พ.อ. ขับรถพุ่งชน พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์ รพ.พระมงกุฏ

  1. bookerian
    bookerian
    ตร.พร้อมล่าทหารเลวขับเก๋งพุ่งชนแพทย์หญิงเจ็บสาหัส!
    20 มิถุนายน 2554 16:18 น.




    “แม่หมอมุก” เข้าพบ “ผู้การแต้ม” ร้องขอความเป็นธรรมและเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากลูกสาวถูกทหารขี้เมาขับรถพุ่งชนอาการสาหัสแล้วหลบหนี ผู้เป็นแม่บอกต้องการเปิดเผยความจริงแต่ยังกังวลกลัวถูกปองร้าย ขณะที่ทหารนำรถมาให้ตรวจสอบ แม่หมอมุกถึงกับงงรถก่อเหตุมีร่องรอยเปลี่ยนหลายแห่ง ด้านรองปลัดบัญชีทหารระบุรถคันดังกล่าวมีปัญหาหม้อน้ำรั่วตั้งแต่วันที่ 8 และใช้วิ่งอยู่ภายในกรมเท่านั้น

    วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 2 สน.พญาไท พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา อดีตอาจารย์ภาควิชาจุลชีววิทยา รพ.ศิริราช มารดา พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา อายุ 34 ปี แพทย์ประจำคลินิกผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฎเกล้า หรือหมอมุก พร้อมด้วยเพื่อน เข้าพบ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท โดยมารดาของหมอมุกได้นำภาพถ่ายบุตรสาวขณะที่นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู มอบให้พนักงานสอบสวนก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปสอบปากคำเพิ่มเติมถึงรูปพรรณ ของรถและผู้ก่อเหตุ

    พญ.พรรณกรกล่าวว่า อยากขอความเป็นธรรมกับตำรวจ เพราะคาดว่าคนทำคงเป็นคนเมาและเป็นคนมีสี จึงมาให้ปากคำเพิ่มเติมและติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ต้องการเพื่อให้ความจริงเปิดเผย ออกมาสู้กันอย่างลูกผู้ชาย สำหรับอาการของลูกสาวตอนนี้ยังเบาใจไม่ได้ แต่มีเพื่อนคอยช่วยดูแล จึงมีความหวังที่จะมีปาฏิหาริย์ให้ลูกฟื้น ตอนนี้ยังกังวลเรื่องถูกปองร้าย

    “ในวันเกิดเหตุ หมอมุกขับรถโตโยต้าคัมรี่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษต 4045 กรุงเทพฯ กลับจากไปนมัสการหลวงท่อนที่ รพ.วิชัยยุทธ ราวสามทุ่ม เดินทางกลับบ้านที่เสาวรสคลินิก เลขที่ 45/12 ถ.เศรษฐศิริ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท พบรถเก๋งนิสสันซันนี่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วค 1355 กรุงเทพมหานคร จอดขวางหน้าบ้าน จึงจดทะเบียนรถไปให้ร้านอาหารสามเสนวิลล่า ที่จะให้ลูกค้าที่มาใช้บริการจอดรถริมถนน จากนั้นหมอมุกก็จอดรถดึงเบรกมือและเข้าห้องน้ำ กระทั่งคนขับรถคันที่จอดขวางเป็นผู้ชายลักษณะคล้ายนายทหารมาเลื่อนรถ ได้กลับรถไปจอดรถที่ฝั่งตรงข้ามริมทางรถไฟ ถนนกำแพงเพชร ตัดถนนเศรษฐศิริ แล้วมองกลับมาที่หมอมุก โดยระหว่างที่หมอมุกเดินไปเพื่อเตรียมจะถอยเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงบีบแตรดัง ลั่นก่อนที่จะเห็นรถคันที่จอดขวางพุ่งชนลูกสาวจนลอยไปไกลกว่า 30 เมตรต่อหน้าต่อตา หมอวิ่งเข้าไปดูมีพยานเก็บที่ปัดน้ำฝนของรถคันก่อเหตุที่ติดอยู่กับร่างของ หมอมุกไว้เป็นหลักฐาน คนขับจงใจกระทำและจะต้องมีคนคุ้มครอง หรือเป็นคนมีสี ที่กล้าทำผู้หญิงได้ถึงขนาดนี้” พญ.พรรณกรกล่าว

    ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีว่า ได้รับรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยพนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้พร้อมทำหนังสือแจ้งไปยังต้นสังกัดตั้งแต่วัน ที่ 14 มิย.ที่ผ่านมา และทางต้นสังกัดแจ้งว่าจะนำรถมาให้ตรวจสอบในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการยกรถคันดังกล่าวมาไว้ที่โรงพักแล้ว ส่วนเรื่องการดำเนินคดีทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนที่มองว่าทำงานตำรวจทำงานล่าช้า ขอยืนยันว่าปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการกฏหมายที่ช้าเพราะขั้นตอนทางเอกสารใน ทางราชการ

    จากนั้นพนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถยกเดินทางไปที่กอง บัญชาการกองทัพไทย พบรถคันดังกล่าวจอดอยู่ที่อาคาร 5 ชั้นล่าง แต่ทางเจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาตให้นำรถไป โดยให้เหตุผลว่าต้องรอคำสั่งจากทางผู้บังคับบัญชาก่อนและจะนำไปให้เอง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเดินทางกลับ

    ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.พิสุทธิ์ เปาอินทร์ รองปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารนำรถนิสสัน ซันนี่นีโอ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน วค 1355 มาที่ สน.พญาไท จากนั้น พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส. เชิญ พญ.พรรณกร มารดาหมอมุก มาดูรถคันดังกล่าว พบว่าที่บริเวณกระจกด้านหน้าที่มีสติกเกอร์ผ่านเข้าออกกองทัพไทยแผ่นที่แปะ อยู่ด้านหน้าซ้ายเพียง 1 อัน เป็นบัตรผ่านเข้าออกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุทะเบียนรถ วค 1355 ส่วนรถคันก่อเหตุมีสติกเกอร์แปะอยู่ด้านหน้าจำนวนหลายแผ่น และบริเวณที่ปักน้ำฝนมีสีไม่เท่ากันเหมือนเพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ นอกนั้นตัวรถเหมือนกับรถคันก่อเหตุมาก

    พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รอง ผกก.สส.สน.พญาไท กล่าวว่า วันนี้ได้นัดแม่หมอมุกมาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันที่เกิดเหตุถึงรูปพรรณสันฐาน คนร้าย และรถคันก่อเหตุเพิ่มเติม ส่วนด้านการดำเนินคดีตอนนี้สอบปากคำพยานที่เกิดเหตุ ผู้เสียหาย และประสานงานทางกองทัพไทยส่งรถมาให้ตรวจสอบ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะอายัดรถไว้เพื่อส่งตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้และแจ้งข้อหาเจตนาทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นโดยประสงค์ต่อชีวิต เข้าข่ายคดีอาญาพยายามฆ่า แต่ต้องรอดูอาการบาดเจ็บของหมอมุกว่ามากน้อยแค่ไหน แต่ไม่ได้รับเป็นคดีรถชนธรรมดา ทางพนักงานสอบสวนขอยืนยันว่ามีหลักฐานกล้องวงจรปิด และพยานวัตถุสามารถเอาผิดผู้ก่อเหตุได้

    พล.ต.พิสุพธิ์กล่าวว่า รถคันนี้เบิกจากกรมยุทธบริการ มาใช้งานในสำนักงานปลัดบัญชีทหารส่วนขั้นตอนการนำรถออกไปใช้ต้องมีการลงชื่อ เบิกไปทุกครั้งมีเจ้าหน้าที่ควบคุมอยู่ เท่าที่ทราบจากทหารที่ดูแลรถคันนี้อยู่ แจ้งว่ารถเกิดมีปัญหาในเรื่องหม้อน้ำรั่วซึม ตั้งแต่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้วและใช้วิ่งอยู่แค่ภายในกรมเท่านั้นไม่ได้ออกไปไหน

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อตอนหัวค่ำของคืนวันศุกร์ที่ 10 มิ.ย. และญาติกับเพื่อนได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อในวันที่ 11 มิ.ย. เพื่อให้ช่วยติดตามหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ

    ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) ร.ต.ท.สุดประเสริฐ หลักทอง พนักงานสอบสวน(สบ 1) สน.พญาไท ได้ส่งรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ นีโอ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วค1355 กรุงเทพมหานคร ที่มีสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์กองบัญชาการกองทัพไทย 2552-2554 ติดอยู่บริเวณกระจกหน้ารถด้านซ้าย โดยรถเก๋งคันนี้เป็นรถต้องสงสัยขับพุ่งชน พ.ต.แพทย์หญิง หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก แพทย์ประจำ รพ.พระมงกุฎ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา มาตรวจพิสูจน์หาร่องรอยการชน นอกจากนี้ได้ส่งที่ปัดน้ำฝนซึ่งพยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่าเป็นของรถคันที่ ชน พ.ต.แพทย์หญิง หทัยพร มาตรวจเปรียบเทียบกับรถต้องสงสัย

    พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ตร. กล่าวว่า รถคันนี้พยานที่เห็นเหตุการณ์ยืนยันด้วยทะเบียนว่าเป็นรถที่ขับพุ่งชน พ.ต.แพทย์หญิงหทัยพร แต่ในขณะนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่ารถคันนี้ใช้ในการก่อเหตุหรือไม่ อย่างไรก็ตามทราบจากทหารที่นำรถมาว่าเป็นรถใช้ในราชการทางธุรการ และจอดอยู่ภายในสำนักงานปลัดบัญชี กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งรถหม้อน้ำรั่ว จอดอยู่ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเมื่อพนักงานสอบสวนส่งมาให้ตรวจ ทางเจ้าหน้าที่สพฐ.ตร.จะทำการตรวจสอบหาลายนิ้วมือแฝงของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะของ พ.ต.แพทย์หญิงหทัยพร นอกจากนี้ ตรวจเปรียบเทียบที่ปัดน้ำฝนที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ ว่ามีความเก่าหรือใหม่เท่ากันทั้ง 2ข้างหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบหาหลักฐานทั้งภายนอกและภายในตัวรถโดยคาดว่าจะใช้เวลาในการ ตรวจ 2-3 วัน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่นำรถต้องสงสัยมาตรวจพิสูจน์ คือ พล.ต.พิสุทธิ์ เปาอินทร์ รองปลัดบัญชีทการ กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พล.ต.พิสุทธิ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ให้นำรถมาตรวจ แต่รายละเอียดต่างๆ ตนไม่ทราบ สำหรับรถคันนี้เป็นรถของหน่วย ใช้ในราชการ ส่วนมีการนำไปใช้ตนไม่ทราบรายละเอียด

    ด้านร.ต.ท.สุดประเสริฐ กล่าวเพียงว่า รถคันนี้ทะเบียน และลักษณะตรงกับคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ และตรงกับภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้สน.พญาไท ได้ทำเรื่องประสานขอรถคันนี้มาตรวจพิสูจน์ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุที่เป็นวันเสาร์ แต่เนื่องจากติดหยุดราชการจึงเพิ่งส่งเรื่องไปยังกองทัพไทยในวันที่ 13 มิถุนายนแล้ว
    ขอบคุณ ข่าวจาก http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9540000075224


    คลิปข่าว>>
  2. bookerian
    bookerian
    “พ.อ.” ขับรถพุ่งชนหมอมุกมอบตัว อ้างหมอกระโดดชนรถเอง!
    21 มิถุนายน 2554 12:44 น.



    วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.พิสุทธิ์ เปาอินทร์ รองปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมนายทหารพระธรรมนูญ ได้นำตัว พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานปลัดบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่อ้างว่าเป็นผู้ขับรถยนต์ชน พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา อายุ 34 ปี แพทย์ประจำคลินิกผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฎเกล้า หรือหมอมุก จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า (สบ 2) สน.พญาไท โดยมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ร่วมสอบปากคำ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น มีสีหน้าเรียบเฉย พร้อมปฏิเสธขอให้การต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน

    พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ให้การเบื้องต้นโดยปฏิเสธว่าไม่ได้ขับรถชน พ.ต.พญ.หทัยพร แต่ พ.ต.พญ.หทัยพรกระโดดชนรถเอง แต่ยอมรับลูกสาวได้เขียนข้อความต่อว่า พ.ต.พญ.หทัยพร ว่าจอดรถไม่มีมารยาทจริง พร้อมกับกล่าวว่าวันนั้นได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านสามเสนวิลล่า พร้อมครอบครัว จากนั้นได้เดินทางมาที่รถเพื่อเดินทางกลับ แต่ไม่สามารถนำรถออกไปได้เนื่องจากมีรถจอดปิดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ประกอบกับด้านข้างมีรถของหมอมุกจอดปิดอยู่ จึงมีปากเสียงกัน เนื่องจากลูกสาวของตนเองได้ไปเขียนที่กระจกรถว่า “จอดรถไม่มีมารยาท” ส่วนภรรยาก็บอกว่าเป็นที่สาธารณะ จากนั้นก็ได้ขับรถเคลื่อนออก แต่หมอมุกได้ใช้มือทุบท้ายกระโปรงรถ ตนจึงขับรถเคลื่อนออกมาและพยายามโทร.แจ้งตำรวจ 191 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่หมอมุกเดินมาหน้ารถ ตนจึงเกรงว่าจะมีเรื่องจึงได้เคลื่อนรถไปด้านหน้า แต่หมอมุกกับกระโดดขึ้นกระโปรงหน้าพร้อมกับคว้าที่ปัดน้ำฝน ตนจึงได้หยุดรถและถอยกลับเกรงว่าจะชนและหักรถหลบออกมา

    ส่วนอาการของ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา ในวันนี้ไข้ลดลง แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ในห้องไอซียู ขณะที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกเข้าเยี่ยมอาการพร้อมให้ความมั่นใจการดำเนิน คดีต่อผู้กระทำผิด

    ขณะที่ พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกได้นำกระเช้าเข้าเยี่ยมอาการ พ.ต.พญ.หทัยพร โดยได้พูดคุยกับแพทย์หญิงพรรณกร อิ่มวิทยา มารดาของ พ.ต.พญ.หทัยพร พร้อมให้ความมั่นใจในเรื่องคดีที่เกิดขึ้นโดยจะให้ความเป็นธรรมต่อครอบครัว ของหมอมุกมากที่สุด พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวหมอมุกด้วย

    สำหรับอาการของหมอมุกขณะนี้มีอาการไข้ลดลง และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยมีการประเมินอาการชนิดนาทีต่อนาที ทั้งนี้ นายกฯแพทยสภาและคณะ ก็จะเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง และสอบสวนเชิงลึกของข้อกฎหมายด้านการรักษาเพื่อช่วยหมอมุกต่อไป

    ด้านพล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดกับ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งต้องสอบปากคำก่อนว่าเป็นคนขับรถคันต้องสงสัยชนหมอมุกจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นจริงคงเข้าข่ายข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น อาจต่อสู้คดีว่าประมาท ก็เป็นสิทธิ์ของพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ แต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานแน่ชัด โดยคดีนี้ตำรวจไม่ได้ดำเนินการล่าช้า แต่พยายามทำสำนวนให้รัดกุม ซึ่งทางฝ่ายทหารก็ให้ความร่วมมือด้วยดี โดยได้ส่งรถยนต์คันที่ต้องสงสัยขับชนหมอมุก มาตรวจพิสูจน์แล้ว

    พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ทั้งพยานแวดล้อมไว้หมดแล้ว ตลอดจนการสอบปากคำพยาน หรือคนที่มารับประทานอาหารในที่วันเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้คดีได้นำเข้าสู่กระบวนการแล้ว ทั้งนี้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวต่าง ๆ อย่าให้กระทบกองทัพ พร้อมทั้งขอความร่วมมือร้านอาหารต่าง ๆ ควรจัดระเบียบให้มีที่จอดรถ สำหรับผู้มาใช้บริการ ซึ่งไม่ควรให้มีการจอดกีดขวางบ้านใกล้เคียง เพราะสาเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าวก็มาจากการจอดรถกีดขวาง
    ขอบคุณ ข่าวจาก http://www.manager.co.th/Crime/ViewN...=9540000075576
  3. bookerian
    bookerian
    ปล่อยตัว พ.อ.-ตร.ไม่เชื่อคำให้การ-วงจรปิดมัดพุ่งชน!
    21 มิถุนายน 2554 16:21 น.





    รองผบช.น.สอบปากคำ “พ.อ.” ผู้ต้องหาที่ขับรถพุ่งชน “หมอมุก” บอกเป็นเพียงผู้มาให้ถ้อยคำ ไม่ใช่ผู้กระทำผิด แต่ ตร.ยังไม่เชื่อคำให้การ เนื่องจากขัดแย้งกับพยานหลักฐาน โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุ ที่จับภาพได้ เบื้องต้นหลังสอบปากคำเสร็จ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน ด้าน ผบก.น.1 ระบุ คำให้การยังขัดแย้งไม่น่าเชื่อถือ ต้องรอผลจากการตรวจพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง

    วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ สน.พญาไท ภายหลังจากที่ พล.ต.พิสุทธิ์ เปาอินทร์ รองปลัดสำนักงานบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย นำ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น อายุ 51 ปี ตำแหน่งผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้ต้องหาขับรถชน พ.ต.พญ.หทัยพร หรือ หมอมุก อิ่มวิทยา แพทย์ รพ.พระมงกุฏ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.โชติ สุวรรณจุณีย์ รองผกก.สส.สน.พญาไท จากนั้นได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พงส.(สบ2) นำไปสอบสวนที่ห้องประชุมชั้นที่ 2 ซึ่ง พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้เดินทางมาสอบสวนด้วยเอง พร้อมเปิดโอกาสผู้สื่อข่าวซักถาม พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ แต่ทางผู้เข้ามอบตัวไม่ยอมเปิดปากให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว

    ทั้งนี้ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวถึงแนวทางในการดำเนินคดี ว่า เบื้องต้นผู้เข้ามอบตัวนั้น ยังเป็นเพียงผู้เข้าให้ปากคำ ไม่ใช่ผู้กระทำผิด ซึ่งหากให้การเท็จก็จะมีความผิด ขั้นตอนต่อไปหากพิสูจน์ว่า กระทำความผิดจริง จะส่งศาลทหาร ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทาง รองผบช.น.ได้บอกว่า เป็นเพราะปัญหาจากที่จอดรถ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ทางร้านอาหารไม่จัดที่จอดรถให้ลูกค้า

    ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น.พล.ต.ต.อำนวย เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ว่า พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพียงผู้มาให้ถ้อยคำ ถึงแม้จะมอบตัวโดยให้การว่า ตนเองเป็นคนขับรถชนหมอมุกเอง ซึ่งจากการสอบสวนพร้อมกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มา ยังไม่สามารถเชื่อตามคำกล่าวอ้างของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้ เพราะจากพยานหลักฐานที่ปรากฏ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ยังขัดแย้งกับคำให้การของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ โดยจะต้องรวบรวพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ละเอียดรอบคอบรัดกุม ไม่ใช่ว่าใครมามอบตัวก็เชื่อเลย ถ้าคดีขึ้นสู่ชั้นศาล ถ้ามีการปฏิเสธและการพิสูจน์พยานหลักฐานของศาลไม่ตรงกัน คดีก็จะหลุด ศาลจะยกฟ้อง ทางเจ้าหน้าตำรวจต้องทำงานอย่างหนักและตรงไปตรงมา โดยตนและ พล.ต.ต.วิชัย จะลงมาดูคดีด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางพนักงานสอบสวนจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าพ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่

    ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องสงสัย ยังไม่สามารถเชื่อถือได้ ซึ่งจากพยานหลักฐานเบื้องต้นที่มียังไม่ตรง เพราะเมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.) พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ได้เดินทางมาที่ สน.พญาไท พร้อมทั้งบอกเพียงว่า ตนเป็นเพียงคนครอบครองรถ แต่วันนี้ กลับมาให้การว่าเป็นผู้กระทำผิด จึงทำให้คำให้การขัดแย้ง ไม่น่าเชื่อถือ และต้องรอผลจากการตรวจพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องของหม้อน้ำ ซึ่งเมื่อวานทางผู้ต้องสงสัยให้การว่า หมอน้ำรั่วอยู่แล้ว ซึ่งทาง พฐ.สามารถตรวจได้อย่างละเอียดว่ารั่วจากอะไร

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการสอบปากคำเสร็จ ตำรวจได้ปล่อยตัว พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ไป โดยยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่หากตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานได้ชัดเจนว่า พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เป็นคนขับรถคันที่เกิดเหตุ และมีเจตนาพุ่งชน พ.ต.พญ.หทัยพร จริง ก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาพยายามฆ่าต่อไป

    วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.สพฐ.ตร.กล่าวถึงผลการตรวจรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นซันนี่ นีโอ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วค 1355 กรุงเทพมหานคร รถต้องสงสัยขับพุ่งชน พ.ต.แพทย์หญิง หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก ว่า เมื่อได้รับรถจากพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ก็ได้ระดมนักวิทยาศาสตร์ ทั้งด้านเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ เพื่อตรวจพิสูจน์รถคันดังกล่าว ประเด็นแรกได้ตรวจสอบเลขทะเบียนและหมายเลขตัวถังรถปรากฏว่าตรงกันไม่มีการ แก้ไขเครื่อง เป็นรถคันที่จดทะเบียนเอาไว้จริง

    พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 ได้ตรวจสอบใบปัดน้ำฝนด้านหน้าสภาพด้านซ้ายที่ไม่หักแตกต่างจากด้านขวาที่หัก ไป เป็นคนละรุ่นกัน แต่ที่ปัดน้ำฝนด้านขวาจะเปลี่ยนมาเมื่อไหร่ไม่ทราบได้ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับที่ใบปัดน้ำฝนที่หักติดตัวหมอไป ปรากฏว่า ใบที่หักไป เป็นใบปัดน้ำฝนของรถรุ่นนี้ มีตัวเลขอะไหล่กำกับเป็น 6300 ส่วนด้านซ้ายที่ติดอย่ากับตัวรถมีหมายเลขอะไหล่ 6301 ขณะที่ใบปัดน้ำฝนด้านขวาที่ติดกับตัวรถที่นำมาตรวจนั้นก็ลักษณะไม่มีเลข ประจำอะไหล่ และตรวจสอบพบว่า ตัวนอต 2 ตัวที่ขันยึดติดใบปัดน้ำฝนมีลักษณะใหม่ เราได้เปรียบเทียบใบปัดน้ำฝนของรถเจ้าหน้าที่ ซึ่งใช้รถนิสสันนีโอทุกคันจะมี เลขรหัสอะไหล่ 6300 และ 6301 ซึ่งลักษณะการกะเทาะของสีนั้น นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเกิดจากแรงกระชากออกไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อตรวจเปรียบเทียบสีรถกับสีที่หลุดติดกับเครื่องปัดน้ำฝนกับเครื่อง มือทางวิทยาศาสตร์พบว่าสีสัมพันธ์กัน

    พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวอีกว่า ประเด็นต่อมาเราตรวจสอบพบรอบกะเทาะสีขาวนวลติดอยู่ที่ใบปักน้ำฝนที่ได้จาก ที่เกิดเหตุ จึงมาตรวจรถเพื่อหาร่องรอยการกะเทาะของสี พบมีรอยกะเทาะของสีที่บริเวณขอบฝากระโปรงหน้าด้านขวามีลักษณะรอยกะเทาะ ขนาด 2x7 มม.ซึ่งสัมพันธ์กับขนาดของสีที่พบบนใบปักน้ำฝน นอกจากนั้น ได้ตรวจสอบรอยติดสติกเกอร์หน้ารถหลังจากที่แม่ของหมอมุกระบุมี สติกเกอร์ติดหน้ารถหลายอัน แต่รถที่นำมาตรวจพิสูจน์มีติดสติกเกอร์เพียงกันเดียวสีแดงเขียนกองทัพไทย ก็ได้ทำการตรวจก็พบว่ามีรอยสติกเกอร์มากกว่า 1 อัน มีร่องรอยเศษสติกเกอร์ติดหน้ากระจำและพบรอยผ้าเช็ดถู แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามีการแก้ไขอะไรก่อนหน้านี้

    “เราเจอจุดสำคัญที่บริเวณร่องด้านล่างที่ปัดน้ำฝนด้านขวาพบมูลนก ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าระหว่างที่รอเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน นกมาถ่ายใส่ไว้ เนื่องจากหากมีใบน้ำฝนติดอยู่เป็นปกติมูลนกจะไม่สามารถหล่นไปในร่องดังกล่าว ได้ เพราะใบปัดน้ำฝนจะปิดเอาไว้ เป็นหลักฐานสำคัญอันหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องใช้การสังเกต นอกจากนั้น ยังพบว่ากระจังหน้ารถน่าจะมีการเปลี่ยนมา แต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ เพราะสังเกตได้จากรูนอตบางรูมีสายไฟมัดเป็นเกรียวไว้ บางรูก็ยังไม่ได้ใส่หัวนอต” ผบช.สพฐ.กล่าว

    พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ก็มีการเก็บลายนิ้วมือทั้งภายในและภายนอกตัวรถ รวมทั้งการไปเก็บลายนิ้วมือ ตัวอย่างดีเอ็นเอที่รถหมอมุกด้วย เพราะเชื่อว่าข้อความที่เขียนบนรถหมอมุกนั้น คนร้ายใช้มือเขียน ก็จะเก็บลายนิ้วมือไว้เพื่อเปรียบเทียบกับคนร้าย หรือผู้ต้องสงสัยต่อไป เรายังได้ประสานกับแม่ของหมอมุก เพื่อเก็บลายนิ้วมือของหมอมุก เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการตรวจเปรียบหรือตัดข้อมูลบางชุดออก ซึ่งแม่ของหมอมุกก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เมื่อวานเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้าไปเก็บตัวอย่างลายนิ้วมือของหมอมุก และแม่หมอมุกเรียบร้อยแล้ว

    “จากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ชัดเจนว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถที่ชนหมอมุก แต่จะขับมารวดเร็วขนาดไหนนั้น ไม่สามารถบอกได้ เพราะไม่ได้มีการไปตรวจสอบรอบเบรกในที่เกิดเหตุ ส่วนที่ผู้ต้องหาระบุว่า หมอมุกกระโดดใส่รถเองนั้น จากการตรวจสอบไม่พบว่ารถมีรอยบุบที่บริเวณหน้ารถ พบเพียงรอบกะเทาะจุดเล็กๆ ในบางจุดเท่านั้น และจากการตรวจสอบก็ไม่พบว่ารถบุบบริเวณไหน ไม่มีการทำสีมาใหม่ ซึ่งก็สัมพันธ์กับที่ร่างกายของหมอมุกไม่ได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลที่บริเวณอื่นของร่างกายที่กระทบกระแทก กลับพบมีเพียงบาดเจ็บที่ศีรษะ เท่านั้น” พล.ต.ท.จรัมพร กล่าว

    ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 12.00 น.ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภา พร้อมคณะเดินทางเข้าเยี่ยมอาการ พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก อายุ 34 ปี แพทย์ประจำคลีนิกผู้สูงอายุ รพ.พระมงกุฏเกล้า ที่ห้องไอซียู รพ.พระมงกุฏเกล้า โดยใช้เวลาพูดคุยกับ พญ.พรรณกร อิ่มวิทยา อายุ 70 ปี ผู้เป็นมารดา และ นพ.บุญโชติ เคียงกิติวรรณ แพทย์ศัลยกรรมประสาท ซึ่งเป็นเจ้าของไข้ นานประมาณ 15 นาที จึงเดินทางกลับ

    ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กล่าวว่า วันนี้ทางแพทยสภาได้มาเยี่ยมคุณหมอมุก เพื่อให้กำลังเจ้าตัวและคุณแม่ เนื่องจากคุณหมอมุก ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของแพทย์ ซึ่งได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ มาโดยตลอด โดยเฉพาะการช่วยเหลือประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผมคิดว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดช วิกรม จะปกป้องคุ้มครองดูแลคุณหมอมุกให้หายดีเป็นปกติโดยเร็ว เพื่อกลับมามีโอกาสช่วยเหลือผู้ป่วยและประชาชนอีกครั้ง คุณหมอเจ้าของไข้ ก็รายงานแล้วว่า อาการดีขึ้น ถือเป็นข่าวดีของพวกเรา ส่วนความช่วยเหลือที่ทางแพทยสภาจะมอบให้แน่นอน คือ อันดับแรก เรามามอบกำลังให้ กับครอบครัว และกำลังดูว่ามีอะไรที่จะช่วยเหลือกันได้อีกบ้าง ในเรื่องทางคดีเพิ่งทราบจากสื่อ ว่า คู่กรณีเข้ามามอบตัวกับตำรวจ และกล่าวอ้างว่า คุณหมอมุก วิ่งใส่รถตัวเองเอง ตรงจุดนี้มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้อยู่แล้ว เชื่อว่า คดีคงจะดำเนินการไปตามกฎหมาย

    ศ.คลินิก นพ.อำนาจ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการความช่วยเหลือทางคดีนั้น ทางแพทยสภาจะติดตามดำเนินการด้วยการทำหนังสือนำไปยื่นให้กับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.กองพิสูจน์หลักฐาน ไล่ลงมาจนถึงพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จะมีการยื่นหนังสือและเดินทางไปพบด้วยตัวเอง โดยจะทำทั้งสองอย่างเพื่อให้ทางตำรวจดูแลและให้ความเป็นธรรมกับหมอมุกอย่าง เต็มที่ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นทุกคนต่างก็รู้สึกว่าสมควรจะแสวงหาความเป็นธรรมให้ แก่หมอมุก กับครอบครัว อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณคณะแพทย์ พยาบาล ทั้งจาก รพ.พระมงกุฏเกล้า และ ศิริราชพยาบาล รวมถึงสื่อมวลชนที่ให้การช่วยเหลือประสานงานกันอย่างเต็มที่ต้องขอขอบพระคุณ มา ณ ที่นี้ด้วย

