จะทำยังไงกับเพื่อนตัวเองดีคะ...เชื่อแฟนจนโอนเงินให้เค้าไป5หมื่น!!?!??

คือเพื่อนที่มหาวิทยาลัยคนนึง สมมุติชื่อก. มีแฟน
แล้วแฟนเค้าก็แปลกๆอ่ะค่ะ แบบขี้โม้ โม้แต่อะไรเว่อๆ เช่น มีอาอี๊เป็นมาเฟีย
อาอี๊อีกคนอยู่อมเริกา มีสามีเป็นเพื่อนกับ Bill Gates บ้านอี๊คนนี้เลี้ยงปลาฉลาม
อะไรอีก อ่อ มันเห็นผีได้ เอาของออกก็ได้ เป็นprogrammer (ทั้งที่เรียนไม่จบ) ฯลฯ
อีกเยอะค่ะ -*-

เพื่อนๆก็เบื่อ เตือนจนไม่อยากจะยุ่งแล้ว ถ้ามันคบกันได้แล้วไม่รำคาญกันเองก็โอเค

แต่วันก่อนก.โทรหาเพื่อนในกลุ่ม บอกว่าแฟนก.อยากขอยืมเงิน 3.5หมื่น!!!
ก.บอกว่า แฟนเค้าตอนนี้ทำherbal ....อยู่ แล้วเดือนนี้ต้องปิดยอด ถ้าถึงยอดงวดนี้จะได้7หมื่น
แต่ทำยอดไม่ถึง ขาดอีก5หมื่นบาท เลยจะขอยืมเงินไปโปะ
เพื่อนเราคนนี้ก็หลอกถาม จนจับได้ว่า ก.น่ะ โอนเงินส่วนตัวของตัวเองให้แฟนไปแล้ว 1.5หมื่น ขาดไป3.5จะหาจากไหนล่ะ (เพื่อนๆแฟนไง!!!!)

ทุกคนก็ปฏิเสธอ่ะค่ะ สำหรับนักศึกษาแล้วเงินขนาดนี้มันเยอะมากเกินที่จะให้ใครยืมกันง่ายๆ -*-
หนักขนาด ก.โทรหาเพื่อนคนนึง (แต่มีอีก4คนเกาะหูฟังอยู่ด้วย) บอกให้ช่วยโทรไปขอยืมเงินแม่ให้หน่อย!!!!!
ตลอดเวลาที่คุยกัน พวกเราได้ยิน ก.คุยกับแฟน แฟนมันคอยหลบบอกบทอยู่ตลอดเวลา -*-
คือไซโคฯให้เพื่อนเราโทรมาขอยืมเงินเพื่อนๆ แต่ตัวเองหลบอยู่!

สุดท้ายแฟนมันโทรมาเอง เพื่อนเราก็คุยด้วยเหตุผลดีๆ บอกให้ไม่ได้จริงๆ เงินไม่น้อย แล้วไม่ใช่คนสนิทอะไรกัน เจอหน้าแค่2-3ครั้ง

เมื่อวานค่ะ..เพื่อนอีกคนโทรบอกตอนบ่ายๆว่า ตอนเช้า ก.โทรมาปรึกษาว่า
จะขอเงินแม่มา4หมื่นบอกจ่ายค่าเทอม แล้วโอนไปให้แฟนก่อน!!!!!!!!!!!!

อยากจะกรี๊ดดดดดด! เราก็โมโหเพื่อนว่าทำไมไม่ห้ามไว้ ไม่รีบโทรมาบอกวะ ป่านนี้โอนเงินไปแล้วมั้ง

สรุป มันโอนไปแล้วจริงๆ -*-
แฟนมันไซโคฯขนาดว่า "ถ้าแม่ขอดูใบเสร็จ ให้ไปขอที่ห้องทะเบียนก่อน" มันได้ที่ไหนกันล่ะ!!!!!!
เพื่อนเราก็โง่ว เชื่ออีก

เป็นความซวยของก. ที่เชื่อคนง่าย แล้วดันมาเจอผู้ชายขี้โม้!

ไหนจะความน่าสงสัยของแฟนมันที่ดูจะร้อนเงินมากกกกกกกกก~
ก่อนหน้านี้เพื่อนเราเคยเอาเบอร์แฟนก.ไปเสิชดูในเนต ก็เจอลงประกาศขายที่ดินอยู่
แฟนมันโม้ว่าตัวเองทำงานเป็นProgrammer (ทั้งที่ตัวเองเรียนอยู่ นิติฯปี2) เงินเดือน4หมื่น
เพิ่งทำherbal ....ได้ไม่นาน แต่ตอนนี้มันตำแหน่งSupervisorแล้ว มีลูกน้องด้วย!

