-
พลังแสงทิพย์
http://images.temppic.com/30-09-2009...0.17794600.jpg
เพื่อนๆคงสงสัยนะครับว่า พลังแสงทิพย์ คืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไร.?
เพื่อนที่เคยนั่งปฏิบัติ วิปัสนา กรรมฐาน ต้องพบบ่อยๆว่า เวลานั่งแล้ว อยู่ๆ ก็จะเกิดแสง สว่างจ้า และไม่รู้สาเหตุว่าเป็นอะไรทั้งๆที่ซึ่งเรานั่งก็ไม่ค่อยจะสว่างเท่าไหร่... และซึ่งตอนนั้น ก็จะตกใจ และหลุดจากการการเป็นสมาธิ.
ผมก็เป็นคนนึงที่สงสัย ว่าแสงนั้นมาได้อย่างไร...จึงได้ค้นคว้า บอกตรงๆว่าหลายเวปเกี่ยวกับธรรมมะ และการนั่งวิปัสนา กรรมฐาน..พอได้ข้อสรุปว่า แสงนั้นเกิดจากอะไร.
พลังแสงทิพย์อริยธรรม คือ แสงทิพย์นิพพานที่วิเศษล้ำเลิศประเสริฐยิ่ง ส่งมาจากองค์สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าวิสุทธิพุทธรังษีบรมธรรมบิดา พระผู้เป็นเจ้าของ ทุกๆศาสนา ผู้เป็นใหญ่สูงสุดเบื้องบนพระนิพพาน ผู้เป็นเจ้าแห่งมวลจักรวาล ทั้ง 3 โลก มีพระมหาเมตตาทรงโปรดประทานส่องแสงทิพย์อริยทรัพย์ลงมาให้แก่ชาวโลกและทั่วมหาอนันตจักรวาล ทั้งนรกโลก เทวโลก พรหมโลก เพื่อที่จะยกระดับจิตคนที่ดีมีบุญให้ได้อริยมรรคอริยผลทั่วทั้งหมด ไม่มีการยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นชนชาติศาสนาใดขอให้มี จิตใจเมตตาปราณี มีศีล 5 ครบ เคารพองค์พระศาสดาของท่าน
วิธีปฏิบัติเพื่อขอรับพลังแสงทิพย์นิพพานด้วยตนเอง
1. บูชาพระรัตนตรัยหรือพระศาสดาองค์ใดก็ได้ที่ท่านเคารพ นับถือไหว้พระสวดมนต์แล้วขอขมาพระรัตนตรัยได้โปรดให้อภัยในสิ่งที่ลูกเคยผิดพลาดพลั้งไปด้วย กาย วาจา ใจ ตั้งแต่ชาติแรกจนถึงชาติปัจจุบัน ลูกตั้งใจจะไม่ทำผิดศีล ผิดจากคิดชั่ว พูดโกหกพูดหยาบคาย ไร้สาระจะคิดถึงและขอโมทนาบุญกับพระรัตนตรัย ไม่กลัวความตายเพื่อลูกจะได้ไป อยู่กับพระผู้มีพระภาคเจ้าที่พระนิพพาน ถ้านับถือศาสนาอื่นก็ขอโทษพระศาสดาของท่าน ขอติดตามไปอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าของท่านเมื่อตายแล้ว
2. เอาจิตจับภาพพระพุทธรูปหรือพระศาสดาของท่านแล้วนึกเอาภาพพระพุทธรูปหรือพระศาสดามาประทับที่เต็มใบหน้าของเรา แล้วนึกเอาจิตของเราเข้าไปไว้ในพระวรกายของพระศาสดาที่ตรงกลางระหว่างคิ้วภาวนาพระคาถา 5 คำ นะ โม พุท ธา ยะ จิตดูลมหายใจเข้าออก พร้อมกับคำภาวนาจนจิตเป็นหนึ่งกับพระคาถา คือจิตไม่คิดไปนอกเรื่องจากมโนภาพพระศาสดาที่เรากำหนดจดจำเอาไว้ในใบหน้าและลมหายใจเข้าออก
คุณวิเศษของพลังแสงทิพย์นิพพานมีอะไรบ้าง ?