    ด้าน นพ.บุญโชติ เจ้าของไข้ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการด้านความดันสมองอยู่ในเกณฑ์ที่เป็นปกติแล้ว แต่ยังถือว่าโคม่าอยู่ ไข้เริ่มลดลง และกำลังให้ยาปฏิชีวนะทางกระแสเลือด เบื้องต้นก็กำลังรอคอยผลการเพาะเชื้อจากห้องปฏิบัติการ ส่วนเรื่องที่คณะแพทย์ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ อาการแทรกซ้อนจากภาวะการติดเชื้อ ภาวะชักจากเกลือแร่ต่ำ เพราะจะทำให้สมองขาดเลือด เกิดบวมขึ้นมาอีก แม้คุณหมอมุกจะลืมตาและขยับแขนได้บ้างในตอนนี้ ซึ่งถือว่ามีปฏิกิริยาขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่รู้สึกตัว คงต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิดต่อไป แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะ ออกจากห้องไอซียูได้เมื่อไหร่ และจะกลับมาหายเป็นปกติหรือไม่

    ขณะที่ พญ.พรรณกร ผู้เป็นมารดา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ได้เข้ามาเยี่ยมลูกสาวถึงในห้องไอซียู รู้สึกดีใจที่ได้จับมือลูกและลูกตอบรับโดยการบีบมือตอบ ประกอบกับอาการไข้ก็ลดลงแล้วเหลือเพียง 37.5 องศา ทำให้ตนรู้สึกมีความสุขมากๆ ส่วนทางคู่กรณีที่เข้ามอบตัวแล้วนั้นตนจะไม่ถือโทษโกรธกันแต่อย่างใด เพราะตนก็อายุมากแล้ว ยังไงก็ขอให้ปล่อยเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย จะไม่เดินทางไปโรงพัก เพราะต้องการจะอยู่กับลูก เนื่องจากคงมีความสุขมากกว่า
    ขอบคุณ ข่าวจาก http://www.manager.co.th/Crime/ViewN...=9540000075759
  4. bookerian
    bookerian
    ขอให้คุณหมอปลอดภัย

    ขอให้ระบบ มีความยุติธรรม
  5. bookerian
    bookerian
    เมื่อกี้ดูข่าวหมอมุก ทางข่าวสามมิติ คุณหมออาการดีขึ้นมาก อ่านข่าวได้ สื่อสารได้ แต่ยังพูดไม่ได้

    ข่าวบอก คุณหมอเดินขึ้นลิฟท์ เพื่อไปเยี่ยมทหารพรานที่บาดเจ็​บจากชายแดนใต้ ...

    ทหารพรานที่นอนเจ็บอยู่ บอกว่า ขอให้ หมอมุกหายเร็วๆ ...

    ตอนท้าย คุณแม่หมอมุกบอกว่า ถ้าหมอมุกหายเป็นปกติ จะให้ไปทำงานที่ชายแดนใต้อย่างท​ี่ตั้งใจ ...
  6. yourfwd
    yourfwd
    Quote Originally Posted by bookerian View Post
    เมื่อกี้ดูข่าวหมอมุก ทางข่าวสามมิติ คุณหมออาการดีขึ้นมาก อ่านข่าวได้ สื่อสารได้ แต่ยังพูดไม่ได้

    ข่าวบอก คุณหมอเดินขึ้นลิฟท์ เพื่อไปเยี่ยมทหารพรานที่บาดเจ็​บจากชายแดนใต้ ...

    ทหารพรานที่นอนเจ็บอยู่ บอกว่า ขอให้ หมอมุกหายเร็วๆ ...

    ตอนท้าย คุณแม่หมอมุกบอกว่า ถ้าหมอมุกหายเป็นปกติ จะให้ไปทำงานที่ชายแดนใต้อย่างท​ี่ตั้งใจ ...
    ขอบคุณ คุณ หมอมุกและครอบครัว
Results 1 to 6 of 6