Local Hero...วีรบุรุษชาวบ้าน

  1. yourfwd0
    yourfwd0
    เรื่องราวนี้ผมอยากส่งต่อ
    เพราะว่า เป็นเรื่องที่ผมได้รับมา ได้อ่านมาไม่ได้เขียนเอง
    เพราะว่า เรื่องราวของคนในเรื่องที่ผมได้อ่าน มีหลายอย่างที่ผมได้รับจากเรื่องราวชีวิตของคนเหล่านี้

    จึงอยากมาส่งต่อ

    เรื่องราว Local Hero...วีรบุรุษชาวบ้าน บทความสั้นของคุณ Natayaa ที่เขียนเรื่องราวที่ยาวนานได้อย่างเรียบง่ายอ่านง่ายและเห็นได้ว่า การดำรงอยู่ของเรานี้ มีหลายชีวิตเหลือเกินที่เสียสละเพื่อให้เราได้อยู่ร่วมกัน

    .... Local Hero...วีรบุรุษชาวบ้าน



    วันก่อนได้ดูรายงานข่าวทางทีวีช่องหนึ่ง เกี่ยวกับชาวบ้านธรรมดาทั้งหลายที่กลายเป็นวีรบุรุษปกป้องผืนดิน ผืนป่า และธรรมชาติในท้องถิ่นเมืองไทย แต่แล้วผลที่ได้รับกลับมา จากการทำงานชิ้นใหญ่ด้วยหัวใจบริสุทธิ์ กลับกลายเป็นการโดนปลิดชีวีตทิ้งไปอย่างไร้สิ้นมนุษยธรรม

    ดูรายงานข่าวชิ้นนี้จบ ฉันก็นึกถึงบันทึกที่ฉันเพิ่งเขียนไป เกี่ยวกับคนท้องถิ่นในเลค ดิสทริกท์ที่ไม่จำเป็นต้องไปต่อสู้กับนายทุนที่จะเข้ามาทำลายธรรมชาติ เพราะว่าผู้คนที่นั่น ต่างเข้าใจกัน และร่วมมือกันรักษาธรรมชาติโดยปราศจากความขัดแย้งใดๆ และไร้ความรุนแรงถึงขั้นฆ่าแกงกัน

    ความแตกต่างเหล่านี้ มันอยู่ที่จิตสำนึกของคนในท้องถิ่น และเพื่อนร่วมชาติ เพื่อนร่วมโลกทั้งหลายที่เป็นนายทุน และผู้ได้รับผลประโยชน์ ว่าจะเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว หรือ มีสำนึกที่ดีเพื่อส่วนรวมหรือไม่

    ระหว่างที่ฉันจิตตกอยู่กับเรื่องราวในรายงานข่าวชิ้นนั้น ฉันก็ต้องหาทางออกให้จิตฉันหายตก ด้วยการย้อนนึกถึงเรื่องราวดีๆ อาทิ เช่น ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งซึ่งสร้างความประทับใจไว้ให้คนดูอย่างฉัน และหลายๆ คน ในเรื่องของการรักษาธรรมชาติ นั่นคือ ภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง Local
    Hero



    ย้อนกลับไปเมื่อ 26 ปีที่แล้ว ตอนหนังเรื่องนี้ออกฉาย สมัยนั้น ฉันยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นต้นๆ อยู่เลย(อืม จะเขียนทำไมให้สะเทือนใจคะเนี่ย)

    ฉันไม่แน่ใจว่า จะมีใครรู้จักหนังเรื่องนี้กันบ้างหรือไม่ แต่เชื่อว่า คอหนัง รุ่นเดียวกันย่อมต้องพอคุ้นๆ กันบ้างล่ะ เพราะถึงแม้จะเป็นหนังฟอร์มเล็ก แต่คุณภาพก็ใหญ่คับแก้วเลยทีเดียว




