คือว่าเราไปเจอในเวบชมพูนะค่ะ เพื่อนๆในนี้มีใครทราบมั้ยค่ะ
ว่ามันเป็นยังไง กินแล้วมันเป็นไง มีผลค้างเคียงอะไรมากมายรึป่าว
เห็นคนกินเยอะแยะเลย ซื้อขายกันยังกะยาแก้ปวด ใครรู้ช่วยมาตอบหน่อยนะ
ขอบคุณมากค่ะ
Printable View
คือว่าเราไปเจอในเวบชมพูนะค่ะ เพื่อนๆในนี้มีใครทราบมั้ยค่ะ
ว่ามันเป็นยังไง กินแล้วมันเป็นไง มีผลค้างเคียงอะไรมากมายรึป่าว
เห็นคนกินเยอะแยะเลย ซื้อขายกันยังกะยาแก้ปวด ใครรู้ช่วยมาตอบหน่อยนะ
ขอบคุณมากค่ะ
ได้ข่าวมาเหมือนกันค่ะ แต่ ก็เห็นมีคนพูดถึงกันนานแล้วค่ะ น้องสาวลูกพี่ลูกน้องเป็นเภสัชอยู่ค่ะตอนนี้ ก็ถามเค้า เค้าบอกว่า ขึ้นอยู่กับว่า ผู้ใช้งานต้องการอะไร ถ้าคิดว่า ต้องการให้ผิวขาวขึ้น ตัวนี้มันก็ มีอยู่ในส่วนผสม พวก Whitening ต่างๆอยู่แล้ว แต่ ในปริมาณที่น้อยมาก หรือถ้าไปซื้อแบบที่เค้าสกัดเป็นแคปซูน ก็จะได้ผลที่ไม่ถาวร คือขาวขึ้นไม่กี่% และก็ชั่วคราวด้วยค่ะ คือพอโดนแดด ออกแสงก็ผิวกลับมาเป็นเม็ดสีปกติ แล้วชีวิตคนเราโดยรวมมันไม่สามรถอยู่ในห้องมืดๆ ไม่ให้โดนแสงได้ไงค่ะ มันต้องออกไปรับอากาศบริสุทธิ โดนแดดอ่อนๆ ทั้งยามเช้า หรือยามบ่าย
แถมผลข้างเคียงหลังจากการใช้งาน พอใช้ไปนานๆขาวขึ้นนิดเดียวแต่ หลังจากนั้น พอโดนแสงทำให้ผิวไวต่อ แสง และเกิดการเป็นฟ้าได้ง่าย หรือพวกมะเร็งผิวหนังง่ายกว่าคนปกติที่ไม่ใด้ใช้สารตัวนี้เร่งปฎิกิริยาค่ะ
ไม่งั้นก็ต้องเหมือนไมเคิล แจคสัน ที่ไปลอกสีผิวปัจจุบัน ใส่แว่นตากันแดดออกจากบ้าน ใส่ชุดคลุมหัวคลุมหน้า ทั้งตัว โอ้ยยยย ชีวิต ...
ถ้าต้องการกินชลอความแก่ ก็มักใช้กับผู้สูงอายุค่ะที่เซลหลายๆอย่างมันเสื่อมหมดแล้วต้องมีสารตัวอื่นเข้าไปกระตุ้นเพื่อชลอความแก่ แต่ถ้าวัยอย่างเราๆ 20-35 ยังไม่ควรใช้ค่ะ กินอาหารให้ครบ5 หมู่ ไม่เครียดมาก ก็ช่วยชลอความแก่ไปในตัวแล้วค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีข่าวโด่งดังครึกโครมในแวดวงด้านความงาม เกี่ยวกับการที่ได้มีการนำสารที่ชื่อ Glutathione มาให้บริการตามคลินิกเสริมความงาม และรพ.ทั้งหลาย โดยอาศัยสรรพคุณในการช่วยปรับสภาพสีผิวให้ขาวขึ้น ทำให้เกิดความนิยมกันอย่างแพร่หลายในเมืองไทย จนทำให้ทางอย.ได้ออกมาเตือนสถานบริการที่ได้ให้บริการดังกล่าว ห้ามมิให้มีการ
โฆษณาที่เกินจริง หรือมีการใช้สารตัวนี้อย่างแพร่หลาย เพราะว่าสารดังกล่าว ขณะนี้ทาง อย. ยังไม่มีการอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนสารกลูตาไธโอน (GLUTATHIONE) เพื่อใช้ในการรักษาโรคใดๆทั้งสิ้น
Glutathione ได้เริ่มมีการนำมาใช้ในแวดวงทางการแพทย์ในประเทศทางแถบยุโรป โดยเริ่มต้นที่ประเทศอิตาลี เป็นประเทศแรกที่มีการขึ้นทะเบียนเป็นยา นำมารักษามะเร็งต่อมลูกหมาก ( ผลิตโดยบริษัทโรช ) แล้วต่อมาก็มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศแถวยุโรป เช่น ทาง Anti-aging Medicine ของบางประเทศ ได้นำมารักษาคนไข้กลุ่มอัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม แต่เนื่องจากมี สรรพคุณในการทำให้สีผิวขาวขึ้นด้วย จึงทำให้เริ่มมีการแพร่กระจายการใช้มากขึ้นในแถบเอเซีย เนื่องจากคนเอเซียบางกลุ่มต้องการผิวขาวอย่างคนทางตะวันตก ซึ่งพบว่าเป็นที่นิยมอย่างมาก ในประเทศฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เวียตนาม ฯลฯ
