จาก“รั้วนนทรี” สู่ “บุรีรัมย์” เปิดเส้นทางเยียวยาหมาป่วย เรื่องราวที่รู้สึกว่าผมได้รับ จึงขอส่งต่อ

  1. yourfwd
    yourfwd
    เนื่องจากรู้ว่า ไม่ได้ทำงานนี้ และ งานที่ทำไม่ได้มีส่วน รับผิดชอบต่อเรื่องเหล่านี้ แต่รู้สึกว่าได้ รับ จากงานเหล่านี้ งานที่ทำ ให้ สิ่งมีชีวิต ที่ยอมรับและอาศัยร่วมกับเรา ได้มีโอกาส อาศัยอยู่ร่วมกัน ได้ต่อไป จึงขอส่งต่อ

    เรื่อง จาก“รั้วนนทรี” สู่ “บุรีรัมย์” เปิดเส้นทางเยียวยาหมาป่วย


    น้ำใจจากนิสิตอาสา

    “เตรียมใจไปเหมือนกันว่าสภาพคงจะค่อนข้างแย่ แต่พอเจอจริงๆ แย่กว่าที่คิด ทุกคนที่ไปแว่บแรกช็อค แต่พอตั้งสติได้ ในฐานะสัตวแพทย์ เราไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าถลกแขนเสื้อแล้วโดดลงไปลุยงาน”

    ผศ.สพ.ญ.มนชนก วิจารสรณ์ ในฐานะอาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตร (มก.) และผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ (ผอ.รพส.) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ถ่ายทอดความรู้สึกวินาทีแรกที่เหล่าคณาจารย์จากคณะสัตวแพทย์ฯ และบรรดานิสิตปี6รวมถึงแพทย์เพิ่มพูนทักษะลงพื้นที่ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เพื่อช่วยเหลือสุนัขจรจัดที่คาดว่าน่าจะถูกนำส่งเพื่อฆ่าเอาเนื้อในพื้นที่แถบอีสานเพื่อขายในแถบนี้รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงเกือบ 300 ตัว

    “เมื่อวันที่ 22 ส.ค.มหาวิทยาลัยได้รับหนังสือจากปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม เพื่อขอความช่วยเหลือด้านการรักษาสุนัขจรจัดที่พบว่ามีอยู่ในจังหวัดมหาสารคามราว 300 ตัว คาดว่าน่าจะมาจากการสกัดจับกลุ่มผู้ซื้อและขโมยสุนัขขายเพื่อนำไปเชือดนำเนื้อมาเป็นอาหาร ทำให้คนขับรถหลบหนีและปล่อยหมาที่จับมาให้เพ่นพ่านไปตามถนน โดยปศุสัตว์ได้รับแจ้งว่ามีสุนัขจรจัดไปกัดเป็ดไก่ชาวบ้าน”


    สุนัขเกือบทั้งหมดติดเชื้อ ปอดบวม น้ำมูกเขียว เพราะตากฝนขณะขนส่ง

    ผศ.สพ.ญ.มนชนกเล่าว่า ช่วงที่มีการทำเรื่องขอความช่วยเหลือเข้ามานั้น เป็นช่วงที่รศ.ดร.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมก.ติดราชการอยู่ต่างประเทศ ซึ่งพอได้รับทราบเรื่องก็ได้โทรศัพท์ข้ามทวีปมาทันที โดยมอบหมายภารกิจนี้ให้ผอ.โรงพยาบาลสัตว์ มก.และผอ.โรงพยาบาลสัตว์ มก. กำแพงแสน รับผิดชอบร่วมกัน และกำชับให้ให้ความช่วยเหลือสุนัขที่กำลังป่วยและบาดเจ็บอย่างเต็มที่

    “ท่านอธิการมีคำสั่งชัดเจนให้ภารกิจนี้เป็นการทำงานระดับการบรรเทาสาธารณภัย ทีมของเรามีอาจารย์หมอของเราราวๆ 10 ท่านที่ทราบข่าวและอาสาไปช่วย แล้วก็มีนิสิตปีสุดท้ายคือปี6 รวมถึงนิสิตแพทย์เพิ่มพูนทักษะหรือพวกหมออินเทิร์นที่ไปด้วยอีกกว่า 20 ชีวิต เราได้รับแจ้งว่ามีทั้งสุนัขป่วยและบาดเจ็บ ก็ได้จัดเตรียมอุปกรณ์การแพทย์สำหรับรักษาสุนัขได้ 400 ชุด ทั้งเฝือก ยาฆ่าเชื้อ หลอดและเข็มฉีดยา น้ำเกลือ หลอดเจาะซึ่งกว่าจะเตรียมของเตรียมคน ทำให้เราเดินทางได้ในบ่ายวันศุกร์ที่26ส.ค. พร้อมๆ กับทีมของกำแพงแสน โดยทีมสัตวแพทย์จากกำแพงแสนไปถึงก่อนเรา คือราวๆ 5 ทุ่ม ส่วนทีมของเราไปถึงประมาณตี3”