ทุกคนรับไม่ได้มากว่า เอาเงินที่แม่ตัวเองทำงานหามาแทบตาย ไปประเคนให้ผู้ชายที่ไหนไม่รู้!
ถ้าไม่ได้เงินคืนนี่คือมันหมดสิทธิ์ได้เรียนเทอมหน้าแน่ๆ กิจการที่บ้านก็ไม่ค่อยดี

คือเรื่องเงินเราคงไม่พูดแล้ว เพราะว่ามันไปแล้ว~
เพื่อนๆก็อยากจะพูดกับก.ใหุ้รุ้เรื่องไป แต่ไ่ม่มีใครอยากเป็นคนพูดต่อหน้า เพราะก.เค้าsensitiveมากกกกกกกกกก เดี๋ยวร้องไห้ เครียด อ่านหนังสือสอบไม่ได้อีก -*-
เรากับเพื่อนอีกคนก็ไม่สามารถพูดได้เต็มปากอ่ะค่ะ เพราะว่าก.ไม่ได้มาขอยืมเงิน หรือพูดเรื่องนี้กับเรา2คนโดยตรง
(มันรู้ดีว่าโดนด่าเละแน่นอน เพราะกับเพื่อนเราไม่ค่อยไว้หน้าอ่ะค่ะ ผิดก็ว่าผิด)

รบกวนพี่ๆเพื่อนช่วยออกความเห็นหน่อยนะคะ จะทำยังไงดี (ตอนนี้ทั้งกลุ่มเครียดมากก -*-)
ระหว่าง...

1. พาเพื่อนก.ของเราส่งโรงพยาบาลอย่างด่วน
2. ทำไม่รู้ ไม่ชี้ ปล่อยเรื่องผ่านไป ให้เรียนรุ้เอง เล่นเอง เจ็บเอง
3. สังคายนา ก. ทั้งเรื่องเงิน เรื่องแฟน
4. เรียกแฟนมันมานั่งคุยด้วยเลย!

หรือใครมีอะไรนอกเหนือช่วยแนะนำด้วยนะคะ

อ๊อ เรื่องของHerbal...ด้วยค่ะ หากใครพอมีความรู้หรือทำอยู่ รบกวนขอความรู้ด้วยค่ะว่าระบบตำแหน่ง การขายพวกนี้ของบ.เป็นยังไง เราอยากรู้มากที่แฟนมันพูดมาจริงซักกี่% เพื่อนๆทุกคนก็ข้องใจ แต่ไม่รู้จักใครที่เคยทำเลย

ขอบคุณมากเลยค่ะ (แหะๆๆเรื่องยาวไปมั้ยเนี่ย)

เลือกข้อ 3. ครับ

เรื่องเงินถ้าตัดใจให้เลยไม่ได้ ยังไงก้อย่าให้ยืมครับ
ครอบครัวเดียวกันยังแตกมาแล้ว นับประสาอะไรกับแฟนที่รู้จักกันไม่เท่าไหร่


ตอนนี้ก็ให้ ก. ทำใจไปได้เลย สัญญาอะไรก็ไม่มี โดนโกงหายไปก็ทำไรไม่ได้แล้วอะ


แต่ขอให้เค้าได้ยอดจริงแล้วเอามาคืนแล้วกันนะครับ
พอได้คืนมาแล้วก็รีบหนีให้ห่างไกลเลยครับ คนแบบนี้

Quote:

---

Originally Posted by Bourgeoise

รบกวนพี่ๆเพื่อนช่วยออกความเห็นหน่อยนะคะ จะทำยังไงดี (ตอนนี้ทั้งกลุ่มเครียดมากก -*-)
ระหว่าง...

1. พาเพื่อนก.ของเราส่งโรงพยาบาลอย่างด่วน
2. ทำไม่รู้ ไม่ชี้ ปล่อยเรื่องผ่านไป ให้เรียนรุ้เอง เล่นเอง เจ็บเอง
3. สังคายนา ก. ทั้งเรื่องเงิน เรื่องแฟน
4. เรียกแฟนมันมานั่งคุยด้วยเลย!

หรือใครมีอะไรนอกเหนือช่วยแนะนำด้วยนะคะ

---

จากทางออก 4 ข้อที่น้องให้มา.....