    เรื่องย่อของหนังเรื่องนี้มีอยู่ว่า Felix Happer (แสดงโดย เบิร์ต แลงคาสเตอร์) เจ้าของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ ชื่อ Knox Oil and Gas ของอเมริกา ต้องการซื้อพื้นที่ชายฝั่งทะเลแห่งหนึ่งในประเทศสก๊อตแลนด์ จึงได้ส่งพนักงานบริษัท ที่ชื่อ Mac (Peter Riegert) กับ แดนนี่ (Peter Capaldi) ไปเจรจากับชาวบ้านที่นั่น เพื่อซื้อที่ดินดังกล่าว


    แม้ว่า แฮปเปอร์ เจ้านายใหญ่ตัดสินใจส่งแม็คไปก็เพราะว่าเข้าใจผิด คิดว่า แม็คมีเชื้อสายเป็นคนสก๊อตแลนด์ ตามชื่อของเขา(มุกตลกเล็กๆ) แต่หนังก็สื่อออกมาด้วยว่า แม็ค เป็นชายหนุ่มอนาคตไกล ไฟแรง เป็นชาวเมืองที่มีชีวิตหรูหรา หน้าที่การงานดี และมีองค์ประกอบด้านวัตถุนิยมครบถ้วน




    เมื่อ แม็ค ไปถึงที่นั่นและเสนอเงินมากมายให้กับชาวบ้าน แทบจะทั้งหมู่บ้านก็ตาลุกวาว มิได้คิดการณ์ไกลไปกว่านั้น หนังทำออกมาได้ดีตรงที่ว่า สามารถสื่อสันดานมนุษย์ได้อย่างตรงไปตรงมา ตามความเป็นจริงในโลกใบนี้ ไม่ได้ทำออกแนวฝันหวาน ว่าจะมีการต่อต้านคนรุกรานให้กลายเป็นหนังแนวไอเดียเหมือนเรื่องก่อนๆ ในยุคนั้น


    ดังนั้นชาวบ้านทั้งหลายในหนังเรื่องนี้ จึงเข้าแนว เงินมาผ้าหลุด ต่างก็เต็มใจขายกันอยู่แล้ว แต่ก็มีการเล่นตัวเพื่อโก่งราคาเล็กน้อย ตามความคิดของหัวหน้าในหมู่บ้านนั้น ส่วนแม็คเองก็เป็นแค่คนธรรมดาที่คิดฝันแค่ว่า ...ถ้างานสำเร็จ เงินมา อนาคตก็ก้าวไกลไปอีก ดังนั้นงานเจรจานี้จึงดูแล้วไม่ยากอะไร


    (ระหว่างการต่อรองราคานี้ หนังก็ได้พยายามสื่อถึงการบุกรุกของระบบทุนนิยม และวิถีชาวบ้านได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนคนเมืองอย่างแม็คและ แดนนี่ ก็ได้เรียนรู้กับวิถีชาวบ้านที่เรียบง่าย ซื่อๆ และมีน้ำใจ อย่างเช่นในฉากที่เขาต้องไปโทรศัพท์ที่ตู้หยอดเหรียญ แค่เขาเปรยขึ้นว่าอยากได้เหรียญ 10 เซนต์ ไปโทรศัพท์ ก็ปรากฎว่า ชาวบ้านที่อยู่ในบาร์นั้นต่างพากันแย่งเอาเงินให้เขาโดยไม่ลังเลอะไรเลย)


    เมื่อชาวบ้านทั้งหมดเล่นตัวจนได้ราคาที่พอใจ พวกเขาก็ตกลงใจจะขายที่ แต่แม็คผู้ซึมซับกับวิถีชาวบ้านเหล่านี้ไปพอสมควร เขาเริ่มสับสนในตนเอง ว่าเขากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่หรือไม่




    และในช่วงเวลาสับสนนี้เอง ก็มีวีรบุรุษผู้เฒ่าชาวทะเลนามว่า เบน (แสดงโดย Fulton Mackay) ลุกขึ้นมาประกาศว่าแกจะไม่ยอมขายที่ของแกเป็นเด็ดขาด แม้ว่าเฒ่าเบนจะเป็นแค่เจ้าของกระท่อมริมชายหาดเล็กๆ ซึ่งไม่มีประตู มีแต่หน้าต่างที่เอาไว้เป็นทางเข้าออก


