ปกติทานแค่วิตามินซี รวม แล้วก็น้ำมันปลาค่ะ แต่ก็ทานบ้างไม่ทานบ้าง
อีกอย่างรู้สึกไม่ค่อยรักษาสุขภาพเลย ไม่ค่อยออกกำลังกาย บางทีก็นอนดึกเลยอยากรู้ว่าสาวๆ sbn ทานอะไรกันบ้างคะ เผื่อจะลองทานดูบ้างค่ะ:D
ปกติทานแค่วิตามินซี รวม แล้วก็น้ำมันปลาค่ะ แต่ก็ทานบ้างไม่ทานบ้าง
อีกอย่างรู้สึกไม่ค่อยรักษาสุขภาพเลย ไม่ค่อยออกกำลังกาย บางทีก็นอนดึกเลยอยากรู้ว่าสาวๆ sbn ทานอะไรกันบ้างคะ เผื่อจะลองทานดูบ้างค่ะ:D
มาตอบคุณฝนดีกว่า:D
อุ้มทาน วินตามินซี บีรวม แล้วก็Q10 แต่ไม่ได้ทานทุกวันอะค่ะ นึกได้ก็ทาน คริๆๆ
แต่ออกกำลังกาย ออกเกือบทุกวันอะค่ะ ทำแล้วรู้สึกดี ร่างกายแข็งแรงอะค่ะ
ปล.อาหารเสริมอื่นๆไม่กล้าทาน เพราะแอบกลัวร่างกายขับออกมาไม่หมดแล้วจะสะสม เป็นอันตรายต่อตับในอนาคตค่ะ;)
ได้เคล็ดลับจากคุณแม่คนสวยมาแล้ว แต่ออกกำลังกายนี่ไม่ไหวจริงๆๆค่ะ มีเครื่องออกกำลังอยู่บ้าน เอาไว้แขวนของไปแล้วอ่า แล้ว Q10 นี่ทานแล้วช่วยอะไรหรอคะ (ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่่าไหร่อ่ะค่ะ ^ _^
เราทาน vit c
Q10 เป็นบางวันเพราะร่างกายไม่ต้องการมาก
transino ( ลดกระ ฝ้า สีผิวไม่เสมอ นิดหน่อย )
glucosamine + fish oil เพราะข้อต่อเราไม่ดีค่ะ
แล้วก็วิตามินรวม............กินสองตัว ตัว วิตามินรวมธรรมดา กับตัววิตามินรวมบำรุงผิว smoothskin เพราะเราเปงพวกหนังไก่จ้า
เท่านี้จ้า.................
เรื่องออกกำลังกาย กะลังพยายามอยู่ พยายามขยับตัวออกไปจากประตูบ้าน มุ่งหน้าไปยิม!! ไม่ก็ไปตีกอล์ฟ !! แต่ เมื่อไหร่ที่ออกจากบ้านรู้สึกมันจาไปหยุดที่อื่นอยู่เรื่อยเลย
5555:D:D:D กลายเป็นที่แขวนของไปแล้วเหรอค่ะ
Q10ทานเพื่ออะไร แหะๆ แอบลืมค่ะ:p ถ้าจำไม่ผิดเหมือนว่า พอเราอายุมากขึ้น สารตัวนี้จะน้อยลงไปเรื่อยๆอะค่ะ เลยต้องทานเสริม ผิดพลาดประการใดรอผู้รู้มาตอบอีกที่นะจ๊า;)
ปล.ไม่อยากถามคุณสามีเลย เพราะเค้าบอกว่า ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมอะค่ะ ทานอาหารครบห้าหมู่ก็พอแย้ว อิอิ :rolleyes:
ข้อมูล และรายละเอียดและความแตกต่างของ คลอลาเจน และ Q10 ที่ใครๆก็ถามกัน
คอลลาเจน เป็นโมเลกุลของโปรตีน มีคุณสมบัติกระตุ้นการเจริญเติบโตของผิว รักษาน้ำในผิวและช่วยป้องกันเชื้อโรค จึงถูกนำมาใช้รักษาคนไข้ที่มีแผลไฟไหม้ และลักลอบฉีดเพื่อลดความเหี่ยวย่นซึ่งทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย ปัจจุบันคอลลาเจนถูกนำมาผสมในอาหารหลายชนิด เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นม น้ำผลไม้ ชาเขียว รังนก ซุปสกัด ลูกอม ฯลฯ
แต่การกินคอลลาเจนไม่ช่วยให้ผิวสวยได้โดยตรงเพราะสารคอลลาเจนที่สังเคราะห์จากสัตว์และพืชจะถูกทำลายไปส่วนหนึ่งเมื่อถูกความร้อน และคอลลาเจนส่วนที่เหลือจะถูกกรดในกระเพาะอาหารย่อยให้เป็นอะมิโนแอสิดที่ใช้ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และหากมีปริมาณมากเกินความต้องการจะถูกแปลงเป็นไกลโคเจนและสะสมอยู่ในร่างกาย
การกินคอลลาเจนจึงไม่แตกต่างกับการกินอาหารที่มีโปรตีนเช่น เนื้อปลา หมู หรือพืชตระกูลถั่ว แต่จะต้องกินร่วมกับวิตามินซีซึ่งเป็นตัวช่วยร่างกายสังเคราะห์คอลลาเจนด้วย
