ดอกไม้พรีเซิร์ฟฟลาวเวอร์ ดอกไม้อมตะ ?
วันนี้เราจะมาดูกันถึงรูปแบบทั้ง 8 รูปแบบของกระบวนการทำพรีเซิร์ฟฟลาวเวอร์ (preserved flowers) กันนะครับ ก่อนอื่นเลยหลายๆ ท่านคงสงสัยว่าดอกไม้นั้นทำไมจะต้องทำการ preserve หรือการผ่านกระบวนการคงความชื้นที่จะสามารถเพิ่มอายุของดอกไม้จากไม่กี่วันเป็นปีๆ ได้ หนึ่งในเหตุผลที่สำคัญก็คือช่อดอกไม้หนึ่งช่อนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ช่อดอกไม้ แต่ยังเป็นที่ระลึก ที่เห็นทีไรก็หวนนึกช่วงเวลาดีๆ เหล่านั้นนั่นเอง
เดาว่า หลายๆ ท่านคงจะเคยได้รับช่อดอกไม้ในวันสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันครบรอบ วันแต่งงานและอื่นๆ และหนึ่งในนั้นอาจจะเป็น preserved flowers ที่สามารถคงความสดใหม่สีสันที่สวยงามได้นานนับปี ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนชอบตัวดอกไม้พรีเซิร์ฟฟลาวเวอร์ มากๆ วันนี้จึงตั้งใจจะ นำ 8 วิธีการทำพรีเซิร์ฟฟลาวเวอร์มาแบ่งปันเพื่อนๆ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
8 กรรมวิธีในการยืดอายุช่อดอกไม้
1.กลีเซอรีน
วิธีการยืดอายุของช่อดอกไม้โดยการใช้กลีเซอรีนนั้นคือการจุ่มช่อดอกไม้ลงไปในกลีเซอรีนและให้ดอกไม้ดูดซับเข้าไป เป็นการแทนที่น้ำและความชื้นด้วยกลีเซอรีนนั่นเอง โดยวิธีนี้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับ preserved flowers และเป็นวิธีที่ได้ผล แต่ยากที่จะทำได้ด้วยตัวเอง เพราะต้องการความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูง
2.แช่เย็น
วิธีที่สองคือการแช่เย็น นั่นก็คือการนำช่อดอกไม้ไปจุ่มลงในของเหลวอุณหภูมิต่ำมาก เพื่อให้เกิดการแข็งตัวของช่อดอกไม้ แต่อย่างไรก็ดีวิธีนี้ส่งผลให้ช่อดอกไม้แตกหักง่ายและสูญเสียความสดใหม่เป็นธรรมชาติของดอกไม้ จะดูแข็งทื่อและเปราะบาง
3.ทำให้แห้งด้วยอากาศ
วิธีนี้จะคล้ายคลึงกับวิธีข้างต้นแต่ไม่ต้องใช้สารเคมีหรือของเหลวอุณหภูมิต่ำ เพียงแค่ใช้วิธีนำช่อดอกไม้ผูกเชือกหรือยางไว้ จากนั้นนำไปห้อยกลับหัวในบริเวณที่มีการถ่ายเทอากาศได้ดี แต่ก็อีกนั่นแหละ วิธีนี้ส่งผลให้ช่อดอกไม้แห้ง ขาดความชุ่มชื้น แตกหักง่าย และยังมีสีสันไม่สวยสดเหมือนพึ่งเด็ดออกมาแบบการทำ preserved flowers ด้วยกลีเซอรีน
4.การกดทับ
วิธีนี้คือการนำกระดาษดูดซับความชื้นและนำวัตถุที่มีน้ำหนักมากดทับ โดยอาจจะใช้หนังสือเป็นต้น โดยวิธีนี้เป็นที่นิยมและเห็นได้ตามภาพยนต์ ที่จะเห็นตัวละครเก็บดอกไม้ไว้ในหนังสือ โดยตัวหน้าหนังสือเองทำหน้าที่ดูดซับความชื้น ผลที่ได้ก็คือดอกไม้แห้งแบบที่เห็นทั่วไปในหนังนั่นเอง
5.อบด้วยไมโครเวฟ
วิธีนี้อาจจะดู hardcore สำหรับหลายๆ ท่าน แต่ก็ดีตรงได้ผลรวดเร็วทันใจ โดยการนำดอกไม้เข้าไมโครเวฟในอุณหภูมิไม่สูงมาก ใช้ความร้อนแค่พออุ่นๆ และแช่ในไมโครเวฟเพื่อให้ความร้อนส่งผลให้ของเหลวในดอกไม้ระเหยจนแห้ง แต่ก็เช่นเดียวกันสิ่งที่จะได้คือดอกไม้แห้งที่ขาดความสดใหม่
6.เรซิ่น
การใช้เรซิ่นหรือ epoxy resin นั้น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะได้ดอกไม้ที่ดูสดใหม่เหมือนพึ่งเด็ดออกมา แต่ขอย้ำว่าทำได้เพียงดูเท่านั้น ไม่สามาถแตะต้องเนื้อดอกไม้ได้จริง เพราะวิธีนี้คือการนำเรซิ่นมาหล่อครอบดอกไม้ทั้งช่อเลย โดยใช้เรซิ่นหล่อครอบทั้งหมด หลังจากนั้นรอเรซิ่นแข็งตัวนั่นเอง
7.ทราย
วิธีธรรมชาติแต่โบราณสำหรับการยืดอายุดอกไม้คือการนำช่อดอกไม้ไปใส่ไว้ในโถที่เติมจนเต็มด้วยทราย ทรายจะทำหน้าที่ดูดซับความชื้นออกจนหมด และให้ดอกไม้แห้งเป็นผลลัพธ์
8.ซิลิก้าเจล
ซิลิก้าหรือ Silica gel นั้นจะเป็นวิธีที่คล้ายทราย แต่ง่ายกว่าถ้ามีวัตถุดิบ เพราะซิลิก้าเจลนั้นเป็นคล้ายๆ เม็ดเล็กๆ ที่มากับถุงสารกันบูดในอาหารต่างๆ นั่นเอง โดยซิลิก้าเจลจะเม็ดใหญ่กว่าทรายและง่ายกว่าเวลาที่หยิบดอกไม้ออกหลังจากเสร็จขั้นตอนการยืดอายุแล้ว วิธีการก็เช่นเดียวกันกับทรายคือปล่อยให้แห้งในโถ จากนั้นจึงหยิบออก ได้ดอกไม้แห้งเช่นกัน
จากทั้งหมดที่สรุปมานั้นจะเห็นได้ว่ามีเพียงวิธีเดียวที่จะได้ดอกไม้ที่สดใหม่ไม่แห้ง สีสันสดใส คงความชุ่มชื้นนั่นคือ วิธีใช้กลีเซอรีน ซึ่งต้องใช้ความชำนาญค่อนข้างสูง ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าการซื้อจาก ร้านขายส่ง preserved flowers หรือร้านดอกไม้ที่ขายเฉพาะ Preserved flower เช่น ร้าน Magiku น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะทาง เมจิคุ ค่อนข้างเชี่ยวชาญในเรื่องของ พรีเซิร์ฟฟลาวเวอร์ แถมราคายังไม่แพงอีกด้วย ท่านใดสนใจสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ที่เว็บไซต์ https://www.magiku.com