1. สามารถปิดกั้นประตูนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานได้แน่นอน
2. ผู้ที่ได้รับพลังแสงทิพย์อริยทรัพย์แล้ว เท่ากับว่าได้ดวงปัญญาเห็นธรรมหรือวิปัสสนาญาณ คือเห็นทุกข์โทษในการเวียนว่ายตายเกิดได้อริยมรรคอริยผลขั้นต้นง่ายๆโดยไม่ยาก
3. ผู้ที่รับพลังแสงทิพย์อริยธรรม หลังตายจากการเป็นคนก็ไปเสวยสุขบนสวรรค์เบื้องบนเป็นอย่างต่ำ ไปพรหมเป็นอย่างกลาง ไปนิพพานเป็นอย่างสูง
4. หลังจากที่ท่านได้รับพลังแสงทิพย์อริยทรัพย์ ท่านปฏิบัติสมาธิวิปัสสนาในกรรมฐาน40หรือมหาสติปัฏฐานสูตร ท่านจะได้รับอริยฐานะเข้าถึงอริยมรรคอริยผล เป็นพระอริยบุคคลเลื่อนขั้นสูงขึ้นได้โดยง่าย อย่างรวดเร็วว่องไวเกินคาด
5. ผู้รับพลังแสงทิพย์อริยธรรมเมื่อบำเพ็ญจนจบ ยกระดับจิตเป็นพระอรหันต์ในชาตินี้ บุญบารมีจากพลังแสงทิพย์วิเศษยิ่งสามารถส่งผลบุญไปถึงบรรพชนคนรุ่นก่อนได้ถึง 7 ชั้น
6. คุณวิเศษจากการได้รับพลังแสงทิพย์นิพพาน นอกจากได้รับอริยฐานะมีจิตใสสะอาดเข้าอริยมรรคอริยผลแล้วยังสามารถแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรได้โมทนาบุญอย่างน้อย 3 ครั้ง จะได้รับแน่นอน แล้วเจ้ากรรมนายเวรจะให้อภัยทำให้หาย จากโรคกาย โรคประสาท มีปัญญาแก้ไขปัญหาทางโลกทุกชนิดมีชีวิตที่ก้าวหน้า มีความเจริญรุ่งเรืองไม่มีคำว่าจน มีแต่รวยด้วยอริยทรัพย์ป้องกันภัยอันตราย รักษาโรคคุณไสย รักษาโรคผีมาสิงอยู่ในร่างกายก็ได้เมื่อมีภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก www.agalico.com
-
ขอบคุณคุณpepsi ค่ะ
ตอนนี้กำลังฝึกนั่งสมาธิพอดีเลยค่ะ
เป็นอยู่สองอย่าง คือ จิตหลุดง่าย กับ เพ่งสมาธิมากเกินไปจนอึดอัดกับการกำหนดลมหายใจ
-
ขอบคุณคุณ pepsi5510 เป็นอย่างมากค่ะ
เคยฝึกแล้วจิตไม่มีสมาธิทำอย่างไรก็พะวักพะวงกับสิ่งอื่น
ไม่รู้จะทำอย่างไร....ทุกครั้งที่ทำสมาธิจะเครียดมากเพราะมัวแต่กังวลเรื่องอื่นทุกครั้ง....
จะลองพยายามใหม่ทำไปเรื่อยๆๆจนกว่าจะได้ค่ะ:(
ขอบคุณนะคะ
-
ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่นะคับ
-
ชอบจังเลยค่ะ พลังแสงทิพย์ อยากทำได้บ้าง
เคยลองนั่งสมาธิ ก้อไม่ถึง 5 นาที เป็นคนสมาธิสั้นอ่ะค่ะ เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ ให้ทำอะไรก้อทำไม่ได้นาน โตจนทุกวันนี้ก้อยังไม่หายค่ะ ไม่รู้จะทำไงดี แต่จะพยายามต่อไป เป็นความรู้ใหม่ที่ดีมากๆค่ะ ^^
-
ขอบคุณจ๊ะ ได้รับความรู้ใหม่ๆ
-
สิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่า "แสงทิพย์" นั้น จริงๆ แล้วในทางพระพุทธศาสนาท่านเรียกว่า "โอภาส"
ซึ่งเป็น 1 .ในวิปัสสนูปกิเลส หรือแปลอีกทีได้ว่าอุปกิเลสแห่งวิปัสสนา
วิปัสสนูปกิเลส คือ สภาพน่าชื่นชม แต่ที่แท้เป็นโทษ
เป็นเครื่องเศร้าหมองแห่งวิปัสสนาซึ่งเกิดแก่ผู้ได้วิปัสสนาอ่อนๆ ทำให้เข้าใจผิดว่าตนบรรลุมรรคผลแล้ว จึงไม่ดำเนินก้าวหน้าต่อไปในวิปัสสนาญาณ
วิปัสสนูปกิเลสมี 10 อย่างดังต่อไปนี้
1. โอภาส แสงสว่าง
2. ปีติ ความอิ่มใจ
3. ญาณ ความรู้
4. ปัสสัทธิ ความสงบกายและจิต
5. สุข ความสบายกาย สบายจิต
6. อธิโมกข์ ความน้อมใจเชื่อ
7. ปัคคาหะ ความเพียรที่พอดี
8. อุปัฏฐาน สติชัด
9. อุเบกขา ความวางจิตเป็นกลาง
10. นิกันติ ความพอใจ
ที่มา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
พระศาสดาเคยตรัสไว้ว่า "ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอกทาง" พระดำรัสนี้บอกไว้ชัดเจนว่า ใครอยากจะสำเร็จพระอรหัตผลต้องปฏิบัติเอง
การตรัสรู้ธรรมไม่ใช่ของง่าย ดังนั้นถ้าผู้ใดไม่ได้บำเพ็ญเพียรบารมีมามากพอ การจะหวังพระนิพพานนั้นไม่มีทางเป็นไปได้
บางเวปไซต์เผยแพร่ความเชื่อที่ผิดๆ ออกมาสู่สาธารณะ
ดังนั้นการจะเชื่อสิ่งใด ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ที่เชื่อถือได้คอยชี้นำ จะเป็นอันตรายกับผู้ไม่เข้าใจการปฏิบัติภาวนาอย่างจริงจัง
ขออภัยคุณ pepsi5510 ถ้าทำให้ไม่พอใจในการเผยแพร่ข้อมูลนี้ เพียงแต่ผมไม่อยากให้คนที่ไม่เข้าใจเรื่องการปฏิบัติภาวนา เชื่อในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า