Teera.18

ชำระค่างวด เงินกู้ ไม่ตรงเวลาส่งผลเสียอะไรบ้าง

การใช้บัตรเครดิต การใช้บริการ กู้เงินธนาคาร การใช้บริการ สินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อต่าง ๆ จากสถาบันทางการเงิน ล้วนแล้วแต่มีต้นทุนทางการเงินทั้งสิ้น อย่างการใช้บัตรเครดิตจะเป็นในส่วนของการนำเงินในอนาคตมาใช้ก่อน โดยมีภาวะปลอดดอกเบี้ยอยู่ในระหว่าง 30 - 45 วัน ขึ้นอยู่กับสถาบันทางการเงินและชนิดของบัตรนั้น ๆ

บัตรบางใบจะมีอัตรา ค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ยในกรณีที่ผู้ถือบัตรต้องการแบ่งจ่ายชำระเป็นงวด เช่น บัตรเครดิต SCB จะมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ 18 % ต่อปี ในขณะที่อัตราการผ่อนจ่ายจะอยู่ที่ขั้นต่ำ 10 % ของยอดเงินบัตรเครดิตที่ใช้ไป ค่าธรรมเนียม เบิกถอนเงินสด หรือ เงินกู้ด่วน 3 % และ ค่าธรรมเนียม รายปีขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรเช่นกัน

สินเชื่อเพื่อธุรกิจ Speedy Cash จะมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 28 % ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระหนี้ค่า สินเชื่อธุรกิจ 28 % ต่อปี ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ 100 บาท/รอบบัญชี ค่าขอใบแจ้งยอดบัญชี เก็บเงิน ของแต่ละงวดชุดที่ 2 เป็นต้นไป ชุดละ 50 บาท/ครั้ง

ผลเสียที่จะตามมาเมื่อชำระค่างวดล่าช้า
• ในอนาคตหากต้องการขอเครดิตหรือใช้บริการจะทำได้ยาก
• ดอกเบี้ยและ ค่าธรรมเนียม อาจมีการเรียกเพิ่มในครั้งต่อไปในแบบทบต้น
• การผ่อนชำระสินค้ามีความเสี่ยงสูง จากเดิมอาจได้สิทธิ์ในการผ่อนชำระดอกเบี้ย 0 % อาจไม่ได้รับสิทธิ์พิเศษนี้อีก โดยอาจเป็นการผ่อนชำระและ เก็บเงิน ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
• การมีหนี้ค้างชำระเกิน 3 งวด จะมีการส่งรายชื่อไปยังคณะกรรมการข้อมูลเครดิต ส่งผลให้เสี่ยงต่อการติดแบล็กลิสต์เครดิตบูโร
• หากสถาบันทางการเงินติดตามทวงถามแล้วคุณยังไม่สามารถ เก็บเงิน ไปชำระได้ตามที่กำหนด สถาบันทางการเงินก็จะดำเนินคดีและยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อบังคับให้คุณนำเงินมาชำระ พร้อมค่าปรับและดอกเบี้ยทั้งหมด
• ส่งผลต่ออาชีพและการงาน เมื่อเรื่องถึงศาลคุณจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่ศาลเพื่อไกล่เกลี่ยทำให้เสียเวลาและส่งผลต่อการงานได้

จะเห็นได้ว่าผลเสียของการผิดนัดชำระค่าบัตรเครดิต สินเชื่อSCB สินเชื่อทางการเงินอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินของคุณและหน้าที่การงาน ควรมีการวางแผนในการใช้เงินและบริหารหนี้ให้ดีจะได้ไม่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคตได้