จะรู้ได้อย่างไร ว่าถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องฟอกอากาศใหม่แล้ว

https://www.img.in.th/images/7e24b88...42da956f54.jpg

สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เช่น พัดลม ตู้เย็น หรือเครื่องปรับอากาศ เราสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ แต่เครื่องฟอกอากาศนี่สิ บางทีก็สงสัยว่า ที่เปิดไว้ทุกวันนี้ยังทำงานได้ดีอยู่หรือเปล่า? แบบนี้จะรู้ได้อย่างไรกัน

นอกจากเราจะต้องสังเกตดูฟิลเตอร์ว่าสกปรกหรือยัง เปลี่ยนฟิลเตอร์แต่ละชนิดตามอายุการใช้งานที่กำหนด และล้างทำความสะอาดฝุ่นละอองบนฟิลเตอร์ชนิดถอดล้างได้ เพื่อให้เครื่องทำงานได้ดีแล้ว ยังต้องหมั่นสังเกตอาการต่อไปนี้ ที่จะบอกว่า การเปลี่ยนฟิลเตอร์อาจจะไม่ช่วยอะไร แต่ถึงเวลาต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่กันแล้ว สัญญาณเหล่านี้มีอะไรบ้างไปดูกันดีกว่า

ความผิดปกติบนบิลค่าไฟ หากพบว่า ช่วงไหนเปิดเครื่องไว้ตลอด บิลค่าไฟจะสูงผิดปกติ คุณอาจจะต้องซื้อเครื่องใหม่แล้วล่ะ เพราะเครื่องฟอกอากาศรุ่นเก่า ๆ เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากเป็นอันดับต้น ๆ การซื้อเครื่องใหม่ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย ประหยัดไฟมากกว่า อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว

มีเสียงดังผิดปกติ หากว่าเครื่องเริ่มส่งเสียงผิดปกติ และพ้นระยะประกันที่ไม่คุ้มค่าซ่อมแล้วล่ะก็ การซื้อเครื่องใหม่อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ค่าเปลี่ยนฟิลเตอร์แพงกว่าซื้อเครื่องใหม่ ก่อนจะเปลี่ยนฟิลเตอร์ต้องลองคำนวณราคาดู หากว่าฟิลเตอร์ที่ต้องเปลี่ยนทั้งหมดแพงกว่า ทำไมไม่ซื้อเครื่องใหม่ไปเลยล่ะ

เครื่องเก่าไม่ตอบโจทย์การใช้งาน หากเครื่องฟอกอากาศที่คุณมีอยู่ไม่สามารถตอบโจทย์คุณได้อีกต่อไปแล้ว เช่น ไม่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 หรือขจัดกลิ่นน้องหมาที่เป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน ก็อาจจะต้องทบทวนดูแล้วล่ะ ว่าควรซื้อเครื่องใหม่หรือไม่

เครื่อง(ไม่)ฟอกอากาศ และไม่คุ้มที่จะส่งซ่อม มีหลายวิธีที่จะสังเกตได้ว่าเครื่องของคุณไม่ฟอกอากาศอีกต่อไป หากพิจารณาว่าไม่คุ้มค่าซ่อม หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนแล้ว ก็อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่

สำหรับเครื่องที่มี Ionizer หากว่าทำความสะอาดและเปิดเครื่องตามปกติสักระยะหนึ่ง ปรากฏว่าไม่มีฝุ่นมาติดที่บรรดาแท่งเหล็กผลิตไอออนเลย ก็แสดงว่า Ionizer น่าจะเสีย

สำหรับเครื่องฟอกอากาศที่ดูดอากาศเข้าไปกรองด้วยฟิลเตอร์ ให้เช็คว่าพัดลมดูดอากาศเข้าเครื่องหรือไม่ โดยใช้ฝ่ามืออังที่ช่องลมเข้า จะรู้สึกถึงกระแสลมได้ทันที หากลมไม่ค่อยแรงอาจเกิดจากพัดลมผิดปกติ หรือมีฝุ่นละอองบนฟิลเตอร์จับหนาจนลมไม่สามารถไหลผ่านได้สะดวก แต่ถ้าหากไม่มีลมเลย แสดงว่าพัดลมน่าจะเสีย

หากเป็นเครื่องที่มีการรายงานประสิทธิภาพการฟอกอากาศบนแอปพลิเคชันด้วย ก็จะรู้ได้ทันทีว่าเครื่องมีประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำลง

ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนเครื่องฟอกอากาศใหม่ ควรพิจารณาให้ดีว่าการทำงานไม่ปกตินั้น ยังสามารถแก้ได้ง่าย ๆ ด้วยการเปลี่ยนฟิลเตอร์หรือไม่ นอกจากนั้นควรศึกษาคู่มือให้ดีว่าเครื่องที่เราใช้อยู่มีความเหมาะสมกับขนาดห้องของเราหรือเปล่า การใช้งานอย่างถูกต้องและการดูแลรักษาที่ดี จะยิ่งช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น และมีความคุ้มค่าในการใช้งาน