น้องไอขา พี่ว่าหน้าน้องไอไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยนะคะ เพราะว่าน้องสวยมากๆเลยแหละ
พี่แอบมองตั้งหลายทีเลยแหละ ว่าทำไมน้องช่างสวยขนาดนี้
แต่พี่เห็นด้วยกะคุณป้องค่ะ แค่บำรุงนิดๆหน่อยๆก็พอค่ะ
หน้าน้องไองามอยู่แล้วพี่เห็นยังอิจฉานู๋เลย
Printable View
น้องไอขา พี่ว่าหน้าน้องไอไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยนะคะ เพราะว่าน้องสวยมากๆเลยแหละ
พี่แอบมองตั้งหลายทีเลยแหละ ว่าทำไมน้องช่างสวยขนาดนี้
แต่พี่เห็นด้วยกะคุณป้องค่ะ แค่บำรุงนิดๆหน่อยๆก็พอค่ะ
หน้าน้องไองามอยู่แล้วพี่เห็นยังอิจฉานู๋เลย
เข้ามาเก็บข้อมูล
น่าจะเป็นนิคมากกว่านะครับที่เป็นคนที่ตั้งกระทู้นี่
เพราะวันนั้นมีแต่นางฟ้าลงมา party ในวันนั้น
แต่ละคนหน้าผมนี่งามทั้งตัว
ปล....ท่านใดมีครีมที่ลบรอยดีดีแนะนำบ้างไหมครับ
ถ้าน้องไอกังวลเรื่องรอยสิวหรือแผลเป็น จุดด่างดำ พี่แนะนำตัวนี่เลยค่ะเคยลงกระทู้แนะนำไปทีหนึ่งนานแล้วมั่ง AHA Face Treatment (Naturelle) ตัวเม็ดเป็นรูปหัวใจสีเขียว ใช้ก่อนทาไนท์ครีมคืนละเม็ดก้อพอ ใช้ติดต่อกันสามเดือนแล้วหยุดหนึ่งเดือนค่ะ รับรองเลยค่ะ หรือใครเป็นฝ้าก้อใช้ตัวนี่เลยค่ะ ส่วนพวกกระจะทำให้จางลงได้แต่ไม่หายนะค่ะ มีข้อแม้ว่าใช้ตัวนี่แล้วต้องทากันแดดตอนเช้าด้วยนะจ้ะ มีขายตามร้านขายยาทั่วไป ราคาข้างกล่องตกกล่องละ 370 บาทเอง แต่บางร้านไม่ถึงหรอก ;) ส่วนตรีมบำรุงสำหรับผิวแห้งพี่ใช้ Lamer จ้ะ
นี่พี่มูน้อยเองนะคะ ขออนุญาตเข้ามาให้คำแนะนำนิดหน่อยเกี่ยวกับการดูแลผิวละกัน ออกตัวก่อนนะคะว่าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือหมอผิวหนังโดยตรง อาศัยความรู้ตอนเรียนเภสัชที่ตอนนี้ยังมีเหลืออยู่บ้าง (จบมา 5 ปีแล้ว แต่ไม่ได้ใช้เลยอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้างเล็กน้อยเน้อ แต่จะพยายามให้ถูกมากที่สุดละกันนะคะ ;)) ขั้นตอนดูแลผิวที่สำคัญหลักๆ มีอยู่ 3 ขั้นตอนด้วยกันจ้า คือ
1. ทำความสะอาด ถ้าหน้าเราไม่สะอาดซะแล้ว ตั้งแต่ต้นทาครีมอะไรลงไปก็ได้ผลไม่เต็มที่ค่ะ ยิ่งถ้าแต่งหน้าด้วยแล้ว ยิ่งต้องเช็ด-ล้างให้เกลี้ยงเป็นพิเศษ เข้ามาเห็นด้วยกับ น้อง Jan ด้วยคนค่ะ ว่าตัวล้างหน้าของ Philosophy purity ดีจริงๆ แต่พี่หมูน้อยปกติจะล้างซ้ำด้วย Cetaphil อีกขั้นนึง สำหรับน้องๆ ที่อาจจะบอกว่าหนูไม่ได้แต่งหน้า ล้างด้วยโฟมธรรมดาก็พอ อยากจะบอกว่า ถ้าใช้ครีมกันแดด (แนะนำว่าสำคัญมากๆ ควรใช้ทุกวัน) คิดว่าควรจะล้างหน้าด้วยครีมล้างเครื่องสำอางด้วย เนื่องจากครีมกันแดดสมัยนี้ส่วนใหญ่ เป็นแบบกันน้ำ บางอย่างผสมรองพื้นด้วย เพราะฉะนั้นการที่ครีมต่างๆเหล่านี้ ถูกล้างออกไม่หมด ก็จะทำให้อุดตันผิวหนัง ก่อให้เกิดสิวได้ในที่สุดค่ะ
