- 
	
	
	
		ความเครียดกับความตาย 
		ได้รับเมลล์มา อ่านแล้วจะได้ปลงๆนะคะ
 
 เรียนทุกท่าน
 ท่ามกลางภาวการณ์ทำงานในปัจจุบันที่ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ผมมีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในวันนี้กับญาติ
 ของผมมาเล่าให้ทุกคนได้รับฟังเป็นอุทาหรณ์ เพื่อที่จะได้ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข และจะได้ไม่เกิดขึ้นเหมือนกับญาติ
 ผมคนนี้ ซึ่งในวันนี้เธอได้เสียชีวิตลงผลพ่วงมาจาก ความเครียด....
 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ญาติผมคนนี้ทำงานอยู่ในบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ทำงานเป็น
 Programer เธอเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับงานค่อนข้างมากและมีความจริงจังต่องานมากเช่นเดียวกัน แต่เธอไม่
 สามารถจัดสมดุลหรือบริหารความเครียดได้
 วันที่เกิดเหตุเธอกำลังนั่งปฎิบัติงานอย่างเคร่งเครียดตามปกติ และแล้วเธอก็ล้มลงหมดสติไป เพื่อนๆรีบพาส่ง รพ.
 ทันที่ เมื่อถึงรพ. หมอแจ้งว่าสมองขาดอากาศไปประมาณ 3 นาที ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดที่จะไปเลี้ยงสมอง
 ในเบื้องต้นคุณหมอให้เธอพักรักษาอาการใน รพ. 3 วัน หลังจากนั้นอาการของเธอเริ่มดีขึ้นสามารถกลับบ้านได้
 คุณหมอได้แนะนำให้เธออย่ากังวลหรือเครียดมากนักเพราะจะมีผลต่ออาการที่เธอเป็นอยู่
 หลังจากอีก 1 สัปดาห์เธอกลับไปทำงานตามปกติและเหตุการณ์ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในคืนวันนั้นเอง
 เวลาประมาณตี 2 เธอก็มีอาการชักอย่างรุนแรง สามีเธอรีบพาเธอไปรพ. โดยค่วนหลังจากที่คุณหมอเช็คและตรวจ
 อาการอย่างละเอียดแล้ว แจ้งว่าเป็นผลจากอาการในครั้งที่แล้วแต่ครั้งนี้รุนแรงกว่ามาก เนื่องจากลิ่มเลือดในสมอง
 อุดตัน หมอต้องรักษาโดยการฉีดยาละลายลิ่มเลือดในสมอง และต้องนอนพักตัวในรพ. และที่สำคัญหมอแจ้งว่าอาการ
 เช่นนี้ อาจจะทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา คือไม่สามารถรับรู้เรื่องอะไรได้อีกเลย ซึ่งก็เป็นจริงตามที่คุณหมอบอก
 เธอได้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปแล้ว ครอบครัวของเธอสามี ลูกๆอีก 2 คน อายุเพียง 13 และ 10 ขวบ รอเพียง
 ปาฎิหารย์เพียงอย่างเดียว และแล้ววันที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นก็มาถึง ในวันนี้วันที่ 30 ก.ค. เวลาประมาณตี 5
 เธอก็ได้จากทุกคนไปอย่างไม่มีวันกลับ
 เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เหตุการณ์จริง สาเหตุที่ทุกคนรอบข้างหรือแม้แต่คนในครอบครัว สามี ลูกๆ พูดเป็นเสียงเดียว
 กันคือ เธอไม่สามารถบริหารหรือจัดการกับความเครียดได้ ถ้าเธอสามารถจัดการเรื่องความเครียดได้ เหตุการณ์เช่นนี้
 คงไม่เกิดขึ้นกับเธอและครอบครัวอย่างแน่นอน
 สิ่งที่ผมเล่ามาทั้งหมดนี้อยากเป็นอุทาหรณ์ให้กับ คนทำงานทุกคนว่า การทำงานทุกแห่งโอกาสที่จะต้องเจอะเจอ
 กับความเครียดมีแน่ๆและหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ เราจะทำอย่างไรให้ความเครียดที่เรารับอยู่นั้นลดลงไปได้บ้าง
 มีบางคนสามารถจัดการกับความเครียดได้ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นโยคะ ออกกำลังกาย เลือกงานอดิเรกที่คุณรัก
 สิ่งเหล่านี้จะช่วยได้มากๆๆ ถือว่าคนเหล่านี้โชคดี แต่บางคนที่ยังไม่สามารถขจัดมันออกไปได้เริ่มหาวิธีบ้างก็จะดีนะครับ
 อย่าลืมว่ามีคนที่คุณรัก และ รักคุณรอคุณอยู่ ขอให้หาวิธีให้ได้นะครับ
 
 
 
- 
	
	
	
	
		เครียดก็หาเวลาพักบ้างนะครับ
 
 เงินอะยังไม่ตายก็หาได้ครับ
 
 ให้รางวัลชีวิตโดยการไปเที่ยวต่างๆจังหวัดสวยๆๆอะนะ
 
 
- 
	
	
	
	
		เดินทางสายกลางดีที่สุด พอเพียง เพียงพอ คนเราหามามากเท่าไหร่ เวลาตายก็เอาไปด้วยไม่ได้ซักอย่าง จงใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทเนาะ ขอให้เธอไปสู่สุขคติเทอญ 
 
- 
	
	
	
	
		จริงอย่างคุณ wawe ว่าค่ะ เดินทางสายกลาง พอเพียง ดีทีสุดค่ะ 
 
- 
	
	
	
		.... 
		ต้องเินทางสายกลางถูกต้องที่สุดค่ะ 
 
- 
	
	
	
	
		เฮ้ออ.. อ่านแล้วเศร้าเลยค่ะ...
 
 สงสารสามีกับลูกตาดำๆนะคะ.. เรื่องแบบนี้ไม่น่าเกิดขึ้นเลย..
 
 สรุปว่า จะทำงานหนักก็ต้องมีเวลาพักบ้างนะคะ..
 
 เราว่าทุกคนต้องพยายามหาจุดคลายเครียดของตัวเองค่ะ..
 
 พอรู้ตัวว่าเหนื่อย หรือเครียด.. ก็ต้องหาอะไรที่ชุ่มชื่นใจทำสลับบ้าง..
 
 น่าจะช่วยได้บ้างนะคะ..
 
 
- 
	
	
	
	
		อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งง
 
 ทุกวันมีแต่ความสุข
 
 
- 
	
	
	
	
		ช่วงนี้ เราก้อเครียดๆเลยพยายามอยู่ใกล้ๆลูกไว้เห็นหน้าลูกได้กอดได้หอมแล้วมีความสุข หายเครียด ;)