให้ได้ ให้ไปแล้วนิวไม่เดื่อดร้อน ก็จะให้ค่ะ
เพราะคนที่เค้าไม่มีเงินจริงๆ และไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากไหน
แต่ว่าจำเป็นต้องใช้เงิน นิวว่าเค้าต้องเดือดร้อนมากๆๆๆๆ
ถึงกล้ามายืมคนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน
เคยเจออยู่คนนึง จอดรถรอแม่นิวอยู่หน้าบ้าน
ตอนนั้นยังเรียนอยู่ นิวนั่งรถอยู่กับสามี ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงานกัน
มีผู้หญิงเดินมาเคาะกระจกรถ สามีนิวเค้าก็เปิดถามว่ามีอะไร
เค้าบอกของเงินหน่อย เค้าไม่สบาย เป็นไข้ทับระดู
แต่ไม่มีเงินไปซื้อยากิน เดินขอเงินคนแถวนี้หลายคนแล้ว
ยังไม่พอค่ายาเลย สามีนิวก็ถาม ค่ายาเท่าไหร่
เค้าก็ตอบว่าค่ายาหม้อ5ร้อยกว่าบาท สามีนิวก็ถามต่อว่าแล้วมีเท่าไหร่แล้ว
เค้าก็นับเงินที่กำอยู่ในมือ แล้วตอบว่า มีร้อยกว่าบาท
ยังขาดอยู่อีกเกือบ4ร้อย สามีนิวก็เลยควักตังออกมานับ
มีอยู่4ร้อยกว่าบาท เค้าให้ป้าคนนั้นไป2ร้อย
แล้วก็พุดว่าผมมีแค่4ร้อยกว่าบาท ป้าเอาไปแค่นี้แล้วกันนะ
ผมให้หมดไม่ได้ ต้องเก็บเอาไว้กินข้าวอีกหลายวันกว่าจะสิ้นเดือน
ป้าคนนั้นขอบคุณแล้วก็เดินไปขอเงินคนอื่นอีก
นิวก็ถามสามีว่าทำไมให้ป้าเค้าไปเยอะจัง มีตังอยู่นิดเดียวเอง
แล้วกว่าจะสิ้นเดือนก้ตั้งหลายวัน สามีตอบ ก็คิดแล้วว่าให้ไปเท่านี้แล้วไม่เดือดร้อน
กินใช้ประหยัดๆเอาหน่อยก้อยู่ได้ นิวบอก ก็ให้แค่50ก้ได้หนิ
ยังไงก้ไม่พออยู่ดี เค้าก้ต้องไปขอคนอื่นอีกอยู่ดี
สามีตอบ ก็เค้าบอกว่าเค้าไม่สบาย แล้วเพิ่งมีแค่ร้อยกว่าบาทเอง
กว่าจะขอได้ครบ5ร้อย ไม่เป็นลมตายข้างทางก่อนเหรอ
ให้เค้าไปเยอะหน่อย เค้าจะได้หาเพิ่มอีกไม่มาก
นิวก้ถาม แล้วไม่คิดว่าเค้าจะมาหลอกเราบ้างเหรอ
สามีตอบ ก็ถือซะว่าทำทานไปแล้ว เค้าจะเอาไปทำอะไร
จะโกหกเรารึเปล่า เราไม่ได้รับรู้แล้ว มันเรื่องของเค้า
ถ้าเค้าโกหก เค้าก็รู้อยู่แก่ใจ มันก้เป็นกรรมติดตัวเค้าไป
นิวฟังแล้วก็อึ้ง คนสมัยนี้ อายุแค่นี้ คิดได้อย่างนี้เลยเหรอเนี่ย
ความมีน้ำใจของเค้าเป็นอีกเหตุผลนึงในหลายๆเหตุผล
ที่ทำให้นิวตัดสินใจแต่งงานด้วย
