เว็บไซต์แห่งแรกของโลก + เทคนิควิธีใช้ Google Search
เว็บไซต์แห่งแรกของโลก + เทคนิควิธีใช้ Google Search
เว็บไซต์แห่งแรกของโลก
http://webboard.yenta4.com/uploads/2...attachment.jpg
ทิม เบอร์เนอร์ส ลี ผู้สร้างเว็บไซต์แรกของโลก
เว็บไซต์แห่งแรกของโลกมีชื่อว่า http:info.cern.ch
ปรากฏตัวบนโลกไซเบอร์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 1991 สร้างโดย ทิม เบอร์เนอร์ส ลี นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ซึ่งทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์การเพื่อการวิจัยด้านนิวเคลียร์แห่งยุโรป (European Organization for Nuclear Research) หรือ CERN ที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม ปี 1989 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เบอร์เนอร์ส ลี ได้ไอเดียคิดสร้างเว็บไซต์
หลังจากที่ วินต์ เซิร์ฟ และบ็อบ คาห์น ได้สร้างระบบเครือข่ายเชื่อมต่อที่ใช้ส่งข้อมูลเป็นกลุ่มๆ จากคอมพิวเตอร์ผ่านสายเคเบิลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม "อินเทอร์เน็ต"ได้สำเร็จแล้วก่อนหน้านี้
วัตถุประสงค์ในการสร้างเว็บไซต์ของเบอร์เนอร์ส ลี
ก็เพื่อให้ผู้คนสามารถแชร์ข้อมูลต่างๆ ซึ่งมีอยู่เพียงชิ้นเดียวร่วมกันได้โดยอาศัยระบบอินเทอร์เน็ต กล่าวง่ายๆ ก็คือ แทนที่จะต้องส่งข้อมูลที่มีอยู่ในมือไปให้คนอื่นผลัดกันดู เราสามารถนั่งดูข้อมูลดังกล่าวได้ในเวลาพร้อมๆ กันบนเว็บไซต์โดยไม่ต้องอาศัยอยู่ที่เดียวกัน นั่นเอง
ปัจจุบันเว็บไซต์ http:info.cern.ch ก็ยังคงมีอยู่ โดยเนื้อหาที่ปรากฏในเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นการบอกเล่าถึงความเป็นมาของการเกิดเว็บไซต์แห่งนี้
ขณะที่ เจ้าของไอเดียสร้างเว็บไซต์อย่าง เบอร์เนอร์ส ลี ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ ฉบับประจำวันที่ 14 มิถุนายน 1999 ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 20 ในฐานะที่เขาเป็นผู้ปลุกให้คนหันมาสนใจโลกแห่งไซเบอร์ในปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เครดิต: http://variety.teenee.com (http://fwmail.teenee.com)
เทคนิควิธีใช้ Google Search
1.Google จะใช้ and (และ) อยู่ในประโยคเสมอ เช่น ค้นหา harvest moon back to nature Google จะค้นหาแบบ harvest AND moon AND back... (พูดง่ายๆคือค้นหาแบบแยกคำ)
2. การใช้ OR (หรือ) คือการให้ Google หาข้อมูลมากขึ้นจาก คำA และ คำB (พูดง่ายๆ คือนำผลที่ได้ มารวมกันรวมกัน) วิธีใช้ พิมพ์ OR ด้วยตัวใหญ่ระหว่างคำที่ต้องการ เช่น vacation london OR paris คือหาทั้งใน London และ Paris
3. Google จะละคำทั่วๆไป (เช่น the, to, of) และตัวอักษรเดี่ยว เพราะจะทำให้ค้นหาช้าลง แต่ถ้าคำพวกนั้นสามารถช่วยให้หาข้อมูลง่ายขึ้น ก็ต้องใช้เครื่องหมาย + ช่วยโดยนำไปอยู่หน้าคำนั้น (ต้องเว้นวรรคก่อนด้วย) เช่น back +to nature หรือ final fantasy +x
4. Google สามารถกันขอบเขตการค้นหาให้เล็กลงด้วยการใช้ Advanced Search หรือ การค้นหา แบบพิเศษ ใน Google ภาษาไทย
5. Google สามารถตัดคำพ้องรูปได้โดยใช้เครื่องหมาย - ช่วยโดยการนำไปอยู่คำที่จะตัด เช่น คำว่า bass มี 2 ความหมายคือ เกี่ยวกับปลา และดนตรีเราจะตัดที่มีความหมายเกี่ยวกับดนตรีออกโดยพิมพ์ bass -music หมายความว่า bass ที่ไม่มีคำว่า music นอกจากนี้มันยังสามารถตัดอย่างอื่นได้อีก เช่น "front mission 3" -filetype pdf หมายความว่า เรื่องเกี่ยวกับ front mission 3 แต่ไม่แสดงไฟล์ PDF
6. การค้นหาแบบทั้งวลี (คือการค้นหาทั้งกลุ่มคำ) ให้ใช้เครื่องหมาย " " เช่น "Breath of fire IV"
7. Google สามารถแปลเว็บภาษา Italian, French, Spanish, German, และ Portuguese เป็น ภาษาอังกฤษได้ (โดยคลิ้กที่คำว่า "Translate this page" ด้านข้างชื่อเว็บ)
8. Google สามารถหาไฟล์ในรูปแบบอื่นๆที่ไม่ใช่ HTML ได้ ประเภทไฟล์ที่รองรับคือ
Adobe Portable Document Format (นามสกุลของไฟล์ pdf)
Adobe PostScript (นามสกุลของไฟล์ ps)
Lotus 1-2-3 (นามสกุลของไฟล์ wk1, wk2, wk3, wk4, wk5, wki, wks, wku)
Lotus WordPro (นามสกุลของไฟล์ lwp)
MacWrite (นามสกุลของไฟล์ mw)
Microsoft Excel (นามสกุลของไฟล์ xls)
Microsoft PowerPoint (นามสกุลของไฟล์ ppt)
Microsoft Word (นามสกุลของไฟล์ doc)
Microsoft Works (นามสกุลของไฟล์ wks, wps, wdb)
Microsoft Write (นามสกุลของไฟล์ wri)
Rich Text Format (นามสกุลของไฟล์ rtf)
Text (นามสกุลของไฟล์ ans หรือ txt)
วิธีใช้ filetype:นามสกุลของไฟล์ เช่น "Chrono Cross" filetypedf หมายความว่าเอกสารของ Chrono Cross ที่เป็น PDF และมันยังมีความสามารถดูไฟล์เหล่านั้นในรูปแบบของ HTML ได้ (โดยคลิ้ก View as HTML หรือ รูปแบบ HTML ใน Google ไทย)
9. Google สามารถเก็บ Cached ของเว็บที่จะเข้าชมไว้ได้ (โดยคลิ้กที่ Cached หรือ ถูกเก็บไว้ ใน Google ภาษาไทย) ประโยชน์ของมันคือช่วยให้เราสามารถเข้าเว็บบางเว็บที่อาจโดนลบไปแล้ว โดยข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลก่อนถูกลบ (ใหม่สุดที่มันจะมีได้)
10.Google สามารถค้นหาหน้าที่คล้ายกัน (โดยคลิ้ก Similar pages หรือ หน้าที่คล้ายกัน ใน Google ภาษาไทย) โดยจะค้นหาข้อมูลที่คล้ายๆ กันให้เรา เช่น ถ้าเรากำลังหาข้อมูลการวิจัย ความสามารถนี้จะช่วยให้หาข้อมูลได้มากมายในเวลาที่รวดเร็วโดยไม่ต้องเป็น ห่วงเรื่อง keyword
11.Google สามารถค้นหา link ทั้งหมดที่เชื่อมไปยังเว็บนั้นได้ วิธีใช้ link:ชื่อ URL เช่น link:
www.google.com แต่คุณไม่สามารถใช้ความสามารถนี้ร่วมกับการหาแบบอื่นๆ ได้
12.Google สามารถค้นหาเว็บที่จำเพาะเจาะจงได้ โดยพิมพ์ คำที่คุณต้องการเจาะจง site:ชื่อ URL เช่น ถ้าคุณต้องการหาเว็บเกี่ยวกับการเข้า (admission) มหาวิทยาลัย Stanford ให้พิมพ์ admission site:
www.stanford.edu
13.ถ้าคุณมีเวลาน้อย (และคิดว่าโชคดี) Google มีบริการการค้นหาด่วน (ชื่อบริการ I'm Feeling Lucky) โดยที่ Google จะนำเว็บที่อยู่ลำดับแรกของการค้นหา ส่งให้คุณเลย (link ไปเว็บนั้นให้เสร็จ) เช่น คุณต้องการค้นหาเว็บมหาวิทยาลัย Stanford อย่างด่วนให้พิมพ์ Stanford แล้วกด I'm Feeling Lucky หรือ ใช่เลย! เจอแน่ๆ ใน Google ไทย
14.Google สามารถหาแผนที่ของสหรัฐอเมริกาได้โดยพิมพ์ ที่อยู่ ชื่อถนน พร้อมด้วยชื่อรัฐ เช่น 165 University Ave Palo Alto CA Google จะจัดการส่งแผนที่คุณภาพสูงมาให้คุณ
15.Google สามารถหาเบอร์โทร (เฉพาะอเมริกา) หรือพิมพ์เบอร์โทรแล้วหาบริษัทได้โดยพิมพ์
first name (or first initial), last name, city (state is optional)
first name (or first initial), last name, state
first name (or first initial), last name, area code
first name (or first initial), last name, zip code
phone number, including area code
last name, city, state
last name, zip code
แล้วแต่ว่าคุณจะใช้แบบไหน
http://www.managingip.com/images/587...ogle_fluid.gif
Credit : เอ.อาร์.ไอ.พี