Previous
Next
Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก Downtown
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
กระทู้แนะนำล่าสุดจาก
Results 1 to 4 of 4

Thread: 1ปี ผ่านมา หลังเหตุการณ์นี้เราได้เรียนรู้อะไรไปบ้าง

  1. #1
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5

    1ปี ผ่านมา หลังเหตุการณ์นี้เราได้เรียนรู้อะไรไปบ้าง

    ไปดีไปเจอบทความดีๆ ของ Diary คุณ Dahlia
    ได้เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิที่ญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นในวันที่ 11 มี.ค. ของปีที่แล้ว ไว้ ได้น่าอ่านมาก จึงขอนำบทความมาไว้ที่ชุมชนนี้ครับ

    บทความชื่อ Japan Diary 21 : 5 เรื่องกินใจ หลังเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น
    สวัสดีวันแรกของเดือนเมษาค่ะ ^^

    ตอนนี้ที่เมืองไทยคงเริ่มเตรียมตัวต้อนรับเทศกาลสงกรานต์กันแล้วสินะ เห็นมีคำทำนายเกี่ยวกับนางสงกรานต์ประจำปีนี้ออกมาแล้วด้วย อย่างไรก็ขอให้เที่ยววันหยุดอย่างสนุกสนานไปพร้อมกับการมีสติ ระวังอุบัติเหตุกันด้วยนะคะ ตัวเราเองก็จะกลับไปเยี่ยมบ้านที่ไทยเดือน พ.ค. เหมือนกัน พ่อกับแม่คิดถึงแย่แล้ว (หัวเราะ)

    บลอควันนี้ก็ยังคงเกี่ยวกับเหตุวินาศภัยในญี่ปุ่น แต่คิดว่าคงเป็นเอนทรีสุดท้ายแล้ว เอนทรีหน้าจะเขียนอะไรที่เบิกบานหรรษาบ้างล่ะค่ะ อย่างไรชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไปเนอะ





    5 เรื่องกินใจหลังเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น




    1.

    - จากฟ้าสู่ดิน -



    ขอเริ่มด้วยภาพพระจริยวัตรของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่นนะคะ

    ทั้งสองพระองค์ทรงเสด็จเยือนผู้ประสบภัยที่โตเกียวและมีพระปฏิสันถารต่อทุกครอบครัว ณ ที่นั้นด้วยความห่วงใยและไม่ถือพระองค์ ยังความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรชาวญี่ปุ่นผู้ประสบภัยเป็นอย่างยิ่ง













    ภาพต่อๆ ไปเราคว้ากล้องมาถ่ายจากทีวี (รายการข่าวเช้า) อาจจะไม่ค่อยชัดเท่าข้างบนนะคะ







    เห็นภาพนี้แล้วรู้สึกว่า อา...ไม่ได้มีแต่คนไทยสินะที่ร้องไห้เมื่อพบพระเจ้าอยู่หัว

    ชาวญี่ปุ่นคงรักสมเด็จพระจักรพรรดิเหมือนที่เรารักในหลวงเหมือนกัน

    ได้มีโอกาสเห็นพระราชจริยวัตรของสองพระองค์ท่านแล้วก็รู้สึกซาบซึ้งมากจนน้ำตาจะไหล ฉลองพระองค์ท่านธรรมดาและเรียบง่ายสมถะอย่างยิ่ง ได้เห็นท่านห่วงใยและดูแลพสกนิกรเช่นนี้แล้วก็นึกถึงในหลวงของเรา

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน




    2.

    - สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า "สปิริต" -





    ในยามวิกฤตเช่นนี้ ชาวญี่ปุ่นทุกผู้ทุกฝ่าย ต่างพยายามช่วยเหลือกันและกันอย่างสุดความสามารถ ทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านทั่วไป ช่วงหลังเกิดเหตุ รายการทีวีทุกช่องไม่เปิดโฆษณาเลย มีแต่ข่าวสลับกับสปอตสั้นๆ เรื่องการช่วยเหลือสังคม เพราะบริษัทต่างๆ ติดว่าในเวลาเช่นนี้ไม่สมควรคิดเรื่องการค้าหรือหากำไร

    ล่าสุด สส. ญี่ปุ่นมีมติเห็นพ้อง "ตัดเงินเดือนตนเอง" ลงคนละ 3 ล้านเยน (เดือนละ 5 แสนเยนเป็นเวลาครึ่งปี) เพื่อนำเงินไปช่วยฟื้นฟูประเทศ (ข่าวจาก >>JIJI PRESS<<)

    ไม่เว้นแม้แต่ "ยากุซ่า"

