ในช่วง 14 ปีในชีวิตการทำงานเป็นวิศวกรควบคุมคุณภาพ เป็นผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ ม.เกษตรศาสตร์ ตลอดจนสืบทอดธุรกิจเกษตร ผมได้ศึกษาปัญหาการทำงานทั้งในอุตสาหกรรม การบริหารโครงการ การสืบทอดธุรกิจ นอกจากนี้ ผมพบปัญหาว่าความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของอุตสาหกรรมเกินความจำเป็นในการบริหารโครงการ และการสืบทอดธุรกิจ แล้วความรู้อะไรบ้าง กี่อย่าง ที่จำเป็นต่อ อุตสาหกรรม การบริหารโครงการ และ สืบทอดธุรกิจ ?
ผมทบทวนในการทำงานในอุตสาหกรรมตลอด 8 ปี ตามวงจรคุณภาพของเดมมิ่ง PDCA (การวางแผน(Plan) การปฏิบัติ(Do) การตรวจสอบ(Check) การปรับแผน(Action) )
รูป ดร.เดมมิ่ง ปรมาจารย์ด้านการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ผู้ปูรากฐานเรื่องคุณภาพให้ญี่ปุ่น
ผมพบว่าในอุตสาหกรรมใหญ่ๆนั้น ทรัพยากรมาก มีความพร้อมทุกด้าน ทั้งวัตถุดิบ ความรู้ คน เครื่องจักร งานถูกแยกส่วนงานหมด ดูคุณภาพคนพวกหนึ่ง(แผนกประกันคุณภาพ) ดูจำนวนคนพวกหนึ่ง(แผนกผลิต) ดูเวลาคนพวกหนึ่ง(แผนกวางแผน) ดูค่าใช้จ่ายเป็นคนพวกหนึ่ง (แผนกการเงิน) ดังนั้นงานในอุตสาหกรรมเป็นการแบ่งงานเล็ก ๆ คนเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่ปริมาณงานด้านนั้นเยอะ ๆ
และ จากการบริหารโครงการ 4 ปี และ การสืบทอดธุรกิจ 3 ปี พบว่า ในโครงการและการสืบทอดธุรกิจ นั้นมีทรัพยากรน้อยกว่า มีข้อจำกัดมากกว่าในทุกด้าน ทั้งวัตถุดิบ ความรู้ คน เครื่องจักร ที่สำคัญผมพบว่า งานแยกส่วนไม่ได้ ต้องดูภาพรวมทั้งหมด ดูทั้งคุณภาพ ดูทั้งจำนวน ดูทั้งเวลา ดูค่าใช้จ่าย ทำให้การบริหารโครงการ และ สืบทอดธุรกิจ ต้องดูภาพรวมกว้าง แต่ปริมาณงานน้อยกว่าช่วงแรกน้อยกว่า ทำให้คนที่มาจากอุตสาหกรรมไม่เห็นภาพรวมตอนแรก จึงจับต้นชนปลายไม่ถูก
จากการเปรียบเทียบการทำงานในอุตสาหกรรม กับ การบริหารโครงการ และ การสืบทอดธุรกิจ ผมพบว่า ความรู้ที่จำเป็น คือ ภาพรวมทั้งหมดของงาน ที่ประกอบด้วย 4 ชุดความรู้ ได้แก่ เวลา(Time) คุณภาพ(quality) จำนวน(Quantity) เงิน(Cost) ซึ่งเป็นคุณสมบัติของการจัดการงานที่ผมรู้สึกว่าความรู้เหล่านี้ ถูกแยกออกเป็นส่วน ๆ ที่สำคัญคือ ถ้านำทุกส่วนมาประกอบกัน จะเกิดเป็นภาพรวม ซึ่งทำให้จับต้นชนปลายถูก