    สภาพสุนัขที่กำลังพักฟื้น เกือบครึ่งอาจจะไม่รอดเพราะบอบช้ำ ป่วย และติดเชื้อ

    การไปถึงของทั้ง 2 ทีมเยียวยายังอ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ที่สุนัขจรจัดจากมหาสารคามถูกขนย้ายมาพักไว้ด้วยเนื่องจากมหาสารคามไม่มีด่านกักสัตว์ และด่านที่ใกล้ที่สุดคือที่บุรีรัมย์ ทำให้ต้องขอความร่วมมือจากปศุสัตว์บุรีรัมย์ในการขอใช้พื้นที่ด่านกักสัตว์ที่อ.ปะคำ ซึ่งเดิมใช้เป็นด่านกักวัว ใช้กักสุนัขกลุ่มนี้อย่างเร่งด่วน นั้น เป็นการไปถึงเมื่อกลางดึก ทำให้มองไม่เห็นสภาพแวดล้อมอะไรชัดเจนนัก แต่ทันทีวันใหม่มาถึงและฟ้าสว่างดีแล้ว ทีมสัตวแพทย์ มก.จาก 2 วิทยาเขตก็ได้เห็นสภาพสุนัขเกือบ 300 ตัวนั้นอย่างชัดเจน

    “ทราบมาก่อนแล้วว่าการขนส่งสุนัขกลุ่มนี้คือถูกยัดไว้ในกรงเล็กๆ ทีละหลายตัว มีบางตัวกระโดดหนีลงจากรถจนกระดูกหัก ที่เหลือก็ถูกขนส่งแบบตากฝน ทำให้เกือบทั้งหมดอิดโรย บอบช้ำ ติดเชื้อ และปอดบวม คือทำใจมาระดับหนึ่งว่าสภาพสุนัขจะค่อนข้างแย่ แต่พอมาเจอจริงๆ แต่พอเจอจริงๆ แย่กว่าที่คิด ทุกคนที่ไปแว่บแรกช็อค แต่พอตั้งสติได้ ในฐานะสัตวแพทย์ เราไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าถลกแขนเสื้อแล้วโดดลงไปลุยงาน” ผอ. รพส.มก.บางเขนอธิบาย


    สนนราคารับซื้อไปเชือดตัวละ1,000บาท น่าสงสัยว่าบีเกิลราคาแพงจะถูกขายด้วยราคาเท่านี้หรือ?

    การทำงานเต็มสองวันอย่างทรหดของคณาจารย์และนิสิตอาสาสมัครทั้ง 2 ทีมนั้นเป็นไปอย่างค่อนข้างทรหด เพราะสภาพอากาศที่มีฝนตกตลอดเวลา พื้นดินเฉอะแฉะ มีเพียงเต๊นท์ชั่วคราวกางกำบังเท่านั้น ไม่นับสัตว์มีพิษจำพวกตะขาบที่หนีน้ำขึ้นมากันเป็นจำนวนมาก สร้างความลำบากให้คณะทำงานไม่น้อย

    “สรุปว่าเรารับดูแลสุนัขจรจัดกลุ่มนี้ที่มีทั้งหมด 279 ตัว การทำงานของเราเริ่มจากตรวจคัดกรองและประเมินอาการป่วยของสุนัขทั้งหมด แยกตัวที่ป่วยและติดเชื้อออกจากตัวที่ยังแข็งแรงเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ลามไปถึงตัวอื่น จากนั้นปูพรมให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ ตัวไหนแข็งแรงมากพอก็จะทำหมัน แต่ไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดติดเชื้อ ตัวไหนเป็นแผลก็จะดูแลเรื่องแผล อาการบาดเจ็บ บางตัวต้องเข้าเฝือกแล้วก็มีหลายตัวเหมือนกันที่ขาหัก คาดว่าจะมาจากกระโดดหนีจากรถ ส่วนเรื่องที่อยู่ อย่างที่เรียนให้ทราบว่าเดิมด่านกักสัตว์อ.ปะคำเป็นด่านกักวัว แต่พวกเราก็ปรับพื้นที่แบบเฉพาะหน้าอย่างรีบด่วน แล้วลงน้ำยาฆ่าเชื้อภายในคอกเพื่อให้สุนัขเหล่านี้ได้อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว โดยแบ่งโซนแข็งแรง โซนป่วย และโซนป่วยหนัก ตามอาการของแต่ละตัว”


    ช่วยกันคัดกรองตัวป่วยออกจากตัวที่ยังไม่ป่วย

    ผศ.สพ.ญ.มนชนกบอกเล่าสิ่งที่คณะทำงานทั้งหมดรู้สึกสะเทือนใจไม่ต่างกันก็คือ สุนัขจำนวนไม่น้อยยังอยู่ในวัยลูกสุนัข อายุไม่เกิน 4-5 เดือนเท่านั้น ซึ่งเป็นวัยที่อยู่ในความนิยมของ “คนกินหมา” ที่เชื่อว่าสุนัขวัยที่ยังไม่โตเต็มที่ ให้เนื้ออร่อยที่สุด

    “เราเจอสุนัขพันธุ์ดีๆ จนแทบไม่เชื่อว่าจะเอามาขายเพื่อแลกเงินเพียงหนึ่งพันบาท อย่างลูกสุนัขพันธุ์บีเกิล หรือพันธุ์เทอร์เรีย ก็อยู่ในกลุ่มที่เราไปช่วย เท่าที่สังเกตมีไม่น้อยเลยที่น่าจะเป็นสุนัขบ้านเพราะกิริยามารยาทเหมือนฝึกมาแล้ว พวกแสบๆ แบบจรจัดกลางถนนมีค่อนข้างน้อย อาการเข้าไปจับแล้วพร้อมจะแฮ่หรือกัดมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะกลัวแบบสุนัขเลี้ยงในบ้าน ส่วนใหญ่กินอาหารเม็ดได้ บางตัวไม่ยอมถ่ายมูลในคอก จะวิ่งออกไปถ่ายข้างนอกแล้วกลับมานอน แสนรู้มาก บางตัวพอเข้าไปใกล้ถึงกับกระโดดขอเล่นด้วย เอาขาหน้าเกาะมือเราไม่ปล่อยก็มี น่ารักมาก”


    สุนัขส่วนใหญ่นิสิตบอกว่าเรียบร้อยเหมือนสุนัขบ้าน แต่ก็ต้องผูกปากเพื่อความปลอดภัยระหว่างการรักษา

    ที่เศร้าที่สุดที่ผอ.รพส.มก.ย้อนภาพอันน่าหดหู่ให้ฟังคือ เช้าวันอาทิตย์ หลังจากผ่านการลุยรักษาพยาบาลเบื้องต้นอย่างเต็มที่แล้วของชาวคณะสัตวแพทย์ ปรากฎว่ามีสุนัขบางตัวที่ป่วย บาดเจ็บ และร่างกายอ่อนแอจนสู้ไม่ไหว ทยอยล้มตายลงจำนวนหนึ่ง

    “มีอยู่คู่หนึ่ง อยู่กันสองตัว คาดว่าน่าจะมาจากบ้านเดียวกัน เช้าวันอาทิตย์เราออกไปพบตัวหนึ่งนอนตาย อีกตัวหนึ่งเขาคอยเลียศพเพื่อนไม่ห่าง เห็นแล้วจุก เศร้า น้ำตาจะร่วง น่าจะมาจากบ้านเดียวกัน เป็นเพื่อนหรือพี่น้องกัน”

    และก่อนจะจบบทสนทนาการตีแผ่สภาพสุนัขที่กำลังได้รับความเดือดร้อนกลุ่มใหญ่กลุ่มนี้ ผศ.สพ.ญ.มนชนกทิ้งท้ายไว้อย่างน่าคิดต่อในหลายๆ ประเด็นของสุนัขจรจัดที่กำลังจะกลายเป็นเนื้ออันโอชะบนจานของผู้นิยมบริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติว่า สังคมไทยของเราจะทำอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น และแนวโน้มความนิยมในการบริโภคเนื้อสุนัขของคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านจะเป็นไปในทิศทางใด เพราะคำตอบที่ได้มาจากการตั้งคำถามนี้ ควรที่จะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นมาตรการการจัดการที่ต่อเนื่องและได้มาตรฐาน


