Quote:
14 ตค. 2553 17:10 น.
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัด ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอบ้านกรวด และนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกรวด นำถุงยังชีพและข้าวสารไปมอบให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม ที่บ้านปันเราะ หมู่ 8 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด กว่า 50 ครัวเรือน หลังได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำป่าเทือกเขาพนมดงรัก ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ราษฎรและพื้นที่การเกษตรของประชาชนในพื้นที่ 5 ตำบล ได้แก่ ตำบลบ้านกรวด บึงเจริญ หนองไม้งาม ปราสาท และตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด ทำให้บ้านเรือนและข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวลือว่ามีการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำ เขื่อนห้วยเมฆา เพราะเกรงอ่างเก็บน้ำ และเขื่อนพัง ทำให้ชาวบ้านยังอยู่ในอาการหวาดผวาไม่กล้าเข้าไปอยู่ภายในบ้าน จึงได้ทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าน้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมีน้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ไหลบ่าลงมาอย่างรวดเร็ว จนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะ ได้ลงพื้นที่สำรวจหมู่บ้านที่ประสบภัย บริเวณถนนสายบ้านกรวด - เฉลิมพระเกียรติ ช่วงระหว่างบ้านเขาดินใต้ หมู่ 9 ต.บ้านกรวด เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ ปรากฏว่าคอสะพานถูกกระแสน้ำกัดเซาะตัดขาดเสียหาย เจ้าหน้าที่ต้องนำต้นไม้ใหญ่มาวางทอดให้สามารถเดินผ่านไปมาได้ ใกล้กันยังพบถนนถูกน้ำเซาะตัดขาดเสียหายโดยสิ้นเชิง จนประชาชนและรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ นอกจากนั้น ยังพบว่านาข้าวของเกษตรกรที่กำลังออกรวง ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายกว่า 5,000 ไร่ ส่วนระดับน้ำบนถนนสายประโคนชัย - บ้านกรวด ที่ท่วมสูงกว่า 1 เมตร จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ล่าสุดปริมาณน้ำได้ลดระดับลงเล็กน้อย และหากฝนไม่ตกลงมาอีก คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติใน 1 - 2 วันนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้พูดคุยกับชาวบ้านที่ยังหวาดผวากับข่าวลือว่ามีการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำเขื่อนห้วยเมฆา เพราะกลัวเขื่อนจะพังจึงปล่อยน้ำออกมา จึงทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงสาเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ ซึ่งชาวบ้านเข้าใจเหตุการณ์ก็คลายความกังวลลง และดำเนินชีวิตตามปกติ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแจ้งชลประทาน โยธาธิการและผังเมือง จ.บุรีรัมย์ ให้ขึ้นไปตรวจสอบอ่างเก็บน้ำทุกอ่าง มีสภาพอย่างไร ในขณะนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านไม่ต้องหวาดผวา”
ขณะที่ นายศักดิ์ ท่าประโคน อายุ 58 ปี เกษตรกรบ้านโคกย่าง ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด กล่าวว่า น้ำได้ไหลท่วมไร่นาข้าวที่กำลังตั้งท้องเสียหายทั้งหมด 15 ไร่ ซึ่งทุกปีก็ถูกน้ำท่วม แต่ในปีนี้น้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 30 ปี แทบหมดเนื้อหมดตัว เพราะเสียเงินทั้งค่าปุ๋ย จากการทำนาไปจำนวนมาก หากน้ำลดก็คาดว่าผลผลิตข้าวจะไม่ได้ เนื่องจากเมล็ดข้าวจะรีบ และมีความชื้นมาก ขายคงไม่ได้ราคา จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐให้ความช่วยเหลือด่วน
ขอบคุณข่าว จาก 