วันนี้คุณได้ทาน ""อาหารเช้า"" หรือเปล่าค่ะ ??

  1. IAm
    IAm
    เชื่อว่าเพื่อนๆ บางคน คงไม่ค่อยได้ทานอาหารเช้า เพราะต้องรีบไปทำงาน ไปเรียน
    ฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบทานอาหารเช้า (เพราะชอบตื่นสาย ) ตื่นแล้วก็รีบอาบน้ำ รีบไปเรียน
    กว่าจะมีอะไรตกถึงท้องก็ต้องรอมื้อเที่ยง
    พอดีได้ไปอ่านบทความเกี่ยวกับ ความสำคัญของอาหารเช้า จึงอยากเอามาให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ

    ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.ph...5-2007&date=09

    ใครๆ ก็บอกว่าอาหารเช้าสำคัญ ขาดไม่ได้ หรือไม่ควรขาด
    แล้วอาหารเช้าสำคัญอย่างไรกันเล่า และจะให้กินอะไรเป็นอาหารเช้า...


    "ในเมื่อดื่มแค่กาแฟแก้วเดียวฉันก็อยู่ได้จนถึงมื้อกลางวัน ตอนเช้าน่ะแทบจะไม่มีเวลากินอะไรหรอก
    เพราะต้องรีบไปทำงาน และฉันต้องการลดน้ำหนักแถมยังประหยัดเงินอีกมื้อหนึ่งด้วย"

    เหล่านี้เป็นคำกล่าวที่เรามักจะได้ยินจากคนที่ไม่กินอาหารเช้า โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานนอกบ้าน
    ตอนเช้าต้องเร่งรีบออกจากบ้าน โดยไม่ได้กินอาหารเช้า เมื่อไปถึงที่ทำงานก็มีงานมากมาย
    จนไม่มีเวลากินอะไรจนถึงเวลากลางวัน

    เมื่อตื่นนอนในตอนเช้า เราไม่ได้กินอาหารนับจากมื้อเย็น ประมาณสิบสองชั่วโมงหรือมากกว่า
    หากเรางดอาหารมื้อเช้า และกินอาหารกลางวันเป็นมื้อแรกของวัน
    หมายถึง ร่างกายจะไม่ได้รับอาหารอีกประมาณห้าชั่วโมง รวมแล้วไม่ต่ำกว่าสิบเจ็ดชั่วโมง
    ที่ร่างกายไม่ได้รับอาหาร


    การที่ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารนานขนาดนั้น จะส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างไม่ต้องสงสัย
    ( ปวดหัว ง่วงนอน จนถึงความดัน โรคหัวใจ ) และมีผลงานวิจัยว่าคนที่ไม่ทานอาหารเช้าจะเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งมากกว่าปกติ


    อาหารมื้อเย็นที่เรากินเข้าไปถูกย่อยและใช้ไป เมื่อเราพักผ่อนนอนหลับ ร่างกายใช้พลังงานน้อย
    อาหารมื้อเย็นจึงอยู่ได้หลายชั่วโมงกว่ามื้ออื่น ที่เรากินในตอนกลางวัน ซึ่งร่างกายใช้พลังงาน
    ในการทำกิจกรรมต่างๆ มากกว่า
    เมื่อเราตื่นนอนในตอนเช้าระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ในขณะที่เราลุกขึ้นเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ
    เราจะรู้สึกหิว ศูนย์หิวที่สมองสั่งให้กระเพาะหลั่งน้ำย่อยออกมาทำให้ท้องว่าง เพราะร่างกายต้องการพลังงาน
    หากเรายังไม่เติมพลังงานให้กับร่างกาย หรือยังไม่กินอาหารเช้า
    ร่างกายต้องไปดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ที่สะสมไว้ในตับ ซึ่งร่างกายเก็บเป็นเสบียงไว้ใช้ในยามจำเป็น
    นำมาใช้เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ
    แต่ไม่นานนักพลังงานส่วนนี้จะถูกใช้จนหมดไปเพราะไม่มีใหม่มาเติม