    เกือบครึ่งเป็นลูกสุนัขซึ่งเป็นที่นิยม เพราะรสชาติดีกว่าสุนัขที่โตแล้ว

    “ในฐานะสัตวแพทย์ เราทำได้เพียงเผชิญหน้ากับความเจ็บป่วยของสัตว์และช่วยเหลือรักษา หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นนั้น สังคมไทยต้องเป็นคนตอบแทนพวกเรา จะเอาอย่างไรกับการบริโภคเนื้อสุนัข เราจะกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่กินเนื้อสุนัขอย่างเป็นล่ำเป็นสันเหมือนหลายประเทศเพื่อนบ้านของเราไหม เราจะมีฟาร์มหมาเนื้อเหมือนที่เรามีโคขุนหรือเปล่า เราจะกลายเป็นประเทศส่งออกเนื้อสุนัขในฐานะสัตว์เศรษฐกิจใหม่ๆ อย่างฟาร์มนกกระจอกเทศไหม แล้วคดีความของสุนัขจรจัดกลุ่มใหญ่ที่นครพนมจะจบลงอย่างไร ส่วนกลุ่ม 279 ตัวนี่ถือเป็นของกลางหรือเปล่า จะทำอย่างไรกับมัน หากคดีจบลงจะต้องส่งคืนไปยังผู้ประกอบการเพื่อนำไปเชือดส่งขายไหม ถ้าไม่คืนเราจะมีหน่วยงานใดเข้ามาเยียวยาช่วยเหลือ แล้วจะส่งต่อพวกมันไปไหน เราต้องหาความชัดเจน”


    สุนัขพวกนี้มาจากไหน? มาอย่างไร? แล้วหลังจากนี้มันจะเป็นอย่างไรต่อไป?

    ผอ.รพส.มก.กล่าวอย่างหนักแน่นว่า ขนาดนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ต้องโทษประหารชีวิต ยังไม่ถูกทรมานก่อนนำไปประหาร เนื้อสัตว์อื่นๆ ก่อนจะถูกนำไปฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหารยังต้องมีมาตรฐานในการเลี้ยงดู การขนส่ง รวมถึงมาตรฐานในการฆ่าตามหลักมนุษยธรรม หากสังคมไทยจะก้าวไปสู่การเปิดกว้างของการเลี้ยงสุนัขเพื่อเป็นอุตสาหกรรมกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวแล้วละก็ จำเป็นจะต้องมีมาตรฐานเหล่านี้เฉกเช่นสัตว์อาหารอื่นๆ


    ฐานะสัตวแพทย์ เราทำได้แค่ถกแขนเสื้อแล้วลุยงานด้านการรักษา


    ถ้ามันพูดได้ มันอาจจะพูดว่า “คนจ๋า อย่ากินหนูเลย”

    “จะเอายังไงก็เอา หากสังคมไทยรับเรื่องนี้ได้เปิดกว้าง ก็อยากให้มีมาตรฐาน ก่อนตายให้เขาได้กินอิ่ม ได้อยู่ในที่ที่ปลอดโปร่ง ไม่ถูกทรมาน มีน้ำสะอาดให้กินบ้าง ละลายวิตามินให้หน่อยจะได้ไม่เครียด การขนส่งเป็นระบบไม่ใช่ยัดกรงเดียวสิบตัว ขนาดสัตว์ใหญ่ๆ อย่างวัว อย่างหมูเรายังต้องมีหลักมนุษยธรรมในการเลี้ยงเพื่อนำไปเป็นอาหาร”

    และบทสนทนาช่วงสุดท้ายในช่วงพลบค่ำในห้องทำงานผศ.สพ.ญ.มนชนก ภายในรพส.มก.เขตบางเขต ความอิดโรยจากการลุยงานหนักในภารกิจช่วยสุนัขที่อ.ปะคำยังคงหลงเหลือให้เห็นบ้าง แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์สุดอึดรายนี้ก็ยังต้องสานต่อโครงการต่างๆ มากมายและยังต้องทำอย่างอื่นอีกหลายอย่างจนแทบไม่มีเวลาให้รู้สึกเหนื่อย


    "เราทำงานกันแบบหดหู่ ไม่มีใครหัวเราะ ฮาไม่ออก สภาพมันเศร้ามากจริงๆ”