    ปกติแล้ว ยากุซ่าจะอยู่ในโลกเบื้องหลัง ไม่เผยโฉมหน้าต่อสังคมเนื่องจากเสี่ยงต่อการถูกตำรวจจับกุม แต่งานนี้ หลายแก๊งค์ต่างพร้อมใจระดมกำลังช่วยเหลือ "อย่างเงียบๆ" เพื่อสังคมและชาติของตนเอง

    แก๊งค์อินากาวะไค (ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น) เริ่มการช่วยเหลือตั้งแต่ 2 วันหลังภัยพิบัติโดยส่งรถบรรทุกข้าวของอันได้แก่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ไฟฉาย แบตเตอรี่ ฯลฯ รวมทั้งหมด 25 คันมุ่งสู่ภูมิภาคโทโฮคุทันทีแบบ "ไม่ประสงค์ออกนาม"

    ตามมาด้วยแก๊งค์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 และแก๊งที่ใหญ่ที่สุดคือสุมิโยชิไคและยามากุชิคุมิ มีการให้ความช่วยเหลือกับ foreign community คือกลุ่มคนต่างชาติที่อยู่ในญี่ปุ่น ทางยามากุชิกุมิก็เปิดสนง.ทั่วญี่ปุ่นให้คนเข้าไปพักได้ แล้วก็ส่งสิ่งของออกไปบริจาคหลายคันรถ (ตรงส่วนนี้ขอแก้ไขเนื้อหาให้ชัดเจนขอบคุณข้อมูลจากคุณ D.M. นะคะ )

    ตัวแทนกลุ่มได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่างประเทศเพียงสั้นๆ ว่า "ขอความกรุณาอย่าเปิดเผยแหล่งที่มาของของบริจาคแก่ผู้ประสบภัย เพราะคนส่วนใหญ่รังเกียจที่จะรับของจากเรา และเราเพียงแต่ต้องการช่วยเหลือพวกเขาเท่านั้น ไม่ได้หวังอะไร"

    อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ค่ะ >>BUSINESS INSIDER<<

    แม้แต่ยากุซ่ายังช่วยชาติ

    "สปิริต" เป็นสิ่งที่อาจจะเล็กจนมองไม่เห็น แต่เมื่อแสดงออกมา กลับทำให้คนๆ นั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน




    3.

    - เพื่อนย่อมไม่ทิ้งกัน -




    ท่ามกลางวินาศภัยร้ายแรง ไม่เพียงมนุษย์ แต่เพื่อนสี่ขาทั้งหลายต่างก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

    จาก >> << แสดงให้เห็นถึงสุนัขตัวที่แข็งแรงกว่าไม่ยอมทิ้งเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ จนสุดท้ายทั้งคู่ก็ได้รับความช่วยเหลือ

    น้องหมาสองตัวนี้ได้รับการช่วยเหลือโดยทีมอาสาสมัคร ซึ่งนำโดยคุณ Kenn Sakurai โดยต้องใช้มอเตอร์ไซค์ขับลุยโคลนเข้าไปพร้อมกับเชือกรัดกรงไว้ที่ข้างหลัง เขาต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงกว่าจะไปถึงศูนย์ฯ ตัวที่เห็นตอนแรกแข็งแรงดี ตอนนี้อยู่ที่ศูนย์อพยพแล้ว ส่วนตัวที่นอนอยู่สีขาวไม่ค่อยสบายอ่อนแอมากแต่ตอนนี้คุณหมอดูแลอยู่ที่ไม่ไกลกันค่ะ



    คุณซากุไรเป็นเจ้าของบริษัทอาหารสุนัขเล็กๆ แห่งหนึ่ง หลังเกิดเหตุสึนามิ ได้เป็นผู้นำรวบรวมเพื่อนอาสาสมัครผู้รักสัตว์[/B]ออกตระเวณช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่บาดเจ็บและมีชีวิตรอดจาดสึนามิในนามของ Japan Tsunami Pet Rescue Team ปัจจุบันสามารถช่วยเหลือได้มากกว่า 50 ชีวิตแล้วค่ะ ภาพเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ >>เฟสบุ๊กของคุณ Sakurai << ค่ะ




    4.

    - หนึ่งคนตาย เพื่อหลายคนตื่น -




    ว่าด้วยระบบการเตือนภัยของญี่ปุ่น

    ระบบการเตือนภัยของญี่ปุ่นนั้นรวดเร็วมาก นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่หลายคนรักษาการ ประกาศเตือนภัยที่ศาลาว่าการเมืองจนวินาทีสุดท้าย

    จนท. ที่เมืองมินามิชื่อคุณมิกิ อายุ 24 ปี วันที่สึนามิมาเธอประกาศเตือนภัยแก่ชาวเมืองจากตึกที่ชั้น 2 แต่คลื่นที่ถาโถมเข้ามานั้นสูงกว่าตึก 3 ชั้น ... ในภาพข่าว เสียงของเธอขาดไปในช่วงเวลาเดียวกับที่คลื่นกลืนร่างนั้นหายไปนั่นเอง...