แอบแถมท้ายนิดนึงนะคะ ว่าหน้าที่ล้างสะอาด ไม่ได้หมายถึงหน้าที่แห้งตึงนะคะ ควรหาตัวล้างหน้าที่ไม่ทำลายสมดุลความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิวคะ
2. บำรุง ได้หน้าสะอาดๆ แล้วก็มาถึงขั้นบำรุงผิว หลักการง่ายๆ ก็คือการเติมความชุ่มชื้นกลับคืนให้ผิว รวมทั้งแก้ไขปัญหาของผิวด้วยไปในตัว = moisturizer คะ เลือกใช้ตามสภาพผิวเลยนะคะแห้ง-ธรรมดา-ผสม-มัน บางครั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มักคล้ายกันในแง่ของส่วนประกอบหลักค่ะ ราคาที่ต่างกัน จากหลักร้อยถึงพัน มาจาก แบรนด์ บรรจุภัณฑ์ texture กลิ่น การนำส่ง etc. ค่า ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีการพูดถึง capsule นำส่ง for extended release อันนี้แน่นอนว่าสามารถเพิ่มราคาของ product ได้ สำหรับ moisturizer บางตัวที่ claim ว่าสามารถลดริ้วร้อยและจุดด่างดำได้ ขอให้ดูรายละเอียดที่ส่วนประกอบ และคำโฆษณานิดนึงนะคะ พวกครีมเหล่านี้มักผสมส่วนประกอบที่ช่วยกระจายแสง หรือ โปรตีนบางตัว ที่จะไป fill in ริ้วรอยต่างๆ แบบชั่วคราว or reflect light ทำให้ริ้วรอยและจุดด่างดำแลดูจางลง (คุ้นๆ บ้างมั้นเนี้ยเวลาอ่าน magazine แล้วมีคำโปรยว่า 90% ของผู้ใช้พบว่าจุดด่างดำ-ริ้วรอยแลดูจางลง หรือผิวหน้าดูมีความกระจ่างใสมากขึ้น อันนี้เป็นการเล่นคำเพื่อการโฆษณาช่วนเชื่อค่า เพราะจริงๆ แล้วสารประกอบที่มีอยู่จริง ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับว่า สามารถ ลดริ้วรอยได้ จะเสียเงินแพงๆทั้งทีต้องศึกษากันหน่อยค่ะ
เท่าที่พี่หมูน้อยพอจำได้ก็คือ สารจำพวกกรด vitamin A and its derivative มีฤทธิ์จริงในการลดเลือนริ้วรอย ปัญหาของมันก็คือความคงตัว เพราะฉะนั้นตัวลดริ้วรอยที่มีส่วนประกอบของ vitA ราคาจะต่างกันขึ้นอยู่กับเทคนิคของการรักษาความสดของ vit A และการนำส่งลงลึกเข้าสู่ผิวหนัง แถมนิดนึงว่าถ้าใช้ vit A cream ต้องทาครีมกันแดดด้วยทุกครั้ง เพราะหน้าจะไวกับรังสี UV มากกว่าปกติ
สำหรับ คนที่มีปัญหาเรื่องจุดด่างดำ Vit C มีประสิทธิภาพดี แต่ไม่คงตัวโดยสิ้นเชิง มาแนวเดียวกะเจ้า A เพราะฉะนั้นควรหาผลิตภัณฑ์ที่มีการรักษาความสดของ vitamin ให้นานที่สุดก็จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า พี่เคยใช้ Vitamin C ผงของ Philosophy ก็ดีเหมือนกัน แต่ packaging ยังต้องปรับปรุง เพราะเป็นขวดฝาเปิดโล่ง Vit C โดนอากาศทำลายแน่นอน
