สุขใดเล่า ก็ไม่เท่าความสุข ที่ไม่ปวดคอ ไม่เป็นออฟฟิศซินโดรม ปวดท้ายทอย ปวดบ่าไหล่ ต้องแก้
ปวดคอ ปวดบ่า ไหล่ไล่ไปสะบัก ปวดท้ายทอย ต้องคอยโยกย้าย ส่ายหัวไปมา ขวาที ซ้ายที ก็ยังไม่มีทีท่าจะหาย ออฟฟิศซินโดรม ทำงานเครียดหนักควรพักผ่อน และการที่จะต้องต้องนั่งท่าเดิมทำงานนาน ๆ นั้นไม่ดีแน่ เพราะจะมีอาการปวดคอ บริเวณต้นคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาการยอดฮิตที่พบได้ในหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ ที่จะต้องนั่งอยู่ในลักษณะท่าเดิม ๆ เป็นระยะเวลานานในแต่ละวัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการปวดต้นคอท้ายทอย ทั้งคอยังเป็นอวัยวะที่สามารถเคลื่อนไหว ได้หลายทิศทาง ทั้งก้ม เงย เอียงและหมุน ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้พบปัญหาปวดคอได้ รวมถึงอีกหลายสาเหตุดังนี้
สาเหตุที่ทำให้มีอาการปวดต้นคอท้ายทอย
1.กิจวัตรประจำวัน
การนั่งหรือนอนผิดท่า ก้มหน้าใช้คอมพิวเตอร์ เล่นโทรศัพท์ หรือนั่งเป็นเวลานานๆ โดยที่ไม่มีการยืดเส้นยืดสาย เป็นพฤติกรรมในการใช้งานกล้ามเนื้อคอที่ผิดท่า และนานเกินไปจึงทำให้เกิดอาการปวดคอ
2.มีการกดทับเส้นประสาทบริเวณคอ
สาเหตุนี้มักพบในผู้สูงอายุ เนื่องจากกระดูกสันหลังเริ่มเสื่อมและขาดความยืดหยุ่นไปตามวัย ทำให้กระดูกแยกออกมาทับเส้นประสาท โดยจะมีอาการปวดคอและบ่า ร้าวไปถึงไหล่ แขนหรือนิ้วมือ
3.ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม
เป็นภาวะที่มักพบในผู้สูงอายุเช่นกัน คือ กระดูก หมอนรองกระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็นกระดูก และกล้ามเนื้อหลังเสื่อมสภาพ ส่งผลให้กระดูกสันหลังขาดความยืดหยุ่น และติดแข็งมากขึ้น หากกระดูกสันหลังคอส่วนที่เสื่อมนั้นอยู่ใกล้เส้นประสาท อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ปวดคอได้
4.การติดเชื้อ
ซึ่งอาจเกิดได้จากโรคติดเชื้อหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น วัณโรค แบคทีเรีย เกิดที่กระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณคอ อาจกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้มีอาการปวดคอ ปวดศีรษะ และคอแข็งเกร็งได้
นอกจากนี้ อาการอื่น ๆ ที่พบบ่อยได้แก่ ปวดหัวไหล่ ปวดสะบัก หรือบางรายที่เป็นนานเป็นหนัก จะรู้สึกปวดมึนศีรษะ หนักท้ายทอย จนบางทีรู้สึกแขนชามือชา ตาพร่ามัว สมองล้า โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ชอบก้มหน้าดูมือถือ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ หรือผู้สูงวัยที่มีภาวะกระดูกคอเสื่อมอยู่แล้ว สำหรับอาการปวดต้นคอท้ายทอย ในช่วง 10 ปีให้หลังนี้มีการขยายลงไปในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยลงเป็นจำนวนมากอีกด้วยค่ะ
