อาหารต้องห้าม และความเครียดกับโรคไมเกรน
อาหารต้องห้ามที่แสลงกับโรคนี้
เพื่อคนที่กำลังเป็นหรือเคยเป็นแล้วจะได้รู้ไว้ และหลีกเลี่ยงอาหารที่แสลงเหล่านี้ครับ
โรคไมเกรน หรืออาหารปวดหัวข้างเดียว ใครเป็นแล้วจะทรมานมาก
ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้เกิดอาการข้างเคียงอีกหลายๆ อย่าง
แม้แต่หมอเองก็เอาไม่อยู่ การรักษาก็ให้ยาเพื่อลดอาการปวดลงเท่านั้นเอง
แม้ว่าจะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่ามีอาหารประเภทใดบ้าง ที่เป็นตัว
กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวข้างเดียวหรือไมเกรน แต่ทางการ
แพทย์มีข้อยืนยันว่า
"ความเครียดหรือการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย
มีความสัมพันธ์กับการเกิดอาการปวดหัวข้างเดียวหรือไมเกรน"
จึงทำให้นักวิจัยมีความเชื่อว่า มีอาหารหลายประเภทต่อไปนี้
สามารถกระตุ้นอาการปวดหัวข้างเดียวหรือไมเกรนได้
1. ช็อกโกแลต (Chocolate) เป็นอาหารหรือของหวานที่หลายๆ
คน ติดอกติดใจ พบว่า มีสารในกลุ่มเอมีน (Amines) ซึ่งมีผลต่อ
การลดระดับสารเซโรโทนิน (Scrotonin) ในสมอง โดยสารเซโร
โทนินนี้จะทำหน้าที่ควบคุมเสียงกับความปวด และการหดหรือ
การขยายตัวของหลอดเลือดในสมอง ซึ่งเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวข้อง
กับการเป็นไมเกรน แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่า
ช็อกโกแลตจะมีผลกระตุ้นให้เกิด อาการปวดหัวข้างเดียวดังกล่าว
2. คาเฟอีน (Caffeine) สารกาเฟอีนตัวนี้หลายคนจะคุ้นเคยดี
พบในชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มบางประเภทที่มีการผสมคาเฟอีน
สำหรับคนที่ไม่เคยบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนถ้าได้รับคาเฟอีน
มาก หรือคนที่ดื่มเครื่องดื่มดังกล่าวเป็นประจำ แต่เมื่อดื่มน้อยลง
ก็จะทำให้ร่างกาย ได้รับสารตาเฟอีนน้อยลงกว่าที่เคยได้รับเป็น
ปกติ ทั้งสองกรณีดังกล่าวนี้อาจจะก่อให้เกิดปวดหัวข้างเดียว
หรือไมเกรนได้
3. ไวน์แดงและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในไวน์แดงพบว่า
มีสารไทรามีน (Tyramine) และสารเฟลโวนอยด์ (Flavonoids)
ซึ่งสารดังกล่าวสามารกระตุ้นให้เกิดปวดหัวข้างเดียวหรือไมเกรนได้
สำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทสามารถก่อให้เกิดโรค
ไมเกรนได้เช่นกัน
คนที่เป็นไมเกรนอยู่แล้วแค่จิบเบียร์ วิสกี้และไวน์ เพียงเล็กน้อย
เท่านั้นก็จะกระตุ้นให้เกิดอาการได้ เพราะในเครื่องดื่มเหล่านั้นมี
สารลดระดับเซโรโทนินอยู่ จึงควรแยกให้ออกระหว่างอาการ
ปวดหัวจากการดื่ม เครื่องดื่มเหล่านี้มากๆ (hang over) กับอาการ
ปวดหัวข้างเดียว หรือไมเกรน อาการปวดหัวแบบแรกเกิดขึ้น
เนื่องจากร่างกายขาดน้ำ โดยเฉพาะบริเวณสมอง
4. สารแทนนินและไทรามิน สารแทนนินเป็นสารธรรมชาติ ที่มี
อยู่ในอาหาร เช่น น้ำแอปเปิ้ล ชา กาแฟ ช็อกโกแลต ไวน์แดง
ส่วนสารไทรามินเป็นสารลดระดับเซโรโทนินในร่างกายได้ ซึ่ง
มีอยู่ในกล้วยสุกงอม ช็อกโกแลต เบียร์ เนยที่เก็บไว้นานๆ
เมล็ดพืชบางประเภท และถั่วต่างๆ สำหรับข้อมูลที่ยังไม่ยืนยัน
ชัดเจน เกี่ยวกับฤทธิ์การกระตุ้นให้เกิดไมเกรนเมื่อรับประทาน
สารทั้งสองนี้เข้าไป
5. น้ำตาลเทียม ผงชูรสและสารเจือปนอาหารอื่นๆ น้ำตาลเทียม
ได้แก่แอสปาเทม ผงชูรส (MSG หรือ monosodium glutamate)
และสารไนเตรท อาจก่อให้เกิดอาการปวดหัวข้างเดียว หรือ
ไมเกรนได้
นอกจากนั้นแล้ว ได้มีข้อแนะนำเกี่ยวกับอาหาร และอาการไมเกรนคือ
ลดหรืองดการดื่มชา กาแฟ หรืออาหารที่มีกาเฟอีน โดยการค่อยๆ
ลดการบริโภคลง และไม่หยุดโดยทันที
การรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 12 สูง หรือเสริมด้วย วิตามิน
บี 12 (400 มก./วัน) พบว่า ช่วยลดความรุนแรง และความถี่ของ
อาการไมเกรนได้ ให้สังเกตหรือจดบันทึกอาหารและเครื่องดื่ม
ที่รับประทานเข้าไป แล้วทำให้เกิดไมเกรนเพื่อจะได้หลีกเลี่ยง
อาหารเหล่านั้น
โดยสรุปแม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอาหารประเภทใดที่ทำให้เกิด
ไมเกรน แต่มีแนวโน้มว่าอาหาร มีส่วนทำให้เกิดไมเกรน ดังนั้น
จึงควรระมัดระวัง สังเกตและให้ความสำคัญเรื่องอาหารการกิน
ที่เหมาะสม เพราะอาหารเป็นได้ทั้งยารักษาโรคและยาป้องกันโรค