อีกแนวทางหนึ่งของการลดจุดด่างดำทางอ้อมก็คือการใช้สารที่มีฤทธิ์ส่งเสริมการผลัดผิว เช่น AHA, lactic acid, สารสกัดจากยีสต์ (SK-II) หรืออะไรก็ตามที่บอกสรรพคุณว่าเร่งการผลัดเซลล์ผิว สารเหล่านี้มักมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ และบางตัวช่วยกระตุ้นผิว เมื่อผิวมีการลอกขัดออกไป เหมือนเราขัดขี้ไคล ผิวที่แข็งแรงมีสุขภาพดีเข้ามาแทนที่ มันก็จะดูว่าหน้าใสขึ้น เพราะมันเป็นผิวที่เพิ่งออกมาเจอกับอากาศข้างนอกนั่นเอง มันเลยยังแลดูดีอยู่ การขัดผิวด้วย scrub แบบที่น้อง Jan แนะนำก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการขจัดผิวที่ตาย-หม่นหมองออกไป เปิดโอกาสให้ผิวใหม่ได้มีโอการออกมาดูโลกภายนอก แต่ควรจะทำแค่อาทิตย์ละหน มากสุดนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการทำลายหน้าเรา
3. การป้องกัน ประกอบด้วย การใช้ครีมกันแดด และการใช้ครีมที่มีส่วนประกอบของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ antioxidant มีมากมายหลายตัวทั้ง Q10, vitC, green tea, flavonoid จากเมล็ดองุ่น, etc... มากมายสุดๆ จำไม่หวาดไม่ไหว ส่วนใหญ่เปนพวกสารสกัดจากพืชสมุนไพร พี่หมูน้อยใช้ Ecological compound ของ sisley กะ brightening essence ของ loccitanne อยู่ก็ดีเหมือนกันค่ะ ส่วนประกอบเหมือนเอาสวนสมุนไพรมาใส่ขวดเลย หน้าที่หลักๆ ของสารพวกนี้คือป้องกัน ต่อสู้ไม่ให้ผิวถูกทำลายจากมลพิษ และแสงแดด ซึ่งสำคัญมากๆ เพราะการป้องกันทำง่ายกว่าการแก้ไขแน่นอนค่ะ
อื่นๆก็มี ดื่มน้ำเยอะๆ ยิ่งเยอะหน้ายิ่งใส เพราะเซลล์ผิวจะเต่งตึง ชุ่มชื้น รวมทั้งเป็นการขจัดสารพิษออกจากผิวท้างอ้อมด้วย และก็ถ้านอนห้องแอร์ ควรเอาอ่างน้ำมาตั้งไว้ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศแห้งๆ มาดูดเอาความชุ่มชื้นของผิวไป แต่จริงๆ แล้วจากประสบการณ์พบว่าพันธุกรรมมีส่วนมากเหมือนกันกับการมีผิวที่ดี เพราะจะเห็นว่าบางคนใช้ครีมไม่มาก แต่หน้าใส๊ ใส อันนี้ก็ถือว่าโชคดีเป็นพิเศษค่า
ไม่เคยพิมพ์อะไรยาวขนาดนี้มานานมาก แต่เนื่องจากเป็นหัวข้อที่ชอบ เวลาอ่านนิตยสารต่างๆ เปิดดูหน้าความงามเป็นอันดับแรก แถมตอนเรียนเภสัชอยู่แอบคิดฝันอยากทำงานตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางมาก เพราะจะได้ไม่ต้องเสียตังซื้อครีมมาใช้ พี่หมูน้อยไม่ได้เป็นคนผิวดีมาตั้งแต่เกิด แถมยังใช้ยาสิวตอนวัยรุ่นมากเกินจนหน้าเริ่มแย่ เก็บกักความชุ่มชื้นไม่ค่อยได้ เลยต้องหาทุกวิถีทางมาซ่อมแซม รักษามันไว้ ถ้าใครมีเคล็ดลับดีๆ ช่วยแบ่งปันกันด้วยนะคะ