    บิดาของคุณมิกิกล่าวว่า "มันเป็นหน้าที่ ขอบคุณลูกที่ช่วยให้หลายคนรอดชีวิต"

    เช่นเดียวกับข่าวจากหนังสือพิมพ์นิกเคอิฉบับวันที่ 28 (รูปด้านบน) ในต่างเมืองกัน เจ้าหน้าที่เตือนภัยอีกท่านหนึ่งคือคุณมิอุระ ก็ได้พยายามประกาศให้ทุกคนหลบหนีจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต โครงเหล็กสีแดงที่เห็นในภาพคืออาคารสำนักงานหลังจากที่ถูกสึนามิโหมใส่...


    นี่ไม่ใช่ "หน้าที่" แต่คือ "จิตใจอันพร้อมเสียสละเพื่อสังคม"


    ขอไว้อาลัยและสดุดีวีรกรรมต่อผู้จากไปทุกท่านค่ะ




    5.

    - "ชีวิต" และ "ความหวัง -




    ข้อความจากคุณ nekoshima 83

    [ที่จังหวัดจิบะ คนปู่คนหนึ่งในศูนย์หลบภัยได้เอ่ยออกมาว่า "ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรนะ" เด็กหนุ่มมัธยมปลายคนหนึ่งจึงตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไปเมื่อเป็นผู้ใหญ่ พวกผมจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน" ไม่เป็นไร พวกเรายังมีอนาคตอยู่นะ]



    ข้อความจากคุณซาโฮะ @nekkonekonyaa

    [คุณพ่อกลับไปที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้ว พนักงานโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เปลี่ยนเวรออกมาตอนนี้ได้ถูกเรียกให้กลับเข้าประจำการทั้งหมด ฉันเพิ่งเคยเห็นแม่ร้องไห้หนักขนาดนี้เป็นครั้งแรก

    เจ้าหน้าที่โรงไฟฟ้าเสียสละตัวเอง ทำหน้าที่เพื่อปกป้องทุกคนอย่างสุดชีวิต ทุกคนคะ ...ขอให้มีชีวิตสมกับที่ยังมีชีวิตอยู่นะ อย่าให้ความตั้งใจของคนที่ทำงานอยู่ในโรงงานนิวเคลียร์สูญเปล่านะ...

    คุณพ่อ ...มีชีวิตกลับมานะคะ]


    ข้อความจาก >> http://prayforjapan.jp/message << (ภาษาญี่ปุ่น)





    ฝากย่อหน้าสุดท้ายไว้ด้วยภาพซากุระแรกของปีนี้ที่สวนใกล้บ้าน



    ชีวิตยังคงต้องเดินต่อไป ไม่ว่าจะผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น ที่ไทย หรือผู้ที่เดือดร้อนในที่ต่างๆ ทั่วโลก โปรดอย่าลืมความหวัง อย่างน้อยการพยายามสู้อย่างเต็มที่ ก็เป็นการตอบแทนต่อผู้ที่เสียสละให้เรายังได้หายใจอยู่จนทุกวนนี้

    ทุกคน ขอให้มีชีวิตสมกับที่ยังมีชีวิตอยู่นะคะ



    แล้วพบกันใหม่เอนทรีหน้าค่ะ
    Last edited by iDnOuSe4; 03-14-2012 at 12:13 AM.
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

  2. #2
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    บทความชื่อ 1 ปีหลังเหตุแผ่นดินไหว กับ 5 เรื่องกินใจในญี่ปุ่น

    สวัสดีทุกคนค่ะ

    วันนี้เป็นวันครบรอบ 1 ปีของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิที่ญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นในวันที่ 11 มี.ค. ของปีที่แล้ว เอนทรีนี้เขียนขึ้นเพื่อระลึกถึงและร่วมไว้อาลัยแก่ผู้ที่จากไป รวมทั้งอยากจะสื่อสารถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา

    ส่วนใหญ่ ข่าวที่ออกจากสื่อต่างประเทศ มักจะมีแต่ในแง่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และผลกระทบต่างๆ รวมทั้งเรื่องของเศรษฐกิจและแนวโน้มของแผนกอบกู้มากมาย น้อยครั้งที่จะนำเสนอแง่มุมที่เกี่ยวกับความเป็นไปของผู้คนเราจึงขอเลือกเหตุการณ์ที่คิดว่าประทับใจ 5 อย่าง เพื่อมานำเสนอในครั้งนี้ เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของผู้ที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่นตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมาค่ะ



    (ภาพนี้คือเรือประมงที่ถูกคลื่นยักษ์หอบมาเกยบนบก ท่ามกลางความเวิ้งว้างของซากบ้านเรือนที่ถูกเก็บกวาดออกไปหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเขตเคเซ็นนุมะ)




    1.