    “งานที่ปะคำจะสำเร็จไม่ได้เลยหากขาดอาจารย์หมอและนิสิตอาสาสมัครกลุ่มที่ไปด้วย อันนี้อยากเอ่ยถึงและขอบคุณคณะทำงานทุกท่านจริงๆ รวมถึงหน่วยงานภาคีทั้งรัฐและเอกชนที่สนับสนุน และสุดท้ายที่อยากขอความกรุณาที่สุดคือสุนัขกลุ่ม279ตัวที่ยังอยู่ที่บุรีรัมย์ยังไม่จบการรักษา เราต้องลงไปให้วัคซีนอีก เพราะตอนนั้นมันอ่อนแอมากจนให้วัคซีนไม่ได้ คือมีบางกลุ่มอยากจะย้ายสุนัข279ตัวนี้ไปนครพนมเพื่อรวมกับกลุ่มใหญ่ อยากขอร้องว่าอย่าเพิ่งย้ายไปเพราะมันยังไม่แข็งแรง และจำนวนมากติดเชื้อ ถ้าขนส่งไปต่ออาจจะมีล้มตายกันอีกมาก สภาพร่างกายเขาไม่ไหว แล้วที่สำคัญหากขนส่งผ่านจุดไหน เป็นไปได้ว่าเชื้อต่างๆ ที่สุนัขพวกนี้ติดเชื้ออยู่อาจจะไปติดสุนัขในท้องถิ่นอื่นๆ ด้วย ขอให้รอให้มันแข็งแรงอีกสักนิดเถอะค่ะ” ผศ.สพ.ญ.มนชนกกล่าว


    ขอบคุณอาจารย์และคณะในงานที่ทำและออกความเห็นอย่างรับผิดชอบ ในฐานะ สัตวแพทย์ ที่ทำหน้าที่ รักษา

    เพราะเราเชื่อในความเป็นคนที่มีหัวใจต่อสัตว์มากกว่า เห็น สัตว์ เป็นได้เพียง แค่ อาหาร ของอาจารย์และน้องๆ ผู้ที่ทำหน้าที่สัตวแพทย์ เราจึงขอร่วมทำงานกับอาจารย์ในฐานะมนุษย์ มนุษย์ที่อาศัยในประเทศที่อุดมสมบูรณ์ และ มีอะไรให้เลือกกินอีกมากมาย

    เราอยากขอให้มนุษย์ในสังคมเดียวกัน สังคมที่อุดมสมบูรณ์นี้ ช่วยกันแสดงความเห็น ออกความเห็น และร่วมช่วยเหลือ ให้เขาเหล่านี้ ได้อาศัยอยู่ร่วมกับเราในฐานะอื่น อย่าให้สัตว์ที่เราเลี้ยง มีสิทธิ์อาศัยอยู่ร่วมกับเรา ได้เพียงแค่เขาเหล่านั้น มีประโยชน์ ที่ จะเป็นได้ เพียง แค่ อาหาร อัน ถูกปาก ถูก ลิ้น เรา เลย

    ขอบคุณในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ของ สัตวแพทย์ ทุกคน


    ขอบคุณจากข่าว จาก“รั้วนนทรี” สู่ “บุรีรัมย์” เปิดเส้นทางเยียวยาหมาป่วย

    ขอได้โปรด มนุษย์ ทุกคน ควร มีหัวใจ
    สังคมที่ไร้มุทิตา...
    คือ สังคม ที่ คนส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่า ใครคือคนที่ทำให้

    เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนควรต้องมีหัวใจ
    สังคมนี้ แผ่นดินนี้ คงอยู่ ให้เรา อาศัย อยู่ร่วมกัน ได้ต่อไป
    "ผู้เสียสละทุกคน ที่ตาย ล้วนมีชีวิต และเรา ติดหนี้บุญคุณ"
    ขอบคุณใน ความเสียสละ ที่ทำให้เรา ได้อาศัยอยู่ร่วมกัน

    เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนควรต้องมีหัวใจ
    ด้วยความเคารพในความเสียสละ อย่างสูงยิ่ง
    ประเทศใคร.. ในหนึ่งวัน<Click>


    ความเห็นแก่ตัว ทำให้ คน โง่ ขึ้น
  2. iDnOuSe4
    iDnOuSe4
    เศร้าครับ น่าสงสารมาก
  3. Euphrates
    Euphrates
    ที่อีสาน มีรถรับซื้อ ไม่ใช่สิ..รับแลก แลกกับถังบ้าง ไข่บ้าง

    แต่ก่อนตอนเราเด็กๆ ที่บ้านเราก็มีรถมารับซื้อ และเขาว่ากันว่า บางทีเดินอยู่ข้างทางก็ถูกจับไป

    เลิกกิน เลิกขาย เลิกซื้อ ซะทีเถอะ

    ............


    ขอบคุณคุณหมอทุกคนที่ลงแรงกาย แรงใจช่วยชีวิตเหล่านี้
    ร่วมส่งต่อค่ะ
Results 1 to 3 of 3