เห็นใจลูกเค้าจังเรยยยยอะ มีแม่แบบนี้
ว่าแต่เคลียแรนครั้งนี้ของเยะมั้ยอ่า
รู้สึกว่าช่วงหลังๆนี้ไปแล้วได้ของนิดเดวเอง
รึว่าไปเอาวันหลังๆก้มิรู้
Printable View
เห็นใจลูกเค้าจังเรยยยยอะ มีแม่แบบนี้
ว่าแต่เคลียแรนครั้งนี้ของเยะมั้ยอ่า
รู้สึกว่าช่วงหลังๆนี้ไปแล้วได้ของนิดเดวเอง
รึว่าไปเอาวันหลังๆก้มิรู้
แต่ของเราเป็นพี่สาวค่ะ วันนั้นเป็นวันเสาร์และคุณพ่อต้องเบิกเงินสดไปซื้อของให้ลูกค้าแต่ทีนี้เงินมันเยอะก็เลยต้องกดจากตู้ทีละ 20,000 ไปเรื่อยๆ (สมัยนั้นยังไม่มีธนาคารในห้าง)พี่สาวเราก็กดไป ก็มีผู้ชายคนนึงพูดเสียงดังข้างหลังทำนองว่า รวยนักหรืองัย อย่าให้กูรวยบ้างนะ พอดีคุณแม่เราอยู่ในรถเห็นผู้ชายคนนี้ทำท่าเอะอะ ก็เลยลงมาจากรถแล้วพาพี่สาวกลับบ้าน บอกว่าเข้าอยู่ไม่นานนะ ไม่น่าจะเกิน 5 นาที แต่ช่วง 5 นาทีพี่สาวเราก็คงกดไปประมาณอย่างน้อย 3 ครั้งได้ จริงถ้ามีธุระก็น่าจะบอกพี่สาวเราก็ให้กดก่อนแน่ๆ แต่ก็ไม่รู้รีบหรือเปล่า เพราคุณแม่รีบพาพี่สาวหนีเลย
มองหน้าเค้าแล้วยิ้มแหยๆให้ซักที แล้วเดินจากไป.......
คนพวกนี้เป็น "บัวใต้โคลนตม" แผ่เมตตาให้ไปเลยค่ะ " จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย " ฯลฯ. แล้วก็ยิ้มหวานนนนๆให้เค๊าทีนึง แล้วก็พูดหวานนนนนนๆให้เค๊าด้วย เค๊าจะได้รู้สึกว่า คนพูดเพราะกันพูดหยาบ มันให้ความรู้สึกอย่างไร ให้อายกันไปเลยค่ะ ถ้ามันเอ๊ย!เค๊าไม่อาย เราก็ต้องอายเองแล้วหละค่ะ
อืม..ไม่สมควรๆ เป็นที่สุดยิ่งต่อหน้าเด็กๆ ยิ่งต้องระวังคำพูดใช่ไหมจ้ะน้องจ๋อขา
น่าสงสารลูกเค้าจังเลยค่ะ ไม่รู้ว่าโตขึ้นมาจะเป็นยังไง แล้วเค้าเองก็ไม่น่าจะพูดแบบนี้ต่อหน้าเด็กเลยอ่ะ
ปกติกะเพื่อนฝูงก็ใช้สรรพนามสมัยพ่อขุนเหมือนกันค่ะ อิอิ แต่ใช้เฉพาะเวลาอยู่ด้วยกัน
อันนี้เค้าน่าจะรู้ตัวนะคะว่าคนอื่นรู้สึกไม่ดีกะสิ่งที่เค้าพูด ก็ยังพูดอยู่ แถมจะตบให้อีก โอย ไม่ไหวค่ะ เป็นแม่คนแล้วยังไม่มีความอ่อนโยนบ้างเลย ไม่ไหวจริงๆ
ทำเป็นฟังไม่รุ้เรื่องเพราะไม่ใช่ภาษาเรา อิอิ
....ทำได้เพียงชายตามอง =====> แล้วเดินจากไป...