ขออนุญาติล่าเรื่องที่เคยได้ฟังมา แต่จำไม่ได้ว่าฟังมาจากไหน
สมัยพุทธกาล มีพระราชาองค์นึง ไม่มีลูกมีหลาน
พระราชาชอบทำบุญอยู่เป็นพระจำ พระราชาจะรับสั่งให้มหาดเล็กคนสนิท
ไปนิมนต์พระที่อยู่ใกล้ๆกันนั้นมาฉันท์ภัตตาหารที่พระราชวังเสมอ
และให้จัดหาอาหารที่ดีที่สุดมาถวายพระ
มีวันนึง หลังจากที่เลี้ยงพระและฟังเทศน์จบแล้ว พระราชาก้อยากรู้
ว่าพระรูปนั้น อาศัยอยู่ที่ไหน จึงสั่งให้มหาดเล็กตามไป
พอมหาดเล็กตามไป ก็เห็นพระรูปนั้นเดินเข้าไปในป่า แล้วเอาชุดที่ซ่อนไว้
มาเปลี่ยนเป็นขอทาน พอกลับเข้าวัง พระราชาก็ถามมหาดเล็ก
ว่าตกลงรู้แล้วใช่มั๊ย ว่าพระรูปนั้นอาศัยอยู่ที่ไหน มหาดเล็กก็ไม่กล้าบอกความจริง
จึงตอบว่าไม่รู้พระเจ้าค่ะ กระหม่อมเดินตามพระรูปนั้นเข้าไปในป่า แล้วพระท่านก็หายไปเลย
พระราชาก็คิดว่าสงสัยพระรูปนั้นคงจะเป็นพระอรหันต์ ผู้มีอิทธิฤทธิ์
จึงรับสั่งให้มหาดเล็กไปนิมนต์มาฉันท์เพล และเทศนาสั่งสอนพระราชาทุกวัน
พอพระราชาเสด็จสวรรณคต ก็ยกทรัพย์สมบัตทั้งหมดให้มหาดเล็ก
มหาดเล็กก็ได้เป็นพระราชา มหาดเล็กก็ฝังใจ ว่าพระราชาถูกขอทานหลอกว่าเป็นพระ
จึงไม่ศรัทธาพระทุกรูป พอเห็นพระก็นิมนต์ให้มาฉันอาหารในวัง
เพื่อหวังจะแก้แค้น เพราะคิดว่าเป็นขอทานปลอมเป็นพระเหมือนกัน
สั่งให้คนในวังเตรียมอาหารบูดๆมาถวายพระ ทุกครั้งที่นิมนต์พระมา
เวลาไหว้พระใจก็คิดดูถูกว่าพระเป็นแค่ขอทาน
พอมหาดเล็กตายไป ก้ไปจุติในนรก เพราะพระที่มหาดเล็กทำบุญด้วเป็นพระอรหันต์
แต่มหาดเล็กไม่รู้ ส่วนพระราชาเมื่อสวรรณคตแล้วก้ไปจุติบนสวรรค์
เพราะตอนที่ทำบุญทรงคิดว่าได้ทำกับพระอรหันต์จริงๆ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะทำบุญแล้วได้บุญหรือไม่ อยู่ที่ใจเราจะคิดขณะทำบุญ
คิดดี ก็เป็นบุญ คิดชั่ว ก้เป็นบาป
^
^^
^^^
ตัดสินใจถูกที่สุด ที่แต่งกับคนนี้ค่ะคุณนิว (ยินดีด้วย;))
คุณทินีอย่าคิดเก็บมากังวลเลยค่ะ ให้แล้วก็ให้โลดด
ถึงเค้าจะโกหกเรา ก็ถือว่าเราทำกุศล(แถมแม่เค้าอาจจะยังอยู่ ยังแข็งแรง)
หรือถ้าเค้าพูดเรื่องจริงก็เท่ากับว่าเราได้ทำกุศลกับคนตายคนเจ็บอยู่ดีเน้ออ
ถือว่าทำบุญค่ะ อย่าคิดมากนะคะเสียสุขภาพจิตเราค่ะ:D