    - รอยแผลจาก "วันวาน" -




    เนื่องในวันครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิที่ญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะเสด็จพร้อมพระจักรพรรดินี ทรงเป็นองค์ประธานนำการยืนไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตที่โรงละครแห่งชาติ พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีโนดะ และประชาชน 1,200 คน เข้าร่วมพิธี

    ในวันนี้มีการจัดพิธีไว้อาลัยมีขึ้นตามจุดต่างๆ รอบพื้นที่ประสบภัยและกรุงโตเกียว โดยเริ่มขึ้นในเวลา 14.46 น.(ตรงกับ 12.46 น.ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งเป็นเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ที่ปลดปล่อยคลื่นยักษ์เข้าทำลายชีวิตผู้คนกว่า 2 หมื่นคนเมื่อปีที่แล้ว



    สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงกล่าวคำไว้อาลัยและตรัสว่า ญี่ปุ่นจะไม่มีวันลืมโศกนาฏกรรมเลวร้ายครั้งนี้



    ตลอดทั้งวัน พิธีรำลึกเล็กๆ จัดขึ้นทั่วจุดต่างๆ ทั้งประเทศ หลายคนเลือกที่จะจัดพิธีในเมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังจากการถล่มของสึนามิ ญาติพี่น้องต่างร่ำไห้อาลัยบุคคลอันเป็นที่รักที่จากโลกนี้ไป

    ก่อนการแข่งขันกีฬาทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล รักบี้ หรือแม้แต่ซูโม่ ทุกคนต่างพร้อมใจกันยืนสงบนิ่งเพื่อระลึกถึงผู้จากไปในเหตุการณ์นี้



    ในเมืองอิชิโมนากิ จังหวัดมิยางิ มีการเปิดเสียงสัญญาณเตือนภัยรำลึกถึงนาทีที่เกิดธรณีพิโรธ ก่อนคลื่นกำแพงน้ำถล่มเมือง คร่าชีวิตชาวเมืองอิชิโนมากิไปเกือบ 4,000 ราย



    ในเมืองอิวากิ จังหวัดฟุกุชิมะ (บ้านเกิดของคุณพ่อคุณยักษ์) ชาวบ้านผู้รอดชีวิตพากันยืนจับมือกันตลอดความยาวของชายหาด รอรับแสงอาทิตย์แรกของวันที่11 เพื่อสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากสึนามิเมื่อปีก่อน

    ตัวเราเอง วันนี้ เวลา 14.46 น. กำลังเดินอยู่ในสวนที่ปราสาทโอซาก้า ชั่วขณะนั้น เสียงไซเรนหวีดสูงกรีดผ่านอากาศ ทุกคนที่กำลังเดินอยู่ต่างหยุดนิ่ง ก้มหน้าอย่างสงบ ร้านค้าหยุดขาย กิจกรรมทุกอย่างไม่มีการเคลื่อนไหว ชั่วเวลาเพียง 1 นาทีในเสียงหวูดเตือนภัยนั้นโหยหวนเศร้าสร้อยยาวนาน บางคนรินน้ำตา หลายคนถอนหายใจ

    ทุกคนจะไม่มีวันลืมโศกนาฏกรรมเลวร้ายครั้งนี้

    ผู้ที่จากไปจะยังคงถูกระลึกถึง

    ผู้ที่เหลืออยู่ข้างหลังยังคงต้องลุกขึ้น และพยายามก้าวเดินต่อไป


    เพื่อชีวิตมากมายที่สูญเสียไปในครานั้น

    จงใช้ชีวิตให้สมกับที่ยังมีชีวิตอยู่ ...ในทุกๆ ลมหายใจ





    2.

    - ไม่เคย "ทิ้งไว้เบื้องหลัง" -





    หลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิที่ญี่ปุ่น ไม่เพียงมนุษย์เช่นเราๆ แต่สัตว์เลี้ยงต่างก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย สุนัขและแมวมากมายเสียชีวิต บ้างกลายเป็นสัตว์จรจัด ไร้บ้าน ไร้ที่พักพิง เขตฟุกุชิมะซึ่งถูกจัดเป็นโซนอันตราย มีเพื่อนสี่ขาหลายร้อยชีวิตถูกทอดทิ้ง ท่ามกลางเมืองที่เวิ้งว้าง อาหารขาดแคลน อันตรายจากรังสี และสภาพอากาศอันทารุณของฤดูหนาว

    UKC Japan (United Kennel Club Japan) สมาพันธ์ผู้รักสัตว์แห่งญี่ปุ่น ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในเขตฟุกุชิมะเพื่อทำการช่วยเหลือ ตามหา และเก็บเพื่อนสี่ขาที่ยังหลงเหลือรอดชีวิต นำกลับมาพักที่ศูนย์พักพิงสัตว์ที่เมืองคานากาวะ

    แม้จะไม่ใช่มนุษย์ ...แต่นั่นก็คือชีวิต

    และทุกชีวิต ไม่สมควรจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างไม่เหลียวแล



    บ้านใหม่ที่ศูนย์พักพิง แม้ไร้เงาเจ้าของ แต่อย่างน้อยก็มีที่คุ้มแดดคุ้มฝน



    ขอเพียงยังมีลมหายใจ ...สักวันคงมีหวังได้หวนคืนสู่บ้านที่อบอุ่น



    เถ้ากระดูกของแมวและสุนัขที่เสียชีวิตในศูนย์พักพิง เจ้าหน้าที่ทำการเผาและเก็บรวบรวมนำมาไว้ด้วยกันจดหมายด้านข้าง คือความในใจของ "มี่จัง" ถึงเหล่าอาสาสมัคร UKC Japan

    ขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้งฉันไว้ข้างหลัง

    ขอบคุณที่ทำให้ฉันมีที่พักกาย แม้เพียงในยามสุดท้ายของชีวิต...





    3.

    - เชื่อใน "ปาฏิหาริย์" -





    ท่ามกลางการพลัดพรากและน้ำตามากมาย แสงแห่งความหวังอาจจุดประกายได้แม้ในความมืดมิด

    วันที่ 1 เม.ย.2554 ท่ามกลางซากปรักหักพังกลางทะเล ห่างจากชายฝั่งเกือบ 2 ก.ม. เจ้าหน้าที่ยามชายฝั่งสังเกตเห็นสุนัขตัวหนึ่งเดินไปมาบนหลังคาบ้านที่ลอยอยู่กลางทะเล ขณะขับเฮลิคอปเตอร์บินเหนือทะเลที่เมืองเคเซนนูมะ จ.มิยางิ เชื่อว่าสุนัขถูกคลื่นสึนามิที่เกิดจากแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ซัดออกไปกลางทะเลและรอดตายราวปาฏิหาริย์ทั้งที่เวลาผ่านมานานถึง 3 สัปดาห์ และต้องอยู่ตัวเดียวท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นและไม่มีอาหาร



    เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะช่วยเหลือสุนัขได้สำเร็จ เนื่องจากมันมีอาการตื่นตกใจและวิ่งไปมาไม่ยอมให้จับ เพื่อการนี้หน่วยกู้ภัยชายฝั่งระดมกำลังทั้งเฮลิคอปเตอร์และเรือกู้ภัยเข้าปฏิบัติการ ในที่สุดจึงใช้ตาข่ายคล้องตัวมันและอุ้มขึ้นเรือมาได้ท่ามกลางความตื่นเต้นดีใจของเจ้าหน้าที่ทุกคน



    เจ้าหน้าที่หาผ้าห่มมาคลุมตัวมันเพื่อให้ความอบอุ่นและหาอาหารให้กิน เจ้าสุนัขก็กินอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความหิวโหยและเลียไม้เลียมือเจ้าหน้าที่ด้วย ทุกคนต่างสงสารแต่ไม่รู้ว่าจะไปตามหาเจ้าของได้ที่ไหน จึงตัดสินใจพาไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ชั่วคราวก่อน

    ภาพปาฏิหาริย์ครั้งนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วญี่ปุ่น และนำมาซึ่ง "ปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2" ในเวลาต่อมา



    คุณโอโนะเดระ ชาวบ้านเมืองเคเซนนูมะ เห็นข่าวสุนัขรอดชีวิตทางสถานีโทรทัศน์ NHK ก็จำได้ทันทีว่านั่นคือสุนัขของเธอเอง เธอดีใจมากที่มันยังมีชีวิตอยู่ จึงรีบตรงไปยังสถานสงเคราะห์สัตว์ในวันต่อมา

    ทันทีที่เจ้าหมาสีน้ำตาลเห็นเจ้านาย มันเห่าเสียงดังก่อนจะกระโจนเข้าหา คุณโอโนเดระน้ำตาไหลไม่หยุด กอดเจ้า "บัน" วัย 2 ขวบ พร่ำขอบคุณผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ทั้งน้ำตา

    ไม่เพียงยังมีชีวิตรอดแต่ยังได้กลับมาพบกัน

    ปาฏิหาริย์ในโลกนี้ยังมีอยู่จริง

    ...

    เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็ยังคงมีปาฏิหาริย์อีกหนึ่ง



    เป็นสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับเจ้าเหมียวตัวนี้ นามว่า "จาโกะ"

    คุณลุงคุณป้าผู้ประสบภัยคู่หนึ่ง เฝ้าตามหาแมวที่หายไปอย่างไม่ลดละตลอดระยะเวลา 10 เดือน แม้ใครต่อใครบอกให้เลิกหวัง ทั้งสองคนก็ยังคงไม่ย่อท้อ ออกตามหาและถามไถ่ทุกคนเท่าที่โอกาสจะอำนวย



    จนกระทั่งในที่สุด ปาฏิหาริย์ก็บังเกิด



    "จาโกะเอ๋ย แม่นึกว่าเจ้าจะไม่รอดเสียแล้ว"

    คุณป้าปล่อยโฮ กอดเจ้าเหมียวทั้งน้ำตา



    จาโกะถูกคุณลุงใจดีช่วยเหลือไว้ คุณลุงผู้อารีนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยเช่นกัน

    "เห็นมันหลงทางมาเมื่อ 7 เดือนก่อน ผอมโซแล้วก็มีแต่แผล ผมเห็นแล้วก็สงสาร เลยเอามาเลี้ยงไว้ รู้สึกว่าชักจะอวบไปหน่อยแล้วล่ะตอนนี้" คุณลุงกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ


    10 เดือนก่อนกลับคืนสู่บ้านของเจ้าเหมียวจาโกะ

    ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นได้ด้วยน้ำใจ ...และความมุ่งมั่นไม่ยอมตัดใจ

    ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ขอจงอย่าหมดหวัง

    ปลายทางนั้นยังมีแสงสว่าง ยังมีบ้านที่อบอุ่นรออยู่แน่นอน





    4.

    - ส่งคืน "ความทรงจำ" -





    หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไม่เพียงทรัพย์สินขนาดใหญ่เช่นตึกรามบ้านช่องที่ถูกทำลาย ของชิ้นเล็กๆ แต่อัดแน่นด้วยความหมายเช่นรูปถ่าย สมุดอนุสรณ์ อัลบั้มที่ระลึกต่างๆ ก็ถูกพัดพาไปกับคลื่นยักษ์เช่นกัน

    "ความทรงจำ" เหล่านั้นฉีกขาดกระจัดกระจาย แทบกลายเป็นเพียงเศษกระดาษไร้ค่าในโคลนเลน



    ทว่ายังมีกลุ่มอาสาสมัคร กอบเก็บเศษกระดาษอันเปี่ยมค่าเหล่านั้นกลับมา พยายามเยียวยาให้เป็นดังเดิม



    ซากอัลบั้มที่ฉีกขาด รูปถ่ายที่เปรอะเปื้อน ถูกล้างทีละใบๆ

    ตากให้แห้ง รีดให้เรียบ จัดเก็บลงกล่องหรืออัลบั้ม รอวันใครสักคนมาตามหา



    ภาพนับร้อยนับพันใบ กับเหล่าอาสาสมัครผู้ไม่ประสงค์ออกนาม กอบเศษความทรงจำที่กระจัดกระจาย พยายามปะติดปะต่อให้ดีดังเดิม



    ภาพเก่าแก่ซีดจางที่แลดูไร้ความหมาย อาจเป็นของล้ำค่าของใครบางคน



    ตามหาวันวานที่หายไปกับเกลียวคลื่น



    สายตาที่พร่ามัว จ้องมองหาใบหน้าที่คุ้นเคย



    อัลบั้มบางส่วนที่สามารถรวบรวมได้เกือบสมบูรณ์ ถูกจัดแยกลงกล่องให้ผู้ประสบภัยมาตามหา

    วันคืนที่มืดหม่นของไม้ใกล้ฝั่ง บางครั้งก็สว่างไสวขึ้นได้เมื่อเห็นใบหน้าผู้เป็นที่รัก



    แม้อาจเป็นเพียงเศษกระดาษสำหรับผู้ผ่านทาง

    แต่กับบางคน สิ่งนั้นอาจเป็น "ภาพใบเดียวที่ยังเหลืออยู่"

    แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยกับการไล่เก็บรูปภาพมาล้างทำความสะอาดและตามหาเจ้าของ

    แต่เรื่องราวที่ได้รับรู้กลับทำให้น้ำตาไหล


    สิ่งที่มีค่าที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตมนุษย์คือ "ความทรงจำ"

    การส่งคืนความทรงจำที่แสนสุขในวันวาน อาจเป็นพลังใจมากมายให้แก่ผู้ที่เหลืออยู่


    นี่คืองานเล็กๆ แต่ทำด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่


    ขอบคุณจากใจแก่อาสาสมัครทุกคน





    5.

    - ส่งต่อ "อนาคต" -





    ผู้สูงอายุหลายร้อยคนได้มาประชุมที่อาคารใกล้รัฐสภาในกรุงโตเกียว เพื่อขอเป็นอาสาสมัครช่วยงานกู้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ จำนวนผู้สมัครมีมากกว่า 1,300 คน แต่มีเพียง 274 คนที่มีคุณสมบัติสามารถทำงานนี้ได้ เช่น อดีตวิศวกรโยธาและก่อสร้าง โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเหล่านี้จะเข้ามาช่วยงาน หรือทำงานแทนวิศวกร ช่าง และคนงานในการหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์

    หลายคนเผยว่าเหตุที่มาเป็นอาสาสมัคร เพราะมองว่าตนเองต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นคนรุ่นที่ปล่อยให้มีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แทนที่จะคัดค้านจนถึงที่สุด ฉะนั้นจึงควรจะช่วยยุติวิกฤตครั้งนี้ ขณะที่บางคนก็มองว่างานอาสาเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะได้ตอบแทนประเทศ ไม่ใช่แค่นั่งๆ นอนๆ รอเงินบำนาญ พวกเขาต้องการเข้าไปทำงานโดยไม่รับเงินเดือน

    คุณปู่ยามาดะ ยะสุเทรุ อดีตวิศวกรวัย 72 ปีกล่าวว่า "การเข้าไปทำงานมีความเสี่ยงก็จริง แต่มะเร็งจากรังสีอาจใช้เวลา 20-30 ปีกว่าจะก่อตัว ผมเองอย่างมากก็อยู่ได้อีกไม่ถึง 15 ปีหรอก"

    ในขณะที่คุณลุงอิโตะ มิชิโอะ อดีตครูประถมศึกษากล่าวว่า "พวกเราไม่ใช่หน่วยคามิคาเซ่ อย่าเรียกกันไปอย่างนั้นเลย พวกนั้นเขาไปเพื่อที่จะตาย แต่พวกเราจะกลับมา พวกเราแค่เข้าไปทำงานเพื่อประเทศชาติ ไม่ได้เข้าไปเพื่อตาย"

    รัฐบาลญี่ปุ่นเคยปฏิเสธข้อเสนอของผู้สูงอายุเหล่านี้ แต่ระยะหลังเริ่มมีความเป็นห่วงสุขภาพของคนงานรุ่นแรกๆ มากขึ้น ทำให้รัฐบาลเปิดใจรับและยอมให้พวกเขาเข้ามาประชุมร่วมกัน เพื่อดูว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้าง


    นี่คือ "สปิริต"

    คือจิตวิญญาณของความคิดที่ว่า "คนหนุ่มสาวคืออนาคต คนรุ่นก่อนมีหน้าที่ต้องส่งมอบประเทศต่อให้คนรุ่นใหม่สืบทอดต่อไป"

    ดังนั้นแทนที่จะให้อนาคตของชาติต้องเสี่ยงตาย ไม้ใกล้ฝั่งจึงขอรับทำแทนเสียดีกว่า

    เมื่อย้อนนึกถึงข้อความที่ได้แปลไว้เมื่อปีก่อน



    [ที่จังหวัดจิบะ คนปู่คนหนึ่งในศูนย์หลบภัยได้เอ่ยออกมาว่า "ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรนะ" เด็กหนุ่มมัธยมปลายคนหนึ่งจึงตอบกลับไปว่า "ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไปเมื่อเป็นผู้ใหญ่ พวกผมจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน" ไม่เป็นไร พวกเรายังมีอนาคตอยู่นะ]


    ช่วงต่อช่วง มือต่อมือ

    พลังรุ่นใหญ่ส่งต่อสู่รุ่นเยาว์

    ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ด้วยจิตใจที่กล้าหาญและเสียสละ จะต้อง "ไม่เป็นไร" อย่างแน่นอน



    ขอสดุดีแด่ผู้เสียสละทุกท่านที่ยังคงทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    สดุดีแด่อาสาสมัครที่หลั่งไหลช่วยกันคนละไม้ละมือไม่ขาดสาย

    สดุดีแด่เด็กหนุ่มสาวผู้ไม่ละทิ้งบ้านเกิด

    หลายคนมุ่งมั่นสืบทอดเจตนาของบิดามารดา หลายคนเปลี่ยนชีวิตตัวเองอุทิศเพื่อสังคม

    สดุุดีแด่หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ทุกดวง


    โลกจะไม่มีวันลืมมหาภัยพิบัติครั้งนี้

    และเราจะไม่มีวันลืมว่าญี่ปุ่น "สอน" อะไรให้แก่เรา


    ความสามัคคี

    ความมีวินัย

    สปิริต

    และความ "กล้า" ที่จะเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว


    ขอร่วมไว้อาลัยแก่ทุกชีวิตที่สูญเสียไป


    ขออย่าให้เกิดเรื่องใดๆ ร้ายแรงขึ้นอีกเลย




    3.11.2012




    :: บลอคที่เกี่ยวข้อง ::


