ปัจจุบันในอังกฤษไม่มีเหมืองแร่ใยหินกลุ่มแอมฟิโบลแล้ว หลังจากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แร่ใยหินในกลุ่มนี้ได้ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตรถถังเนื่องจากคุณสมบัติของแร่ใยหินคือเป็นตัวยึดเกาะ ทนความร้อนและมีความแข็งแรง ส่งผลให้หลังสงคราม 30-40 ปีต่อมา ทหารที่ไปรบได้เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งเป็นจำนวนมาก ขณะที่แร่ใยหินกลุ่มไครโซไทล์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการใช้ในประเทศไทย มีแหล่งผลิตและแหล่งนำเข้าใหญ่ของโลกอยู่ใน 3 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา รัสเซีย และบราซิล ปัจจุบันทางสหภาพยุโรป(อียู)ได้ประกาศยกเลิกการใช้เมื่อปี 2549

“สมาชิกของสหภาพเกษตรกรแห่งชาติของอังกฤษที่มีกว่า 5 หมื่นรายเวลานี้กำลังได้รับผลกระทบมากจากการยกเลิกการใช้แร่ใยหินไครโซไทล์ เพราะกฎหมายบังคับให้เมื่อหลังคากระเบื้องเก่า หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีส่วนผสมของไครโซไทล์ที่ใช้กันมาได้นาน 40-50 ปีถึงเวลาต้องเปลี่ยนต้องใช้วัสดุอื่นที่ปลอดจากไครโซไทล์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากค่าวัสดุ ขณะที่กฎหมายควบคุมแร่ใยหินฉบับใหม่บังคับใช้เดือนเมษายน 2555 บังคับให้การรื้อถอน ต้องดำเนินการโดยผู้รับเหมา ทำให้ต้องเสียค่ารื้อถอนเอง เสียค่าขนส่ง ค่ากำจัดขยะที่มีขั้นตอนยุ่งยาก ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่ได้กำหนดขึ้นโดยอาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกต้องในครั้งนี้ คาดจะก่อให้เกิดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นต่อเกษตรกรของอังกฤษมากถึง 6 พันล้านปอนด์(ประมาณ 3 แสนล้านบาท) ยังเสียประโยชน์จากไม่มีใครมาเช่าโรงเรือนที่ยังไม่เปลี่ยนวัสดุใหม่แทนของเก่า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,779
30 กันยายน- 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.chrysotile.co.th
หรือมาเป็นเพื่อนกันได้ที่ https://www.facebook.com/ChrysotileThailand