ป.ล. แอบเข้าไปหารูปน้องไอดูจากงานปาร์ตี้ น้องสวยมากๆๆค่ะ อยากถามเล่นๆ ว่าถ้าติดต่อมาเป็นนางแบบโฆษณาให้พี่จะคิดแพงมั้ยอ่ะค่ะ คนอะไรสวยจัง :D
เฮ้ย!! น้องไอ ทำไมทำแบบนี้ แอบมาหาเคล็ดลับความงามไม่บอกกันก่อนเลย
เพิ่งมาเห็นอ่ะเกือบไม่ทันแล้ว พี่ก็เหมือนน้องไอเลยค่ะ "สวยแล้วแต่อยากสวยอีก" แฮ่แฮ่แฮ่
เพื่อนๆมาบอกเคล็ดลับกันหน่อยเร็วๆเข้า ใช้อะไรกันบ้างห้ามกั๊กนะ
ขอบคุณน้องนีน่ามากๆเลย เดี๋ยวพี่จะไปหาซื้อใช้มั่งตามร้านขายยา
แต่ไม่รู้ว่าที่แม่กลองจะมีขายรึเปล่า แต่พวกครีมพี่ก็ใช้Lamerเหมือนกันค่ะ
วันที่เจอกันที่งานmeetingพี่ยังเล่าไม่จบเลยค่ะว่า ต้วeye cream ของLamer
ไม่จำเป็นเท่าไรเลย (ทั้งรุ่นปุกขาวกับปุกเขียวเลยค่ะ)
ใช้ครีมLamerตัวเดียวดีก่าค่ะ พี่ลองมาแล้ว ไม่เปลืองตังด้วย
ครีมทาตาใช้ทาตาแล้วตาเหื่ยว แต่ใช้ตัวครีมทาหน้าแล้วไม่เป็นค่ะ
อ้อ! แต่ตัวlifting intensifier ที่เป็นขวดเล็กๆ ที่ขายคู่กับตัวเซรัมขวดเขียว
ดีมากกกก ๆเลยค่ะ ทาตรงรอยยับย่น ช่วยได้มากค่ะ
แต่น้องๆคงยังไม่จำเป็นต้องใช้กันหรอกเนอะ
ขอบคุณคุณหมูน้อยมากๆเลยค่ะ เป็นประโยชน์มากเลย เดี๋ยวของcopyส่งไปให้น้องสาวดูด้วยนะคะ เป็นสิวตรึมเลยค่ะ พวกมืออยู่ไมjสุกชอบแกะชอบเกา ไม่รู้แบบนี้ครีมอะไรจะเอาอยู่มั่งเนี่ย กลุ้ม!!!
แถมอีกนิดนะคะ สำหรับสาวที่ชอบเป็นสิวง่าย อย่างน้องสาวคุณดิว ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ นอกเหนือจากเรื่อง hormone ซึ่งควบคุมได้ค่อนข้างยาก ถ้าไว้เล็บยาว แนะนำว่าล้างมือให้สะอาดก่อนเอามาสัมผัสหน้า เคยทำการทดลองเทียบปริมาณเชื้อโรค บนมือปกติ ก่อนล้าง (ไม่ได้เอาไปคุ้ยขยะก่อนแต่อย่างใด:cool:) กับหลังล้าง ต่างกันมาก ปริมาณเชื้อที่ขึ้นบนหลังตู้หนังสือที่ฝุ่นเยอะ ยังน้อยกว่าเลยค่ะ นอกจากนี้การจับหน้าบ่อยๆ ก็เป็นการรบกวนผิวหนังด้วย พยายามห้ามใจหน่อยอย่าแกะเกาสิวค่ะ ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ตกแต่ง-บำรุงผม ควรล้างให้สะอาด อย่าให้ลงมาปรกหน้า เพราะสารบ้างตัว จำชื่อไม่ได้แล้ว มีฤทธิ์ comedogenic หมายถึง อุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นสิวค่ะ ถ้าเป็นไปได้ เลือกครีมบำรุงที่บอกว่า non-comedogenic เป็นการลดปัจจัยเสี่ยงอย่างนึงจ้า
ขอถามพี่ๆเพื่อนๆ บ้างนะคะที่ใช้ Lamer เนื้อครีมหนักมากมั้ยค่ะ ผิวหมูน้อยเป็นแบบแห้งแบบขาดความชุ่มชื้น ไม่ใช้แห้งแบบลอกเป็นขุยๆ จะใช้ดีหรือเปล่า กลัวถ้าเนื้อครีมหนักไป มีส่วนประกอบเป็นไขมันมากๆ จะเป็นสิวนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ อายุแค่ 28 แต่เริ่มมีริ้วรอยบนหน้าผากจางๆ แล้ว เพราะชอบขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว แล้วตัวอื่นของ Lamer ที่น่าใช้มีอะไรอีกบ้างคะช่วยแนะนำด้วย