Glutathione เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ( Antioxidant) ตัวหนึ่งที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองเรียกว่า Universal Antioxidant โดยปกติเซลล์ในร่างกายสามารถสร้างเองได้ จากกระบวนปฏิกิริยา ชีวเคมีในเซลล์ทั่วไป แต่ที่ทำงานสร้าง สารนี้มากที่สุดก็คือ ที่ตับของเรา การสร้างสารนี้ต้องอาศัย เอนไซม์ อย่างน้อย 2 ชนิด ดังนั้น หากมียีนผิดปกติเกี่ยวกับเอนไซม์ ทั้ง2 ชนิดนี้ก็จะไม่สามารถสร้างสารตัวนี้ได้ ดังนั้นในผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถสร้างสารตัวนี้ได้ จึงต้องมีการเสริมเพิ่มเติมทดแทน
Glutathione เกิดจากการจับตัวกันในรูปแบบ Tri-peptides ของกรดอะมิโน3 ชนิด ได้แก่ Cysteine,Glycine และ Glutamic โดยพบว่ามีหน้าที่หลักๆ สำคัญดังต่อไปนี้
1.การขจัดสารพิษ (Detoxification) กลูต้าไธโอน ช่วยสร้างเอ็นไซม์ ชนิดต่างๆ ในร่างกายโดยเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่นพวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิดให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ จากการถูกทำลายโดยแอลกอฮอล์(สุรา) สารพิษจากบุหรี่
2. ต้านปฏิกริยาอ๊อกซิเดชั่น(Antioxidant) จึงช่วยป้องกัน ริ้วรอยเหี่ยวย่นจากวัยที่มากขึ้น และป้องกันภาวะเสื่อมของเซลล์ได้ โดยในบางประเทศ ได้นำมาใช้เป็นอาหารเสริมสำหรับคนชราที่มีปัญหาความจำเสื่อม หรือภาวะอัลไซเมอร์ และยังส่งเสริมให้วิตามินซี และวิตามินอี ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และทำงานได้เต็มที่มากขึ้น
3. กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย (Immune Enhancer) ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยกระตุ้น การทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอมรวมทั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้ กลูต้าไธโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีน มีรายงานการวิจัยทางการแพทย์หลายที่ ได้นำสาร Glutathione มาฉีดให้กับคนไข้โรคเอดส์ เพื่อเพิ่มระดับ CD4 ให้สูงขึ้น ทำให้ร่างกายแข็งแรง และลดอุบัติการณ์การติดเชื้อแทรกซ้อน
4. ทำให้สีผิวขาวขึ้นได้ โดยอาศัยกลไกการทำงานที่มีคุณสมบัติในการไปยับยั้งการทำงานของ Tyrosinase ทำให้ Tyrosine ไม่สามารถเปลี่ยนไปเป็น DOPAquinone เป็นสารต้นแบบของ Dopachrome, DHI....Pheomelanin,Eumelanin (ซึ่งกลุ่มนี้เป็นสารที่ทำสีผิวคล้ำ ผลลัพธ์ คือทำให้สีผิวขาวขึ้นได้ระดับหนึ่ง แต่ก็เกิดขึ้นไม่ถาวร จากคุณสมบัติของการเป็น Whitening ของสาร Gluthathione นี้เอง ทำให้ได้มีการทำการสังเคราะห์สารตัวนี้ขึ้นมาทางกรรมวิธีทางเคมี เรียกว่าสาร L-Glutathione ซึ่งก็คือ Glutathione นั่นเอง แต่ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือไม่ได้จากการสกัดจากพืชพรรณธรรมชาติ โดยอาจจะอยู่ในรูปของอาหารเสริม ยาฉีด หรือตัวยาที่นำผสมกับไวเทนนิ่งตัวอื่นๆ เป็นคอกเทล แล้วนำมาฉีดด้วย เทคนิค Mesotherapy
ปัจจุบันในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อเมริกา และบางประเทศในแถบยุโรป ได้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำให้สีผิวขาวขึ้นได้และเป็นที่ยอมรับกันก็ มีมากมายหลายตัว เราเรียกสารกลุ่มนี้ว่า Whitening Agents
ผลข้างเคียงของการใช้สาร Glutathione
- สีผิวขาวขึ้น จากผลของการใช้สารกลูต้าไธโอนไปนานๆ โดยไปหยุดการสร้างเอ็นไซม์เม็ดสีที่เป็นธรรมชาติของคนผิวเอเชีย ที่เป็นสีคล้ำ ทำให้ผิวคนเอเชียจากที่เคยกรองแสงอัลตร้าไวโอเลตได้มากก็ทำให้กรองได้ลดลง ทำให้ผิวจะไวต่อรังสียูวีมากขึ้น และได้รับอันตรายมากขึ้นจากแสงแดด ทำให้เกิดฝ้า กระ หรือมะเร็งผิวหนังได้ง่ายขึ้น เหมือนคนผิวขาวทางตะวันตกที่มีอุบัติการณ์นี้ได้มากกว่าคนแถบตะวันออก
- กรณีที่ฉีดเข้าเส้นเลือด เพื่อหวังผลให้ได้มากขึ้น เร็วขึ้น อาจจะเกิดการแพ้ได้อย่างรุนแรง ถึงกับเสียชีวิตได้
- อาจจะทำให้จอประสาทตาไวต่อแสงมากขึ้น ทำให้การมองเห็นผิดปกติได้
แม้ว่าวิวัฒนาการทางการแพทย์จะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และก้าวหน้ามากขึ้น ข่าวสารจากต่างประเทศ สามารถสื่อกันได้ง่ายขึ้น จึงทำให้บางครั้งหลักฐานทางวิชาการ หรืองานวิจัยบางอย่าง อาจจะมีการนำเสนอออกมาทันท่วงทีเพื่อให้ทันสมัยทันเหตุการณ์ แต่ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับระเบียบปฏิบัติ และข้อบังคับของประเทศนั้นๆ ดังนั้นทั้งผู้ที่ได้รับรู้ ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ควรจะศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนจะตัดสินใจ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : clinicneo.co.th
ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้มากมายเลย
มาขอบคุณอีกคนค่ะ คุณ maximod_shop น่ารักมาก มาตอบแบบข้อมูลเยอะมากๆ ต้องค่อยๆ อ่านเลยค่ะ
เอ่อ นี่คือมีเพื่อนที่ฉีดมานะคะ เค้าฉีดมานานมากๆ จนขาวซีด เป็นผีไปแล้วค่ะตอนนี้
แล้วเพื่อนก็บอกถึงผลเสียของมันก็คือ มันจะกัดและฟอกสีทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หน้า หรือแม้แต่ลูกกะตาดำของคุณ (น่ากลัวมากๆ) เอาเป็นว่าฉีดไปเรื่อยๆ ลูกตาดำก็จะเล็กลงๆ ไปเรื่อยๆ (ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน เพราะตอนนี้ไม่มีใครพิสูจน์ได้)
แต่ว่า ที่สำคัญคือ ถ้าฉีดแล้วล่ะก็ต้องกินยากรูต้าแบบเม็ดทุกเดือนด้วยค่ะ แล้วก็ต้องกินมะเขือเทศวันละลูก นอนเร็ว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่
สรุปแล้ว ขัดผิว ทาครีม ดีที่สุดค่ะ
อะไรที่เรายังไม่เห็นถึงผลข้างเคียงก็อย่าไปเล่นมันเลยเนอะ :wink: