moomgt

เป็นเจ้าของแบรนด์สบู่ สร้างรายได้จากร้อยสู่ล้าน

Rate this Entry
เป็นเจ้าของแบรนด์สบู่ สร้างรายได้จากร้อยสู่ล้าน


“ขายสบู่” ปัจจุบันมีการขายในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ การรับสบู่แบบสำเร็จมาจำหน่ายต่อ การสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย รวมถึงการผลิตและสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองเพื่อจำน่าย สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาแนวทางว่าจะขายแบบไหนดี ก็ขอให้ลองดูข้อมูลคร่าวๆ เพื่อประเมินความสามารถของตนเองดูว่าเหมาะกับแบบไหนมากกว่าราคาถูกที่สุดในประเทศไทย โรงพิมพ์กล่อง พิมพ์ด่วน ความน่าสนใจในเรื่องของการขายสบู่นั้นก็คือมีต้นทุนที่ต่ำ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าหากจ้างโรงงานผลิตเพื่อสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง สบู่ 1 ก้อนมีต้นทุนเพียง 5 บาทเท่านั้น แต่สามารถตั้งราคาขายได้สูงเป็นหลักร้อยบาท

1.รับมาขายไป

รูปแบบการขายสบู่แบบรับมาขายไป คือการไปรับสินค้ามาจากแหล่งผลิตหรือจากแหล่งขายส่งแล้วนำมาจำหน่ายต่อในราคาที่สูงขึ้นกว่าราคาต้นทุนที่รับมา ส่วนต่างของต้นทุนและราคาขายจะกลายเป็นกำไรนำมาซึ่งรายได้ ผู้ที่ลงทุนขายสบู่ในรูปแบบนี้คือผู้ขายสินค้า สามารถขายหลายแบรนด์รวมกันก็ได้หรือขายแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งไปเลยก็ได้เช่นกัน

ข้อเด่น
การรับมาขายไป มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากซับซ้อน เงื่อนไขต่ำทำให้ข้อจำกัดน้อย การรับมาขายมีตั้งแต่ซื้อครึ่งโหลก็ได้ราคาส่งแล้ว (แล้วแต่แบรนด์) และสามารถนำมาจำหน่ายต่อได้แบบง่ายดาย ขั้นตอนการประชาสัมพันธ์สินค้าหากเลือกที่เป็นแบรนด์ดังหรือเป็นที่นิยมอยู่แล้ว ก็แทบไม่ต้องประชาสัมพันธ์อะไร เพียงแค่ประกาศให้ผู้บริโภครับรู้ว่าที่ร้านมีแบรนด์นั้นๆ จำหน่ายอยู่ก็เพียงพอ

ข้อด้อย
ข้อเสียต้องพิจารณาแบรนด์ที่รับมาให้ดีก่อนตัดสินใจ หากแบรนด์ที่รับมามีความไม่มั่นคงในธุรกิจ อาจต้องเปลี่ยนแบรนด์ที่รับมาขายบ่อยๆ หรือถ้าหากไม่น่าเชื่อถือ เช่น มีสารอันตรายเจือปน ร้านค้าที่จำหน่ายอาจมีโทษตามไปด้วย หรือสินค้าถูกสั่งเก้บร้านค้าที่รับมาขายก็จะได้รับผลกระทบ และอาจมีปัญหาในเรื่องของต้นทุนจม หากรับสินค้ามาแล้วระบายสินค้าออกได้ช้า

2.เป็นตัวแทนจำหน่าย

เป็นการสมัครร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายให้แบรนด์ที่เปิดรับสมัคร ส่วนมากมักมาจากการเป็นลูกค้าก่อนหรือเป็นคนรู้จักแล้วเข้าไปร่วมเป็นเครือข่ายเดียวกัน หน้าที่หลักคือการขยายฐานลูกค้าให้กับแบรนด์ ต้องนำสินค้าไปบอกต่อกเพื่อขาย บางรายมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการสต๊อคสินค้า บางรายไม่มี ผู้ที่คิดสมัครต้องศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจสมัคร

ข้อเด่น
หากเป็นลูกค้าของแบรนด์อยู่แล้วการเป็นตัวแทนจำหน่ายย่อมเป็นเรื่องง่ายเพราะเข้าใจสินค้าดีและแทบไม่ต้องสูญเสียอะไร เนื่องจากตนเองก็ใช้สินค้าอยู่แล้ว
ไม่ต้องแบกรับภาระเรื่องของการตลาด เพราะเป็นภาระของเจ้าของแบรนด์
หากเลือกแบบที่ไม่ต้องสต๊อคสินค้า จะไม่มีในเรื่องของต้นทุนจม

ข้อด้อย
อาจมีข้อจำกัดในเรื่องของแบรนด์ เพราะบางแบรนด์อาจมีข้อบังคับไม่ให้จำหน่ายสินค้าของแบรนด์อื่น
หากขายได้เฉพาะแบรนด์เดียวอาจมีกำไรน้อยกว่าการขายแบบรับมาขายไปที่สามารถขายได้หลากหลาย
บางแบรนด์อาจมีเรื่องของการกำหนดยอดขาย อาจมีความเสี่ยงหากยอดไม่ถึงเป้า



3.ผลิตเอง ขายเอง

ขายแบบผู้ผลิตเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายๆ คน สู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ ผู้ที่ลงทุนในรูปแบบนี้คือ “ผู้ผลิต” เป็นเจ้าของสินค้าต้องออกแบบสินค้าเอง คิดเองว่าจะใช้วัตถุดิบอะไรในการผลิตออกมาเป็นสบู่ของตัวเอง ต้องทำการตลาดเอง หาตลาดเอง เกือบทุกขั้นตอนต้องทำเองทั้งหมด เริ่มต้นจากคิดคอนซปต์ก่อนว่าจะทำสบู่รูปแบบไหน ขายใคร ขายแบบไหน รูปแบบของสบู่ เช่น สบู่บำรุงผิว สบู่สวยงาม เป็นต้น และควรเลือกพิมพ์กล่องสบู่ ที่มีความสวยงามหากคิดได้แล้วว่าจะทำสบู่แบบไหนให้สำรวจความนิยมของตลาดก่อน อย่างวัตถุดิบยอดนิยมที่ได้รับความสนใจสูง เช่น น้ำนม ขมิ้นชัน เมือกหอยทาก โสม เป็นต้น คัดสรรโรงงานที่ได้มาตรฐาน มีบริการแบบครบวงจร และคิดค่าบริการต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับโรงงานที่มีมาตรฐานในระดับเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุน คำว่าครบวงจรคือบริการผลิตสบู่ ออกแบบบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงจดทะเบียน ขอเครื่องหมาย อย. เป็นต้น สำรวจช่องทางการจำหน่ายแล้ววางแผนว่าจะจำหน่ายช่องทางไหนบ้าง เช่น ออนไลน์ ฝากขายร้านทั่วไป ฝากขาย Modern Trade และควรเลือกช่องทางการจำหน่ายที่เหมาะสมกับต้นทุนของตนเองและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเอง หมายเหตุ ช่องทางการขายผ่าน Modern Trade มักมีการกำหนดขั้นต่ำในจำนวนการผลิตต่อวันซึ่งสูง หากมีกำลังการผลิตต่ำย่อมไม่ผ่านการพิจารณา พิจารณาช่องทางการตลาดเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้า เช่น การซื้อแบนเนอร์โฆษณา ซื้อ Ads บน Google/Facebook/Instagram เป็นต้น โดยให้พิจารณาถึงมูลค่าที่สอดคล้องกับต้นทุน และกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด

ข้อเด่น
เป็นเจ้าของสินค้าเอง ออกแบบเอง ทำให้ได้สินค้าที่ตัวเองต้องการ อีกทั้งยังได้รับผลกำไรสูงเพราะเป็นผู้ผลิตเอง จึงได้ต้นทุนที่ต่ำ สามารถจำหน่ายได้ในจำนวนมากๆ เช่น ขายให้ร้านขายส่ง เป็นต้น

ข้อด้อย
ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจค่อนข้างซับซ้อน เพราะต้องทำเองทุกขั้นตอน ใช้เงินทุนสูงกว่าผู้ที่รับมาขายไปและผู้ที่สมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ที่สำคัญต้องแบกรับภาระการตลาด ซึ่งต้องวางแผนการตลาดให้ดี ต้องมีความรู้พอสมควรหรือมีทีมที่ชำนาญ เพื่อให้สินค้าขายได้
Tags: None Add / Edit Tags
Categories
Reviews , Business NetWork , Business Reviews

Comments