    การขาดอาหารเช้าอาจจะทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย ยิ่งสายใกล้เที่ยงจะเกิดอาการโมโหหิวได้ง่าย
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กไม่ควรขาดอาหารเช้า
    มีงานวิจัยหลายเรื่องที่พบว่า การกินอาหารเช้ามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
    ในขณะที่ท้องหิวสมองก็ไม่รับรู้เรื่องที่ครูสอนไม่มีสมาธิในการเรียน
    บางคนไปสอบโดยไม่มีกินอาหารเช้า ทำให้ทำข้อสอบไม่ได้ดีเท่าที่ควร
    เพราะฉะนั้นเราควรกินอาหารเช้าเพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงาน ที่จะต้องใช้ในการทำงานทั้งกำลังกายและสมอง


    จากผลการวิจัยหลายเรื่องทำให้กล่าวได้ว่า การกินอาหารเช้า ที่มีคุณค่ามีความสำคัญ นั่นคือ
    >> คนที่กินอาหารเช้ามีพลังงานในการทำงานได้นานกว่า
    และมีความอ่อนล้าในช่วงกลางวันน้อยกว่าคนที่เริ่มอาหารเช้า ด้วยกาแฟเพียงแก้วเดียว
    >> การกินอาหารเช้าทำให้ช่วยลดปริมาณการกินอาหารว่าง
    >> ถ้าเราปล่อยให้ร่างกายคอยนานเกินไปกว่าจะได้รับอาหารมื้อแรกของวัน
    ระบบการย่อยอาหารก็จะเฉื่อยชาในการทำงาน ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า
    คนที่ไม่กินอาหารเช้ามีอัตราการเผาผลาญอาหารต่ำกว่า คนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำ
    >> เด็กที่กินอาหารเช้ามีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่า ให้ความร่วมมือดีกว่า และมีสมาธิในการเรียนดีกว่าเด็กที่ไม่ได้กินอาหารเช้า


    อีกสิ่งที่สำคัญมากก็คือ การไม่รับประทานอาหารเช้าอาจเป็นสาเหตุของการเกิดโรคอ้วนได้
    เหตุเพราะ กว่าจะถึงเวลารับประทานมื้อกลางวัน ทำให้หิวมากกว่าปกติ
    และจะรับประทานเกินความต้องการของร่างกาย ซึ่งส่วนที่เหลือจะเป็นไขมัน
    การที่คนเราไม่รับประทานอาหารมื้อเช้าเลย หรืองดมื้อใดมื้อหนึ่งไปทำให้เขาขาดสารอาหารไปอย่างน้อย 1/3 ของความต้องการพลังงานทั้งหมดของร่างกาย
    ซึ่งมักทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาได้เพราะทำให้การรับประทานอาหารมื้อต่อไป เพิ่มปริมาณมากขึ้นเพราะหิวมากขึ้น
    หรือไม่ก็จะทำให้เรารับประทานระหว่างมื้อมากขึ้น หรือรับประทานอาหารเป็นประเภทจุบจิบ
    เช่น อาหารประเภทขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน และน้ำอัดลม เป็นต้น
    โดยอาหารเหล่านี้แฝงไปด้วย เกลือ น้ำตาล และไขมันอิ่มตัวเป็นจำนวนมาก
    ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเรา ทำให้น้ำหนักเกินหรืออ้วนได้ง่ายขึ้น
    และมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ ตามมาหลายอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคข้อและกระดูกอักเสบ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเจ็บป่วยและการตายในผู้ใหญ่


    ปัญหาที่สำคัญของคนไม่กินอาหารเช้าส่วนใหญ่คือไม่มีเวลา นั่นเป็นเพียงข้อแก้ตัวเท่านั้น
    หากคุณตั้งใจที่จะกินอาหารเช้า คุณก็ทำได้ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที
    อย่างไรก็ตาม ควรมีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพนั่นคือ
    ก่อนนอนคิดรายการอาหารมื้อเช้าว่าจะกินอะไร เตรียมอุปกรณ์ และเครื่องปรุงไว้ก่อนเท่าที่เป็นไปได้

    นอกจากนี้ในแต่ละวันควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ได้แก่
    หมู่เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่วเมล็ดแห้ง หมู่ข้าว แป้ง เผือก มัน หมู่พืชผัก หมู่ผลไม้ และหมู่ไขมันจากพืชและสัตว์
    ถ้าเป็นไปได้ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อ
    อาหารเช้าควรจะเป็นอาหารหลายอย่าง ไม่ควรเป็นพวกแป้งเพียงอย่างเดียว
    เพราะในกระบวนการย่อย และดูดซึมอาหารนั้น จำเป็นต้องใช้สารอาหารหลายชนิดทำงานร่วมกัน
    หากขาดชนิดใดชนิดหนึ่งอาจจะทำให้กระบวนการนั้นไม่สมบูรณ์
    และร่างกายไม่สามารถใช้ประโยชน์จากอาหารได้อย่างเต็มที่
    เพราะฉะนั้นการกินอาหารไม่ใช่เพียงแต่อะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกอิ่ม
    แต่ควรคำนึงถึงประโยชน์ของอาหารที่เรากินเข้าไปด้วย และควรหมุนเวียนชนิดของอาหาร ไม่กินอาหารอย่างเดียวซ้ำซาก


    คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับอาหารเช้าของลูก และของตนเองเหมือนกับการอาบน้ำแต่งตัว
    จัดสรรเวลาส่วนหนึ่งให้กับอาหารเช้า เพื่อให้คุณและสมาชิกในครอบครัว มีพลังงานการทำงานและอารมณ์สดใสตลอดวัน

    ขอบคุณข้อมูลจาก
    http://www.elib-online.com/doctors/food_breakfast.html
    http://gotoknow.org/blog/duthai/45749
    http://www.lodnumnuk.com/index.php?mo=3&art=402552
  2. IAm
    IAm
    สำหรับตัวแอม ก่อนหน้านี้ไม่ทานอาหารเช้า จะกินนมสักกล่อง หรือไม่ก็กาแฟสักแก้ว รองท้อง
    พอสักประมาณ 10-11โมง ก็จะเริ่มหิวๆ ในท้องมันป่วนป่วน หัวมันเริ่มมึนๆ งงๆ
    ยิ่งถ้าวันไหนสอบด้วย แบบว่า พอมันหิวอ่ะ จิตใจก็ไม่ได้อยู่กะข้อสอบแล้ว โอ๊ย เมื่อไรจะเที่ยง
    แบบว่า ทรมานอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องรอพักเที่ยง กว่าจะได้กินข้าว
    พอถึงเวลากินข้าวกลางวัน ด้วยความหิวจัด จานเดียวก็ไม่อิ่ม
    ต้องหาลูกชิ้น ขนม หรือไม่ก็แย่งข้าวจากคนข้างๆ หรือหิวจัดๆ ก็เบิ้ลอีกสักจาน อ่าา.. อิ่มแปร้
    และที่สำคัญ จะรู้สึกง่วงนอน อยู่ทั้งวัน (ขนาดว่าตื่นสายแล้วนะ)
    พอได้มาอ่านบทความ ก็เพิ่งรู้ว่า มันมีผลขนาดนี้เลยเหรอ ก็กลัว
    ยิ่งรู้ว่า ไม่ทานจะยิ่งอ้วน ไอ้เราก็อ้วนอยู่แล้ว ไม่อยากให้มากกว่านี้ แต่การที่ไม่ได้กินยิ่งทำให้อ้วน
    ก็เลยตื่นให้เร็วขึ้นสัก 20 นาที จะได้มีเวลาไปกินข้าว
    รู้สึกว่าอาการมึนๆ งงๆ มันก็ไม่เกิดแล้ว ไม่อยากกินจุก กินจิก แล้วทั้งวันก็กระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วงนอนเลย
    ก็เลยอยากชวนเพื่อนๆ มาทานอาหารเช้ากันค่ะ
  3. nokhon
    nokhon
    ขอบคุณ จขกท มากๆนะคะ
    สำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์ที่นำมาแบ่งปัน
  4. Nakderntang
    Nakderntang
    พรุ่งนี้จะลองตื่นมาทานข้าวเช้าให้ทันนะคะ
    ไม่ใช่ข้าวสาย

    ขอบคุณ สำหรับเร่องราวดี ๆ ที่มาแบ่งปันค่ะ
    ;
  5. bookerian
    bookerian
    ขอบคุณค่ะที่เอาบทความดีๆ มาบอก
    คอนเฟิมค่ะ ว่ามื้อเช้าสำคัญมากๆ ถ้าอยากเริ่มต้นของวันอย่างกระปรี้กระเปร่า เคยไม่กินข้าวเช้า แล้วต้องทำงานที่ต้องเดินไปเดินมา ปรากฎว่าหน้ามืด เป็นลมค่ะ
    ใช้วิธีของที่น้องแอมก็ดีเนอะ เผื่อเวลาไว้หน่อยสำหรับทานอาหาร
  6. IAm
    IAm
    ขอบคุณ คุณ nokhon , คุณ Nakderntang ,คุณ bookerian ที่เข้ามาพูดคุยค่ะ
    แต่ก่อนแอมก็ตื่นมา ไม่เคยทันกินข้าวเช้าเลยค่ะ รวบมื้อเช้าและเที่ยง เป็นมื้อสาย
    เหมือนคุณ Nakderntang เลยค่ะ ลองดูค่ะ เอาใจช่วย
    ขอบคุึณคุณ bookerian ที่มาเล่าให้ฟังว่าเคยเป็นลมด้วย น่ากลัวค่ะ ถ้ายิ่งต้องทำงานที่เคลื่อนไหวหรือใช้แรงบ่อยๆ แล้วเราไม่ได้เติมพลังงานให้ร่างกาย ร่างกายก็คงไม่ไหวเหมือนกันเนอะ
    ถ้ายังไงก็อย่าลืมบอกต่อคนข้างๆ หรือคนที่คุณรักนะคะ อยากให้เพื่อนๆมีสุึขภาพที่ดีค่ะ
  7. Siambrandname Webmaster
    Siambrandname Webmaster
    ขอบคุณนะครับ ที่นำมาบทความดูแลตนเองดีๆ มาแบ่งปันในกรุ๊ปนี้ครับ

    จะเข้ามาอ่านอีกครั้งนะครับ ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดครับ จะได้นำมาใช้ครับ
  8. IAm
    IAm
    ขอบคุณ คุณWebmaster ค่ะ ที่เข้ามาเยี่ยมชม ยังไงก็อย่าลืมเข้ามาอ่านอีกนะคะ

    ...อยากให้เพื่อนๆทู้กกกคน มีสุึขภาพที่ดีค่ะ...
  9. IAm
    IAm
    มีข้อมูล เกี่ยวกับอาหารเช้า่ กับ สุขภาพ มาแบ่งปันเพื่อนๆค่ะ


    อาหารเช้าป้องกัน "โรค + อ้วน"

    มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด เพราะไม่เพียงเติมพลังงานให้ร่างกายและสมองให้พร้อมที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดวัน อาหารเช้ายังป้องกันโรคเบาหวาน หัวใจและโรคอ้วนได้อีก


    อาหารเช้าลดน้ำหนัก

    ใครที่ลดน้ำหนักอยู่ และคิดว่าการงดอาหารเช้าจะช่วยให้ผอมได้ คุณกำลังทำสิ่งที่ตรงกันข้าม การงดอาหารเช้าทำให้ร่างกายลดระบบเผาผลาญลง สมองจะหลั่งสารเคมีที่ชื่อว่า นิวโรเพปไทด์ วาย (neuropeptide Y) ซึ่งจะส่งสัญญาณให้คุณกินโดยไม่รู้ตัว มีภาวะที่เรียกว่า " อาการกินกลางคืน " (night eating syndrome) คือเมื่อเริ่มกินมื้อกลางวันแล้ว คุณจะหยุดไม่ได้จนกระทั่งเข้านอน

    คนที่งดอาหารเช้ามักกินจุบจิบและเลือกอาหารที่กินสะดวก ซึ่งอาจมีไขมัน น้ำตาลและแคลอรีสูง นักวิจัยจากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดยืนยันว่า
    ไม่ว่าหญิงหรือชายที่กินอาหารเช้าทุกวันจะอ้วนยากกว่าคนที่งดอาหารเช้า นอกจากนี้ นักวิจัยจากโรงเรียนแพทย์แมทสาชูเสทยังพบว่า คนที่งดอาหารเช้าบ่อยๆ มีแนวโน้มจะอ้วนได้มากกว่าคนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำถึง 45%
    ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ กลุ่มผู้หญิงที่กินอาหารเช้าที่มีแคลอรีมากกว่ามื้ออื่นๆ จะลดน้ำหนักลงได้ดีกว่า
    และ 78% ของคนที่ลดความอ้วนแล้วสามารถประคับประคองน้ำหนักให้คงที่ได้ เป็นพวกที่กินอาหารเช้าทุกวัน

    ทำไมการกินอาหารเช้าทำให้น้ำหนักลดได้ ยังไม่มีคำตอบชัดเจน รู้แต่เพียงว่า อาหารเช้าช่วยให้หิวน้อยตลอดวัน อย่างไรก็ตามคุณภาพและปริมาณอาหารเช้ามีความสำคัญ ควรจัดให้มีความสมดุลของสารอาหาร และเพื่อลดน้ำหนักจะต้องไม่กินมากเกินไป