    >>5 เรื่องกินใจ หลังเหตุแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น<<
    (เอนทรีที่เขียนหลังเกิดเหตุ 1 เดือน แนะนำให้อ่านค่ะ)


    >>ฟุคุชิม่ารำลึก<<
    (พาเที่ยวฟุคุชิม่าก่อนแผ่นดินไหว เมืองเล็กๆ นี้น่ารักอย่างไร ตามไปดูได้ค่ะ)
    ขอบคุณบทความนี้มากครับ อย่างน้อยการที่ผมได้ หยุด ระลึกถึงเหตุการณ์นี้ ทำให้ทบทวนช่วงเวลานั้นว่า โลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นเช่นไร และจะได้ดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาทต่อไป
    Last edited by iDnOuSe4; 03-13-2012 at 11:52 PM.
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน
    Like bit, ถูกใจ ข้อความนี้ ที่สุด

  3. #3
    Join Date
    Jun 2010
    Posts
    336
    Warning Points:
    0/5
    ขอบคุณ คุณ iDnOuSe4 นี่นำบทความดีๆ แบบนี้มาแชร์ให้อ่านครับ

    อ่านถึงประโยค ที่อาสาสมัครเข้าไปดูแลเตาปฏิกรณ์ ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ประสบปัญหา ที่อาย 70 กว่า ปลดเกษียณกันหมดแล้ว ให้เหตุผลในการตัดสินใจเป็นอาสาสมัครว่า

    หลายคนเผยว่าเหตุที่มาเป็นอาสาสมัคร เพราะมองว่าตนเองต้องรับผิดชอบ เพราะเป็นคนรุ่นที่ปล่อยให้มีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แทนที่จะคัดค้านจนถึงที่สุด
    อ่านแล้วสะดุดเลยครับ รู้สึกขอบคุณพวกเขา ถึงแม้ว่าผมเองจะดูเหมือนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่ก็รู้สึกขอบคุณ ขอบคุณพวกเขา ที่มีสำนึกรับผิดชอบ ขอบคุณที่ยังมีคนที่มีสำนึกรับผิดชอบต่อ ได้อยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้ ถึงแม้ว่าจะน้อยลงทุกทีๆ ก็ตาม

    ส่วนเรื่องการเปิดไซเรนที่โอซาก้า ที่เขียนในบทความนี้ ผมว่า หากเปิดในช่วงเวลาเดียวกันกับช่วงเวลา ที่เกิดสึนามิ แล้วเปิดไปทุกปีหลังจากนี้ จะทำให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่เกิดไม่ทันได้รับรู้เหตุการณ์ที่ผ่านมา ได้สงสัยและกลับไปทบทวน และรับรู้ถึง ความยากลำบากของคนรุ่นก่อน ที่ต้องสูญเสียและพาประเทศผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนั้นมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ

    พออ่านจบแล้วก็สงสัย ว่าคุณ iDnOuSe4 ไปเจอบทความนี้อย่างไรเหรอครับ
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ใน sign เพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

  4. #4
    iDnOuSe4's Avatar
    iDnOuSe4 is offline Trusted Member
    Join Date
    Sep 2010
    Location
    Nontaburi
    Posts
    1,250
    Blog Entries
    6
    Warning Points:
    0/5
    ส่วนเรื่องการเปิดไซเรนที่โอซาก้า ที่เขียนในบทความนี้ ผมว่า หากเปิดในช่วงเวลาเดียวกันกับช่วงเวลา ที่เกิดสึนามิ แล้วเปิดไปทุกปีหลังจากนี้ จะทำให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่เกิดไม่ทันได้รับรู้เหตุการณ์ที่ผ่านมา ได้สงสัยและกลับไปทบทวน และรับรู้ถึง ความยากลำบากของคนรุ่นก่อน ที่ต้องสูญเสียและพาประเทศผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนั้นมาได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ
    เห็นด้วยครับ

    ไปเจอจากเพื่อนๆ ที่แชร์ต่อมาเรื่อยๆ ใน facebook ครับ
    ชวนเพื่อนใส่ลิ้ง เปิดโลก SBNTown ในลายเซ็นเพื่อแนะนำเพื่อนๆ ในการใช้เครื่องมือของชุมชนให้มีทักษะเท่ากัน

Comments from Facebook

Posting Permissions

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •