ขอถามต่อเรื่อง ร.ร.นานาชาตินะคะ

เมื่อต้นเดือนเราได้ส่งใบสมัครไปที่ฮาโรว์แล้ว(ราวๆวันที่8 ต.ค.ค่ะ) แล้ววันที่ 9 เราก็เข้ากรุงเทพ(ไปพักผ่อนค่ะ กะไปตระเวนดูร.ร.ด้วย หาบ้านด้วย) ทีแรกคิดว่ารอคิวสักหนึ่งปีน่ะค่ะ เค้าถึงจะเรียก ทีนี้ เราก็ไปตระเวนดูบ้านที่อยู่แถวร.ร. เข้าไปดูไฮด์ปาร์ค วิภาฯด้วย ออกจากหมู่บ้าน กำลังจะกลับ พอดีทางร.ร.โทร.มา บอกว่า ไหนๆมาแล้ว ให้เข้าชมร.ร.เลย เราบอกไปว่าไม่ได้นัด เราเลยไม่กล้าเข้าไปน่ะค่ะ (แต่เราก็วนๆรถดูอยู่แถวประตูร.ร.อยู่ค่ะ) เค้าบอกไม่เป็นไร ให้มาดูได้เลย แล้วขอนัดวันเพื่อเทสต์เด็กด้วย จะนัดวันที่ 28 ต.ค. เราก็.โอย..ตั้งตัวไม่ทันเลย ยังคิดว่าจะให้ลูกไปเรียนพิเศษรอ(คิดว่ารอนานเป็นปีน่ะค่ะ) ทำไงดีล่ะ สามีเลยบอก เข้าไปดูก็ดีแล้ว ไม่เสียเวลา จะได้ถามรายละเอียด เข้าไปก็ได้ชมทั่วเกือบทุกตึก ต้อนรับดีมาก แต่ละตึกได้ขึ้นไปดูจนครบทุกชั้นเลยค่ะ (ลูกชายบอกชอบห้องวิทย์ ส่วนลูกสาวชอบตึก ART เหอๆ ท่าทางจะได้ละเลงสีกันมันส์ดี) โรงเรียนก็ใหญ่ ดูมีมาตรฐานดีค่ะ (ใหญ่จนกลัวลูกเราจะรอดมั้ยอ่ะ >__< )

แล้วหลังจากได้คุยกับคุณลิลลี่ที่ฝ่าย admission แล้ว จากคำแนะนำ เลยคิดว่า คงยังไม่เทสต์ เนื่องจากดูๆแล้วคงยังไม่พร้อม เค้าก็แนะให้ไปเรียนภาษาให้คุ้นก่อนน่ะค่ะ คือฝึกฟังสำเนียงฝรั่ง เผื่อเวลาสอบสัมภาษณ์จะได้ไม่ลำบาก เราก็เห็นด้วย ส่วนสอบข้อเขียน สามอย่าง คิดว่าน่าจะพอได้(อาจต้องซ้อมวิชาอังกฤษเยอะหน่อย) เลยได้ัรับคำแนะนำว่า เทสต์ช่วงก่อนที่จะเริ่มเทอมสามของร.ร.น่ะค่ะ (เทอมสามของเค้าเดือนเมษา ก็จะต้องทำเทสต์ก่อนเปิดเทอมอะไรประมาณนั้น)ถ้าผ่าน จะได้เข้าเรียนที่เทอมสามเลย(เยียร์อะไรค่อยว่ากันตามอายุ) หลังจากเข้าใจขั้นตอนแล้ว เราตกลงใจที่จะขอเทสต์ช่วงนั้น เพราะอยากมีเวลาเตรียมตัวลูก ทีแรกกลัวเค้าจะลืมเราหรือเปล่า เพราะนัดไกลเป็นเดือน แต่วันนี้ใจชื้นแล้ว เพราะตอนบ่ายวันนี้ ร.ร.โทร.มาถามว่าสะดวกจะไปเทสต์ช่วงไหน เลยขอเป็นช่วงก่อนเทอมสามไปค่ะ (เค้าบอกจะโทร.มาแจ้งวันอีกที) ดีใจที่เค้าสนใจ คิดว่าจะลืมข่อยซะแหล่ว >__<