    อาหารเช้าลดโรค

    การกินอาหารเช้าช่วยป้องกันโรคหัวใจ และน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเป็นอาการเตือนของโรคเบาหวาน
    นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอ่อนเพลียได้อีกด้วย

    จากผลการวิจัยคนที่กินธัญพืชไม่ขัดสีทุกวันเป็นอาหารเช้ามานานกว่า 5 ปี จะมีอายุยืนขึ้น
    เพราะธัญพืชไม่ขัดสีมีสารแอนติออกซิแดนท์ ใยอาหารและปัจจัยอื่นช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
    นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเทอรอลในเลือดและความดันโลหิต ส่งเสริมให้ร่างกายใช้กลูโคสและฮอร์โมนอินซูลินได้ดีขึ้น
    ธัญพืชที่มีโปรตีนถั่วเหลืองผสมจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มขึ้น เพราะโปรตีนถั่วเหลืองช่วยลดระดับคอเลสเทอรอลในเลือดได้ ส่วนอาหารที่มีองค์ประกอบของกรดโฟลิค วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 จะช่วยลดสารโฮโมซิสเตอีนในเลือดซึ่งเป็นอันตรายต่อหลอดเลือด


    อาหารเช้าเพิ่มพลังสมอง

    ระหว่างที่นอนหลับร่างกายเรายังคงใช้พลังงานตามปกติ พลังงานเหล่านั้นมาจากกลูโคสที่ร่างกายเก็บสะสมไว้ กว่าจะถึงเช้ากลูโคสมากกว่าครึ่งจะถูกใช้ไป ร่างกายจึงต้องการเติมพลังงาน ซึ่งอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตจะเป็นตัวเริ่มขับเคลื่อนพลังงานให้กับร่างกายได้ดีที่สุด

    สมองของคนเราก็ใช้กลูโคสเป็นพลังงานด้วยเช่นกัน แต่สมองไม่สามารถเก็บสะสมกลูโคสส่วนที่เหลือได้เหมือนกับการที่ร่างกายสะสมพลังงาน
    ฉะนั้นอาหารเช้าจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้สมองเราทำงานได้เฉียบไว หากงดอาหารเช้า คุณอาจไม่รู้สึกอะไร เพราะมีพลังงานสำรองจากการพักผ่อน แต่พอใช้หมดไปร่างกายจะเข้าสู่ภาวะเครียด และแม้ว่าจะกินชดเชยในมื้อเที่ยง ก็สายเกินไป เพราะเวลาที่ร่างกายต้องการพลังงานส่วนนั้นได้ผ่านไปแล้ว


    กินอะไรดีที่สุดสำหรับสมอง

    นักวิจัยได้ลองให้ชาย - หญิง 22 คน อายุ 60-70 ปี ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาร์โบไฮเดรตล้วนๆ โปรตีนล้วน ไขมันล้วน เครื่องดื่มทั้ง 3 ชนิดให้พลังงานช่วยให้การทำข้อสอบเกี่ยวกับความจำระยะสั้นดีขึ้น แต่ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มคาร์โบไฮเดรตทำได้ดีที่สุด ในการทบทวนความจำหลังจากดื่มไป 1 ชั่วโมง ชี้ให้เห็นว่าคาร์โบไฮเดรตมีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง

    เมื่องดอาหารเช้า เราจะไม่ได้สารอาหารสำคัญที่ช่วยความจำตลอดวัน แม้แต่การขาดสารอาหารเพียงเล็กน้อย ประเภทกรดโฟลิค วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 ก็จะลดความจำลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น คนสูงอายุจะดูดซึมวิตามินบี 12 ได้น้อยลง เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คนที่อายุ 50 ปีขึ้นไปเสริมกรดโฟลิค ซึ่งมีมากในธัญพืชไม่ขัดสี ผักใบเขียวจัด ถั่ว น้ำส้มคั้น ฯลฯ


    อาหารเช้าที่ควรใส่ใจ

    ถ้าต้องการให้ร่างกายได้ประโยชน์จากอาหารเช้ามากขึ้น ควรพิจารณาเลือกชนิดอาหารที่มีองค์ประกอบดังนี้