โคเอนไซม์ Q 10 สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยการแบ่งเซลล์ของผิวหนัง และชะลอการสูญเสียไฮยาลูโรเนด นอกจากนี้ยังทำหน้าที่สร้างพลังงาน จึงพบโคเอนไซม์ Q10 มากในผิวและอวัยวะที่ต้องการพลังงาน เช่น หัวใจ ตับ ปัจจุบันกำลังทดลองใช้โคเอนไซม์ Q 10 รักษาโรคต่างๆ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคมะเร็ง ไมเกรน โรคเกี่ยวกับความเสื่อม เช่น สมองเสื่อม อัลไซเมอร์ พาร์คินสัน โรคหัวใจ หัวใจขาดเลือด เอดส์ ฯลฯ
มีการทดลองมากมายพบว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโคเอนไซม์ Q 10 อย่างการทาจะป้องกันยูวีเอได้ดี ผลพลอยได้คือช่วยลดการทำลายคอลลาเจนและไฮยาลูโรเนดในผิว ทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวให้สวยขึ้นภายใน 6 เดือน ปกติร่างกายจะสังเคราะห์โคเอนไซม์ Q 10 จากอาหารประเภทโปรตีน คือ ปลาและเครื่องในสัตว์ โดยเฉพาะตับและหัวใจ
การกินโคเอนไซม์ Q 10 เป็นอาหารเสริมควรบริโภคในปริมาณ 30-50 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะหากกินมากเกินไปจะเกิดอาการ คลื่นไส้อาเจียน ผื่นคัน ปวดหัว ท้องเสีย เจ็บหน้าอก เบื่ออาหาร นอนไม่หลับ มึนงง หงุดหงิด กระสับกระส่าย ตาแพ้แสง อ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว ผู้ที่ต้องระวังคือผู้ป่วยโรคเบาหวานน้ำตาลต่ำเพราะจะทำให้น้ำตาลลด และคนที่เป็นโรคเลือดเพราะโคเอนไซม์ Q 10 จะไปลดประมาณเกล็ดเลือดทำให้เลือดออกง่าย รวมถึงคนที่เป็นความดันต่ำ คนท้อง และแม่ที่ให้นมลูก
คอลลาเจน โคเอนไซม์ Q10 และไฮยาลูรอนเป็นสารที่ร่างกายต้องการน้อยมาก เรียกว่า ไมโครนูเทรียน (Micro Nutrian) เพราะสังเคราะห์ได้เองจากอาหารที่เรากิน แต่มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการสังเคราะห์และการลดของสารเหล่านี้ ซึ่งจะนำมาพิจารณาได้ว่า เราต้องการอาหารเสริมสำหรับผิวหรือไม่
1.หากอายุมากกว่า 20 ปี ระบบซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายจะด้อยประสิทธิภาพลง ประกอบกับฮอร์โมนที่ลดลงและภูมิคุ้มกันไม่สมดุลจึงส่งผลต่อผิว
2.การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือการกินอาหารที่มีสารพิษเจือปนทำให้ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์สารที่จำเป็นต่อร่างกายได้
3. เมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะ หรือมีความเครียดในการทำงานสูง
หากเข้าข่าย 3 ข้อนี้ อาหารเสริมจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก หลักในการรับประทานอาหารเสริมคือต้องพิจารณาถึง
ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์
สถานที่ผลิต งานวิจัยรับรอง
ราคา วันหมดอายุ
และคำเตือนหรือผลข้างเคียง
กินประจำก็วิตามินซี เสริมภูมิค่ะ เพราะเราเป็นหวัดง่าย
แล้วก็แคลเซียมจ้า...กินมาแต่เริ่มเลขสามก็ควรเสริม
(สองตัวนี้ ส่วนใหญ่ สูญง่ายในอาหาร และพฤติกรรมการกินอาจทำให้เราได้ไม่พอ)
เฉพาะกิจจะมีวิตามินอี ช่วงหน้าหนาว เพราะผิวแห้งจัด
ถ้าแก่กว่านี้สัก 5 ปี ก็จะเริ่ม EPO น้ำมันปลาแระ...
แต่จะดีที่สุด ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายค่ะ
มีแค่ Vit C กับ Fish oil ค่ะ
แถมยัง...มีบางวันก็ลืม....บ่อยๆ เลยค่ะ