ทีนี้เหลือเรื่องสอบน่ะค่ะ

คือ..เราอยากถามว่า เค้าสอบกันยากไหมคะ? คำถามจะเป็นประมาณไหน แล้วสอบสัมภาษณ์ คำถามจะยากหรือเปล่า อันนี้ห่วงสุดเลย เพราะใช้ภาษาไทยมาตลอด กำลังจะหาครูฝรั่งมาสอนลูกด้วยค่ะ >__< ได้ฟังคำถามง่ายๆออกก็ยังดี จะได้คุ้นๆสำเนียงบ้าง ที่โรงเรียนก็แนะนำดีมากค่ะ ให้ไปหาหนังสือ key stage 3 มาดูเนื้อหา อะไรแบบนี้ ว่าเค้าเรียนกันประมาณไหน คำถามเค้าว่าจะเป็นแบบง่ายๆ แต่..ปัญหาที่พบของเด็กที่เรียนโรงเรียนไทยคือ ไม่กล้าตอบกับฟังสำเนียงไม่ออกน่ะค่ะ -__-" จริงๆบางประโยคเราว่าลูกน่าจะฟังออก แต่ไม่กล้าตอบก็มีค่ะ

แล้วเลขกับไอคิวสอบเป็นภาษาอังกฤษเลยใช่ไหมคะ?(อันนี้เราเบ๊อะ ลืมถามร.ร. แหะๆ)

ขอบคุณค่ะ

ครับ..ถ้ามีกะตังค์ ก็เข้าได้ไม่มีปัญหา แค่ปัญหามันจะเกิดกับเด็กครับ ยิ่งภาษาไม่เก่งด้วย ไปกันใหญ่ จะตามเพื่อนๆไม่ทัน...ขนาดลูกชายผมไปอยู่ usa มาปีกว่า กลับมาเรียนที่โรงเรียน นานาชาติ สุขุมวิท ยังตามเพื่อนๆไม่ค่อยทันเลย. ถ้าทนได้ นานไปก็เก่งครับ คือได้เพื่อน และได้ภาษา ยังไงก็ชี้แนะกันได้.

เมื่อก่อนตอนที่เอาลูกชายไปเข้า...ทางโรงเรียนเค้าจะทดสอบความรู้ ก็ทั่วๆไป คณิต วิทย์ และก็ ภาษา เรื่องสําเนียงก็อย่าเพิ่งไปวิตก สําคัญคือ อ่านออก เขียนได้ แต่งเป็นประโยด ยิ่งคุณบอกไม่รู้จะยากหรือเปล่า....เหอๆๆๆยากแน่ๆครับ เพราะพื้นฐานของเด็กไม่ได้เรียนโดยตรง...คือเรียนแต่ภาษาไทย.

ภาษาอังกฤษกับเด็กๆเป็นเรื่องง่ายค่ะ เห็นด้วยนะค่ะถ้ามีเงินจ่ายให้ทางโรงเรียนก็น่าจะรับหมดล่ะค่ะ ถ้าจำนวนเด็กในห้องไม่เต็มนะค่ะ เพราะว่าไม่รู้ว่าเหมือนลูกเรารึเปล่าต้องยื่นเอกสารล่วงหน้าหนึ่งเทอมนะค่ะเพื่อทางโรงเรียนจะได้ดูห้องที่สามารถเรียนได้ถ้าเด็กไม่เต็ม ลูกเราเข้าเรียนตั้งแต่ 4 ขวบอ่ะค่ะเรียนที่เมืองไทยตอนอ.1ที่เซ็นโยเซฟ หลังจากนั้นก็มาเรียนที่สิงคโปร์เค้าจะปรับตัวอยู่สักพักนึงตอนนี้ก็จะ 3 ปีแล้วค่ะ แต่ช่วงแรกดูเหมือนเค้าก็จะเครียดเหมือนกันนะค่ะ แต่ตอนนี้เก่งแล้วค่ะสอนแม่ได้แล้ว ลูกเราจะก็ขี้อายน่ะค่ะไม่กล้าพูดกับครูหรือเพื่อนๆถ้าพ่อกับแม่อยู่ด้วย แต่คุณครูเค้าก็บอกว่าโอเคนะค่ะ บางครั้งเค้าก็กลับมาพูดกับเราบ้าง เราพูดไทยกับเค้าอ่ะค่ะ แต่ไทยนี่ก็ไม่ได้เรื่องนะค่ะอ่านไม่ออกค่ะ ถ้ากลับไปเลือกให้ลูกเรียนสองภาษาค่ะ