    -- คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ดีที่สุดสำหรับอาหารเช้า เพราะจะค่อยๆ ปลดปล่อยกลูโคสให้กับสมองโดยใช้เวลานานขึ้นในการย่อยและดูดซึม แนะนำให้เลือกธัญพืชไม่ขัดสีและผลไม้
    -- โปรตีน อาหารทะเลให้กรดอะมิโน เพื่อผลิตสารสื่อข่าวสมอง ไข่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามินบีและโคลีนช่วยการทำงานเกี่ยวกับความจำ แม้ไข่มีคอเลสเทอรอลสูง แต่ไข่วันละฟองในมื้ออาหารที่สมดุลนั้น ข้อมูลการวิจัยเปิดเผยว่าไม่เป็นผลเสีย
    -- อาหารแคลเซียมสูง เช่น นม โยเกิร์ต นมถั่วเหลือง หรือธัญพืชเสริมแคลเซียม น้ำส้มเสริมแคลเซียม ช่วยในการเผาผลาญไขมันและลดการสะสมไขมันในร่างกาย

    ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.tistr-foodprocess.net/foo...od_health8.htm
  10. bookerian
    bookerian
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
  11. paruai
    paruai
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ
  12. BitterSweetMe:)
    BitterSweetMe:)
    ขอบคุณมากนะคะ อ่านแล้วทำให้เกิดความพยายามมากขึ้น เพราะเคยอ่านมาบ้างแล้วว่าอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด
  13. Siambrandname Webmaster
    Siambrandname Webmaster
    ขอบคุณคุณ IAm ครับที่นำข้อมูลมาให้รูปเพิ่มเติมด้วยว่า อาหารเช้าป้องกัน "โรค + อ้วน"

    มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด เพราะไม่เพียงเติมพลังงานให้ร่างกายและสมองให้พร้อมที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดวัน อาหารเช้ายังป้องกันโรคเบาหวาน หัวใจและโรคอ้วนได้อีก
    ต้องจัดระเบียบตัวเองให้ทำงานและสามารถทานอาหารเช้าได้สะแล้วครับ ประโยชน์ของอาหารเช้ามากมายจริงๆครับ ขอบคุณครับ
  14. IAm
    IAm
    Quote Originally Posted by bookerian View Post
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
    Quote Originally Posted by paruai View Post
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ
    ยินดีค่ะ ขอบคุณ คุณ bookerian และคุณ paruai ค่ะ ที่แวะเข้ามาอ่าน

    Quote Originally Posted by BitterSweetMe:) View Post
    ขอบคุณมากนะคะ อ่านแล้วทำให้เกิดความพยายามมากขึ้น เพราะเคยอ่านมาบ้างแล้วว่าอาหารเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด
    ยินดีค่ะ พยายามเข้านะคะ คุณBitterSweetMe ตอนนี้ก็กำลังพยายามอยู่เหมือนกันค่าาา เพื่อสุขภาพของเราค่ะ

    Quote Originally Posted by Siambrandname Webmaster View Post
    ขอบคุณคุณ IAm ครับที่นำข้อมูลมาให้รูปเพิ่มเติมด้วยว่า อาหารเช้าป้องกัน "โรค + อ้วน"
    ต้องจัดระเบียบตัวเองให้ทำงานและสามารถทานอาหารเช้าได้สะแล้วครับ ประโยชน์ของอาหารเช้ามากมายจริงๆครับ ขอบคุณครับ
    ยินดีค่ะ คุณ WM ลองดูนะคะ

    ยิ่งเรื่องอ้วนเนี่ย เห็นชัดกับตัวเองเลยค่ะว่า เวลาไม่ได้กินข้าวเช้า พอถึงมื้อเที่ยง ก็จะกินเยอะมาาาาาก
    จานเดียวไม่เคยอิ่มเลยค่ะ ต้องเบิ้ล2 ตลอด หรือไม่ก็หาขนมกินอีกๆ มันแบบว่า ไม่รู้จัดอิ่มสักที
    บางทีเหมือนท้องมันแน่นๆแล้ว แต่ก็ยังไม่หายอยาก อยากกินๆเยอะๆ (เอ หรือเราตะกละ นะ )

    แต่ถ้า ได้กินข้าวเช้า ก็จะรู้สึกดี มีแรง อิ่มกำลังดี มื้อเที่ยงก็จะกิน พอดีๆ ไม่กินเยอะด้วย ไม่หิวระหว่างทำงาน
    ไม่ต้องกินจุกกินจิก ด้วยค่ะ
Results 1 to 14 of 14