นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.................
เผอิญไปอ่านเจอกรอบเล็กๆ ในหนังสือนิตรสายเล่มนึงอ่าค่ะ เป็นนิทานที่อ่านแล้วมีข้อคิดให้เราคิดตาม เลยอยากเอามาให้พี่ๆเพื่อนๆ ในนี้ได้ลองอ่านกันดูค่ะ
*** แต่มีข้อแม้นิดนึง ว่าเมื่ออ่านนิทานจบ อย่าเพิ่งดูเฉลยนะค่ะ แล้วเพื่อนๆ พี่ๆคิดยังไง ลองเขียนความคิดของตัวเองกันดูนะ ก่อนอ่านเฉลยนะๆๆ ตัวเอง เรามาดูกันมา พี่ๆเพื่อน จะคิดยังไงกับเรื่องนี้ๆ เราลองมานั่งคิด วัดระดับจิตใจตัวเองกัน ***
ขออนุญาติคัดบทความนี้จากนิตรสายค่ะ...
" มีหนุ่มสาวคู่หนึ่ง นั่งรถบัสกลับบ้านที่ต่างจังหวัด รถแล่นไปเรื่อยๆ ขึ้นเขาลูกแล้วลูกเล่าไปตามทางคดเคี้ยว เมื่อผ่านจุดหมายที่จะลง พวกเขาทั้งสองจึงขอให้รถหยุดกลางทาง และลงจากรถไป สองชั่วโมงต่อมา พวกเขาได้ข่าวว่ามีรถบัสหนึ่งคันเกิดอุบัติเหตุตกเขา เนื่องจากมีก้อนหินใหญ่ยักษ์กลิ้งลงมาโดนรถ ทำให้คนในรถเสียชีวิตทั้งคัน และรถคันที่ว่าก็คือรถที่พวกเขานั่งมานั่นเอง ทันทีที่รู้ข่าวแทนที่จะดีใจที่รอดชีวิตมาได้ เขาทั้งสองคนกลับเสียใจมากที่ลงจากรถคันนั้นมา "
***** คิดว่าอะไรคือเหตุผลที่พวกเขาเสียใจ ที่ลงจากรถคันนั้นมาก่อนที่จะเกิดอุบัติหตุ ???? ติ๊กต่อกๆๆๆ.....*******
ลองคิดกันดู แล้วเขียนกันมาดูนะค่ะ ว่าใครคิดว่ายังไงกันบ้าง แล้วค่อยมาดู เฉลย กับ นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้อะไรกัน อิอิ อย่าแอบดูเฉลยก่อนนะ เราจะได้รู้ว่าแต่ละคนมีความคิดว่ายังไง
เฉลย......................
เฉลย..... ( คัดลอกมาจากหนังสือนิตรสารนะคะ ขออนุญาติค่ะ )
ถ้าใครกำลังคิดว่าไม่เห็นยากเลย คงอยากเป็นโรมิโอ จูเลียตมั้ง จะได้ตายพร้อมๆกัน โรแมนติกดี ...แนะนำว่าลองเปิดใจแล้วมองโลกในแง่ดีกว่านี้ เพราะเหตุผลที่หนุ่มสาวคู่นี้เสียใจคือ เขาคิดว่าถ้าเขาทั้งสองไม่ขอให้รถหยุดและลจากรถ ทุกคนในรถก็อาจจะไม่มีใครต้องเสียชีวิตทั้งสิ้น เพราะคนขับจะขับผ่านจุดที่หินกลิ้งลงมาชนไปก่อนหน้า อย่างน้อยก็ 10 วินาทีนั่นเอง
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....
บางทีการนึกถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว มันทำให้เกิดเรื่องดีๆขึ้นเสมอ แถมโลกก็จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ
The End.......:D