จริงๆแล้วความยากง่ายขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนค่ะ แต่บางโรงเรียนที่คุณภาพจริงๆเค้าจะวัดความสามารถของเด็กเป็นหลักค่ะ ถึงเรียนหรือพูดภาษาไม่ค่อยได้แต่ถ้ามีอย่างอื่นที่เด่นๆเช่น เล่นกีลาหรือดนตรีเก่ง ก็จะได้รับการพิจรณามากขึ้นค่ะ ตอนนี้แฮร์โรว์เปิดรับนักเรียนอยู่ค่ะ ถ้าสอบผ่านก็เข้าได้สบายๆ ^^ เข้าใจเลยเวลาสอบสัมพาด อิอิ ตอนเด็กๆก็กลัวมาก เราว่าเค้าจะดูที่ว่าเราสามารถสื่อสารรู้เรื่องรึเปล่ามากกว่าค่ะ ส่วนสำเนียงเป็นผลพลอยได้ ส่วนคำถามเค้าน่าจะถามเกี่ยวกับตัวเราอ่ะค่ะ ว่าเราเคยเรียนที่ไหนบ้างอะไรประมานนี้ค่ะ ไม่ยากค่ะ ขอให้เด็กกล้าแสดงออก ไม่ต้องกลัวผิดค่ะ ไม่มีผิดไม่มีถูก บางทีเค้าก็ขอความคิดเห็นค่ะ พอดีเราก็เรียนนานาชาติค่ะ แต่แฮร์โรว์จะรุ้จักเพื่อนไม่เยอะเท่าไรแต่ถ้าอยากรู้อะไรสอบถามมาได้นะค่ะ จะไปถามมาให้ ^^

นีน่าว่าคงต้องฝึกฟังและพูดภาษาอักฤษเยอะๆ ช่วงนี้ก้เปิดให้ดูแต่ UBC ให้ดูหนังที่ไม่มี Thai subtitle ก็น่าจะดี และตัวคุณพ่อคุณแม่เองอยู่บ้านก้พยายามพูดภาษาอังกฤษกับลูกด้วยดีมั้ยค่ะ ไม่รู้ว่าจะช่วยไมเนี้ย ได้แต่ส่งกำลังใจและเอาใจช่วยให้น้องๆสอบได้นะค่ะ คุณพ่อคุณแม่จะได้สบายใจหายกังวลแล้ว ;)

เห็นด้วยกับคุณ pepsi510 ค่ะ มีตังค์ไม่ต้องห่วง แต่นกว่าถ้าน้องยิ่งเล็กยิ่งปรับตัวง่ายค่ะ
ลูกนกเคยเรียนอยู่ปีนึงแล้วเค้าไม่ค่อยชอบอ่ะค่ะ;) จริงๆแล้วแต่แนวของเด็กแต่ละคนค่ะ
พอดีเค้าชอบทางทดลอง ทางวิทยาศาตร์อะไรพวกนี้มากกว่า ตอนนี้ร.ร.มีหลายทางเลือกใจเย็นๆค่อยๆปรับไปค่ะ