    แต่ปรากฎว่า ที่ของแกน่ะ เป็นที่จุดยุทธศาสตร์ในการขุดเจาะน้ำมันทีเดียว แถมแกยังเป็นเจ้าของทั้งชายหาดอีกด้วยน่ะสิ เล่นเอาแม็ค ถึงกับบ่นอุบเลยทีเดียว ว่า "จะไปเจรจากับคนแก่ที่บ้านไม่มีประตูทางเข้า อย่างไรล่ะเนี่ย" เปรียบเหมือนกับว่า คงหาช่องทางเข้าถึงได้ยากนั่นเอง (คนเขียนบทเขาสุดยอดจริงๆ)


    Local Hero อย่างเฒ่าเบน ไม่ใช่วีรบุรุษแบบที่ต่อสู้บนเวที หรือ ถือโทรโข่ง เกณฑ์คนไปตะโกนปาวๆ ด่านายทุน ให้หยุดทำร้ายธรรมชาติ แต่เฒ่าเบนเจ๋งกว่านั้น คือ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นั่งจิบน้ำชาอยู่หน้าบ้านริมชายหาดแบบสบายใจ

    [IMG]http://api.ning.com/files/IVuuLHv9dnQsxPhog5-cZm1zOIT*0EG5f3uclqn40GF0yhy7LRLrhbg*w*zezvkw2vaKAxxmW7ZuwRQhXcHPpuE2OCIXi6IB/Local_Hero_still_frame_041206.jpg[/IMG]

    พอแม็คมาเจรจา แกก็ยิ้มๆ ตอบไปว่า ไม่ขาย แม้กระทั่งแม็คจะหาเหตุผลมาล่อใจแก อย่างเอารูปชายหาดที่ฮาวายมาให้เลือกว่าอยากได้หาดไหน ว่ามาเลย จะไปซื้อให้อยู่ แถมเงินให้อีก หลายแสนปอนด์ แกก็สวนกลับมาอย่างนุ่มๆ ว่า ชายหาดแกก็สวยเพียงพอที่จะทำให้แกสุขใจได้แล้ว ยิ่งมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนด้วย ยิ่งสวยหยาดเยิ้ม


    แม็คมองไปบนท้องฟ้าตามที่เฒ่าเบนว่า แล้วเขาก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาในหัวใจ และเกิดความสับสนว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี หนังตัวอย่างในคลิบข้างบน ถ้าใครดูจะเห็นว่า แม็คโทรศัพท์ไปรายงานเจ้านายทุกครั้งที่เขามองไปบนท้องฟ้า มันสวยงามมากและเขาก็เห็นประกายอะไรบางอย่าง


    ส่วนชาวบ้านคนอื่นๆ นั้น ก็เกิดอาการโมโหโกรธาเฒ่าชราเบนขึ้นมากันยกใหญ่ จนรวมกลุ่มกับประท้วงเฒ่าเบนเสียอย่างนั้น สวนทางกับหนังไอเดียสมัยก่อน ที่ชอบทำออกมาในลักษณะที่ชาวบ้านลุกขึ้นมาประท้วงนายทุน (บอกแล้วว่า หนังเรื่องนี้เกิดก่อนเวลาจริงๆ ใส่มุกได้เด็ดดวงอยู่ตลอดทุกฉาก)



    ก่อนที่เรื่องจะไปกันใหญ่ แฮปเปอร์ นายทุนใหญ่ก็เดินทางมาถึงเสียก่อน เพราะแม็คได้รายงานเกี่ยวกับกลุ่มดวงดาวที่เขาให้แม็คเฝ้าดูอยู่บนท้องฟ้าแห่งนั้น และไหนๆ ก็มาแล้ว เขาจึงขอเข้าไป(ทางหน้าต่างบ้าน)เพื่อเจรจากับเฒ่าเบนสองต่อสอง


    ผู้เฒ่าวัยเดียวกัน คนหนึ่งเป็นนายทุนใหญ่ คนหนึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาไร้ค่าเงินตราทางสังคม ได้จับมือทำความเข้าใจกัน เพื่อพิทักษ์โลกนี้ไว้ให้คนรุ่นหลังต่อไปอย่างสันติ

    แฮปเปอร์นับถือน้ำใจของเฒ่าเบนที่มีความเมตตาต่อธรรมชาติ และ คนรุ่นหลังที่จะต้องเกิดมาอยู่ภายใต้ธรรมชาติอันเดียวกันของบรรพบุรุษ


    ผู้ชมหลายคนอาจจะคิดว่า เฒ่าเบนคือวีรบุรุษพิทักษ์โลก แต่ฉันแอบคิดคนเดียวในใจว่า คนสร้างอาจจะสื่อให้รู้ด้วยว่า แฮปเปอร์ ที่แสดงโดย เบิร์ต แลงคาสเตอร์(นักแสดงในดวงใจของฉันอีกคนหนึ่ง) นั้นก็เป็นฮีโร่ในอีกมุมหนึ่งด้วยเหมือนกัน

    เพราะการยอมแพ้อย่างง่ายๆ นั้นก็สามารถเป็นวีรบุรุษได้เหมือนกัน ถ้าทำเพื่อรักษาไว้ซึ่งธรรมชาติ มากกว่าที่จะดันทุรังต่อสู้ให้ชนะเพื่อผลประโยชน์ทางเงินตราของตัวเอง อย่างนี้ก็ถือเป็นนายทุนที่น่ายกย่องอยู่ไม่น้อย ใช่ไหมละคะ



    เบิร์ตเล่นเรื่องนี้แบบประมาณดารารับเชิญ แต่ออกมาทีไร ก็ได้ใจคนดูไปทุกตอน หนังให้บทเขาเป็นนายทุนที่ประหลาดๆ ประมาณว่า ชอบหลับ ในที่ประชุมบ่อยๆ






    หรือตอนที่เขาเรียกแม็คมาคุยก่อนให้ไปเจรจาซื้อที่ในสก๊อตแลนด์ ด้วยการฝากดูท้องฟ้า เพื่อค้นหาดวงดาวกลุ่มหนึ่งซึ่งเขาสนใจ เฝ้าศึกษามานานแล้ว และสั่งแม็คว่า คอยเฝ้าดูมันให้ดีนะ และคอยโทรรายงานฉันบ่อยๆ ด้วย (น่ารักมากฉากเหล่านี้ เล่นเอาฉันลืมไม่ลง)



    ทำให้ฉันแอบฝันไปว่า ในโลกนี้น่าจะยังมีนายทุนน่ารักๆ แบบนี้หลงเหลืออยู่บ้างนะ ถึงจะรู้ว่าฝันสูงไปก็เถอะ เหอะๆ



    หนังสื่อออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า มนุษย์ที่ไหนก็มีสิทธิ์เห็นแก่เงิน และวัตถุนิยมได้ แม้ว่า วิถีชาวบ้านอย่างพวกเขาจะมีชีวิตที่เรียบง่าย และเปี่ยมน้ำใจ ก็ตามเถอะ แต่เรื่องทะเยอทะยาน อยากไปอยู่ในเมืองใหญ่ หรือ วิ่งเข้าหาความเจริญ มันก็เป็นธรรมดาของกิเลสมนุษย์


    เพียงแต่ว่า หากทุนนิยม มีความเข้าใจ และเอื้ออาทรต่อกันไม่ไปรุกราน และสร้างกิเสสให้พวกเขา อย่างน้อยมันก็ทำให้เกิดความร่วมมือต่อกันเพื่อรักษาธรรมชาติในทางอ้อม



    นอกจากโลเคชั่น ที่ทำให้หนังเรื่องนี้สวยตลอดทุกฉากแล้ว ฉันมีความประทับใจในมุมมองต่างๆ ที่คนสร้างพยามสื่อถึงคนดูเป็นอย่างมาก จนแทบจะเรียกได้ว่า หลับตาก็ยังเห็นฉากหลายๆ ฉากที่ยากจะลืมเลือน อย่างเช่น....

