อาคารจำนวนมากซึ่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อเดือนกันยายนพังถล่มจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหววันนี้ (22)
เอเอฟพี - นายกเทศมนตรีเมืองไครสต์เชิร์ช ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.3 ซึ่งทำให้เมืองได้รับความเสียหายอย่างหนัก และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 65 คน โดยระบุเป็นวันแห่งหายนะสำหรับเมืองของนิวซีแลนด์ที่เคยถูกถล่มด้วยแผ่นดินไหวมาก่อนหน้านี้
บ็อบ ปาร์กเกอร์ นายกเทศมนตรีแถลงผ่านสถานีวิทยุเรดิโอนิวซีแลนด์ ว่า “ทุกคนจำเป็นต้องเข้าใจว่านี่จะเป็นวันแห่งหายนะอย่างยิ่งสำหรับเมืองที่ได้รับแรงสั่นสะเทือนรุนแรงแห่งนี้”
ปาร์เกอร์ ระบุว่า ความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งนี้นั้นมหาศาล ขณะที่ตัวเขาเองยังล้มลงไปกองกับพื้นในอาคารสภาตอนแผ่นดินสั่นสะเทือนด้วย
เขาชี้ว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น หมายถึงจะมีการปิดล้อมศูนย์กลางเมืองเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และเพื่อช่วยให้เจ้าพนักงานกู้ภัยทำงานได้สะดวกขึ้น
ด้าน นายกรัฐมนตรี จอห์น คีย์ ของนิวซีแลนด์ เผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวที่ถล่มเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศในขณะนี้มีไม่ต่ำกว่า 65 ราย โดยคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
“ยอดผู้เสียชีวิตที่ผมทราบในขณะนี้ คือ 65 ราย และนั่นอาจเพิ่มขึ้นอีก เหตุการณ์นี้จึงถือเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับเมืองนี้ สำหรับนิวซีแลนด์ สำหรับประชาชนซึ่งเราเป็นห่วงอย่างยิ่ง” คีย์กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ทีวีเอ็นซี
ชาวเมืองไครสต์เชิร์ชหลายพันคนต่างแตกตื่น ตกใจ วิ่งหนีออกมากลางถนนในเมืองหลังธรณีพิโรธในเวลาพักเที่ยง เพียง 6 เดือนหลังจากแผ่นดินไหวรุนแรง 7.0 ถล่มเมืองสร้างความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือน แต่ไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจ เตือนว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยอาคารสำนักงานหลังหนึ่ง ซึ่งมีพนักงานอยู่ราว 200 คนพังถล่ม ขณะที่หลังคาวิหารเมืองไครสต์เชิร์ชก็ทลายลงมา ส่วนสถานีโทรทัศน์ทีวี 3 ได้รายงานภาพศพผู้เสียชีวิต ที่ถูกดึงออกจากโรงแรม และนักท่องเที่ยวคนหนึ่งถูกรถชนเสียชีวิต
เที่ยวบินทั้งหมดทั่วประเทศถูกระงับเป็นเวลาสั้นๆ หลังหอควบคุมการบินในเมืองไครสต์เชิร์ชได้รับความเสียหาย ส่วนสนามบินนั้นปิดให้บริการไปเลย รวมถึงอาคารเพรส ซึ่งเป็นศูนย์สื่อหนังสือพิมพ์ ก็เสียหายอย่างหนักด้วย
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.51 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 06.51 น.ตามเวลาของไทย ห่างจากเมืองไครสต์เชิร์ช ซึ่งมีประชากรอยู่ราว 340,000 คน ไปประมาณ 5 กิโลเมตร ที่ความลึกเพียง 4 กิโลเมตร
