โตโยต้าไฮบริด ยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนผู้คนไปสู่อนาคต
มาทำความรู้จักกับระบบโตโยต้าไฮบริด
จากสภาวะโลกร้อนและความเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนโลกต้องพึงตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมามากมาย ด้วยสาเหตุจากหลายปัจจัยที่เสี่ยงต่อภาวะการณ์ดังกล่าว ไม่ว่าเป็นการทำลายธรรมชาติต่างๆ ปัญหาขยะมูลฝอยเน่าเสียล้นเมือง แม่น้ำลำคลองมีกลิ่นเหม็น ทั้งปัญหาการจราจรติดขัดในเมืองใหญ่ๆ ส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศจากฝุ่นควันของท่อไอเสียรถยนต์ รวมแม้กระทั่งสาเหตุการขาดแคลนพลังงานธรรมชาติต่างๆ ที่นับวันจะลดน้อยถอยลงไปตามความต้องของการเพิ่มของประชากรโลก ทำให้ราคาพลังงานยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยดังกล่าวจึงจำเป็นต้องมีการคิดค้นและพัฒนา พลังงานทางเลือกใหม่มาทดแทน ซึ่งเป็นพลังรักษ์โลกที่ไม่ทำลายธรรมชาติ สะอาดปลอดภัยเกิดขึ้นมามากมาย หนึ่งในนั้นคือพลังงานรถยนต์ไฮบริด
กว่า 20 ปี ของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูง โตโยต้าไฮบริด ได้พลิกโฉมวงการยานยนต์ ตั้งแต่ปี 2540 ด้วยการเปิดตัวและจำหน่ายรถยนต์ระบบไฮบริดที่สมบูรณ์แบบ พัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือกจนถึงปัจจุบัน โตโยต้ากับนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ยังคงมุ่งมั่นวิจัย และพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเกี่ยวกับพลังงาน ทางเลือกอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพและความสมบูรณ์ของพลังงานที่มากขึ้น ถึงแม้ว่าเรายังคงใช้น้ำมันเป็นพลังงานหลักสำหรับการขับเคลื่อนยานยนต์ในปัจจุบันก็ตาม โดยมีจุดประสงค์หลัก 3 ประการ คือ ค้นหาพลังงานทางเลือกที่จะมาทดแทนน้ำมัน เพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานทีเพิ่มขึ้น ลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และป้องกันมลพิษทางอากาศ โดยมีเทคโนโลยีไฮบริด เป็นหัวใจหลักในการพัฒนายานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม
ระบบ hybrid คือระบบขับเคลื่อน 2 แบบในรถยนต์คันเดียวกัน หมายถึง เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื่อเพลิง และมอเตอร์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี โดยทั้งสองระบบจะทำงาน ผสมผสานกันตลอเวลาอย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาดเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ จึงประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ ในขณะเดียวกันก็ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่วไป
ระบบโตโยต้าไฮบริดสามารถช่วยลดอัตราปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างชัดเจน จากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลักโดยขณะจอดหรือขับด้วยความเร็วต่ำจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวไม่มีการใช้เชื้อเพลิง นอกจากนี้ในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูงยังมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเสริมกำลัง ส่งผลให้กินน้ำมันน้อยลงอย่างชัดเจน ทั้งนี้ระบบสามารถแปลงพลังงาจลน์ที่เกิดขึ้นจากการชะลอเบรก หรือหยุดรถ กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งกลับไปเก็บในแบตเตอรีไฮบริดอีกด้วย