สำหรับน้อง แพ้ครีมของลาแมร์อ่ะค่ะ คือก่อนหน้าลาแมร์เนี่ยใช้ sk2 ก็ใช้ดีนะคะ แล้วพอหมดก็ลองเปลี่ยนแต่อาจเป็นเพราะอยู่ภาคใต้ด้วยรึป่าวไม่แน่ใจค่ะ อากาศร้อน ครีมที่เข้มข้นมากๆเลยทำให้เกิดการอุดตัน (เห็นที่รักษาเค้าวินิจฉัยนะคะ) น่าจะเหมาะกับที่อากาศแห้ง เย็น มากกว่าประมาณนั้นเพื่อเก็บกักความชุ่มชื้นให้ผิว ตอนนี้ รักษาสิวอย่างเดียวเลยค่ะ
แต่มีเพื่อนที่เค้าใช้ก็ไม่แพ้ค่ะ อาจจะแล้วแต่คนด้วย เพราะเห็นในหนังสือ คนดังๆก็ใช้หลายคน อาจจะเป็นเพราะหนังหน้าของน้องมันไม่รักดีด้วยอ่ะค่ะ อิอิอิ
มาตอบอย่างมีสาระบ้างค่ะ (หลังจากอิจฉาความงาทของน้องไอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
พี่เอก็ดูแลหน้าโดยให้ความสำคัญกับการล้างหน้ามาอันดับแรกค่ะ...................
ต้องล้างให้สะอาดจริงๆๆค่ะ ไม่งั้นสิวถามหาแน่นอนค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นคนผิวแพ้ง่าย
(ปกติแพ้ออยล้างหน้าเกือบทุกตัวอ่ะค่ะ SK2 / SHU / DHC etc. และแพ้พวกจัดแต่ง
ทรงผมทั้งหลายแหล่ด้วยค่ะ) พี่ก็เลยศึกษามาบ้าง มาพบเจ้านี่ค่ะ JOJOBA OIL(เค้าว่าค่าความอุดตันน้อยที่สุดๆๆๆๆๆๆ แล้วแบบเป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์มากค่ะ) อืมแต่ต้องเป็นแบบPURE 100% นะค๊ะ นวดๆๆทับลงบนเครื่องสำอางแบบวิธีการล้างออยส์ทั่วๆไป (แต่ตัวนี้มันไม่ได้แปลงเป็นน้ำนมแต่อย่างใด) แล้วเอาน้ำเปล่านวดทับอีก จากนั้นล้างออกด้วยโฟมล้างหน้าค่ะ
สะอาดจริงๆ ใช้บำรุงได้ทั่วตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งถ้าผิวแห้งๆมากๆ(แบบครีมทั่วไปเอาไม่อยู่ เช่นเวลาหิมะตก หนาวจัดๆ เนี่ยเจ้านี่อยู่ค่ะ)
ส่วนรอยด่างดำกับริ้วรอย ก็ใช้ 100% Pure VitE ค่ะ แล้วก็ครีมที่มีVitamin C(หรือเซรั่ม) สลับๆกับพวกAHA บ้างค่ะ
อย่าลืมกันแดดทุกเช้าด้วยนะค๊ะ
สครับหน้าบ้างค่ะ พี่ทำแค่เดือนละครั้ง ทานผักผลไม้และน้ำเยอะๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ(นี่สำคัญมากๆๆๆค่ะ)
เสียตรงที่ว่าบ้านเราไม่มีขายค่ะ พวก100%PUREเนี่ยหน่ะสิ ถ้ามีใครไปที่เมกาลองถามหาดูค่ะ มีเยอะหลากยี่ห้อมากๆๆค่ะ
ปล.หนูดีใจจริงๆค่ะพี่นีน่าที่แพ้LAMER สงสัยหนังหน้ายังยกระดับไม่พอค่ะ เลยไม่ต้องเสียตังค์ อิอิ
Quote:
Originally Posted by srichardson
เด๋วลองไปดูของที่ร้านดีก่า
ถ้ามีก็หยิบใช้ฟรีโลดดดดดดดด :D