1. ไม่จำเป็นต้องพาส่งโรงพยาบาลค่ะ เพื่อนน้องไม่ได้เป็นโรคจิต ไม่ได้มีสภาวะบกพร่องทางจิต ไม่ได้บ้าแน่ๆ ตราบใดที่เพื่อนของน้องยังใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้เป็นปกติ เรียนหนังสือรู้เรื่อง คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง และพี่ก็เชื่อว่าเพื่อนของน้องรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร (โกหกแม่ - หลอกเงินแม่ - เอาไปให้แฟน) เพื่อนของน้องแค่มองโลกในแง่ดีเกินไปเท่านั้น ~ หลังจากรู้ตัวว่าโดนหลอกซักครั้ง อาการจะทุเลาลงค่ะ

2. ในฐานะเพื่อน จะทำเป็นไม่สนใจ คงไม่เหมาะค่ะ พี่ว่าน้องก็ให้ความเห็น คำปรึกษา คำแนะนำ คำพูดเตือนสติตามความเหมาะสม แต่สุดท้าย ต้องให้เพื่อนน้องเค้าตัดสินใจเองค่ะ ผลจะออกมาเป็นยังไง เราก็คอยอยู่เคียงข้าง ซับน้ำตา(เห็นมะ ชั้นเตือนแกแล้ว!! ) จะดีกว่าค่ะ

3. ย้อนกลับไปอ่านข้อ 2 ค่ะ.....
น้องต้องให้อิสระทางความคิดกับเพื่อนด้วยค่ะ น้องว่าดี เพื่อนน้องเค้าอาจจะว่าไม่ดี อย่าลืมตอนนี้เพื่อนน้องโดน "ความรักบังตา" ในขณะที่ "อ่อนประสบการณ์" (พี่คิดว่าอาการอย่างนี้ คงไม่เคยโดนหลอกมาก่อน) และอย่าลืมความจริงอีกข้อว่า เพื่อนน้องเค้ารักแฟนเค้า เค้าอยากช่วยแฟนเค้า น้องไปพูดอะไร เค้าก็คงคิดว่า "แกไม่เข้าใจ" ซึ่งมันก็แน่ เพราะน้องคงไม่ได้ in Love ไปกับเค้าด้วย

4. อันนี้พี่คิดว่าแฟนเพื่อนน้องคงไม่เล่นด้วยแน่ๆ ท่าทางน้องผู้ชายออกแนวมิจฉาชีพ เค้าจะไม่ยอมมานั่งให้สาวๆกระหน่ำด่าหรอกมั้งคะ

สรุป: พี่แนะนำให้น้องคอยดูแลอยู่ห่างๆจะดีกว่านะคะ ประสบกาณ์จะสอนให้เพื่อนน้องฉลาดในการใช้ชีวิตมากขึ้นเองค่ะ

เรียกแฟนเพื่อนคนนั้นมานั่งคุยค่ะ
เอาเงินคืนมาให้ได้นะคะ T^T
ถ้าเข้าค่ายฉ้อโกงนี่แจ้งตำรวจเลยยยยยยยยยย!!!!

Quote:

---

Originally Posted by Have a nice day!

จากทางออก 4 ข้อที่น้องให้มา.....

1. ไม่จำเป็นต้องพาส่งโรงพยาบาลค่ะ เพื่อนน้องไม่ได้เป็นโรคจิต ไม่ได้มีสภาวะบกพร่องทางจิต ไม่ได้บ้าแน่ๆ ตราบใดที่เพื่อนของน้องยังใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้เป็นปกติ เรียนหนังสือรู้เรื่อง คุยกับคนอื่นรู้เรื่อง และพี่ก็เชื่อว่าเพื่อนของน้องรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร (โกหกแม่ - หลอกเงินแม่ - เอาไปให้แฟน) เพื่อนของน้องแค่มองโลกในแง่ดีเกินไปเท่านั้น ~ หลังจากรู้ตัวว่าโดนหลอกซักครั้ง อาการจะทุเลาลงค่ะ

2. ในฐานะเพื่อน จะทำเป็นไม่สนใจ คงไม่เหมาะค่ะ พี่ว่าน้องก็ให้ความเห็น คำปรึกษา คำแนะนำ คำพูดเตือนสติตามความเหมาะสม แต่สุดท้าย ต้องให้เพื่อนน้องเค้าตัดสินใจเองค่ะ ผลจะออกมาเป็นยังไง เราก็คอยอยู่เคียงข้าง ซับน้ำตา(เห็นมะ ชั้นเตือนแกแล้ว!! ) จะดีกว่าค่ะ

