หลังจากได้อ่านลิงค์นี้
http://www.facebook.com/group.php?gi...5155#topic_top
ขออนุญาต copy มาไว้ให้อ่านเลยนะคะ
Suparada Navin : ใครอาจจะมองว่า บ้าเวอร์อีกแล้วก็ชั่งแต่เรามีความสุขที่ได้ทำวันนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง
ที่เราเอาอาหารไปให้ทหารแต่แตกต่างจากทุกครั้งเพราะครั้งนี้ของที่เรานำไปวันนี้คือข้าวต้มมัด 200 มัด
ข้าวเหนียวหมูทอด 50 กล่องเราคิดแล้วว่าน่าจะเป็นของที่กินง่ายและอยู่ท้องไม่เหมือนทุกครั้งที่เราเอา
อาหารแห้งไป นม น้ำดื่มกระป๋องเพราะคิดว่าครั้งนี้ต้องการให้กินและอยู่ท้องเราคิดไว้ว่าจะไปรอบๆ
นอก ที่จะไม่รบกวนการทำงานของทหารเราโทรถามกับนายทหารท่านหนึ่งคิดว่าไปตรงที่ปลอดภัยหน่อย
ก็ไป ยศเส หัวเฉียวแต่นายท่านที่คุยกับเราทางโทรศัพท์บอกให้เราไป ตรงแยกพญาไทเราก็เลยไปและ
ผ่าน อนุเสาวรีย์ติดอยู่ 2-3 ชม เราก็เลยประสบเหตุซึ่งเราไม่คิดว่าจะเจอที่ซอยรางน้ำ ซอยหมอเหล็ง
เราเห็นทหารซุ่มอยู่ตามหลังรถ จำนวนมากและไทยมุงอีกเพียบ (ไม่น่าเลยเค้าทำงานลำบาก)
เราขับรถเลยกันมาและคุยกันว่าจะจอดเอาอาหารให้ทหารดีไหม และคิดว่า เค้าทำงานอยู่อย่าดีกว่า
แต่พลันคิดว่ากองทัพก็ต้องเดินด้วยท้องเช่นกันจึงขับรถให้เลยมาแล้วจอดในตรงที่ปลอดภัยหอบหิ้ว
อาหารไปให้ทหารที่อยู่ตรงรางน้ำ และพญาไท เค้าตกใจค่ะแต่ยิ้มกว้าง มาก ๆๆ ถามเทหารว่าทานได้
ไหม เค้าบอกว่าพี่ครับ "ขอบคุณมากครับ " วันนี้พวกผมยังไม่ได้ทานครับ ผมกินได้ครับ
ผมจะกินครับ ตรงนี้ไม่ปลอดภัยพี่ไปเลยครับ เราอึ้งค่ะ และกำลังจะกลับทหารเรียกอีก
พี่ครับขอบคุณครับ ขอโทษนะคะ ตอนที่วิ่งกลับมาที่รถน้ำตาไหลไม่รู้ตัวค่ะและไม่ได้พูดอะไรกับเค้าเลย
เสียงเค้ามันก้องและเต็มอยู่ในใจเราเลยมาอีกจุดตรงพญาไท เราจอดรถไกลหน่อยและหอบหิ้วเช่นเดิม
แต่เราเห็นทหารแต่ไกลแล้วค่ะ พวกเค้ามองเราเป็นตาเดียวเลยค่ะรู้สึกเหมือน เค้าตั้งคำถามอยู่ในใจว่า
ของพวกเค้ารึ เปล่า นะเราเลย ตะโกนว่าคุณ ทหารคะ คุณ ตร
และเดินมารับพร้อม พูดว่าพวกผมขอบคุณพี่มากที่กล้ามา วันนี้อาหารพวกเราช้าหน่อยครับ
ปกติประชาชนผ่านมาเยอะแต่วันนี้ถ้าไม่จำเป็นก็คงไม่มีใครอยากออกมามันอันตรายครับ
"ขอบคุณมากๆๆ นะครับ ที่อุตสาห์มา"เราตอบไปว่าต้องขอบคุณ พวกคุณ ทุกคนมากกว่าค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ และขอให้ปลอดภัยทุกคนค่ะเรายิ้มทั้งน้ำตาอีกครั้งค่ะ กลับมาถึงรถของบนรถหมด
แล้วเราเดินทางกลับแต่นั่งคิดว่าตอนแรกเราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะไปดีไหม
แต่ตอนนี้เราคิดว่าพรุ่งนี้คงต้อง เพิ่มข้าวเหนียวหมู เป็น 200 กล่องและเราจะไปอีกพรุ่งนี้อย่างระวัง
อ่านแล้วเราน้ำตาซึมเลยค่ะ วันนี้เราฟังข่าวและออกไปดูแถวอนุสาวรีย์ก็เห็นว่าสถานการณสงบ
นัดกับน้องหน่อง FB ไปซื้อข้าวเหนียวหมูทอดเจ้าอร่อยตรงเชิงสะพานซังฮี้
ราคาแพงกว่าปกติหน่อยเพราะร้านนี้เขาขายเป็นขีด ( 45 บาทรวมข้าวเหนียวแต่เยอะมากเก็บไว้กินได้ถึงเย็นเลย )
แม่ค้าพอรู้ว่าซื้อให้ทหารแถมให้อีก 20-30 ชุด (น้ำใจคนไทยนี่ไม่เคยแล้งจริงๆ)
รวบรวมได้ 85 ชุด แล้วหาแท๊กซี่ไปอนุสาวรีย์ยากมากกก
ต้องอธิบายว่าเพิ่งมาจากสาวรีย์ไม่มีอะไร ไกลจากราชปรารภอยู่ และไม่ได้ปิดถนนถึงยอมไป
พอมาถึงสาวรีย์แท๊กซี่ไปต่อไม่ได้ ขึ้น จยย. ไป 2 คัน
แวะให้ตั้งแต่มุมอนุสาวรีย์ชัย ซอยรางน้ำ แยกพญาไท ยันแยกราชเทวี
ตอนเอาของให้เขา เขายกมือไหว้ บอกขอบคุณครับพี่
แค่นี้เราก็อิ่มใจแล้ว
เห็นมีเพื่อนๆใน FB หลายกลุ่มดูแลทหารตามพื้นที่ของตัวเอง
ทั้งแยกมักกะสัน โทลล์เวย์ มอเตอร์เวย์
แต่ทั้งนี้เราก็ดูความปลอดภัยของตัวเองเช่นกัน
ก่อนไปโทรถามเส้นทางและสถานการณืกับพลโทอดิศรแล้ว(ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ท่านโพสต์เบอร์ไว้ที่ FB )
เลยเดินทางได้ ไม่งั้นก็จะให้เขามารับที่จุดนัดพบ
สำหรับเรา คิดว่าอยากขอบคุณเขาตอนที่เขารับรู้ได้
เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา
แล้วมาขอบคุณตอนที่เขาตายแล้วเราคงรู้สึกเสียใจ
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องทำแบบนี้นะคะ
เอาตามที่สะดวกและคำนึงเรื่องความปลอดภัยสำคัญที่สุด
มีวิธีีอื่นๆที่เราสามารถทำได้ค่ะ
ยิ่งสถานการณ์ตอนเย็นนี้เริ่มมีการปะทะอีกแล้ว
นั่งพิมพ์อยู่ก็ได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ
นึกว่าอยู่แถวบันนังสตามากกว่ากรุงเทพนะคะนี่
รูปสุดท้ายน้องๆทหารตำรวจเข้าไปนอนพักในสวนหน้าคอนโดเราค่ะ