    ฉากเด็กวัยรุ่นวิ่งกรูกันไปขอลายเซ็นต์แม็ค เพราะไม่เคยเห็นคนอเมริกันมาก่อน



    หรือจะเป็นตอน ที่ชาวบ้าน แอบย่องไปประชุมเพื่อหาทางโก่งราคาที่ดิน และพอแม็คมา ก็มีบาทหลวงออกมาแก้ต่างให้เนื่องจากกลัวแม็คจะรู้ความจริง เป็นฉากที่ร้ายแบบใสซื่อ อย่างไรบอกไม่ถูก


    แม้แต่ภาพโรงแรมเล็กๆ เงียบสงบแห่งหนึ่ง ซึ่งแทบจะไม่มีแขกมาพักเลย ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของหนัง


    หรือฉากที่ แม็ค กับ แดนนี่ ผู้ช่วยเขา ไปช่วยกระต่ายขาหัก และคอยประคบประหงมรักษา อันนี้ก็น่ารัก



    และในหลายๆ ฉากที่ผู้สร้างพยายามสอดแทรกอารมณ์ความรู้สึกของการถูกรุกรานจากทุนนิยม ด้วยการใส่เสียงบิดมอเตอร์ไซด์ของเด็กวัยรุ่นในหมู่บ้านอยู่เรื่อยๆ ก็ถือเป็นการสื่อที่ทำให้คนดูรู้สึกได้ถึง ความเปลี่ยนแปลงของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ โดยมีความเจริญทางวัตถุนิยมเข้ามารุกล้ำความสงบ โดยเฉพาะคนที่พาเข้ามา ก็คนรุ่นใหม่ในท้องถิ่นนั่นเอง



    ฉากโรแมนติกก็คงมีอยู่เหมือนกัน ตอนที่ แดนนี่ โอลด์เซ่น ผู้ช่วยแม็ค ไปหลงรักมาริน่า สาวนักสำรวจที่มาเตรียมพื้นที่สร้างฐานน้ำมัน(แต่เธอไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่) หนังแอบทิ้งปริศนาไว้ตอนหนึ่งซึ่ง แดนนี่พบว่า นิ้วเท้าเธอมีพังผืด เหมือนเหงือกน้อย อะไรประมาณนั้น



    ทำไปทำมา ทั้งแม็ค และ แดนนี่ ก็เลยชอบวิถีชีวิตแบบชาวบ้านธรรมดาที่นี่เข้าให้เต็มเปา


    ตอนจบ หนังก็แฮปปี้เอนดิ้ง โดยชาวบ้านต่างก็ตกลงเก็บรักษาธรรมชาติที่เหมือนเดิมกันเอาไว้ โดยมีนายทุนใจดีอย่างแฮปเปอร์ สนับสนุนในการสร้างงานที่เหมาะสมให้กับคนในหมู่บ้าน

    เล่นเอาคนดูอย่างฉันลุกออกจากโรงที่โหรงเหรง(เพราะไม่ค่อยมีคนไปดู) ด้วยหัวใจที่ชุ่มฉ่ำ



    สรุป ฉันรักหนังเรื่องนี้ค่ะ
    แม้กระทั่งดนตรีประกอบ ซึ่งทำโดย มาร์ค นอฟเลอร์ จากวง Dire Straits (หนึ่งในวงโปรดของป้าแก่ๆ อย่างฉัน) ช่างสร้างสรรค์ออกมาเพิ่มคุณค่าของหนังได้อย่างงดงามทีเดียว



    โดยเฉพาะฉากสุดท้ายของหนัง (คลิกดูกันได้ในคลิบข้างบนนี้นะคะ)ที่ มาร์ค ทำเพลง Going Home ใส่ลงไปในตอนสุดท้าย ซึ่งแม็คกลับไปที่คอนโดของตัวเอง และเหม่อมองออกมาทางหน้าต่างคอนโด ฉันเดาว่า แม็คชักไม่แน่ใจแล้วว่า ที่ไหนคือบ้านที่แท้จริงของเขากันแน่.......

    ขอบคุณ Bill Forsyth ผู้กำกับ และ David Puttnam ผู้สร้าง และทีมงานทุกท่าน ที่ทำให้ฉันและใครหลายคน ได้อิ่มใจไปกับหนังดีๆ เรื่องนี้




    หากบทความนี้สามารถสร้างสรรค์สังคม ให้กำลังใจผู้คน หรือ แม้แต่เป็นการสร้างความบันเทิงต่อผู้อ่านอยู่บ้าง ข้าพเจ้าขอยกความดีทั้งหมดนี้ให้แก่วิญญาณของ

    เจริญ วัดอักษร นักอนุรักษ์บ้านบ่อนอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
    ไม น้อยนารายณ์ นักอนุรักษ์จากเขื่อนท่าแซะ จังหวัดชุมพร
    จุรินทร์ ราชพล นักอนุรักษ์ป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต
    นรินทร์ โพธิ์แดง นักอนุรักษ์ต่อต้านการโรงโม่หิน เขาชะเมา จังหวัดจันทบุรี
    พิทักษ์ โตนวุธ อดีตประธานชมรมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งคัดค้านการก่อสร้างโรงโม่หินในพื้นที่ลุ่มน้ำชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
    ฉวีวรรณ ปีกสูงเนิน ผู้ขัดขวางการทุจริตการก่อสร้างที่ นากลาง อำเภอสูงเนิน
    สุวัฒน์ วงศ์ปิยะสถิตย์ แกนนำผู้คัดค้านบ่อกำจัดขยะราชาเทวะ สมุทรปราการ
    สมพร ชนะพล ผู้คัดค้านการสร้างเขื่อน คลองกระแดะ สุราษฎร์ธานี
    บุญสม นิ่มน้อย แกนนำอนุรักษ์และคัดค้านการก่อสร้างโครงการโรงแยกคอนเดนเสท ในพื้นที่อำเภอบ้านแหลม จ.เพชรบุรี
    ปรีชา ทองแป้น ผู้คัดค้านการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ตำบลปากแพรก ทุ่งสง นครศรีธรรมราช
    บุญฤทธิ์ ชาญณรงค์ ผู้ต่อต้านการค้าไม้เถื่อน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    บุญยงค์ อินต๊ะวงศ์ แกนนำกลุ่มต่อต้านโรงโม่หินดอยแม่ออกรู จังหวัดเชียงราย
    คำปัน สุกใส แกนนำเครือข่ายป่าชุมชนเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    สำเนา ศรีสงคราม ประธานชมรมชาวบ้านฟื้นฟูอนุรักษ์ลำน้ำพอง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

    และ ผู้เสียสละเพื่อความยุติธรรมให้กับชุมชมอย่าง

    สมชาย นีละไพจิตร ประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิมและรองประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ
    ชวน ชำนาญกิจ แกนนำชุมชนต้านยาเสพติด อ.ฉวาง
    แก้ว ปินปันมา แกนนำชาวบ้านที่เข้าไปใช้ที่ดินในพื้นที่กิ่ง อ.ดอยหล่อ

    เขาเหล่านี้อาจจะไม่ได้มีชีวิตตอนจบของการต่อสู้ที่แฮปปี้เอนดิ้งเหมือนในหนัง แต่พวกเขาก็ยิ่งใหญ่ และมีคุณค่า สมควรแก่การยกย่องว่าเป็น Local Hero ของพวกเราชาวไทยเป็นยิ่งนัก

    ขอวิญญาณทุกท่านจงสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าแห่งคุณงามความดีค่ะ เชื่อว่า ชาวไทยทุกคนจะระลึกและจดจำความเสียสละของทุกท่านตลอดไป


    จากบทความ Local Hero...วีรบุรุษชาวบ้าน ในบล๊อกของคุณ Natayaa


    ขอบคุณเจ้าของบทความและทุกเรื่องราวชีวิตในบทความนี้ครับ ผมขอส่งต่อเรื่องราวเหล่านี้


    สังคมที่ไร้มุทิตา...
    คือ สังคม ที่ คนส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่า ใครคือคนที่ทำให้

    เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนควรต้องมีหัวใจ
    สังคมนี้ แผ่นดินนี้ คงอยู่ ให้เรา อาศัย อยู่ร่วมกัน ได้ต่อไป
    "ผู้เสียสละทุกคน ที่ตาย ล้วนมีชีวิต และเรา ติดหนี้บุญคุณ"
    ขอบคุณใน ความเสียสละ ที่ทำให้เรา ได้อาศัยอยู่ร่วมกัน

    เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนควรต้องมีหัวใจ
    ด้วยความเคารพในความเสียสละ อย่างสูงยิ่ง
    ประเทศใคร.. ในหนึ่งวัน<Click>


    ความเห็นแก่ตัว ทำให้ คน โง่ ขึ้น
  2. bookerian
    bookerian
    ขอบคุณค่ะ
  3. Siambrandname Webmaster
    Siambrandname Webmaster
    ขออนุญาตเจ้าของกระทู้และเจ้าของกรุ๊ปครับ ทดสอบระบบการเชื่อมต่อกระทู้ระหว่าง Social Group และ Main Forum ครับ

    ขอบคุณครับ
  4. Siambrandname Webmaster
    Siambrandname Webmaster
    ตอบกระทู้เพื่อปรับกระทู้ที่ตั้งในเดือนนี้ขึ้นสู่หน้าแรกเนื่องด้วยกระทู้ตกจากการทดสอบระบบ
    ขออภัยในความไม่สดวกครับ ขอบคุณครับ
  5. yourfwd0
    yourfwd0
    ไม่เป็นไรครับ ยินดีครับ
    ขอบคุณที่ช่วยดูแลชุมชน
  6. yourfwd0
    yourfwd0
    ขอบคุณ คุณbookerian ที่เข้ามาตอบให้ได้รู้ว่ามีคนได้อ่านบทความ
  7. Nakderntang
    Nakderntang
    ขอบคุณ คุณ Natayaa สำหรับบทความที่ดีมากจริง ๆ ค่ะ
    และ คุณ yourfwd ที่ส่งต่อบทความดีๆ แบบนี้ มาให้ได้อ่านเช่นกันค่ะ
  8. yourfwd0
    yourfwd0
    เพราะเรื่องนี้ ทำให้รู้ว่าได้มีคนพยายาม..สู้แม้ไม่มีหนทางจะชนะ
    เพียรเพราะเพียงเชื่อว่า สิ่งที่ทำนั้นดี ต่อคนหมู่มากและตนเอง

    เรื่องราวเหล่้านี้จึงมีค่าพอ ควรแก่การส่งต่อ ให้ทุกคนได้รับรู้
    ผมจึงเลือกส่งต่อ คุณ Nakderntang จะเลือกส่งต่อเรื่องราวเหล่านี้ไหม?
  9. myzoc
    myzoc
    ขอบคุณคุณ yourfwd มากค่ะที่เอามาแชร์กัน วันหลังต้องมาหาดูซะแล้ว
  10. Nakderntang
    Nakderntang
    Quote Originally Posted by yourfwd View Post
    เพราะเรื่องนี้ ทำให้รู้ว่าได้มีคนพยายาม..สู้แม้ไม่มีหนทางจะชนะ
    เพียรเพราะเพียงเชื่อว่า สิ่งที่ทำนั้นดี ต่อคนหมู่มากและตนเอง

    เรื่องราวเหล่้านี้จึงมีค่าพอ ควรแก่การส่งต่อ ให้ทุกคนได้รับรู้
    ผมจึงเลือกส่งต่อ คุณ Nakderntang จะเลือกส่งต่อเรื่องราวเหล่านี้ไหม?
    ขอโทษทีค่ะ เพิ่งได้มาดู ที่ คุณ yourfwd ถาม
    ร่วมส่งต่อด้วยคนค่ะ
  11. itasian
    itasian
    ขอบคุณ คุณ yourfwd ครับ สำหรับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันกัน
    และขอบคุณ คุณ Natayaa ที่เริ่มแบ่งปันเรื่องราวนี้

    ขอร่วมส่งต่อครับ
  12. iDnOuSe4
    iDnOuSe4
    อ่านแล้วคิดถึงบ้านมากมายครับ
    ขอร่วมส่งต่อด้วยคนครับ
  13. yourfwd0
    yourfwd0
    ขอบคุณที่เข้ามาคุย
Results 1 to 13 of 13