3. ย้อนกลับไปอ่านข้อ 2 ค่ะ.....
น้องต้องให้อิสระทางความคิดกับเพื่อนด้วยค่ะ น้องว่าดี เพื่อนน้องเค้าอาจจะว่าไม่ดี อย่าลืมตอนนี้เพื่อนน้องโดน "ความรักบังตา" ในขณะที่ "อ่อนประสบการณ์" (พี่คิดว่าอาการอย่างนี้ คงไม่เคยโดนหลอกมาก่อน) และอย่าลืมความจริงอีกข้อว่า เพื่อนน้องเค้ารักแฟนเค้า เค้าอยากช่วยแฟนเค้า น้องไปพูดอะไร เค้าก็คงคิดว่า "แกไม่เข้าใจ" ซึ่งมันก็แน่ เพราะน้องคงไม่ได้ in Love ไปกับเค้าด้วย

4. อันนี้พี่คิดว่าแฟนเพื่อนน้องคงไม่เล่นด้วยแน่ๆ ท่าทางน้องผู้ชายออกแนวมิจฉาชีพ เค้าจะไม่ยอมมานั่งให้สาวๆกระหน่ำด่าหรอกมั้งคะ

สรุป: พี่แนะนำให้น้องคอยดูแลอยู่ห่างๆจะดีกว่านะคะ ประสบกาณ์จะสอนให้เพื่อนน้องฉลาดในการใช้ชีวิตมากขึ้นเองค่ะ

---

เห็นด้วยค่ะ ถ้าพี่อยู่มหาลัย แล้วพี่เป็นน้อง พี่คงเครียดเหมือนน้องและเพื่อนๆในกลุ่มนั่นแหละค่ะ แต่ด้วยวัยขนาดนี้แล้ว พี่รู้ว่าชีวิตคนเรามันมีอะไรอีกเยอะที่จะค่อยๆเข้ามา เรื่องแฟนโกงเงินสี่หมื่นถือเป็นเรื่องเล็กเรื่องที่มนุษย์คนนึงจะมีโอกาสเจอได้... ถูกโกงไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ถูกโกงซ้ำๆซากๆด้วยเหตุผลเดิมๆนั่นอาจเป็นปัญหา เช่น ถ้า ก.ถูกแฟนคนนี้โกงไปห้าหมื่น เลิกกันไปคบคนใหม่ ก็เข้าอิหรอบเดิม คือให้เค้าโกงอีก ซ้ำๆ เปลี่ยนกี่คนผู้ชายก็โกงเค้าหมด อันนั้นอาจไปพบจิตแพทย์แล้วค่ะ เค้าอาจมีปัญหาในการเลือกผู้ชายในชีวิตหรืออาจเป็นพวกชอบความเจ็บปวดจากการที่ถูกทำร้ายทางจิตใจ

ถ้า ก. พึ่งเคยมีแฟนคนแรก พี่ว่าปล่อยเค้าให้เรียนรู้เองดีกว่า การเป็นเพื่อนดีเพื่อนแท้แค่มีไหล่ไว้ให้เพื่อนซบเวลาเจอปัญหาก็ดีมากๆแล้วค่ะ... แค่นั้นเอง คอยรับฟังและคอยเป็นกำลังใจก็พอค่ะ

ประมาณข้อ 2 ค่ะ แต่ไม่แรงขนาดนั้น
เอาคอยดูห่างๆคอยปลอบตอนเพื่อนเจ็บ
เพราะพูดไปตอนนี้ เพื่อนก็ตัดใจไม่ได้อ่ะค่ะ
เครียดกันป่าวๆๆ ทุกวันนี้ก็มีเพื่อนแบบนี้อยู่ค่ะ:D

ปลอบใจเพื่อน ค่ะ ไหนๆก้อเพื่อนเรา:)

เลือกข้อ 2 ครับ ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามกรรมครับ

อารมณ์นี้เพื่อนตอนนี้ไม่ค่อยน่าฟังใครแล้วมั้งครับ

ไม่รู้ว่าใจร้ายไปป่าว
แต่ในเมื่อเคยพูดแล้ว เตือนแล้วไม่ฟัง ขอเลือกข้อ 2 คะ

ให้ประสบการณ์สอน เราช่วยชี้แล้ว
แต่เค้าเลือกทางเดินทางนั้นเอง ก้ต้องให้เจอเอง จะได้รู้ ><

ส่วนตัวนะคะ

ถ้าสนิทกับเพื่อนมากๆ รวมถึงสนิทกับบ้านเพื่อนมาก
บอกที่บ้านค่ะ

แต่ถ้าเพื่อนไม่สนิทกับคนที่บ้าน
ให้บอกผู้ใหญ่ที่เพื่อนสนิทและจะฟังค่ะ



ไม่ควรพูดเอง เพราะเท่าที่อ่าน เค้าไม่ฟังเพื่อนค่ะ

ครอบครัว ช่วยอะไรได้มากกว่าที่คิด